“รนหาที่ตาย!” พี่ขุยสบถ ลูกสมุนสองคนของพี่ขุยรีบพุ่งเข้าไปเหวี่ยงหมัดใส่ฉินหลางทันที
ปังๆ!
ฉินหลางสะบัดมือตบกลับไปสองที ทำให้ทั้งคู่ตัวหมุนอยู่กับที่หลายรอบ ตาลายจนไม่รู้เหนือ รู้ใต้
พี่ขุยสบถน้ำเสียงเย็นเฉียบ ตอนแรกเขาค่อนข้างดูถูกฉินหลาง เมื่อเห็นฝีมือของฉินหลาง ถึงได้รู้ว่านักเรียนมัธยมคนนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ไม่อย่างนั้น ซางคุนก็คงไม่ให้ตนเป็คนจัดการเขา
“ไอ้หนู เดี๋ยวฉันจะตุ๋ยตูดจนแกร้องขอความตายเลย!” พี่ขุยตั้งการ์ด ต่อยลอยๆ กลางอากาศสองสามที ก่อนจะยกขาขึ้นถีบไปยังหน้าอกฉินหลางอย่างรุนแรง นี่คือท่าประจำของพี่ขุย ชื่อท่า “ห่วงโซ่พญายมล้มช้าง” โจมตีไม่เคยพลาด เสมือนเป็ท่าไม้ตาย ล้มศัตรูมาแล้วนัดต่อนัด
เหล่าสมุนเห็นพี่ขุยออกท่า ‘ไม้ตาย’ แล้ว ตื่นเต้นกันใหญ่
ทันใดนั้นใบหน้าที่กำลังตื่นเต้นของพวกเขาเปลี่ยนเป็ตกตะลึง เพราะฉินหลางยืนนิ่ง ราวกับเสาบ้านที่ฝังลึกลงไปในดิน ในจังหวะที่ขาของพี่ขุยถีบออกไป มือที่กำหมัดอยู่แบออกเป็มีด ฟันลงไปยังต้นขาของพี่ขุย
ปังๆ! ปังๆๆ!
มือที่เป็ดั่ง ‘มีด’ ของฉินหลางฟันไปยังต้นขา ข้อพับเข่า กล้ามขา และข้อเท้าอย่างแม่นยำ
ดูไปแล้วเหมือน ‘มือมีด’ ของฉินหลางไม่ได้รุนแรงนัก แต่ความจริงแล้วทุกครั้งที่ฟันลงบนขาพี่ขุย เขากลับรู้สึกเจ็บมากพอๆ กับมีใครเอามีดมาฟันเขาจริงๆ นี่เป็ข้อดีที่ฉินหลางได้จากการฝึกซ้อมฝูหลงจู้มาตลอด 3 ปี ทำให้ทุกครั้งที่ลงมือ พละกำลังทั้งหมดในร่างกายจะมารวมตัวกันอยู่ที่จุดเดียว ความรุนแรงจึงมากกว่าคนทั่วไปถึง 10 เท่า ต่อให้ฉินหลางใช้นิ้วจิ้มคู่ต่อสู้ความรุนแรงก็ยังมากกว่ากำปั้นของคนทั่วไปแน่นอน
นี่คือความแตกต่างระหว่างคนที่ฝึกซ้อมฝูหลงจู้กับคนที่ไม่ได้ฝึก!
ถ้าหากการยืนท่านั่งม้าไม่มีประโยชน์ ลัทธิและสำนักส่วนใหญ่ จะบังคับให้ลูกศิษย์ฝึกซ้อมท่านั่งม้าเป็เวลาหลายปีเพื่ออะไร
ขาที่หนักแน่นของพี่ขุยก็รู้สึกเจ็บแปลบๆ และชาวาบขึ้นมา ทำให้กำลังขาที่มีนั้นหมดไป ห่วงโซ่พญายมล้มช้างเตะออกไปได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นก็ไม่สามารถที่จะเตะต่อเนื่องได้ ไม่สิ! ตอนนี้แค่ยืนยังลำบากเลย!
ปัง!
ในขณะที่พี่ขุยโจมตีต่อไม่ไหว ฉินหลางสบโอกาส เหวี่ยงแขนตบไปบนใบหน้าของพี่ขุยอย่างแรง ไม่น่าเชื่อว่าตบอย่างเต็มแรงของฉินหลาง จะทำเอาพี่ขุยตัวลอยออกไปกระแทกกับประตูห้องขังได้
อันธพาลทั้งหมดอึ้งไปตามๆ กัน พวกเขาไม่คิดไม่ฝันเลยว่า ‘พี่ขุยหมัดเหล็ก’ ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในเมืองเซี่ยหยาง จะตัวลอยออกนอกสนามั้แ่ยกแรก มิหนำซ้ำยังเป็การโดนตบจนตัวลอยด้วย!
แท้จริงแล้ว ฉินหลางอยากใช้กำปั้นมากกว่า แต่เพราะเขาตระหนักได้ว่า การทะเลาะวิวาทในสถานกักกันเป็เื่ธรรมดา แต่ถ้าเขาต่อยพี่ขุยจนตาย หรือพิกลพิการ จะกลายเป็ตั้งใจทำร้ายร่างกายทันที! ฉะนั้นเขาจึงเปลี่ยนจากกำปั้นเป็การตบด้วยฝ่ามือแทน แต่ทว่าพละกำลังของฉินหลาง แค่ตบเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้พี่ขุยสงบลงได้แล้ว
แม้พี่ขุยจะโดนไปแค่ตบเดียว ทว่ากลับปากแตก และบวมช้ำไปทั้งใบหน้าจนจำแทบไม่ได้
หลายนาทีผ่านไปอาการหูอื้อของพี่ขุยค่อยๆ ดีขึ้น ทว่าเวลานี้ความโอหังและอวดดีตอนแรกไม่เหลือแล้ว
ส่วนลูกสมุนที่เหลือเมื่อเห็นพี่ขุยโดนตบลอยต่างก็ไม่มีใครกล้าโจมตีฉินหลางอีก
“คุกเข่า—”
ฉินหลางสบถอย่างเย็นเยือกสมุนทั้งหกของพี่ขุยคุกเข่าลงบนพื้นพร้อมกันราวกับนัดหมาย
พี่ขุยยังยืนแข็งทื่อ ไม่ได้คุกเข่า
“พี่ขุยใช่ไหม?” ฉินหลางสบถเสียงเย็น “เมื่อกี้แกบอกว่าจะตุ๋ยตูดฉัน จนฉันร้องขอความตายเลยเหรอ? แกชอบตุ๋ยตูดคนอื่นขนาดนี้แสดงว่าแกก็ต้องชอบการโดนคนเขาตุ๋ยตูดเหมือนกันแน่เลยใช่ไหม? พวกแก 6 คนถอดเสื้อผ้ามันออกให้หมด!”
“อะไรนะ?” หนึ่งในสมุนพูดขึ้นด้วยความสงสัยเขาคิดว่าตัวเองต้องหูเพี้ยนแน่เลย
ปัง!
ฉินหลางตบบ้องหูทำเอาสมุนคนดังกล่าวลอยออกไปไกลแล้วจึงมองไปยังสมุนอีกห้าคนที่เหลือ “ทีนี้ได้ยินชัดรึยัง!”
แม้สมุนทั้งห้าจะกลัวพี่ขุยแต่ตอนนี้พวกเขากลัวฉินหลางมากกว่าแรงตบของฉินหลางรุนแรงมากเกินไปพวกเขาไม่อยากโดนฉินหลางตบดังนั้นทั้งห้าจึงมองหน้ากันก่อนจะพุ่งเข้าไปรุมล้อมพี่ขุยเอาไว้หนึ่งในนั้นพูดขึ้น “ขอโทษนะครับ…พี่ขุย”
แม้ว่าปกติพี่ขุยจะเป็คนโเี้แต่เมื่อกี้เขาโดนฉินหลางฟันไปที่ขาหลายทีจนถึงตอนนี้ยังยกขึ้นไม่ได้นอกจากนี้ยังโดนฉินหลาง “ตบแรงจัด” จนตัวลอยอีกทั้งกระบวนท่าหรือพละกำลังล้วนเหลือไม่ถึงครึ่งของปกติ ตอนนี้สมุนทั้งห้าร่วมมือกันจับเขาแก้ผ้า ต่อให้เขาจะดิ้นรนสุดกำลังก็ไม่มีทางรอดได้หรอก
ในขณะที่ฉินหลางดูอยู่ข้างๆ ราวกับดูละครพลางกล่าวขึ้น “พยายามหน่อยนะพี่ขุย ไม่งั้นไม่เหลือแม้แต่กางเกงในแน่!”
ทันทีที่พี่ขุยได้ยินก็เลิกคำนึงว่าพวกเขาเป็สมุนตนปล่อยหมัดออกไปใส่พวกเขาอย่างเต็มที่ยังไงเสียเขาก็จะไม่ยอมให้ใครมาถอดเสื้อผ้ากางเกงในเขาออกแน่นอนใครจะไปรู้ว่าต่อจากนี้ฉินหลางจะทำอะไรอีก!
ตอนแรกสมุนเหล่ายังเกรงกลัวบารมีของพี่ขุยอยู่แต่เมื่อพี่ขุยปล่อยหมัดลงบนหน้าพวกเราโดยไม่คำนึงถึงมิตรภาพที่เคยมีพวกเขาก็จะไม่มีอะไรต้องคำนึงอีก ร่วมมือกันรุมพี่ขุยอาศัยฝั่งตนมีคนเยอะช่วยกันแก้ผ้าพี่ขุยออกจนหมดไม่เหลือแม้แต่กางเกงใน
“พอแล้ว” ฉินหลางสั่งลูกสมุนทั้งหมดให้หยุดลงมือก่อน
ตอนนี้พี่ขุยเป็อิสระ หลังจากที่เขาลุกขึ้นมาจากพื้นแล้ว เขาก็พุ่งกำปั้นตรงเข้ามาทางฉินหลางอีกครั้งด้วยความโมโห แต่ครั้งนี้เขาแทบจะไม่มีแรงเหลือแล้ว ยิ่งไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉินหลางเลย จึงโดนตบบ้องหูอีกที
โดนตบไปอีกรอบ พี่ขุยจึงสงบลง เขาเหมือนจะรู้สึกได้ว่าฉินหลางกำลังจะเริ่มลงมือจัดการเขาต่อ จึงวิ่งออกไปหน้าประตูห้องขังโดยสัญชาตญาณ จากนั้นะโออกไป “ตำรวจ! ผู้คุม! ใครก็ได้ช่วยด้วย—”
ไม่มีการตอบรับจากผู้คุมใดๆๆ!
มีเพียงเสียงเชียร์จากห้องขังห้องอื่นๆๆๆ
พี่ขุยรู้ว่า ตอนนี้ผู้คุมจงใจไม่อยู่ตรงนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้เขาจัดการกับฉินหลาง ทว่าพี่ขุยและผู้คุมไม่รู้ ว่าตอนนี้มันคือการเปิดโอกาสให้ฉินหลางจัดการกับพวกเขาต่างหาก!
“พี่ขุย ดูแล้วแกยังไม่ได้สติ” ฉินหลางหัวเราะเสียงเย็นะเื ก่อนจะหันไปสั่งสมุนของพี่ขุยอีกครั้ง “ไปลากพี่ขุยมากดไว้บนเตียง!”
สมุนทั้งหกตอนนี้เชื่อฟังฉินหลางมาก ทำตามโดยไม่ขัดขืน นำพี่ขุยมากดไว้บนเตียง
“พี่ขุย เมื่อกี้แกบอกจะตุ๋ยตูดฉันไม่ใช่เหรอ?” ฉินหลางพูดขึ้นเย็นเยือก “มีคำพูดที่ว่า ‘ทำคนอื่น ก็จะต้องโดนคนอื่นทำเหมือนกัน’ สมุนทั้งหกของแกอยู่กันครบ แกอยากโดนใครตุ๋ยล่ะ?”
ตอนนี้พี่ขุยยอมแพ้แล้ว จู่ๆ เขาก็ตระหนักได้ว่าฉินหลางไม่เพียงแต่เก่งการต่อสู้เท่านั้น วิธีการยิ่งดุดันและโหดร้าย น่าสงสารตูดที่เขารักษามาตลอดยี่สิบกว่าปี ตอนนี้จะต้องโดนคนมาะเิแล้วเหรอ ตอนนี้พี่ขุยเริ่มรู้สึกอยากตายขึ้นมาแล้วจริงๆ
คำพูดของฉินหลางทำเอาสมุนทั้งหกอึ้งไปตามๆ กัน แม้ว่าปกติ “ตุ๋ยคนโน้นตุ๋ยคนนี้” จะเป็คำพูดติดปากของพวกเขา แต่นั่นก็เป็เพียงการพูดเท่านั้น พวกเขาทั้งหกคนต่างก็ชอบผู้หญิง ไม่มีใครอยากจะไปตุ๋ยพี่ขุย
“พี่ฉิน…ขอร้องล่ะ…ปล่อยผมไปเถอะนะ…” พี่ขุยไม่คิดที่จะสู้อีกแล้ว
แต่ฉินหลางกลับทำเหมือนไม่ได้ยิน ยื่นมือไปตบหลังสมุนคนหนึ่ง “เริ่มจากแกก่อน”
“พี่ฉิน ผมไม่ไหว ผมทำไม่ไหวจริงๆ…ผม…กับผู้ชายผมไม่โด่!” เขาตอบด้วยความกลัว ใบหน้าขาวซีด สั่นไปทั้งร่างกาย
“แกล่ะ?” ฉินหลางตบไหลสมุนอีกคนของพี่ขุย
“พี่ฉิน…ผม…ผมก็ไม่ไหว…ผมชอบแตกปากอ่าว!”
“แม่ม! พวกแกทั้งหกคนไม่ไหวกันหมดเลยใช่ไหม?” ฉินหลางด่าขึ้น “ในเมื่อพวกแกไม่ไหว งั้นฉันให้พี่ขุยตุ๋ยพวกแกแทนละกัน!”
ทั้งหกคนอึ้งกันตาค้าง ปานโดนสายฟ้าฟาดในวันที่ฟ้าแจ่มใส!
*ห่วงโซ่พญายมล้มช้าง-เป็การเตะต่อเนื่องสามครั้ง