โมบายตั้งสติได้ รีบเปิดประตูห้องออกมาจากห้องนอน เห็นพ่อแม่และพี่ชายแสดงสีหน้าเป็ห่วงกันถ้วนหน้า เธอรีบกล่าวให้พวกท่านสบายใจ“พ่อแม่ พี่ชาย...ฉันไม่ได้เป็อะไรคะ ทุกคนไม่ต้องเป็ห่วง”
“โมบาย! ลูกไม่เป็อะไรจริงๆ ใช่ไหม!? แล้วทำไมถึงกรี๊ดเสียงดังลั่นบ้านแบบนั้น ทำเอาพี่กับพ่อแม่ใกันหมด นึกว่าเราเป็อะไรไป” าาถามน้องสาวเสียงเข้มและไม่วายบ่นน้องสวยเล็กน้อยที่ทำคนในบ้านตกอกใ
“พ่อแม่ พี่ชายพวกคุณใจเย็นกันก่อนนะ ที่ฉันกรี๊ดเมื่อกี้ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ทุกคนใ แต่ว่าฉัน...มันพูดอยาก ทุกคนเข้ามาในห้องฉันก่อน ฉันจะให้ดูอะไรบางอย่าง” โมบายกล่าวและผายมือทั้งสามคน เข้ามาในห้องนอนของเธอ
ทั้งสามไม่เข้าใจว่าลูกสาว น้องสาวของพวกเขา้าให้พวกเขาดูอะไร และในห้องนอนมีอะไรถึงทำให้โมบายตื่นเต้นขนาดนั้น
“ลูก้าให้พวกเราดูอะไร? แล้วลูกตื่นเต้นเื่อะไรถึงได้ร้องเสียงดัง จนพ่อแม่ใแทบเป็ลม”พ่อราชันเอ่ยถามลูกสาวด้วยความเป็กังวล แต่ก็ยังยอมเดินเข้าไปในห้องลูกสาว
โมบายไม่ได้ตอบคำถามคุณพ่อ พอเห็นว่าทุกคนเข้าห้องมาแล้ว เธอกลับยื่นแขนเรียวเล็ก ขาวนวลของตัวเองที่ใส่กำไลหยกอยู่ที่ข้อมือให้ทุกคนได้ดู
“พ่อแม่ ทุกคน! พวกคุณดูสิ ดูสิ~ อันนี้แหละ! ที่ทำให้ฉันตื่นเต้นจนต้องกรี๊ดออกนะ ทุกคน...ดูสิ!”
ทุกคนมองไปที่แขนเล็กๆของลูกสาว น้องสาว ที่ไม่รู้ว่าจะให้พวกเขาดูอะไร บนแขนไม่เห็นมีอะไรอยู่เลย พวกเขาไม่เข้าใจว่าเธอจะให้พวกเขาดูอะไร ราชันเข้าไปจับแขนลูกสาวมองไปมา ก็ยังไม่เห็นอะไรติดอยู่ที่แขนลูกสาวเลย
“อะไรของลูก ยื่นแขนออกมาทำไม จะให้พ่อกับแม่ดูอะไรที่แขนเหรอ? แต่พ่อยังไม่เห็นอะไรติดแขนลูกเลยนะ” ราชันถามลูกสาว และพยายามมองแขนของลูกสาวอีกรอบ
“พ่อ! ฉันไม่ได้จะให้ดูแขนนะ ฉันให้ทุกคน ดูกำไลที่ฉันใส่ต่างหาก”โมบายโวยวายที่พ่อทำเป็ไม่เห็นกำไลที่เธอใส่อยู่
“กำไลอะไรของลูก พ่อไม่เห็นลูกใส่เลย...เดี๋ยวนะ! เมื่อกี้ยังไม่มีกำไลอยู่เลย ทำไมถึง...”ราชันใที่ข้อมือลูกสาวอยู่ ๆก็มีกำไลปรากฏขึ้นที่ข้อมือของลูกสาว
“ราชันคุณพูดอะไรนะ กำไลหยกลูกก็ใส่มาตลอดนี้ คุณทำอย่ากลับมองไม่เห็น” น้ำฟ้ากล่าวกับสามี ก่อนจะเดินไปดูกำไลหยกสีเขียวของลูกสาวใกล้ๆ
“โมบายลูกคงอยากจะอวดกำไลหยกวงใหม่ ให้พ่อแม่ดูใช่ไหมจ๊ะ กำไลวงนี้สวยมากเลยลูก ไปซื้อมาจากไหนจ๊ะ” น้ำฟ้าเอ่ยถามลูกสาว เธอจับไปที่กำไลหยกแล้วรู้สึกอุ่นที่มือที่กำไลจับกำไลหยกวงนี้ น้ำฟ้ารู้แปลกๆ
“พ่อแม่เห็นอะไรไหมคะ?” โมบายเอ่ยถาม เพราะกำไลของเธอตอนนี้มีส่องแสงออกมาสว่างมาก เธอไม่เข้าใจว่าพ่อแม่ และพี่ชายทำไมดูนิ่งกันมาก ไม่ได้ใหรือตื่นเต้นกับแสงที่ออกมาจากกำไลเลย
“ลูกก็ถามแปลกนะ ทำไมแม่จะไม่เห็นละ...กำไลหยกของลูกไง” น้ำฟ้ากล่าวตอบลูกสาวด้วยรอยยิ้ม
“หนูไม่ได้ถามเื่กำไล หนู้ารู้ว่าทุกคนเห็นแสงที่ออกมาจากกำไลบนข้อมือหนูหรือเปล่า” โมบายกล่าว “พ่อแม่ พี่ชายไม่เห็นมันเหรอ?” โมบายถามและยกข้อมือขึ้นสูง เพื่อให้ทุกคนได้ดูอีกรอบ
“แสงอะไร พ่อไม่เห็นมีแสงอะไรอย่างที่ลูกบอกเลยนะ” ราชันกล่าวและพยายามมองที่กำไลหยกของลูกสาว
“ใช่ พี่ก็ไม่เห็นนะโมบาย น้องอย่ามัวเอาแต่เล่น เราต้องรีบไปหาคุณปู่คุณย่ากันนะ ออกช้ากว่านี้จะมืดค่ำกันพอดี” าากล่าวเอ่ยบอกน้องสาวด้วยความเร่งรีบ
“ทุกคนมองไม่เห็น! แสงที่ส่องออกมาจากกำไลหยกหรือคะ?” โมบายถามและมองไปที่กำไลหยกของเธอ ทุกคนส่ายหน้า ไม่มีใครเห็นแสงที่โมบายบอกสักคน ทุกคนมองไปที่กำไลก่อนจะมองไปที่ลูกสาว น้องสาวอย่างไม่เข้าใจ
“ทำไมถึงไม่เห็นล่ะ?” โมบายมองกำไลแล้วกล่าวออกมาเสียงเบา
“หรือมีแค่เราที่เห็น...!”
“ตกลงเกิดอะไรขึ้น แล้วกำไลนี้หมายความว่ายังไง? ลูกเห็นแสงออกมาจากกำไลหรือ!” ราชันถามลูกสาวที่เอาแต่สนใจกำไลที่ข้อมือ
“หนูก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่ากำไลหยกมันส่องแสงออกมาจริงๆ นะคะ” โมบายกล่าวและพยายามให้ทุกคนเห็นแสงบนกำไล
“ลูกบอกว่ามันมีแสงออกมาจากตัวกำไล? แต่พ่อแม่และพี่ชายของลูกมองไม่เห็นแสงที่ลูกว่าสักคนเลย พ่อว่าลูกถอดกำไลหยกนั้นออกก่อนดีกว่าไหม พ่อเริ่มไม่สบายใจแล้ว” ราชันบอกลูกสาวเสียงเครียด ใบหน้าเริ่มมีความวิตกกังวลแสดงออกมาให้เห็น
“โมบาย ลูกถอดออกตามที่พ่อของลูกบอกเถอะ แม่ใจคอไม่ดีเลย” คุณแม่น้ำฟ้ากล่าวบอกลูกสาวด้วยน้ำเสียงกังวลไม่แพ้กัน
“ค่ะ...หนูจะถอดออก” โมบายกล่าวและพยายามจะถอดกำไลหยกออกจากมือ แต่ทำยังไงก็ถอดไม่ได้ เธอเงยหน้ามองทุกคนที่ตอนนี้มีสีหน้าเป็ห่วงเธอมากยิ่งขึ้น
“มันถอดไม่ออก ทำยังไงดีค่ะ!?” โมบายเอ่ยถามพ่อแม่
“ผมว่าเราทำให้มันแตกไปเลยดีกว่าครับ หากถอดไม่ออกจริงๆ” าากล่าวและเข้าไปจับข้อมือน้องสาว พยายามทำให้กำไลหยกแตก แต่ทำยังไงมันก็ไม่แตก ตอนนี้ภายในใจของทุกคนต่างหวาดกลัวและเป็กังวลมากกว่าเดิม
โมบายมองไปที่กำไลที่ถอดไม่ออก เธอคิดเหตุผลได้หนึ่งอย่าง
“พ่อแม่ ทุกคนฉันคิดว่า...กำไลหยกวงนี้ มันกำลังจะเตือนอะไรพวกเราอยู่ก็ได้นะคะ ที่เราถอดไม่ออกอาจจะเป็เพราะมันยอมรับหนูเป็เ้าของของมันแล้วก็ได้” โมบายกล่าวบอกทุกคนให้ใจเย็นลงก่อน
“ลูกจะบอกอะไรพ่อแม่กันแน่โมบาย และกำไลหยกนี้มันคืออะไรทำไมถึงถอดไม่ได้! มันเป็แค่กำไลจะยอมรับลูกเป็เ้าของได้ยังไง พ่อไม่เข้าใจ” ราชันเอ่ยถามลูกสาวเสียงเข้ม
“พ่อแม่และพี่ชาย ทุกคนอย่าเพิ่งในะคะ ยังมีอีกหนึ่งอย่างที่ฉันยังไม่ได้บอก” เธอกล่าวก่อนจะเดินไปหยิบของบนโต๊ะกระจก “ทุกคน...ดูน้ำหอมขวดนี้ดีๆนะคะ” โมบายกล่าวและมองน้ำหอมในถือ ก่อนจะพูดคำว่า "เก็บ"เบาๆ
ของที่อยู่ในมือก็หายไปจากสายตาของทุกคน ทำให้ทั้งสามคนใ
“ขวดน้ำหอมเมื่อกี้หายไปไหนแล้ว! โมบายเธอไปฝึกเล่นมายากลมาตอนไหน ทำไมพี่เห็นรู้เลย”าาถามน้องสาว ทั้ง ๆที่ในใจยังมีความใอยู่มาก
“อ๋อ...ลูกสาวเรากำลังเล่นมายากลให้พวกเราดู” น้ำฟ้ากล่าว
“ลูกจะมาเล่นอะไรในเวลานี้ เอาไว้ไปถึงบ้านคุณปู่ก่อน แล้วคนเล่นให้คนแก่สองคนดู พวกเขาจะได้มีความสุข” ราชันกล่าว
“ฉันไม่ได้เล่นมายากลอย่างที่พี่ชายพูด คุณคนดุใหม่นะ” โมบายกล่าวและพูดเรียกน้ำหอมที่เธอเก็บไปเมื่อกี้ออกมาให้ทุกคนเห็นอีกรอบ เธอเห็นว่าทั้งสามยังทำหน้าไม่เชื่อ เธอเลยเก็บเข้าเรียกออกอยู่สองสามรอบ ท่ามกลางสายตาของพ่อแม่และพี่ชายที่ทำตาโตใกันอยู่ ก่อนจะทำใจยอมรับมันได้
“ลูกจะบอกว่า...กำไลวงนี้! เก็บของได้!” น้ำฟ้าชี้ไปที่กำไลหยกแล้วถามลูกสาวเสียงสั่น หลังจากมองอยู่นาน
โมบายพยักหน้าให้ทุกคน“หนูไม่เข้าใจว่าทำไมกำไลหยกวงนี้ ที่หนูซื้อมาจากร้านแถวตลาดนัด ถึงมีความสามารถวิเศษแบบนี้ ถึงขนาดเก็บของได้ แต่ที่แน่ ๆ ในใจของหนูตอนนี้ มันกำลังร้องบอกให้หนูเตรียมตัว” โมบายกล่าวในสิ่งที่เธอรู้สึกได้จากภายในใจของเธอ
“เตรียมตัว...เตรียมตัวอะไร ลูกจะหายตัวไปหรือ!” ราชันถามลูกสาว ตอนนี้ในใจเข้ากำลังหวาดกลัว กลัวว่าลูกสาวจะไม่ปลอดภัย
“หนูก็ไม่รู้ค่ะ ว่าเตรียมตัวอะไร แต่ที่แน่ ๆหนูรู้สึกได้ ว่ากำไลมันจะไม่ทำร้ายหนู” โมบายส่ายหน้า เธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
“หรือจะเป็เหมือนกับนิยายย้อนเวลาพวกนั้น!” น้ำฟ้ากล่าวและคิดว่าอาจจะเป็ไปได้
“นิยาย...นิยายอะไรกันคุณน้ำฟ้า” ราชันเอ่ยถามภรรยา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้