ณ จวนเ้าเมือง เมืองกวงฮุย
หมู่ตึกมากมายเรียงรายต่อๆ กันไป ทั้งใหญ่โตโอ่อ่า ประดับด้วยศาลาชมสวนน้อยใหญ่ แซมด้วยสะพานเล็กๆ ข้ามธารน้ำ เป็ทิวทัศน์อันงดงามตระการตา ขณะเดียวกัน สถานที่แห่งนี้ยังแ่าไปด้วยผู้คุ้มกัน ยามทุกคนล้วนเป็นักสู้ระดับเงิน มองเห็นนักสู้ระดับทองเดินสวนกันตรวจเวรยามเป็ระยะ พูดกันว่านักสู้บางคนยังเป็ระดับทองดำและผู้ควบคุมจิตอสูร
ที่นี่คือแกนหลักของทั้งเมืองกวงฮุย
เนี่ยหลีและเนี่ยอวี่ได้รับการจัดสรรให้เข้าพักในตึกหลังหนึ่ง ตราบใดที่ไม่มีการโจมตีจวนเ้าเมืองจากยอดฝีมือระดับทองดำ สถานที่แห่งนี้ถือว่าปลอดภัยที่สุด เห็นได้ชัดว่าพร์ของเนี่ยหลีนี้มีความหมายความสำคัญอย่างยิ่ง
“พี่เนี่ยหลี เหตุใดพวกเราต้องย้ายมาอยู่ในจวนเ้าเมืองแห่งนี้ด้วย?” เนี่ยอวี่เอ่ยถาม ั้แ่เข้ามาในจวนเ้าเมือง นางมีความตึงเครียดอย่างยิ่ง
“ก็เพราะว่าที่นี่ปลอดภัยน่ะสิ!” เนี่ยหลียิ้มแย้ม ตบไหล่ของเนี่ยอวี่คราหนึ่งและพูด “เ้าไม่ต้องกลัวไป มีพี่เนี่ยหลีอยู่ทั้งคน เ้าวางใจได้ นอกจากนี้ ธิดาของท่านเ้าเมืองยังจะเป็พี่สะใภ้ของเ้าอีกด้วย อีกหน่อยเมื่อพบนาง เ้าต้องเรียกนางว่าพี่สะใภ้ รู้หรือไม่?”
“พี่สะใภ้รึ? อ้อ” เนี่ยอวี่มองๆ เนี่ยหลีอย่างประหลาดใจ พี่เนี่ยหลีหาพี่สะใภ้ให้นางได้ั้แ่เมื่อไหร่กัน? ทั้งยังเป็ถึงธิดาของท่านเ้าเมืองอีกด้วย?”
เนี่ยอวี่เต็มไปด้วยความสงสัย ทว่าเนี่ยหลีไม่ให้คำอธิบายเพิ่มเติมแต่อย่างใด ท่านเ้าเมืองอย่างไรก็คงคิดไม่ถึง การให้ความคุ้มครองปกป้องอัจฉริยะของเขา กลับกลายเป็การชักสุนัขจิ้งจอกเข้าบ้าน (ชักศึกเข้าบ้าน) เนี่ยหลีมีเจตนาชั่วร้ายั้แ่ต้นทีเดียว
‘หึหึ มาถึงจวนเ้าเมืองแล้ว ปกติมุ่งมั่นฝึกยุทธ์ พอเบื่อก็สามารถไปหยอกเย้าเยี่ยจื่ออวิ๋นได้ ชีวิตช่างสุขสบายเสียจริง หากไม่มีตระกูลเสินเซิ่งและสมาคมมืด ไม่มีการโจมตีจากสัตว์อสูรมากมาย เช่นนั้นก็ยิ่งน่าเบิกบานใจแล้ว’
เพื่อชีวิตที่มีความสุขในวันหน้า ได้แต่หาวิธีกำจัดตระกูลเสินเซิ่งให้พ้นไปจากสายตา ในชีวิตหนก่อน หากมิใช่เพราะการทรยศของตระกูลเสินเซิ่ง เมืองกวงฮุยก็คงไม่ถูกทำลายได้โดยง่าย รากฐานแห่งหายนะที่สำคัญที่สุด ส่วนใหญ่ล้วนมาจากภายใน
เวลานี้เนี่ยหลีเพิ่งอยู่ในระดับเงินสองดาว ทว่าด้วยความสามารถในการควบคุมพลัง จะต่อกรกับยอดฝีมือระดับทองหนึ่งดาวหรือสองดาวทั่วไปผู้หนึ่งยังไม่นับว่าเป็ปัญหา อย่างไรก็ตาม นี่ยังห่างไกลกับคำว่าเพียงพอนัก จะต้องตั้งใจฝึกยุทธ์ให้มาก
“ยังมีสิ่งใดที่จะสามารถช่วยให้พลังของข้าก้าวหน้าขึ้นให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้บ้าง?” เนี่ยหลีตบศีรษะ “ทำไมข้าจึงลืมสิ่งนี้ไปได้? ลืมเข้าสู่ด่านศักดิ์สิทธิ์เทียนฮ่วน ในโรงเรียนเซิ่งหลัน สิ่งเดียวที่ทำให้เขาสนใจได้ ก็คือการเข้าสู่ด่านศักดิ์สิทธิ์เทียนฮ่วน
‘เตรียมตัวให้ดีก่อน จากนั้นค่อยหาโอกาสเข้าไปในด่านศักดิ์สิทธิ์เทียนฮ่วน!’ เนี่ยหลีครุ่นคิด
เนี่ยหลีนั่งลงเริ่มฝึกยุทธ์ เนี่ยอวี่ที่อยู่ด้านข้างก็นั่งตามเนี่ยหลีลงไปฝึกยุทธ์อย่างว่าง่าย นางเฉลียวฉลาดยิ่ง ไม่รบกวนเนี่ยหลี ทั้งยังตั้งใจฝึกยุทธ์เอง
หนึ่งวัน สองวัน...
เวลาผันผ่านไป เนี่ยหลีและเนี่ยอวี่รู้สึกว่าที่นี่ไม่เลว นอกจากพื้นที่หวงห้ามซึ่งไม่อนุญาตให้ล่วงล้ำเข้าไปได้แล้ว ที่เหลือก็ไม่เข้มงวด ยิ่งไปกว่านั้นยังมีคนในจวนมาส่งอาหารให้ครบทั้งสามมื้อ คนภายนอกก็สามารถมาเยี่ยมเยียนได้ตลอดเวลา พูดกันว่าอีกไม่กี่วัน ท่านเ้าเมืองและท่านเยี่ยโม่จะมาพบเนี่ยหลีเป็การส่วนตัวอีกด้วย ดังนั้นพวกยามและสาวใช้รอบด้านจึงสุภาพกับเนี่ยหลี พี่น้องคู่นี้อย่างยิ่ง
วรยุทธ์ของเนี่ยหลีมีความก้าวหน้าขึ้นอย่างมั่นคง พอถึงวันที่ห้า ในที่สุดก็เลื่อนขึ้นอีกขั้นหนึ่งได้สำเร็จ พลังิญญาก้าวถึงระดับเงินสามดาว
หลังจากที่เลื่อนขึ้นถึงระดับเงินสามดาว เนี่ยหลีก็ไม่เดินหน้าฝึกต่ออีก ในระยะเริ่มแรกของการฝึกยุทธ์ ไม่ควรก้าวหน้ารวดเร็วเกินไป เว้นช่องไว้บ้างจะดีกว่า ไม่ควรใจร้อนเกินไป เขากระพริบตาปริบๆ ครุ่นคิด มาอยู่ในจวนเ้าเมืองตั้งหลายวันแล้ว เยี่ยจื่ออวิ๋นไม่มาหาเขาสักที
ใกล้ค่ำแล้ว แสงสายัณห์ยามพระอาทิตย์ตกฉาบทาทั่วทั้งจวนเ้าเมืองจนเป็สีทองอร่าม ทำให้หมู่ตึกแห่งนี้ยิ่งดูงดงามเป็พิเศษ
“เดาว่านางคงหน้าบาง จึงไม่ยอมเสียหน้ามาหากระมัง ดูท่าข้าคงได้แต่ยอมทำผิดสักครั้งไปหาเ้า!” เนี่ยหลีคิดๆ หัวเราะฮาๆ และหันไปชำเลืองมองเนี่ยอวี่ที่อยู่ข้างกัน “เสี่ยวอวี่ ข้าจะไปหาพี่สะใภ้ของเ้า เ้าอยู่ที่นี่ตั้งใจฝึกยุทธ์ต่อไปให้ดี”
“อ้อ” ดวงตากลมโตเป็ประกายของเนี่ยอวี่เต็มไปด้วยความสงสัย จ้องมองเนี่ยหลี พี่เนี่ยหลีกำลังจะไปหาพี่สะใภ้หรือ? แม้ในใจจะสงสัย ทว่านางก็ไม่ปริปากถาม ตั้งใจฝึกยุทธ์อยู่ที่ลานบ้านต่อไปอย่างเชื่อฟัง
สองเท้าของเนี่ยหลีก้าวพ้นลานบ้านออกมาแล้ว เขาจึงเรียกจิตอสูรปีศาจเงาออกมาและหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
ยอดฝีมือระดับทองหลายคนที่ยืนยามอยู่บริเวณหน้าหมู่ตึกที่เนี่ยหลีพำนักอยู่ััได้ถึงกลิ่นไอแปลกๆ อย่างหนึ่ง พวกเขาหันไปมองรอบด้าน แต่กลับไม่พบอะไร จึงถอนสายตากลับ ยังคิดว่าตนเข้าใจผิด
“จิตอสูรปีศาจเงาของข้ายังไม่สมบูรณ์ ความสามารถในการปิดซ่อนกลิ่นไอของตนยังไม่ดีพอ ยามพบเจอกับยอดฝีมือระดับทองยังพอจะผ่านไปได้อย่างเฉียดฉิว ทว่าหากพบเจอยอดฝีมือระดับทองดำหรือกระทั่งระดับตำนาน คงต้องถูกพบตัวอย่างแน่นอน” เนี่ยหลีแอบครุ่นคิดในใจ เร่งฝีเท้าตรงไปยังหมู่ตึกอีกหลังหนึ่งซึ่งเยี่ยจื่ออวิ๋นพำนักอยู่
แม้เนี่ยหลีไม่เคยมาที่นี่มาก่อน ทว่าเคยได้ยินเยี่ยจื่ออวิ๋นเล่าเื่ราวต่างๆ ในจวนเ้าเมืองให้ฟัง ดังนั้นจึงพอจะรู้ว่าเยี่ยจื่ออวิ๋นอาศัยอยู่บริเวณไหน
‘คิดขโมยลูกสาวของท่านเ้าเมือง รู้สึกตื่นเต้นอยู่บ้างจริงๆ’ เนี่ยหลีแอบคิด อดยิ้มออกมาน้อยๆ ไม่ได้
จวนเ้าเมืองที่เต็มไปด้วยยอดฝีมือ ถูกเนี่ยหลีลอบเข้าไปในเขตหวงห้ามได้ นักสู้ระดับทองไม่นับว่าเป็ภัยต่อเนี่ยหลีแม้แต่น้อย
หมู่ตึกและสวนหน้าลานบ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งปรากฏสู่สายตาของเนี่ยหลี ที่นี่เป็ลานบ้านที่ตกแต่งเป็พิเศษ แวดล้อมด้วยดอกไม้ต้นไม้นานาพรรณ กลิ่นหอมอ่อนๆ โชยตามลมมา มองจากที่ไกล เห็นตึกสองชั้นสวยงามขนาดเล็กหลังหนึ่ง ที่นี่ก็คือสถานที่พำนักของเยี่ยจื่ออวิ๋นแล้ว
ซุ้มประตูในสวนขนาดเล็กถูกเนี่ยหลีแฝงกายเร้นผ่านไปในสภาพล่องหนได้อย่างง่ายดาย ครั้นพอผ่านไป จึงคลายจากสภาพล่องหน เนี่ยหลีเดินหรากร่างเข้าไปทันที
บนแท่นหินมุมหนึ่งของสวนขนาดเล็ก เยี่ยจื่ออวิ๋นกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนแท่นหิน พลังิญญาพันวนอยู่รอบกาย ด้านหลังมีเงาภูตพล่าเลือนสีขาวลอยอยู่ตนหนึ่ง
ภูติขาวตนนี้สวมชุดคลุมสีขาวยาวสยาย ใบหน้างดงามยิ่ง บนศีรษะของนางมีมงกุฎน้ำแข็งสวมอยู่ แลดูสูงส่งจนไม่อาจบรรยายได้ จิตอสูรตนนี้ก็คือราชินีวายุเหมันต์ ในบรรดาสัตว์อสูรชนิดต่างๆ ถือว่ามีความใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุด มีตำนานกล่าวไว้ว่าราชินีวายุเหมันต์เป็เทพธิดาในยุคโบราณ
ราชินีวายุเหมันต์เป็จิตอสูรที่หาได้ยากยิ่ง นอกจากนี้ยังมีทักษะยุทธ์วายุเหมันต์อันทรงพลังแข็งแกร่งยิ่ง นับว่าเข้าคู่เหมาะเจาะกับเยี่ยจื่ออวิ๋นที่ฝึกเคล็ดวิชาหงส์น้ำแข็งเก้าวัฏจักรอย่างยิ่ง
สายตาของเนี่ยหลีไล่ละลงไปตามเรือนร่างของเยี่ยจื่ออวิ๋น ทันใดก็รู้สึกว่าจมูกของตนอุ่นร้อนขึ้นมาจนเืกำเดาแทบไหล เยี่ยจื่ออวิ๋นคงเพิ่งอาบน้ำเสร็จเป็แน่ เรือนผมของนางยังเปียกชื้นอยู่ เสริมกับท่วงท่าน่ารักอีกสองสามส่วน ขณะเดียวกันบนร่างกายก็สวมใส่ชุดผ้าไหมผืนบางแนบเนื้ออยู่เพียงชุดเดียว มองเห็นยอดชูชันบนทรวงอกงดงามได้เลือนๆ
ภาพฉากนี้ทำให้เนี่ยหลีอดหวนคิดถึงชีวิตในชาติที่แล้วไม่ได้ คืนนั้น เยี่ยจื่ออวิ๋นใต้แสงจันทร์ช่างดูนวลตา แลดูบริสุทธิ์สูงส่ง งดงามราวเทพธิดา สองคนตระกองกอดกันและกัน ฟังเสียงลมหายใจของกัน มือของเนี่ยหลีคลึงเค้นความอ่อนนุ่มคู่นั้นอย่างอ่อนโยน มีคนกล่าวไว้ว่า ความภาคภูมิใจสูงสุดของบุรุษผู้หนึ่ง ก็คือ่เวลาที่ได้เกาะกุมยอดปทุมของรักครั้งแรก
เนี่ยหลีสูดลมหายใจเข้าลึกๆ คำหนึ่ง แม้เวลานี้เยี่ยจื่ออวิ๋นยังไม่เติบโตเป็สาวสะพรั่ง ทว่าก็เริ่มเติบโตเป็บุปผาที่งดงามราวหยกแล้ว ผนวกกับได้ฝึกเคล็ดวิชาหงส์น้ำแข็งเก้าวัฏจักร ผิวพรรณของนางก็ยิ่งเปล่งปลั่ง แลดูยวนตาตรึงใจยิ่ง
เวลานี้ เยี่ยจื่ออวิ๋นที่กำลังเดินลมปราณอยู่รับรู้ได้ถึงบางสิ่ง นางลืมตาขึ้น ตวาดออกมาคำหนึ่ง “ผู้ใด?” ครั้นเมื่อนางเห็นว่าเป็เนี่ยหลี จึงคลายใจลงและเอ่ยถามขึ้นด้วยความงุนงงว่า “เป็เ้าได้อย่างไร? เ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”
หากเป็ผู้อื่น จู่ๆ มาปรากฏตัวอยู่ในสวนแห่งนี้ เยี่ยจื่ออวิ๋นคงสงสัยถึงเจตนาของอีกฝ่ายแล้ว ต่อให้เป็คนที่คุ้นเคยก็ตาม เยี่ยจื่ออวิ๋นไม่อาจวางใจจากความระมัดระวังตนได้ ทว่าแม้แต่เยี่ยจื่ออวิ๋นก็ยังไม่รู้ตัว ทันทีที่นางเห็นเนี่ยหลี นางกลับเผลอคลายใจ
“ข้าแวะมาชมดู สวนของเ้าดูงดงามพิเศษยิ่ง ทว่าอาศัยอยู่คนเดียวเช่นนี้คงต้องน่าเบื่อแย่ หรือข้าควรจะย้ายมาอยู่ด้วยกันกับเ้าดีกว่า” เนี่ยหลีกวาดตามองรอบด้าน ท่าทางพึงพอใจพยักหน้าหงึกๆ
เยี่ยจื่ออวิ๋นจ้องมองเนี่ยหลีด้วยความงุนงงเซ่อซ่า รู้สึกทั้งอายทั้งโกรธ เ้าคนผู้นี้ เหตุใดจึงหน้าไม่อายถึงเพียงนี้ได้! ข้าเคยพูดั้แ่เมื่อใดว่าอยู่คนเดียวแล้วเบื่อ? ต่อให้ข้าเบื่อนักหนา ก็ไม่คิดให้เ้าย้ายเข้ามาอยู่ด้วยอย่างแน่นอน!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้