~ สมาคมการแพทย์เขตหยวน ~
บรรพบุรุษหยวนเหลียงที่ลอยอยู่เหนือฟากฟ้าพลันลงมาที่หน้าอาคารส่วนตัวของหยวนชาง ซึ่งเป็ที่ที่นาหลันจ้านและหยวนชางใช้สนทนากันก่อนหน้านี้
หลังออกจากเขตเสี่ยว บรรพบุรุษหยวนเหลียงก็รีบตรงมาที่สมาคมการแพทย์ในทันที เพื่อส่งต่อเม็ดยาัคลั่งให้กับหลี่หยุนเฟิงตามคำขอของหลี่ชิงหยุน
และเหตุผลอีกอย่าง นั่นคือเขา้ากลับมาเพื่อปรุงยาระดับ 7 เพิ่มเติม
ด้วยทักษะการปรุงยาแบบโบราณที่หลี่ชิงหยุนมอบให้ เขาจึงร้อนวิชาอย่างมากและ้าทดสอบกับเม็ดยาระดับสูง
เมื่อบรรพบุรุษหยวนเหลียงร่อนลงสู่พื้น เขากำลังมองไปรอบๆสถานที่แห่งนี้ จะเห็นได้ว่ามีสมาชิกของตระกูลหลี่และตระกูลนาหลันกว่าห้าสิบคนกำลังฝึกซ้อมร่วมกันอย่างเอาเป็ตาย
ใบหน้าพวกเขาดูซีดเซียว ร่างกายกลับเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำและาแ กล้ามเนื้อของพวกเขาดูเกร็งจนผิดปกติ แม้แต่ผู้หญิงก็ไม่มีข้อยกเว้นในการฝึกหฤโหดนี้
นี่คือคำแนะนำของหลี่ชิงหยุนที่้าทำให้สมาชิกของทั้งสองตระกูลแข็งแกร่งขึ้นให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะเอาชีวิตรอดจากศัตรูในภายภาคหน้า
เนื่องด้วยเขาเป็ศัตรูกับตระกูลขุนนางทั้งสองอย่างตระกูลเล่ยและตระกูลหง ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำอย่างเร่งด่วนก็คือทำให้สมาชิกทั้งสองตระกูลกลายเป็ผู้แข็งแกร่งและมีพลังที่เพียงพอในการปกป้องตัวเอง
แม้แต่หลี่หูจ้านและหลี่หานเฟิงที่เปิดศาลายาตระกูลหลี่ก็จำต้องปิดร้านและเข้ามาพักอาศัยอยู่ที่สมาคมการแพทย์เช่นเดียวกับสมาชิกทั้งสองตระกูล จากนั้นทั้งสองคนก็เข้าร่วมการฝึกที่บ้าคลั่งนี้ด้วยเช่นกัน
มีเพียงการทรมานอันขมขื่นและการฝึกที่โหดร้ายเท่านั้นที่จะหล่อหลอมพวกเขาให้กลายเป็ผู้แข็งแกร่งได้!
จะเห็นได้ว่าผู้าุโบางคนของตระกูลหลี่และตระกูลนาหลันได้ฝ่าฝันเข้าสู่ระดับลมปราณหยกขั้นสูงแล้ว เนื่องจากผลของเม็ดยาและตารางการฝึกที่โเี้ที่กำหนดโดยหลี่ชิงหยุนสามารถทำให้พวกเขาก้าวข้ามขีดจำกีดของตนเองได้
บรรพบุรุษหยวนเหลียงเดินไปที่นาหลันจ้านที่กำลังทำหน้าที่เป็ครูฝึกให้กับทั้งสองตระกูลด้วยฝีเท้าไม่รีบเร่ง
นาหลันจ้านััได้ถึงใครบางคนกำลังเดินมา เมื่อเขาเห็นว่าผู้ที่มาคือบรรพบุรุษหยวนเหลียง เขาจึงรีบก้มหน้าลงทักทายอย่างสุภาพทันที "ผู้าุโหยวน"
แม้แต่ผู้ที่กำลังฝึกอยู่ทั้งหมดก็หยุดการกระทำและโค้งคำนับด้วยเช่นกัน
บรรพบุรุษหยวนเหลียงและสมาคมการแพทย์นั้นเปรียบเสมือนผู้ช่วยให้รอดสำหรับพวกเขา จึงไม่แปลกที่สองตระกูลจะเคารพผู้นำของสมาคมการแพทย์ผู้นี้มาก
หากไม่ได้ความช่วยเหลือสำหรับที่พักและหน้าที่การงาน พวกเขาคงต้องตกเป็เป้าหมายของศัตรูและอาจจะอดตายได้ ดังนั้นหนี้บุญคุณครั้งนี้ทำให้สมาชิกทั้งสองตระกูลรู้สึกกตัญญูต่อชายชราผู้นี้อย่างมาก
"ไม่จำเป็ต้องมีพิธีการมากนัก" บรรพบุรุษหยวนเหลียงโบกมือเบาๆ จากนั้นเขาหันไปถามนาหลันจ้าน "หลี่หยุนเฟิงได้สติหรือยัง?"
นาหลันจ้านเงยหน้าขึ้นมาและตอบว่า "น้องชายได้สติแล้ว เขากำลังบ่มเพาะอยู่ที่ห้องส่วนตัวของเขา"
"เอาล่ะ เช่นนั้นข้าจะไปเยี่ยมเขาเสียหน่อย" โดยไม่รอให้นาหลันจ้านตอบกลับ บรรพบุรุษหยวนเหลียงจากไปทันที
เมื่อบรรพบุรุษหยวนเหลียงจากไป นาหลันจ้านบอกให้สมาชิกทั้งสองตระกูลฝึกฝนกันต่อไป
หลี่หยุนเฟิงกำลังนั่งสมาธิอยู่บนเตียงอย่างเข้มงวด คิ้วบนใบหน้าของเขากำลังขมวดเป็ปมบ่งบอกถึงความเ็ปหนักหนาที่เขากำลังเผชิญอยู่ เขาจำต้องใช้พลังฉีเพื่อระงับเืัซากศพไม่ให้ลุกลามไปมากกว่านี้
เนื่องจากคราวที่แล้วเขาได้ฝืนใช้พลังฉีเกินขีดจำกัดจนเกือบจะะเิเส้นลมปราณ เืัซากศพจึงเริ่มที่จะแพร่กระจายเกาะเส้นลมปราณของเขาจนเกือบสิ้น
ทันใดนั้นมีลมกระโชกแรงปรากฏขึ้นในห้องของหลี่หยุนเฟิง เนื่องจากห้องนี้เป็แค่ผ้าม่านเท่านั้นบรรพบุรุษหยวนเหลียงจึงเข้ามาได้อย่างง่ายดาย
บรรพบุรุษหยวนเหลียงมองไปที่ใบหน้าที่ซีดเซียวของหลี่หยุนเฟิง เขารับรู้ได้ในทันทีว่าเืัซากศพนั้นกัดกินเส้นลมปราณของเขาไปกว่าแปดส่วนแล้ว หลี่หยุนเฟิงสามารถใช้พลังฉีระงับเืัซากศพได้อีกแค่เดือนเดียวเท่านั้น
จากนั้นเขาพลันก็นึกคิดในใจ 'สิ่งนี้เกิดจากทักษะต้องห้ามของนิกายัโลหิตไม่มีผิดเพี้ยน เหตุใดชายผู้นี้จึงเป็ศัตรูกับนิกายที่ยิ่งใหญ่ได้?'
จากนั้นไม่นานเขาก็พูดขึ้น "หลี่หยุนเฟิง ลูกชายของเ้าให้ข้านำสิ่งนี้มาให้เ้า"
บรรพบุรุษหยวนเหลียงพูดขึ้นมาขัดจังหวะการฝึกฝน เขาตัดสินใจว่าหลี่หยุนเฟิงควรจะกินเม็ดยานี้ให้เร็วที่สุดโดยไม่จำเป็ต้องตีรอบพุ่มไม้อีกต่อไป
หลี่หยุนเฟิงที่ออกจากสมาธิพลันลืมตาขึ้นมา เขามองไปที่ชายชราตรงหน้าเขาและถามอย่างสงสัย "ผู้าุโ หยุนเอ๋อร์ฝากสิ่งใดมาให้ข้าหรือ?"
ระหว่างกำลังพูดเขาก็กระอักเืสีดำที่ส่งกลิ่นเหม็นหึ่งออกมาอย่างกะทันหัน นี่เป็สัญญาณบ่งบอกว่าร่างกายของเขาเริ่มรับไม่ไหวอีกต่อไป
"ตอนนี้ไม่ใช่เวลาอธิบาย เม็ดยานี้ใช้สำหรับสลายเืัซากศพ เ้าควรกินมันทันที" บรรพบุรุษหยวนเหลียงยื่นขวดหยกให้กับเขาทันที
หลี่หยุนเฟิงมองไปที่บรรพบุรุษหยวนเหลียงอย่างสงสัย แต่ในเมื่อชายชราผู้นี้กล่าวว่าสิ่งนี้มาจากหลี่ชิงหยุน ดังนันหลี่หยุนเฟิงไม่จำเป็ติองคิดมากอีกต่อไป
ลูกชายของเขาไม่มีทางที่จะทำร้ายเขาอย่างแน่นอน เขารับขวดหยกมาพลันโยนเม็ดยาัคลั่งเข้าปากทันที
'กร๊อบ!' เสียงกัดเม็ดยาดังขึ้นในปากของหลี่หยุนเฟิง เม็ดยาัคลั่งกำลังไหลเข้าสู่ตันเถียนของเขาอย่างรวดเร็ว!
ทันใดนั้นหลี่หยุนเฟิงรับรู้ได้ถึงความเ็ปที่แสนสาหัสหลั่งไหลออกมาจากตันเถียน เหงื่อจากร่างกายของเขากำลังไหลออกมาราวกับสายน้ำ
หลี่หยุนเฟิงกัดฟันอดทนจนสุดแรง แต่ใบหน้าของเขากำลังบิดเบี้ยวราวกับจะบ้าตาย
"อั๊ก!" เสียงกัดฟันกรามของหลี่หยุนเฟิงกระทบกันจนเกิดเสียงดัง
หลังจากนั้นไม่นานพลังงานจากเม็ดยาที่อยู่ในตันเถียนของเขากำลังแพร่กระจายออกไปยังสิบสองเส้นลมปราณหลักราวกับะเิทำลายล้างจากภายในที่มิอาจควบคุมได้
"อ๊าก!!!" หลี่หยุนเฟิงไม่สามารถกัดฟันระงับความเ็ปได้อีกต่อไป เขากรีดร้องออกมาเสียงดัง ใบหน้าของเขากำลังบิดเบี้ยวสุดขีด
เสียงกรีดร้องของเขาที่เปล่งออกมานั้นคล้ายกับเสียงคำรามของัไม่มีผิด!
รัศมีสีดำทมึนที่เข้าปกคลุมเส้นลมปราณของเขาจากภายในเริ่มที่จะสลายไปด้วยตนเองราวกับว่ามันเจอสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่า
แน่นอนว่านั่นเป็เพราะแก่นแท้เืับริสุทธิ์ได้ทำปฏิกิริยาเพื่อขับเืัซากศพออกมา จากการที่เืทั้งสองกำลังกัดกร่อนกันและกันจากภายใน
แม้ว่าหลี่หยุนเฟิงจะมีสภาพจิตใจที่มั่นคงและอดทนต่อความเ็ปได้เป็อย่างดี แต่ในครั้งนี้ร่างกายของเขากำลังจะพังทลายโดยสิ้นเชิง ซึ่งไม่ต่างจากการเอาหินก้อนใหญ่มาทุบร่างกายของเขาจนเละเป็ก้อนเนื้อซ้ำแล้วซ้ำเล่า!
หลี่หยุนเฟิงรู้สึกได้ว่าใน่เวลานี้ นับเป็่เวลาที่เ็ปและทุกข์ทรมานที่สุดั้แ่เกิดมา!
เส้นลมปราณของหลี่หยุนเฟิงเริ่มขยายตัวอย่างควบคุมไม่ได้ ก่อนหน้านี้เส้นลมปราณของเขานั้นแคบเกินไป การที่เม็ดยาัคลั่งมีผลทำให้ขยายเส้นลมปราณอย่างรวดเร็วเช่นนี้ เส้นลมปราณจึงไม่สามารถปรับตัวได้ทันการ
"ไม่ดี! เส้นลมปราณกำลังจะแตกสลาย! ฤทธิ์จากเม็ดยาัคลั่งรุนแรงเกินไปสำหรับสถานะของเขาในขณะนี้!" บรรพบุรุษหยวนเหลียงโพล่งออกมาอย่างตื่นตระหนก
เขาสังเกตเห็นความผิดปกติจากสภาพร่างกายของหลี่หยุนเฟิงในขณะนี้ หากปล่อยเช่นนี้ร่างกายและเส้นลมปราณจะะเิออกจากภายในและอาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้!
โดยไม่พูดพร่ำทำเพลง บรรพบุรุษหยวนเหลียงปรากฏตัวขึ้นด้านหลัง พร้อมหยิบเข็มการแพทย์ออกมาสิบสองเล่มพลันกดจุดฝังเข็มเพื่อระบายการปะทุอันบ้าคลั่งของเม็ดยา
บรรพบุรุษหยวนเหลียงเหมาะสมกับฉายสแพทย์ระดับสูงอย่างแท้จริง ในสถานการณ์ล่อแหลมเช่นนี้เขารู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไป
เมื่อโดนเข็มสีเงินปักเข้าไป เส้นลมปราณที่กำลังจะปะทุด้วยพลังงานมหาศาลก็หยุดขยายตัวในทันที ก่อนที่พลังงานส่วนเกินเ่าั้จะค่อยๆถูกระบายออกมาเพื่อไม่ให้เกินขีดจำกัดของเส้นลมปราณที่จะรับไหว
บรรพบุรุษหยวนเหลียงส่งพลังฉีเข้าสู่เส้นลมปราณของหลี่หยุนเฟิงเพื่อคงความสมดุลไว้ไม่ให้เส้นลมปราณขยายไปมากกว่านี้
"อั๊ก!" หลังจากพายุที่เข้าถาโถมเส้นลมปราณเริ่มสงบลง หลี่หยุนเฟิงกระอักเืสีดำออกมาจำนวนมากอย่างควบคุมไม่ได้
นี่คือกระบวนการขับเืัซากศพที่ติดค้างเส้นลมปราณมานานกว่าสามปี จึงไม่น่าแปลกใจที่มีเืสีดำอยู่มากมายเช่นนี้
และตามมาด้วยรัศมีโลหิตสีดำทมึนที่น่าสะอิดสะเอียนกำลังไหลออกมาจากรูขุมขนในทั่วทั้งร่างอย่างมากล้น จนผ้าปูเตียงถูกย้อมด้วยเืสีดำสนิท!
ขณะเดียวกันบรรพบุรุษหยวนเหลียงกำลังถ่ายโอนพลังฉีเพื่อคงสภาพของเส้นชีพจรหลี่หยุนเฟิงไว้จนกว่าเืัซากศพจะถูกขับออกจนหมด
ทันใดนั้นบรรพบรุษหยวนเหลียงพบเจอกับสิ่งที่ไม่น่าเชื่อในร่างกายของหลี่หยุนเฟิง 'เส้นลมปราณที่กว้างขวางเช่นนี้...ชายผู้นี้ไม่ธรรมดา!'
เมื่อร่างกายของหลี่หยุนเฟิงได้รับการชำระสิ่งแปลกปลอมจนหมดจด กลิ่นอายพลังฉีที่หนาแน่นและแข็งแกร่งได้ปะทุออกจากเส้นลมปราณอย่างกะทันหัน! ในขณะเดียวกันความแข็งแกร่งของเขาก็พุ่งสูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน!
"วู้ม!"
ร่างกายและตันเถียนของหลี่หยุนเฟิงกำลังปะทุพลังฉีที่น่าสะพรึงกลัวก่อให้เกิดการสั่นะเืไปทั่วอาคารหลังใหญ่ราวกับมันกำลังจะถล่มลงมา!
ผู้คนด้านนอกต่างตื่นตระหนกและหวาดกลัวกับปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดเช่นนี้ พวกเขาพยายามควบคุมร่างกายเพื่อไม่ให้ล้มลงราวกับสิ่งนี้เกิดจากภัยธรรมชาติอย่างไรอย่างนั้น
ร่างกายของหลี่หยุนเฟิงลอยขึ้นเหนือพื้นอย่างช้าๆในท่านั่งสมาธิ พลังงานพายุที่รุนแรงก่อให้เกิดสายลมศักดิ์ขึ้นรอบๆตัวของเขาอย่างไม่สามารถควบคุมได้
ทันใดนั้นพายุพลังฉีสีเขียวอ่อนวนเวียนเกิดเป็กระแสน้ำขนาดใหญ่ที่คล้ายกับหลุมดำที่ไร้ก้นบึ้งซึ่งมีหลี่หยุนเฟิงกำลังนั่งสมาธิอย่างสงบอยู่ภายใน
ดวงตาที่ปิดสนิทของเขาก็เปิดออกอย่างกะทันหัน ตามมาด้วยแรงกดอากาศที่ะเิออกมาจนเกือบจะพังทลายสมาคมการแพทย์ทั้งหลัง!
แม้แต่บรรพบุรุษหยวนเหลียงที่อยู่ใกล้ก็ยังรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง
"นี่..." เมื่อััได้ถึงรัศมีที่กดขี่เหนืุ์มนาของหลี่หยุนเฟิง คำพูดที่บรรพบุรุษหยวนเหลียงอยากจะพูดกลับติดอยู่ที่ปลายลิ้นและไม่สามารถบรรยายออกมาได้
จู่ๆพายุกระแสน้ำวนไร้ก้นบึ้งเริ่มสลายไปอย่างช้าๆ อาคารทั้งหลังของสมาคมการแพทย์เริ่มกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง ปรากฏร่างของหลี่หยุนเฟิงที่ยืนอยู่อย่างสงบ ดวงตาของเขาไม่มีร่องรอยของความเ็ปอีกต่อไป
มีให้เห็นเพียงความมั่นใจและความเย่อหยิ่งถึงขีดสุด!
หลี่หยุนเฟิงในขณะนี้ราวกับเป็เทพเ้าแห่งวายุที่ถูกปลดจากพันธนาการอย่างไรอย่างนั้น!
เขากำลังยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจและพึมพำ "เพียงเท่านี้ข้าก็สามารถปกป้องหยุนเอ๋อร์ได้แล้ว"
นี่คือความคิดแรกของหลี่หยุนเฟิงหลังจากที่เขาได้พลังและความแข็งแกร่งกลับคืนมา
ไม่ไกลนักบรรพบุรุษหยวนเหลียงกำลังจ้องไปที่หลี่หยุนเฟิงก็อ้าปากค้างจนกรามแทบจะหลุด
หลังจากที่เขาได้สติกลับมา เขาก็โพล่งออกมาอย่างไม่เชื่อ "นี่เ้า...เข้าสู่ระดับนี้แล้ว!"