เพียงไม่นานอีกฝ่ายก็รับสาย
“ฮัลโหล เสี่ยวเย่?”
หลินซือฉิงทักทายเสียงสดใส ฟังดูมีความยินดีอยู่ในน้ำเสียง ราวกับว่าการได้รับสายจากเย่เฟิงทำให้เธอมีความสุขมากเลยทีเดียว
“ครับ ผมเองพี่หลิน ่นี้ผมต้องออกจากเมืองเยี่ยนจิงไปสักพัก...”
เย่เฟิงครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนเอ่ยปาก แต่กลับถูกหลินซือฉิงขัดขึ้นเสียก่อน
“ไม่ใช่ว่านายออกจากเมืองไปั้แ่ก่อนหน้านี้แล้วเหรอ?” หลินซือฉิงบ่นเล็กน้อย “ไปไม่บอกฉันสักคำ ในสายตานายยังเห็นฉันเป็พี่สาวอยู่หรือเปล่าเนี่ย?”
“แค่กๆ พอดีมันเป็เื่เร่งด่วน ผมเลยไม่ทันได้บอกพี่...”
เย่เฟิงกระแอมไออย่างอึดอัด
“ช่างมันเถอะ” หลินซือฉิงไม่ปล่อยให้เขาแก้ตัวต่อ จึงเปลี่ยนเื่ “แล้วทำไมจู่ๆ ถึงโทรหาฉันได้ล่ะ?”
“เอ่อ พี่หลิน หลังจากผมไปแล้ว ผมอยากให้พี่ช่วยจัดการเื่สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติให้หน่อย” เย่เฟิงกล่าวตรงไปตรงมา
“ว่าไงนะ?”
หลินซือฉิงไม่ค่อยยินดีนัก เย่เฟิงจะไปไหนก็ไปสิ ทำไมต้องโยนเื่สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติมาให้เธอจัดการด้วย? ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากจะช่วยเย่เฟิง แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือเย่เฟิงตกลงกับทางสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติเอาไว้ว่าจะมอบเทคโนโลยีส่งสสารผ่านอากาศให้เป็สมบัติของชาติ ทว่าตอนนี้เขากลับยังไม่สามารถมอบมันให้พวกเขาได้ อย่าว่าแต่หลินซือฉิงเลย ต่อให้เป็หลินเต๋อเทียนพ่อของเธอก็ไม่อาจช่วยเย่เฟิงได้! ในเมื่อเย่เฟิงจากไปแล้ว ต่อให้เธออยากช่วยจัดการให้แค่ไหนก็ไม่อาจช่วยได้
“ไม่ต้องห่วงครับพี่หลิน ผมไม่ทำให้พี่ลำบากใจหรอก” เย่เฟิงเหยียดยิ้ม “ถ้าสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติถาม พี่ก็แค่พาพวกเขาไปหาปู่ของผมที่บ้าน ส่วนของที่พวกเขาอยากได้ ผมเอากลับมาตั้งนานแล้ว พาพวกเขาไปหาปู่ของผม เดี๋ยวปู่จะมอบสิ่งนั้นให้พวกเขาเอง”
เครื่องวาร์ปที่พังไปถูกเย่เฟิงโยนทิ้งไว้ที่สวนหลังบ้านั้แ่ก่อนหน้านี้แล้ว
แน่นอนว่าในตอนนี้เย่เฟิงยังไม่อาจกลับไปได้ ดังนั้นเย่เวิ่นเทียนและคนอื่นๆ ที่ยังอยู่ในเมืองเยี่ยนจิงย่อมต้องถูกทางสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติจับกุม เย่เฟิงไม่อาจยอมให้เกิดเื่ราวเช่นนั้นกับพวกเขาได้
เพียงส่งเครื่องวาร์ปให้สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติไปก่อน ทางเ้าหน้าที่ก็จะไม่ทำให้พวกเขาเดือดร้อน! แม้จะมีเื่ยุ่งยากตามมา แต่นั่นก็หลังจากเ้าหน้าที่ได้ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเครื่องวาร์ปไปแล้ว
ทางสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติล้วนทราบดีว่าพวกเขาไม่สามารถกดดันเย่เฟิงได้มากนัก เย่เฟิงเป็คนเช่นไรพวกเขารู้ดี ฝีมือของเขาสูงส่งยิ่งกว่าเหล่าผู้ฝึกวรยุทธ์ทั่วไป ตราบใดที่เขายังมีประโยชน์ต่อประเทศชาติ ทางเ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถสร้างความลำบากใจให้กับเขาได้
“จริงเหรอ?”
เมื่อหลินซือฉิงได้ยินคำพูดของเย่เฟิงก็สงสัยขึ้นมา เย่เฟิงจะมอบสิ่งนั้นให้ตามสัญญางั้นเหรอ?
เธอไม่สงสัยในคำพูดของอีกฝ่าย เพียงแต่เครื่องเทคโนโลยีย้ายสสารผ่านอากาศนั้นเป็สิ่งที่น่าอัศจรรย์เกินไป หากประเทศได้ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับมันจนสำเร็จ ความสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของพวกเขาจะไม่แซงหน้าประเทศมหาอำนาจอื่นหรอกเหรอ?
“พี่ไม่เชื่อใจผมงั้นเหรอ? เอาตามนั้นแล้วกัน ผมวางสายล่ะนะ...”
เมื่อเย่เฟิงพูดจบก็เห็นว่าจื่อเจี้ยนหลานที่อยู่ด้านข้างตื่นขึ้นมาพอดี ชายหนุ่มวางสายก่อนโยนโทรศัพท์เก็บในแหวนมิติ
เขาเชื่อว่าหลินซือฉิงจะช่วยจัดการเื่ราวต่างๆ ได้เป็อย่างดี เพราะถึงอย่างไรงานจัดแสดงสินค้าครั้งก่อน เย่เฟิงก็ช่วยเหลืออีกฝ่ายไว้เยอะพอสมควร ถ้าไม่ใช่เพราะเย่เฟิง งานจัดแสดงสินค้านั่นคงได้ล้มไม่เป็ท่า ทั้งยังเสียเครดิตทางการค้าอีก
ชายหนุ่มมองจื่อเจี้ยนหลานที่หลงหว่านเอ๋อร์กำลังประคองอยู่ก็เห็นว่าเธอลุกขึ้นนั่งด้วยความงุนงงก่อนหันมองรอบข้างด้วยความงงงวย ก่อนพบว่าตัวเองกำลังอยู่บนรถและมีเย่เฟิง หลงหว่านเอ๋อร์ และซูเมิ่งหานนั่งอยู่ด้านข้าง
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
“ไม่เป็อะไรก็ดีแล้ว” เมื่อเย่เฟิงเห็นว่าสีหน้าของเธอเป็ปกติก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนกล่าว “ตอนนี้พวกเธอต้องกลับไปที่เมืองเยี่ยนจิง อย่าออกห่างจากปู่แม้แต่ก้าวเดียว เป็เด็กดีเชื่อฟัง รอฉันกลับไป”
ทะเลทรายไม่ใช่สถานที่เล่นสนุก เย่เฟิงจึงไม่คิดจะพาพวกเธอไปด้วย มีเพียงจ้าวอี้เปยและหลิงเฉินสองคนก็เพียงพอแล้ว
“ฉันจะไปกับนายด้วย”
หลงหว่านเอ๋อร์ไม่พอใจ ระดับพลังของเธอสูงกว่าเย่เฟิงเสียอีก ทำไมเขาถึงคิดส่งเธอกลับ?
“เธอต้องกลับไปคอยปกป้องซูเมิ่งหานกับจื่อเจี้ยนหลานไง”
เย่เฟิงยิ้มพร้อมกับตบบ่าของเธอเบาๆ
เมื่อหลงหว่านเอ๋อร์ได้ยินดังนั้นก็เหลือบมองซูเมิ่งหานและจื่อเจี้ยนหลาน ซึ่งทั้งสองสาวก็สบตาเธอเช่นกัน หญิงสาวจึงอดรู้สึกผิดขึ้นมาไม่ได้ ดูเหมือนว่าน้องเจี้ยนหลานและน้องเมิ่งหานจะเชื่อฟังคำพูดเย่เฟิงมาก มีแค่เธอคนเดียวที่เถียงเพราะอยากตามเขาไปงั้นเหรอ?
งั้นก็ช่างมันเถอะ...
หลงหว่านเอ๋อร์คิดว่าตนไม่ควรสร้างปัญหาให้เย่เฟิง จึงยอมพยักหน้ารับในที่สุด “เอางั้นก็ได้”
การปกป้องซูเมิ่งหานและจื่อเจี้ยนหลานก็ถือเป็เื่สำคัญ หลงหว่านเอ๋อร์จึงไม่กล้าประมาท
หลังจากนั้นไม่นานทุกคนก็เดินทางเข้าสู่เขตสนามบินนานาชาติ ด้านหน้ามีตำรวจตั้งด่านเพื่อตรวจสอบ ทุกคนล้วนมีท่าทีขึงขัง เย่เฟิงทราบในทันทีว่าเป็เฉินเจี้ยนสยงจากตำหนักไท่จี๋ใช้เส้นสายทำเช่นนี้ เพื่อตามล่าหาตัวพวกเขา แต่น่าเสียดาย เย่เฟิงจะยอมปล่อยให้เป็ไปตามที่อีกฝ่าย้าได้อย่างไร?
วิชาเซียน ทักษะอำพรางตา!
ตอนนี้ระดับพลังของเย่เฟิงสูงขึ้นมาก ส่งผลให้ใช้ทักษะอำพรางตาได้สะดวกขึ้น ไม่เพียงรวดเร็ว แม้แต่ผลลัพธ์ก็ยังแเีกว่าเดิมมาก สามารถสร้างภาพมายาให้แต่ละคนเห็นแตกต่างกันได้
ในสายตาของคนขับรถแท็กซี่ยังเห็นรูปลักษณ์ของพวกเขาเป็เช่นเดิมกับตอนขึ้นรถ ทำให้เขาอดเหลือบมองสาวสวยทั้งสามคนบนรถไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าเขาจะรู้สึกอิจฉาเย่เฟิงมากเพียงใด
ในสายตาคนอื่นตอนนี้ พวกของเย่เฟิงกลายเป็กลุ่มทัวร์เล็กๆ ที่สวมเสื้อผ้าเหมือนกันหมด ไม่เพียงเท่านั้น รูปลักษณ์ของเขาเปลี่ยนเป็ตาลุงรูปร่างอ้วน ส่วนสามสาวเปลี่ยนเป็เด็กสาว ตุ๊กตาและหญิงวัยกลางคน ดูเหมือนครอบครัวสามคนและตุ๊กตาหนึ่งตัวกำลังเดินทางมาเที่ยวเล่นที่แถบทะเลตะวันออก! แม้แต่บัตรประชาชนเย่เฟิงก็เปลี่ยนชื่อแซ่เป็คนอื่น ซึ่งไม่มีพิรุธให้พวกเขาจับได้เลยแม้แต่น้อย
หลังจากเย่เฟิงเตรียมพร้อมทุกอย่างก็ถึงคราวที่ต้องตรวจสอบรถแท็กซี่ที่พวกเขานั่งมา จากนั้นก็เป็ไปตามคาด ตำรวจไม่รั้งพวกเขาเอาไว้ เพียงตรวจสอบเอกสารครบก็ปล่อยตัวพวกเขาไป
ผ่านไปได้อย่างง่ายดาย!
เย่เฟิงยกยิ้ม ดูเหมือนว่าจะสามารถใช้ประโยชน์จากวิชาเซียนบนโลกนี้ได้มาก เกรงว่าคนที่มีระดับพลังเพียงห้าปีก็ยังสามารถใช้ชีวิตอยู่บนโลกแห่งนี้ได้อย่างผ่าเผย
น่าเสียดายที่เย่เฟิงเป็เพียงทายาทคนเดียวของตระกูลเย่ จึงเป็เื่ยากที่เขาจะสามารถมีชีวิตที่มั่นคง เว้นแต่เขาจะมีพลังที่แข็งแกร่ง พึ่งพาพลังความสามารถของตัวเอง ทำให้โลกทั้งใบสะท้านะเืเพราะเขา หากเป็เช่นนั้นคงไม่มีใครกล้าเข้ามาก่อกวนเขา
เพียงไม่นานทั้งสี่คนก็มาถึงตัวสนามบิน หลังจากส่งสามสาวขึ้นเครื่อง เย่เฟิงก็เตรียมพร้อมเดินทาง เขาอยากไปถึงทะเลทรายให้เร็วที่สุด แน่นอนว่าไม่ใช่การเดินทางจากเครื่องบิน เพราะมันไม่มีเที่ยวบินตรงเลย ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะเหมารถไป!
…………
ในเวลาเดียวกัน ด้านหลินซือฉิงก็ต่อสายหาจ้าวปาที่อยู่สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ เพื่ออธิบายสถานการณ์ของเย่เฟิงให้เขาเข้าใจ
“คุณหนูหลินกำลังทำให้พวกเราลำบากใจนะ” เห็นได้ชัดว่าจ้าวปาไม่พอใจพฤติกรรมขาดความรับผิดชอบของเย่เฟิง แต่ยังคงกล่าวอย่างอดทน “แต่เนื่องจากเป็คำสั่งของคุณหนูหลิน ลุงก็จะทำตาม ขอแค่ได้ของมาไว้ในมือ แต่ลุงเกรงว่าเ้าเด็กนั่นจะหนีไปแล้วน่ะสิ...”
“มันจะไม่เป็อย่างนั้นแน่นนอนค่ะ ฉันเชื่อใจเขา” หลินซือฉิงกล่าวอย่างหนักแน่น