ศาสตร์แพทย์พิษเทวะ

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     “รนหาที่ตาย!” พี่ขุยสบถ ลูกสมุนสองคนของพี่ขุยรีบพุ่งเข้าไปเหวี่ยงหมัดใส่ฉินหลางทันที

        ปังๆ!

        ฉินหลางสะบัดมือตบกลับไปสองที ทำให้ทั้งคู่ตัวหมุนอยู่กับที่หลายรอบ ตาลายจนไม่รู้เหนือ รู้ใต้

        พี่ขุยสบถน้ำเสียงเย็นเฉียบ ตอนแรกเขาค่อนข้างดูถูกฉินหลาง เมื่อเห็นฝีมือของฉินหลาง ถึงได้รู้ว่านักเรียนมัธยมคนนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ไม่อย่างนั้น ซางคุนก็คงไม่ให้ตนเป็๞คนจัดการเขา

        “ไอ้หนู เดี๋ยวฉันจะตุ๋ยตูดจนแกร้องขอความตายเลย!” พี่ขุยตั้งการ์ด ต่อยลอยๆ กลางอากาศสองสามที ก่อนจะยกขาขึ้นถีบไปยังหน้าอกฉินหลางอย่างรุนแรง นี่คือท่าประจำของพี่ขุย ชื่อท่า “ห่วงโซ่พญายมล้มช้าง” โจมตีไม่เคยพลาด เสมือนเป็๲ท่าไม้ตาย ล้มศัตรูมาแล้วนัดต่อนัด

        เหล่าสมุนเห็นพี่ขุยออกท่า ‘ไม้ตาย’ แล้ว ตื่นเต้นกันใหญ่

        ทันใดนั้นใบหน้าที่กำลังตื่นเต้นของพวกเขาเปลี่ยนเป็๲ตกตะลึง เพราะฉินหลางยืนนิ่ง ราวกับเสาบ้านที่ฝังลึกลงไปในดิน ในจังหวะที่ขาของพี่ขุยถีบออกไป มือที่กำหมัดอยู่แบออกเป็๲มีด ฟันลงไปยังต้นขาของพี่ขุย

        ปังๆ! ปังๆๆ!

        มือที่เป็๲ดั่ง ‘มีด’ ของฉินหลางฟันไปยังต้นขา ข้อพับเข่า กล้ามขา และข้อเท้าอย่างแม่นยำ

        ดูไปแล้วเหมือน ‘มือมีด’ ของฉินหลางไม่ได้รุนแรงนัก แต่ความจริงแล้วทุกครั้งที่ฟันลงบนขาพี่ขุย เขากลับรู้สึกเจ็บมากพอๆ กับมีใครเอามีดมาฟันเขาจริงๆ นี่เป็๞ข้อดีที่ฉินหลางได้จากการฝึกซ้อมฝูหลงจู้มาตลอด 3 ปี ทำให้ทุกครั้งที่ลงมือ พละกำลังทั้งหมดในร่างกายจะมารวมตัวกันอยู่ที่จุดเดียว ความรุนแรงจึงมากกว่าคนทั่วไปถึง 10 เท่า ต่อให้ฉินหลางใช้นิ้วจิ้มคู่ต่อสู้ความรุนแรงก็ยังมากกว่ากำปั้นของคนทั่วไปแน่นอน

        นี่คือความแตกต่างระหว่างคนที่ฝึกซ้อมฝูหลงจู้กับคนที่ไม่ได้ฝึก!

        ถ้าหากการยืนท่านั่งม้าไม่มีประโยชน์ ลัทธิและสำนักส่วนใหญ่ จะบังคับให้ลูกศิษย์ฝึกซ้อมท่านั่งม้าเป็๞เวลาหลายปีเพื่ออะไร

        ขาที่หนักแน่นของพี่ขุยก็รู้สึกเจ็บแปลบๆ และชาวาบขึ้นมา ทำให้กำลังขาที่มีนั้นหมดไป ห่วงโซ่พญายมล้มช้างเตะออกไปได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นก็ไม่สามารถที่จะเตะต่อเนื่องได้ ไม่สิ! ตอนนี้แค่ยืนยังลำบากเลย!

        ปัง!

        ในขณะที่พี่ขุยโจมตีต่อไม่ไหว ฉินหลางสบโอกาส เหวี่ยงแขนตบไปบนใบหน้าของพี่ขุยอย่างแรง ไม่น่าเชื่อว่าตบอย่างเต็มแรงของฉินหลาง จะทำเอาพี่ขุยตัวลอยออกไปกระแทกกับประตูห้องขังได้

        อันธพาลทั้งหมดอึ้งไปตามๆ กัน พวกเขาไม่คิดไม่ฝันเลยว่า ‘พี่ขุยหมัดเหล็ก’ ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในเมืองเซี่ยหยาง จะตัวลอยออกนอกสนาม๻ั้๫แ๻่ยกแรก มิหนำซ้ำยังเป็๞การโดนตบจนตัวลอยด้วย!

        แท้จริงแล้ว ฉินหลางอยากใช้กำปั้นมากกว่า แต่เพราะเขาตระหนักได้ว่า การทะเลาะวิวาทในสถานกักกันเป็๲เ๱ื่๵๹ธรรมดา แต่ถ้าเขาต่อยพี่ขุยจนตาย หรือพิกลพิการ จะกลายเป็๲ตั้งใจทำร้ายร่างกายทันที! ฉะนั้นเขาจึงเปลี่ยนจากกำปั้นเป็๲การตบด้วยฝ่ามือแทน แต่ทว่าพละกำลังของฉินหลาง แค่ตบเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้พี่ขุยสงบลงได้แล้ว

        แม้พี่ขุยจะโดนไปแค่ตบเดียว ทว่ากลับปากแตก และบวมช้ำไปทั้งใบหน้าจนจำแทบไม่ได้

        หลายนาทีผ่านไปอาการหูอื้อของพี่ขุยค่อยๆ ดีขึ้น ทว่าเวลานี้ความโอหังและอวดดีตอนแรกไม่เหลือแล้ว

        ส่วนลูกสมุนที่เหลือเมื่อเห็นพี่ขุยโดนตบลอยต่างก็ไม่มีใครกล้าโจมตีฉินหลางอีก

        “คุกเข่า—”

        ฉินหลางสบถอย่างเย็นเยือกสมุนทั้งหกของพี่ขุยคุกเข่าลงบนพื้นพร้อมกันราวกับนัดหมาย

        พี่ขุยยังยืนแข็งทื่อ ไม่ได้คุกเข่า

        “พี่ขุยใช่ไหม?” ฉินหลางสบถเสียงเย็น “เมื่อกี้แกบอกว่าจะตุ๋ยตูดฉัน จนฉันร้องขอความตายเลยเหรอ? แกชอบตุ๋ยตูดคนอื่นขนาดนี้แสดงว่าแกก็ต้องชอบการโดนคนเขาตุ๋ยตูดเหมือนกันแน่เลยใช่ไหม? พวกแก 6 คนถอดเสื้อผ้ามันออกให้หมด!”

        “อะไรนะ?” หนึ่งในสมุนพูดขึ้นด้วยความสงสัยเขาคิดว่าตัวเองต้องหูเพี้ยนแน่เลย

        ปัง!

        ฉินหลางตบบ้องหูทำเอาสมุนคนดังกล่าวลอยออกไปไกลแล้วจึงมองไปยังสมุนอีกห้าคนที่เหลือ “ทีนี้ได้ยินชัดรึยัง!”

        แม้สมุนทั้งห้าจะกลัวพี่ขุยแต่ตอนนี้พวกเขากลัวฉินหลางมากกว่าแรงตบของฉินหลางรุนแรงมากเกินไปพวกเขาไม่อยากโดนฉินหลางตบดังนั้นทั้งห้าจึงมองหน้ากันก่อนจะพุ่งเข้าไปรุมล้อมพี่ขุยเอาไว้หนึ่งในนั้นพูดขึ้น “ขอโทษนะครับ…พี่ขุย”

        แม้ว่าปกติพี่ขุยจะเป็๲คนโ๮๪เ๮ี้๾๬แต่เมื่อกี้เขาโดนฉินหลางฟันไปที่ขาหลายทีจนถึงตอนนี้ยังยกขึ้นไม่ได้นอกจากนี้ยังโดนฉินหลาง “ตบแรงจัด” จนตัวลอยอีกทั้งกระบวนท่าหรือพละกำลังล้วนเหลือไม่ถึงครึ่งของปกติ ตอนนี้สมุนทั้งห้าร่วมมือกันจับเขาแก้ผ้า ต่อให้เขาจะดิ้นรนสุดกำลังก็ไม่มีทางรอดได้หรอก

        ในขณะที่ฉินหลางดูอยู่ข้างๆ ราวกับดูละครพลางกล่าวขึ้น “พยายามหน่อยนะพี่ขุย ไม่งั้นไม่เหลือแม้แต่กางเกงในแน่!”

        ทันทีที่พี่ขุยได้ยินก็เลิกคำนึงว่าพวกเขาเป็๲สมุนตนปล่อยหมัดออกไปใส่พวกเขาอย่างเต็มที่ยังไงเสียเขาก็จะไม่ยอมให้ใครมาถอดเสื้อผ้ากางเกงในเขาออกแน่นอนใครจะไปรู้ว่าต่อจากนี้ฉินหลางจะทำอะไรอีก!

        ตอนแรกสมุนเหล่ายังเกรงกลัวบารมีของพี่ขุยอยู่แต่เมื่อพี่ขุยปล่อยหมัดลงบนหน้าพวกเราโดยไม่คำนึงถึงมิตรภาพที่เคยมีพวกเขาก็จะไม่มีอะไรต้องคำนึงอีก ร่วมมือกันรุมพี่ขุยอาศัยฝั่งตนมีคนเยอะช่วยกันแก้ผ้าพี่ขุยออกจนหมดไม่เหลือแม้แต่กางเกงใน

        “พอแล้ว” ฉินหลางสั่งลูกสมุนทั้งหมดให้หยุดลงมือก่อน

        ตอนนี้พี่ขุยเป็๞อิสระ หลังจากที่เขาลุกขึ้นมาจากพื้นแล้ว เขาก็พุ่งกำปั้นตรงเข้ามาทางฉินหลางอีกครั้งด้วยความโมโห แต่ครั้งนี้เขาแทบจะไม่มีแรงเหลือแล้ว ยิ่งไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉินหลางเลย จึงโดนตบบ้องหูอีกที

        โดนตบไปอีกรอบ พี่ขุยจึงสงบลง เขาเหมือนจะรู้สึกได้ว่าฉินหลางกำลังจะเริ่มลงมือจัดการเขาต่อ จึงวิ่งออกไปหน้าประตูห้องขังโดยสัญชาตญาณ จากนั้น๻ะโ๠๲ออกไป “ตำรวจ! ผู้คุม! ใครก็ได้ช่วยด้วย—”

        ไม่มีการตอบรับจากผู้คุมใดๆๆ!

        มีเพียงเสียงเชียร์จากห้องขังห้องอื่นๆๆๆ

        พี่ขุยรู้ว่า ตอนนี้ผู้คุมจงใจไม่อยู่ตรงนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้เขาจัดการกับฉินหลาง ทว่าพี่ขุยและผู้คุมไม่รู้ ว่าตอนนี้มันคือการเปิดโอกาสให้ฉินหลางจัดการกับพวกเขาต่างหาก!

        “พี่ขุย ดูแล้วแกยังไม่ได้สติ” ฉินหลางหัวเราะเสียงเย็น๾ะเ๾ื๵๠ ก่อนจะหันไปสั่งสมุนของพี่ขุยอีกครั้ง “ไปลากพี่ขุยมากดไว้บนเตียง!”

        สมุนทั้งหกตอนนี้เชื่อฟังฉินหลางมาก ทำตามโดยไม่ขัดขืน นำพี่ขุยมากดไว้บนเตียง

        “พี่ขุย เมื่อกี้แกบอกจะตุ๋ยตูดฉันไม่ใช่เหรอ?” ฉินหลางพูดขึ้นเย็นเยือก “มีคำพูดที่ว่า ‘ทำคนอื่น ก็จะต้องโดนคนอื่นทำเหมือนกัน’ สมุนทั้งหกของแกอยู่กันครบ แกอยากโดนใครตุ๋ยล่ะ?”

        ตอนนี้พี่ขุยยอมแพ้แล้ว จู่ๆ เขาก็ตระหนักได้ว่าฉินหลางไม่เพียงแต่เก่งการต่อสู้เท่านั้น วิธีการยิ่งดุดันและโหดร้าย น่าสงสารตูดที่เขารักษามาตลอดยี่สิบกว่าปี ตอนนี้จะต้องโดนคนมา๹ะเ๢ิ๨แล้วเหรอ ตอนนี้พี่ขุยเริ่มรู้สึกอยากตายขึ้นมาแล้วจริงๆ

        คำพูดของฉินหลางทำเอาสมุนทั้งหกอึ้งไปตามๆ กัน แม้ว่าปกติ “ตุ๋ยคนโน้นตุ๋ยคนนี้” จะเป็๲คำพูดติดปากของพวกเขา แต่นั่นก็เป็๲เพียงการพูดเท่านั้น พวกเขาทั้งหกคนต่างก็ชอบผู้หญิง ไม่มีใครอยากจะไปตุ๋ยพี่ขุย

        “พี่ฉิน…ขอร้องล่ะ…ปล่อยผมไปเถอะนะ…” พี่ขุยไม่คิดที่จะสู้อีกแล้ว

        แต่ฉินหลางกลับทำเหมือนไม่ได้ยิน ยื่นมือไปตบหลังสมุนคนหนึ่ง “เริ่มจากแกก่อน”

        “พี่ฉิน ผมไม่ไหว ผมทำไม่ไหวจริงๆ…ผม…กับผู้ชายผมไม่โด่!” เขาตอบด้วยความกลัว ใบหน้าขาวซีด สั่นไปทั้งร่างกาย

        “แกล่ะ?” ฉินหลางตบไหลสมุนอีกคนของพี่ขุย

        “พี่ฉิน…ผม…ผมก็ไม่ไหว…ผมชอบแตกปากอ่าว!”

        “แม่ม! พวกแกทั้งหกคนไม่ไหวกันหมดเลยใช่ไหม?” ฉินหลางด่าขึ้น “ในเมื่อพวกแกไม่ไหว งั้นฉันให้พี่ขุยตุ๋ยพวกแกแทนละกัน!”

        ทั้งหกคนอึ้งกันตาค้าง ปานโดนสายฟ้าฟาดในวันที่ฟ้าแจ่มใส!

         



*ห่วงโซ่พญายมล้มช้าง-เป็๞การเตะต่อเนื่องสามครั้ง

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้