เมื่อได้ยินคำพูดของท่านเฮ่อฉางเหอผู้าุโที่อยู่ในรุ่นราวคราวเดียวกันกับเขาหลายคนก็ถึงกับหลุดหัวเราะออกมา เวลานี้การแย่งชิงกันระหว่างเด็กๆก็เริ่มลามมาถึงคนรุ่นาุโแล้ว การต่อสู้ถูกยกระดับขึ้นมา มันช่างน่าสนใจจริงๆ!
เฮ่อฉางเหอเริ่มลงมือแล้ว แล้วเฉินเฟยจะนั่งอยู่นิ่งๆได้ยังไงล่ะ?
คนที่รู้เื่ราวความแค้นระหว่างเฮ่อฉางเหอและเฉินเฟยเป็อย่างดีจึงเริ่มคาดการณ์ขึ้น
และเป็ไปตามที่พวกเขาคิดไว้ เฉินเฟยที่ตอนแรกนั่งพักสายตาอยู่กลับลืมตาทั้งสองข้างขึ้นมาทันที สายตาของเขาสะท้อนความแข็งกร้าวอยู่ชั่วขณะเมื่อสักครู่ที่เฮ่อฉางเหอพูดถึง ‘กอเอี๊ยะหนังสุนัข’ ก็เป็คำพูดที่กรีดลงไปในจิตใจลึกๆ ของเขาอย่างฉับพลันและทำให้เขาหวนคิดถึงฝันร้ายในวัยเด็กที่ไม่มีทางลบเลือนไปได้เลย
ตอนที่เขายังเด็ก เขาถูกคนอื่นตั้งฉายาให้ว่า ‘กอเอี๊ยะหนังสุนัข’!
เป็ฉายาที่ทำให้เขาเจ็บแค้นเป็ที่สุด
และฉายานี้ก็เป็ฉายาที่เฮ่อฉางเหอตั้งให้เขา
ตอนที่ท่านเฮ่อฉางเหอเสนอราคาออกมาก็ทำหลี่เฉียนโจวอึ้งไปชั่วขณะเขาไม่รู้ว่าตัวเองควรจะทำอย่างไรดี เขาสามารถเอาชนะคนรุ่นเดียวกันได้แต่เขาคงยากที่จะเอาชนะคนรุ่นาุโ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอีกฝ่ายเป็ถึงปรมาจารย์แห่งหยก มีสมบัติเป็ร้อยล้านพันล้าน แล้วเขาที่มีเงินเพียงไม่กี่ล้านจะมีปัญญาไปสู้กับอีกฝ่ายได้อย่างไรล่ะ
แต่ทว่าคำว่า ‘กอเอี๊ยะหนังสุนัข’เมื่อสักครู่มันก็เป็การเปรียบเทียบที่เขารู้สึกรับไม่ได้จริงๆ!
ขณะที่หลี่เฉียนโจวไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดีนั้นเฉินเฟยก็ได้ยกมือขวาขึ้นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “6 ล้าน”
หลี่เฉียนโจวได้ยินเช่นนี้ก็นิ่งไปทันทีหลังจากนั้นเขาก็ตื่นเต้นอย่างบ้าคลั่ง หากมีอาจารย์ของตนช่วยออกหน้าให้แล้วเขายังต้องกลัวอะไรอีก
หึหึ! เฮ่อฉางเหอกับลูกศิษย์พวกคุณคอยดูเถอะ เดี๋ยวพวกคุณอาจารย์และลูกศิษย์จะต้องถูกพวกเราเหยียบย่ำจนแหลกละเอียด!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาก็มองหลินเยว่และเฮ่อฉางเหออย่างอวดดี
6 ล้าน!
เสนอราคา 6 ล้านหยวน!
เมื่อได้ผ่านการแข่งขันอย่างดุเดือดเมื่อสักครู่แล้วณ เวลานี้ ผู้คนทั้งหลายกลับดูใจเย็นขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อ พวกเขารู้สึกว่าการประมูลหยกหงส์ัคู่นี้ในงานประมูลแห่งนี้ไม่ว่าจะมีราคาสูงขนาดไหน มันก็เป็เพียงเื่ปกติธรรมดาตามที่ควรจะเป็เื่หนึ่ง!
่นี้ยังมีคนไม่ได้มองว่าเงินเป็เงินจริงๆด้วยหรือ คิดว่าเป็กระดาษเปล่าหรือยังไง!
แต่ทว่า เราไม่สามารถเอาเด็กรุ่นใหม่ไปเทียบกับคนรุ่นก่อนได้เลยคนรุ่นก่อนเวลาเสนอราคาที ก็เพิ่มครั้งละ 1 ล้านหยวน
ทุกคนภายในงานต่างนั่งอยู่บนที่นั่งของตนเองอย่างเงียบสงบพวกเขาเตรียมตัวเป็ผู้รับชมที่มีมารยาท ทะเลาะกันสิ ต่อยกันเลย ยิ่งดุเดือดยิ่งดี!
ท่านเฮ่อฉางเหอได้ยินเช่นนี้ก็หัวเราะ “เหอๆ”เขามองเฉินเฟยด้วยสีหน้าราบเรียบแล้วยกมือพร้อมพูดขึ้น “มีคนยินดีที่จะเพิ่มราคา ผมก็จะยอมเล่นเป็เพื่อนกับเขาสักหน่อยดูสิว่าสุดท้ายแล้วใครจะเป็ผู้ชนะ 7 ล้าน!”
เป็การเพิ่มราคาทีละ 1 ล้านหยวนอีกครั้ง!
เป็เงินก้อนใหญ่จริงๆ!
หลินเยว่ก็รู้สึกใกับความใจกล้าของอาจารย์ของตนเช่นกันอาจารย์ของเขากล้าเพิ่มราคาทีละ 1 ล้านหยวนเงินที่เพิ่มขึ้นในแต่ละครั้งเป็จำนวนเงินที่มากกว่ามูลค่าที่แท้จริงของหยกหงส์ัคู่นี้เสียอีกแล้วการกระทำเช่นนี้มันดีจริงๆ หรือ?
หรือว่าเพื่อจะสู้กับคนอื่นก็ต้องเดิมพันด้วยเงินจำนวนมหาศาลไม่ได้มองว่าเงินเป็เงินจริงๆ ก็เลยคิดจะโยนทิ้งเล่นอย่างนั้นหรือ?
ณ เวลานี้ หลินเยว่กลับเริ่มได้สติและเริ่มครุ่นคิดว่าการการทำเช่นนี้มันมีความหมายกับชีวิตหรือเปล่า?
จากหยกหงส์ัคู่หนึ่งกลับกลายเป็ชนวนะเิ...จากคนรุ่นเด็กก็ลุกลามไปถึงคนรุ่นาุโและคงไม่มีใครสามารถคาดเดาผลลัพธ์ของมันได้
ณ เวลานี้หลินเยว่ก็ไม่สามารถพูดอะไรเพื่อเปลี่ยนการกระทำของอาจารย์ของตนเองได้เลยตอนนี้เขากลายเป็ผู้ชมอย่างแท้จริง
หวังว่าอาจารย์ของตนจะไม่ทำอะไรวู่วาม
หลินเยว่รู้สึกว่าการเอาชนะด้วยเงินก้อนมหาศาลขนาดนี้ก็มันเป็การกระทำที่เกินไปมากและการกระทำเมื่อสักครู่ของตนเองก็เหมือนไม่ค่อยมีสติจริงๆ!
แต่ทว่าหากสามารถเหยียบเฉินเฟยและลูกศิษย์ไว้ใต้ฝ่าเท้ามันก็เป็เื่ที่สะใจดีเหมือนกัน
ณ เวลานี้ผู้ดำเนินการประมูลก็กลายเป็เพียงตัวประกอบเท่านั้น เขาไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ในตอนนี้ได้แล้วแต่เหตุการณ์เป็อย่างนี้ก็ยิ่งส่งผลดี เพราะสุดท้ายผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ก็คือผู้ที่จัดงานประมูลในครั้งนี้
แข่งกันสิ แข่งกันเลย
เขาเป็ผู้ดำเนินการประมูลมาหลายปีแล้วแต่ครั้งนี้เขาก็ได้เปลี่ยนมาเป็ผู้ชมบ้าง
ผู้ดำเนินการประมูลวางค้อนในมือของตนลงแล้วมองการแข่งขันอย่างดุเดือดระหว่างผู้เฒ่าทั้งสองอย่างอารมณ์ดี
ณ เวลานี้เอง เฉินเฟยกลับหลับตาลงเขาทำสีหน้าราวกับเป็ผู้ที่เหนือกว่า ใบหน้ามีแต่ความนิ่งเฉย
เขาค่อยๆ ยกมือขวาขึ้น “7.5 ล้าน”
กลัวแล้วหรอ?
หรือว่าไม่มีเงินแล้ว?
ทำไมครั้งนี้ถึงได้เพิ่มแค่ 5 แสนหยวนเท่านั้นล่ะ?
หรือว่าคิดว่าจะค่อยๆ ยื้อกับอีกฝ่าย?
ผู้คนภายในงานต่างมองเฉินเฟยอย่างไม่เข้าใจคิดอยากจะหาคำตอบจากใบหน้าของเขา แต่ทว่าพวกเขาก็ต้องผิดหวังเพราะใบหน้าของเฉินเฟยมีสภาพราวกับเปลือกต้นไม้เก่าแก่ต้นหนึ่งไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดๆพวกเขาทำอะไรไม่ได้จึงได้แต่จำใจเบี่ยงสายตากลับมามองที่ตัวของท่านเฮ่อฉางเหอ ผู้าุโท่านนี้จะเสนอราคาเพิ่มอีกใช่ไหม?
และเวลานี้เอง หลินเยว่ก็ทนไม่ได้อีกต่อไปเขามองท่านเฮ่อฉางเหอพร้อมพูดอย่างกังวล “อาจารย์ครับการทำแบบนี้มันก็ไม่มีความหมายอะไรหรือเปล่าครับหยกคู่นี้ไม่ได้มีมูลค่าสูงถึงขนาดนั้น เพื่อเอาชนะ......”
ไม่ได้รอให้หลินเยว่พูดจนจบท่านเฮ่อฉางเหอก็ยกมือขึ้นห้ามพร้อมพูดขึ้น “วางใจเถอะ อาจารย์รู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่คุณไม่ต้องกังวลนะ”
ในเมื่อพูดกันถึงขนาดนี้แล้วหลินเยว่จึงไม่ได้พูดอะไรอีก
สิ่งที่ควรพูดก็ได้พูดไปแล้วอาจารย์ของตนน่าจะรู้ว่าควรจะทำได้ถึงขนาดไหน
“หึ! ไอ้พวกขี้ขลาดทำเป็แต่แกล้งคนอื่นลับหลัง แต่ความจริงกลับไม่มีความสามารถอะไรเลย วันๆ คิดแต่จะทำร้ายคนอื่นแต่สุดท้ายเป็ยังไงล่ะ คนอื่นก็ยังอยู่ดีกินดีอยู่ตรงนี้ยังไงล่ะความสามารถเท่าขี้เล็บแบบนี้ก็คงทำได้เพียงถือรองเท้าให้คนอื่นเท่านั้น 8.5 ล้าน!”
ท่านเฮ่อฉางเหอยกมือพร้อมพูดขึ้น
ยิ่งแก่ก็ยิ่งใจกล้านะเนี่ย!
เป็การเพิ่มราคาครั้งละ 1 ล้านอีกครั้ง!
เมื่อท่านเฮ่อฉางเหอเสนอราคาออกมาพลันเกิดเสียงปรบมือดังกึกก้องขึ้นมาทันที
เมื่อเสียงปรบมือค่อยๆ หยุดลงสายตาของทุกคนต่างมองไปยังเฉินเฟยที่ยังคงหลับตาสีหน้าไร้อารมณ์ความรู้สึกเหมือนเช่นเคย คนอื่นเสนอราคาออกมาขนาดนี้แล้วครั้งนี้คุณก็ควรจะเสนอเพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านบ้างสิมิฉะนั้นแล้วคุณก็จะดูเหมือนคนขี้งก!
“9 ล้าน!”
เฉินเฟยยกมือขึ้นอีกครั้งและพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
เฮ่อ!
เอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้จริงๆ!
ผู้คนรอบๆ ต่างส่ายศีรษะอย่างอดไม่ได้
เมื่อเห็นท่าทีของทุกๆ คน หลี่เฉียนโจวก็รู้สึกว่าอาจารย์ของตนขี้เหนียวจนเกินไปเสนอราคาเพิ่มทีละ 5 แสนหยวนเองหากเป็ตัวเขา เขาจะต้องเสนอเพิ่มอีก 2 ล้านเอาให้อาจารย์ลูกศิษย์คู่นั้นต้องถูกเหยียบย่ำจนจมดิน
แต่ทว่าเขามองไม่เห็นวี่แววว่าอาจารย์ของตนจะมีการะเิอารมณ์ออกมา สีหน้ายังคงไร้อารมณ์ความรู้สึกเขาจึงได้แต่ถอนหายใจอยู่เงียบๆ
อันที่จริง เพิ่มราคา 5 แสนหยวนก็ถือว่าเป็การเพิ่มอยู่เหมือนกันขอแค่เป็ราคารวมที่สูงกว่าอาจารย์ลูกศิษย์คู่นั้นก็พอแล้ว
หลี่เฉียนโจวพูดปลอบใจตัวเอง
การเสนอราคาก็เหมือนกับการเตะฟุตบอล เตะส่งกันไปเตะส่งกันมา และครั้งนี้ก็เป็เฉินเฟยที่เตะลูกบอลให้กับท่านเฮ่อฉางเหอ
ทุกคนจึงหันไปมองท่านเฮ่อฉางเหอสายตาเต็มไปด้วยความคาดหวัง
เพิ่มอีก 1 ล้านสิ ให้ตาแก่ขี้อวดคนนั้นเห็นกันจะจะไปเลย
แต่ทว่า สิ่งที่เหนือความคาดหมายของทุกๆ คนก็คือท่านเฮ่อฉางเหอกลับหัวเราะ “ฮ่าๆ” เสียงดังพร้อมพูดขึ้น “ในเมื่อคุณอยากได้ถ้าเช่นนั้นหยกหงส์ัคู่นี้ก็ขอมอบให้คุณก็แล้วกันสุภาพบุรุษย่อมไม่แย่งของรักของคนอื่น”
เมื่อประโยคนี้ถูกเอ่ยออกมาทุกคนที่อยู่ในงานต่างตกตะลึง
ไม่เพิ่มราคาแล้วหรือ?
ทำไมจู่ๆ คิดจะปล่อยมือก็ปล่อยกันดื้อๆอย่างนี้เลยล่ะ?
เมื่อสักครู่ยังเป็การแย่งชิงระหว่างัและพยัคฆ์แล้วทำไมตอนนี้ถึงกลายเป็แบบนี้ได้ล่ะ?
ท่าทีที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงของท่านเฮ่อฉางเหอทำให้ทุกคนต่างเกิดความข้องใจ
เมื่อเฉินเฟยได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายเขาก็ลืมตาขึ้นมาทันที กล้ามเนื้อบนใบหน้าเกิดอาการกระตุกโดยอัตโนมัติหลังจากนั้นก็มีแต่ความเกรี้ยวกราดและความอาฆาตแค้น อีกทั้งยังมีความรู้สึกไม่ยอมแพ้ซ่อนอยู่ในจิตใจลึกๆ
“อาจารย์ครับทำไมตาเฮ่อคนนั้นถึงไม่เพิ่มราคาล่ะ?” หลี่เฉียนโจวหันไปมองอาจารย์ของตนเองและถามอย่างข้องใจ
เฉินเฟยสบถอยู่ในลำคอเสียงเย็น
หลี่เฉียนโจวคิดไปเองทันทีว่าเสียงสบถนี้เป็สิ่งที่อาจารย์ของตนทำเพราะ้าดูถูกเฮ่อฉางเหอที่อีกฝ่ายถอนตัวอย่างกะทันหันเขาจึงยิ้มอย่างตื่นเต้นดีใจ “อาจารย์ครับ ในที่สุดพวกเราก็ได้หยกคู่นี้มาไว้ในมือแล้วฮ่าๆ ...... ครั้งนี้พวกเราเหยียบอาจารย์ศิษย์คู่นั้นจนจมดินไปเลย”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้