“ ขอบเขตพลังต่างกันมากเกินไป ”
ชายร่างใหญ่ที่มาจากสำนักหลิงอวิ๋นส่ายหัวถอนหายใจหนึ่งครั้งแล้วกล่าวว่า “เด็กผู้นี้ก็น่าจะอายุสิบขวบแล้วตอนนี้เพิ่งจะหลอมลมปราณขั้นสี่ น่าเสียดายจริงๆ บิดาของเขาคงจะไม่ใช่คนโดดเด่นอะไรมิฉะนั้น... พร์ของเขาก็คงไม่เป็เช่นนี้”
“ศิษย์พี่หญิงคนนั้นของข้ามีพร์น่าตื่นตะลึงจริงหรือ?”เด็กหญิงถามอย่างแปลกใจ
“ศิษย์พี่หญิงคนนั้นของเ้าอายุสิบขวบก็หลอมลมปราณขั้นเก้าได้แล้วอีกทั้งเมื่ออยู่ในตระกูลเนี่ยพร์เช่นนี้ก็เรียกได้ว่ายอดเยี่ยมที่สุดแล้ว”ชายร่างใหญ่อธิบาย
เด็กหญิงพลันเกิดความเคารพเลื่อมใสกล่าว:“ถ้าอย่างนั้นก็ถือว่าเก่งมากจริงๆ”
นางเองก็อยู่ในขอบเขตหลอมลมปราณเก้าเช่นกันแต่นางรู้ดีว่าที่ตัวเองมาถึงขอบเขตนี้ได้นั้นเกี่ยวพันกับชาติกำเนิดของนางอย่างแยกไม่ได้
ตลอดเส้นทางการบำเพ็ญตบะของนางได้ใช้ของวิเศษล้ำค่าไปมากมายข้อนี้มีความสำคัญเป็อย่างมาก
เนี่ยจิ่นซึ่งกำเนิดในตระกูลเนี่ยที่เป็ตระกูลผู้พึ่งพาสำนักหลิงอวิ๋นย่อมไม่สามารถใช้สมุนไพรวิเศษมือเติบได้อย่างนางแน่นอน
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ตอนอายุสิบขวบเนี่ยจิ่นก็สามารถบรรลุถึงขอบเขตหลอมลมปราณขั้นเก้าได้นอกจากพร์โดดเด่นแล้วก็ไม่มีสาเหตุอื่นอีก
ว่ากันตามหลักแล้วต่อให้เป็เพียงคนธรรมดาคนหนึ่งลำพังแค่อาศัยพร์ที่แข็งแกร่งของมารดาเขาก็ไม่น่าจะแย่ขนาดนี้
“เสี่ยวเทียน! กลับบ้านกับข้า อย่าดื้อ!”พอเนี่ยเฉี่ยนเห็นว่าเนี่ยเทียนเสียเปรียบจิตใจก็วุ่นวายจึงรีบกล่าวว่า“ความแค้นของป้าใหญ่ไม่้าให้เ้ามาทวงคืนให้ !รีบกลับไปกับข้า!”
“ในเมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้นแล้วถ้าอย่างนั้นก็ต้องสู้ให้รู้แพ้รู้ชนะ!”หยวนชิวอิ๋งสีหน้าเ็าสะบัดร่างทีหนึ่งก็มายืนอยู่ด้านหน้าเนี่ยเฉี่ยนคลื่นพลังิญญาบนร่างกระเพื่อมเป็ระลอก เห็นได้ชัดว่า้าขัดขวางไม่ให้นางเข้าไปห้ามปราม “คนที่สู้กับเ้าเด็กนั่นคือลูกชายของข้า นี่ไม่ถือว่าข้าเป็ผู้ใหญ่รังแกเด็ก”
“ต่างก็อายุเท่ากันหากมันแพ้ นั่นก็เป็เพราะตบะของมันนั้นต่ำต้อย ไร้ประสิทธิภาพ จะโทษข้าไม่ได้”
หยวนชิวอิ๋งเชิดหน้าเล็กน้อย มองเห็นเนี่ยเทียนที่บนศีรษะมีควันลอยกรุ่น ก็แอบสะใจอยู่กับตัวเองปรารถนาให้อวิ๋นซงลูกชายของนางลงมือเหี้ยมโหดยิ่งกว่าเดิม ให้เนี่ยเทียนยิ่งพ่ายแพ้ยับเยิน
คำพูดของเนี่ยเทียนก่อนหน้านี้โจมตีเข้าจุดเ็ปของนางโดยตรงทำให้นางเกลียดเนี่ยเทียนเข้ากระดูกดำไปเรียบร้อย
อวิ๋นซงที่เงยหน้าหัวเราะด้วยความลำพองใจ เห็นได้ชัดว่าเข้าใจความ้าของมารดา เมื่อเขาพบว่าหยวนชิวอิ๋งยืนบังอยู่ด้านหน้าเนี่ยเฉี่ยนแอบบอกเป็นัยให้เขาลงมือหนักกว่าเดิมนั้นเขาก็ลงมืออีกครั้งดังคาดเอาไว้
“ฟู่ ฟู่!”
เปลวเพลิงสีแดงอมส้มลูกแล้วลูกเล่าที่เปลี่ยนแปลงไปตามคาถาิญญาในร่างกายของเขาบินทะยานพุ่งเข้าใส่เนี่ยเทียนอีกครั้ง
เปลวไฟเ่าั้ หลังจากพุ่งออกจากฝ่ามือก็คล้ายสามารถพลิกแพลงได้ตามความคิดของเขา พวกมันเรียงแถวเข้าหากันเป็รูปตัวอักษร“พิ่น”[1] ไล่กวดเข้าหาเนี่ยเทียนจากทิศทางที่ต่างกันออกไป
เนี่ยเทียนที่เพิ่งถูกไฟลุกไหม้อาภรณ์และเส้นผมย่อมรู้ดีถึงอานุภาพอันน่าตื่นตะลึงของเปลวไฟนั้น ครั้งนี้จึงไม่ดันทุรังปะทะโดยตรงอีก แต่เขาเลือกที่จะหลบหลีกอย่างต่อเนื่อง
“ฮ่าๆ!”
รอยยิ้มบนใบหน้าเล็กๆ ของอวิ๋นซงยิ่งผลิบาน ปล่อยลูกไฟมากมายออกมาอย่างต่อเนื่อง
เปลวไฟหลายสิบลูกบินโอบล้อมเนี่ยเทียนราวกับพระอาทิตย์ดวงเล็กๆ ที่เผาไหม้
คลื่นความร้อนระลอกแล้วระลอกเล่าถูกปลดปล่อยออกมาจากลูกไฟเ่าั้ทำให้พื้นที่ๆ เนี่ยเทียนยืนอยู่ร้อนแผดเผายากจะทนรับมันได้
เนี่ยเทียนที่อยู่ท่ามกลางลูกไฟเ่าั้ทำได้เพียงหลบหลีกอย่างรวดเร็ว เลี่ยงไม่ให้เปลวไฟพวกนั้นโจมตีลงบนร่างกาย
ขณะที่อวิ๋นซงยิ่งปลดปล่อยเปลวไฟออกมามากขึ้นเรื่อยๆ นั้น พื้นที่ๆ เนี่ยเทียนเคลื่อนไหวได้ก็ยิ่งลดน้อยลง
แม้แต่อวิ๋นซงเองจงใจปล่อยลูกไฟออกมาให้ได้เยอะๆ นั้น จำเป็ต้องใช้สมาธิควบคุมจึงเผาผลาญพลังกายและพลังิญญามากมายจนหน้าผากมีเหงื่อซึมออกมา
“ลูกเล่นเยอะแยะทว่ากลับสวยแต่รูป!”เด็กหญิงที่ผิวขาวราวกับหยกเนื้อดีผู้นั้นไม่ได้แทะเม็ดแตงอีกต่อไป ความสนใจทั้งหมดล้วนอยู่ที่การต่อสู้ระหว่างอวิ๋นซงและเนี่ยเทียน นางขมวดคิ้วเล็กน้อย “สร้างลูกไฟเยอะขนาดนั้นสูญเสียสมาธิมากมายเพื่อใช้ควบคุมลูกไฟนั่น นอกจากสวยงามแล้วกลับไม่มีประโยชน์อันใดเลยแม้แต่น้อย”
ชายร่างใหญ่ข้างกายนางพยักหน้าวิจารณ์อย่างเป็กลางว่า“เ้าเด็กตระกูลอวิ๋นนั่นมีลูกเล่นสีสันฉูดฉาดในการต่อสู้ก็จริง เขาอยู่ในขอบเขตหลอมลมปราณขั้นเจ็ดหากใช้พลังทั้งหมดเพื่อควบคุมลูกไฟสามลูกด้วยความเร็วและความคล่องแคล่วในการเคลื่อนไหวของลูกไฟทั้งสามนั่น จะเพิ่มระดับได้อีกถึงสองขั้น”
“เพียงแต่ว่าหากใช้ลูกไฟสามลูก เด็กตระกูลเนี่ยนั่นคงโดนโจมตีเข้าจังๆ ไปนาน และตอนนี้คงแพ้ไปแล้ว”
“กำลังกระจัดกระจายเกินไป กลับทำให้ลูกไฟทั้งหมดเคลื่อนที่ได้เชื่องช้าอืดอาดนี่ถึงได้ทำให้เ้าเด็กตระกูลเนี่ยยังคงมีพื้นที่ให้เคลื่อนไหว”
หยุดชะงักไปครู่หนึ่งชายร่างใหญ่ก็พูดขึ้นมาอีกว่า “แต่ถึงจะเป็อย่างนี้ ลูกไฟยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ พื้นที่การเคลื่อนไหวของเด็กตระกูลเนี่ยก็ยิ่งน้อยลง ไม่ช้าก็เร็วย่อมแพ้อยู่ดี”
“สุดท้ายก็ยังเป็เพราะขอบเขตของทั้งสองฝ่ายนั้น ต่างกันมากเกินไป” เด็กหญิงกล่าวอย่างเสียดาย
“ตึง!”
และเวลานี้เองในที่สุดเนี่ยเทียนก็หลบไม่พ้นเปลวไฟลูกขนาดเท่ากำปั้นลูกหนึ่ง กระแทกลงไปบนหน้าอกของเขาอย่างจัง
อาภรณ์ตรงส่วนหน้าอกของเนี่ยเทียนลุกไหม้อีกครั้ง พลังเปลวเพลิงหลายต่อหลายเส้นฉวยโอกาสเจาะทะลุเข้าไปในร่างของเขา
เนี่ยเทียนเ็ปจนฝีเท้าโซซัดโซเซ ลูกไฟมากมายยิ่งพุ่งเข้าโอบล้อม เห็นได้ว่าเขาใกล้จะถูกลูกไฟเ่าั้กดทับท่วมร่างแล้ว
“เนี่ยเทียน!” เนี่ยเฉี่ยนกรีดร้องเสียงดังด้วยความเศร้าสลดไม่สนใจการขัดขวางของหยวนชิวอิ๋ง คิดจะลงมือเข้าไปห้ามปราม
ชายร่างใหญ่สำนักหลิงอวิ๋นที่อยู่ท่ามกลางกลุ่มคนผู้นั้นมาถึงเวลานี้สีหน้าก็พลันมืดคล้ำลงไปเช่นกัน
เนี่ยเทียนอยู่แค่ขอบเขตหลอมลมปราณขั้นสี่ แต่พลังที่แฝงเร้นอยู่ในกลุ่มลูกไฟเ่าั้มาจากพลังของอวิ๋นซงที่อยู่ขอบเขตหลอมลมปราณขั้นเจ็ด
หากลูกไฟพวกนั้นโจมตีเข้าใส่เนี่ยเทียนทั้งหมดเนี่ยเทียนไม่ตายก็ต้องาเ็สาหัส
เขาเป็คนของสำนักหลิงอวิ๋นจะอย่างไรเสีย ตระกูลเนี่ยของเนี่ยเทียนก็เป็ตระกูลในสังกัดของสำนักหลิงอวิ๋น เขาไม่มีทางปล่อยให้เ้าเด็กตระกูลอวิ๋นนั่นสังหารเนี่ยเทียนต่อหน้าต่อตาเขาอย่างแน่นอน
“ตุบๆๆ!”
และบัดนี้เองเนี่ยเทียนที่ตกอยู่ในวิกฤตเสียงหัวใจของเขาพลันเต้นกระหน่ำอย่างรวดเร็ว
แทบจะไม่ได้หยุด เนี่ยเทียนก็ััได้อย่างฉับพลันว่าพลังมหาศาลลึกลับที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกของเืเนื้อเขากำลังทะลักทลายออกมา!
พลังเปลวไฟที่ล่องลอยอยู่ในร่างของเขา พริบตานั้นถูกชะล้างจนไม่มีหลงเหลือ เหมือนว่าเขาไม่ได้รับอิทธิพลจากพลังของเปลวเพลิงที่ยังหลงเหลืออยู่ในร่างกายอีกแล้ว
เขาพุ่งปะทะผ่านลูกไฟเ่าั้ กระโจนเข้าใส่อวิ๋นซงั์ตาเต็มไปด้วยความดุร้ายเหี้ยมโหดราวสัตว์ป่า
“ตู้ม ตู้ม!”
ลูกไฟลูกแล้วลูกเล่ากระแทกลงมาบนร่างของเขา เขากลับไม่รู้สึกถึงความเ็ปเลยแม้แต่น้อย
พลังิญญาร้อนแผดเผาในเปลวเพลิงที่สาดกระเซ็นไปทั่วร่างของเขามอดดับลงไปในพริบตาเดียว ไม่มีพลังหลงเหลือให้ลอดผ่านรูขุมขนแทรกซึมเข้าไปในร่างของเขาได้แม้แต่เส้นเดียว
เขาฝ่าปะทะผ่านกลุ่มลูกไฟที่ลอยวนอยู่เต็มท้องฟ้าพุ่งออกมาโดยตรง!
ชายร่างใหญ่ของสำนักหลิงอวิ๋นที่กำลังจะเข้าไปห้ามปรามอ้าปากค้างคำว่า“หยุด” ที่กำลังจะออกจากปากกลับต้องชะงักค้างอยู่แค่ในลำคอ
“สวบ!”
รวดเร็วราวกับสายฟ้าแลบแค่พริบตาร่างของเนี่ยเทียนก็มาโผล่อยู่ข้างกายอวิ๋นซงแล้ว
“ตู้ม!”
หลังเสียงประหลาดที่ดังขึ้น หลังของอวิ๋นซงก็โค้งงอร่ างเขาถูกเหวี่ยงขึ้นสูงไปข้างหลัง จากนั้นก็ตกกระแทกลงบนพื้นอย่างแรง
ส่วนเนี่ยเทียนก็ยืนอยู่ตรงจุดเดิมที่อวิ๋นซงเคยยืนอยู่
อยู่ห่างกันห้าเมตรเขาถลึงตาดุดันใส่อวิ๋นซงและตวาดใส่อวิ๋นซงว่า “มาสิ ลุกขึ้นมาสู้กันต่อสิ!”
“แค่กๆ!”แค่อ้าปากอวิ๋นซงก็ไอขึ้นมาอย่างรุนแรงทั้งมุมปากยังมีเืไหลซึมออกมาเป็สาย
“ซงเอ๋อ!”
คู่สามีภรรยาหยวนชิวอิ๋งและอวิ๋นจื้อกั๋วพอเห็นสถานการณ์พลิกผันกะทันหัน หลังจากเสียงกรีดร้องเสียงแหลมนั้น ก็รีบพุ่งเข้าไปตรวจสอบอาการาเ็ของอวิ๋นซงอย่างรวดเร็วราวกับถูกไฟลนก้น
“หา! เมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้น?”
“ข้าไม่ได้ตาฝาดใช่หรือไม่? ทำไมเ้าเด็กตระกูลเนี่ยถึงได้ยืนอยู่แล้วเด็กตระกูลอวิ๋นถึงลงไปนอนกับพื้นเล่า?”
“ก่อนหน้านี้มันเกิดเื่อะไรขึ้นกันแน่? ข้า... ข้ามองเห็นไม่ชัดเลย”
“ประหลาดจริง!”
ผู้คนที่ล้อมดูอยู่โดยรอบต่างก็มองมายังเนี่ยเทียนและอวิ๋นซงที่มีสีหน้าซีดเซียวด้วยท่าทางประหลาดใจพากันวิพากษ์วิจารณ์เสียงดัง
ชายร่างใหญ่ของสำนักหลิงอวิ๋นกลับเห็นเหตุการณ์อย่างชัดเจน เขามองเห็นว่าหลังจากที่เนี่ยเทียนพุ่งฝ่าออกมาจากกลุ่มลูกไฟ แล้วพุ่งชนเข้าที่หน้าอกของอวิ๋นซงอย่างแรงราวกับรถศึกบ้าคลั่ง ทำให้ร่างของอวิ๋นซงที่ถูกกระแทกนั้น ลอยทะยานขึ้นไปบนฟ้าแล้วตกลงมากระแทกอย่างแรง
“เ้าเด็กชาติชั่ว! เ้ากล้าทำร้ายซงเอ๋อของข้า ข้าจะฆ่าเ้าเดี๋ยวนี้!” หยวนชิวอิ๋งดูอาการาเ็ของลูกชายตัวเอง เมื่อพบว่ากระดูกหน้าอกของอวิ๋นซงมีเอ็นฉีกสองเส้นจึงคลุ้มคลั่งขึ้นมาทันที
------
[1 ]อักษรพิ่น 品
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้