ยามพวกเขาได้สติกลับคืนมา รู้ตัวคนที่ปรากฏกายขึ้นมาแล้ว หลิวเล่ยตัวแข็งเล็กน้อย จากนั้นจึงะเิหัวเราะร่า “เ่ิู? ได้ยินที่พวกข้าพูดกันหรือ...ฮ่าๆ ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ ยังกล้าเสนอหน้าโผล่ออกมาอีก วันนี้ข้าจะทำให้เ้าร้องขอความตายไม่ได้ ร้องขอจะมีชีวิตอยู่ก็ไม่ได้!”
“เขาน่ะหรือเ่ิู?” ศิษย์ปีสองร่างท้วมชำเลืองมองมา หน้าตากระหายเื “ทำไมต้องคุยกับไอ้ปัญญาอ่อนชั้นต่ำนี่ให้เปลืองน้ำลาย ยึดมันไว้ก่อนค่อยว่ากันเถอะ”
เสียงเงียบงันลง
หนุ่มร่างท้วมบีบนวดกายตัวเองแล้วลงมือ
เขาสับขาเข้ามาหาด้วยทุกกระบวนที่มี รวดเร็วยิ่ง กางแขนออกระนาบกับอากาศ กระบี่ยาวเปล่งประกายวับวามน่ากลัวปรากฏอยู่กลางมือ เพลงกระบี่ดั่งฟ้าแลบ เล็งเป้าคือเ่ิู
เร็ว!
ตามมาตราฐาน!
เหี้ยม!
ความหมายแฝงของเพลงกระบี่ แสดงออกมาชนิดทุกเม็ดทุกเหนี่ยว
เ้าอวบที่เป็ศิษย์ปีสอง รู้ลึกซึ้งในพลังฟ้าดิน พลังแกร่งเผด็จศึก ถูกเรียกขานว่าลงมือครั้งเดียวรู้แพ้รู้ชนะ พลังของเขาแข็งกล้ากว่านักเรียนทั่วไปชั้นปีที่หนึ่งยิ่งนัก!
หากเป็เมื่อสองสามวันก่อน การได้ปะกับศัตรูระดับนี้ เ่ิูคงทุลักทุเลน่าดู
แต่ว่าตอนนี้...
โครม!
เสียงอึกทึกแผดลั่น
ข้อมือเ่ิูสั่นะเื หอกยาววาดตามทิศมือ หลังการมาถึงคราแรก ปะทะตัวกระบี่ที่เสียดแทงเข้ามา ฉับพลัน ดาวอังคารบนน่านฟ้าฉาดฉายแสนยาไปทั่วสารทิศ
ชายอ้วนรู้สึกถึงอันตรายแลบแล่นผ่านกระดูกสันหลังลึกยันไขสมอง จากนั้นกระบี่ยาวชั้นสูงถูกแรงแทงจนบิดเบี้ยวเหมือนงู เสียงหักสลายดังสนั่น คมกระบี่แตกกระจายจู่โจมร่างเขาทันที!
“ว้าก!”
เขาสำลักเืออกมาเป็สาย สีหน้าแตกตื่นเหมือนหมา รีบเร่งโกยหางจุกตูด
เวลาต่อมา เ่ิูก็ก้าวตามมา ตวัดหอกในมือซ้ายฟาดลงมาอีกครั้ง ดั่งคลื่นโหมกระหน่ำซัดสาดในสายนที
เด็กหนุ่มกายท้วมหลบซ่อนไม่พ้น ถูกแรงกระแทกโดนเอว กระดูกถูกตัดจนแตกร้าวกระจาย เหมือนว่าวกระดาษที่ไร้โครง ลอยตุปัดตุเป๋กระดอนไปชนกับโขดหินใหญ่ไกลๆ เข้าเต็มรัก
“เ้า...” เ้าทุกข์ถลึงตามองเ่ิูเขม็ง สีหน้าบ่งบอกว่าไม่เชื่อสายตาตัวเอง
ประโยคนี้พูดไม่ออกเพราะมือเท้ากระตุก กระดูกทั้งร่างเกือบจะแหลกเป็ชิ้นๆ อวัยวะห้าอย่างกลายเป็ทะเลเื หายใจหอบฮั่ก ตาพร่ามัวราวคนใกล้ตาย
การตอบสนองเช่นนี้ รวดเร็วเกินไปแล้ว
ยามเพลิงแห่งการต่อสู้โหมกระพือ เขาปราดเปรียวเหมือนกระต่าย เ่ิูราวกับพกพาสายฟ้าฟาดนับหมื่น โค่นศัตรูหมอบราบคาบไม่เปิดโอกาสให้หลิวเล่ยหรือหนุ่มผมแดงโต้ตอบได้เลยแม้เพียงน้อย
“นี่มัน...”
“เป็ไปได้อย่างไร?”
ทั้งสองโง่งมเหมือนไก่ตาแตกอย่าไงรอย่างนั้น
พวกเขาไม่เคยนึกไม่เคยฝันว่าพวกเขาทั้งสามเป็ดั่งนายพรานรวมหัวกันล่าแกะจนตรอกเยี่ยงเ่ิู เดิมทีมาเพื่อจับเขาให้กำราบใต้อุ้งเท้า ไม่นึกเลยว่าลูกแกะอ่อนแอตัวนั้นจะกลายเป็หมาป่าโฉดฉกาจ เปลี่ยนหน้าค่าตา!
เ่ิูโจมตีรอบต่อมา ไม่ลังเลเลยแม้เพียงน้อย ยกมือขว้างหอกออกไปเช่นที่เขาขว้างหอกกันปกติ
ประกายความน่ากลัวแผ่ขึ้นมา
หอกยาวยามค่ำคืน ประหนึ่งฟ้าแลบเป็สีดำ
เด็กผมแดงสั้นที่คราแรกเหงื่อตก รับรู้ถึงเสียงแจ้งอันตรายกรอกใบหู เริ่มลงมือตอบกลับในทันที สัญชาตญาณร่างกายตอบสนอง ดาบออกศึกกำแน่นในฝ่ามือ
ฉัวะ!
เสียงต่อสู้ดังขึ้นมาอีกครั้ง
ตวัดดาบในมือตรงดิ่งเข้ามาหาหอก ทว่ากลับไม่ห้ำหั่นจนขาดกระเด็นเยี่ยงที่บุรุษผมแดงคาดไว้ แต่กลับทำเพียงแค่เปลี่ยนทิศทางการเสียดแทงของหอกไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
หอกยาวแหวกผ่านอกซ้ายของศัตรู
เปลวเพลิงกระพือแสนยานุภาพ ดาบงามแตกแหลกเป็ผุยผง มองได้ว่าแรงจู่โจมครานี้มหาศาลถึงเพียงไหน หอกก็ตอบกลับด้วยความเฉื่อยชถ้วนเท่ากัน หนุ่มผมแดงถูกแรงปะทะกระเด็นไปไกลกว่าสิบเมตร ติดตรึงอยู่กับโขดหินตระหง่านแรงนัก
เืพุ่งพราดเป็สายน้ำตก!
ั์ตาคู่นั้นหมดสิ้นความหวัง โอดครวญเหมือนหมาข้างถนน
และเกือบจะขณะเดียวกัน หอกยาวพุ่งทะยานรวดเร็วราวกับพายุหยาดฝน ทะยานเข้าหาหลิวเล่ยที่ห่อกายตัวเองไว้อย่างขลาดเขลา
ยามดึกสงัด ราศีสังหารแผดกล้า
นับั้แ่เริ่มลงมือ เ่ิูไม่ได้คิดถึงคำว่าไว้ชีวิต ไม่ปรารถนาให้โอกาสพวกมันได้พักฟื้นจนมีแรง กำจัดพวกปีสองที่แข็งแกร่งที่สุดให้ราบคาบ หลิวเล่ยก็ไม่ใช่คู่มือของเขาอีกต่อไป!
“อ๊าก!!!”
หลิวเล่ยตะเบ็งเหมือนคนบ้า ร่ายรำกระบี่ยาวในกำมือ หมายจะต่อต้านหอกที่น่ากลัวฟ้าถล่มดินทลายนั่นให้จงได้
แต่ในพริบตา กระบี่ตีจากเหล็กชั้นงามก็หลอมละลายเป็เศษเหล็กสิ้นค่า!
ในมือหลิวเล่ยเหลือเพียงปลอกกระบี่โล้นๆ นั่งอวดโฉม!
ถึงจะเป็เพียงส่วนหนึ่งของหอกไน่เหอ น้ำหนักก็ปาเข้าไปเกินหกร้อยจิน หลั่งรวมกับพลังลึกลับคลั่งแค้นของเ่ิูด้วยแล้ว เรี่ยวแรงพอจะพังทลายทุกสิ่งที่ขวางหน้าจึงบังเกิดขึ้นมา
พลังแบบนี้ ไม่มีทางที่หลิวเล่ยจะต่อกรอะไรได้
และก็ไม่ใช่พลังที่กระบี่จะสู้ศึกได้ด้วย
ตึกๆๆ!
โลหิตดำมืดกำลังเบ่งบานไปทั่วกายหลิวเล่ย
พริบตาเดียวเขาต้องแหลกด้วยหอกนั่นแน่ๆ!
“เ้า...กล้าฆ่าข้าหรือไง?” หลิวเล่ยตวาดฟอดฟ่อ ถอยหนีเอาเป็เอาตาย
“ฆ่าเ้า มันก็เหมือนบี้มดตัวหนึ่งนั่นแหละ!” เ่ิูตะลุยเข้ามา ดาบในมือ ไล่ล่าดั่งจะล้างผลาญทุกสิ่งในกายนั้นให้อันตรธาน
ประโยคนั้นเป็หลิวเล่ยที่โวไว้ก่อนหน้า แต่ยามนี้เ่ิูกำลังคืนสนอง
“อาจารย์ตรวจการณ์ก็ยังอยู่แถวนี้ เหอๆ เ้าฆ่าศิษย์ ถ้าสำนักรู้เมื่อไรล่ะก็ ตายอย่างเขียดแน่...” หลิวเล่ยสาปแช่งรัวเป็ชุด หมายหวังว่าคำพูดจะะเืใจเ่ิูได้ ยืดเวลาให้เขาอีกสักหน่อย
“จริงหรือ? ได้ยินมาว่าอาจารย์กำลังยุ่งๆ อยู่นี่ คงมาดูแลเอาใจใส่ลูกศิษย์ไม่ได้หรอกนะ...” เ่ิูยิ้มเย็น ไม่สะทกสะท้านแม้แต่ปลายผม
หาไม่แล้วหากข่าวนี้แพร่กระจายออกไป เขาจักไม่อาจลงมือบุ่มบ่ามเช่นนี้ได้อีกต่อไป หลังจากสำนักรู้เื่ทั้งหมดว่านักเรียนห้ำหั่นกันเอง บทลงโทษต้องหนักเหลือเกินเป็แน่!
“อา....ม่านพลังตระการตา เปิดออกให้ข้าทีสิ...” หลิวเล่ยกลืนน้ำลายอึกโต บ้าคลั่งเหมือนเช่นเดิม
ทันใดนั้นเอง...
ป้ายหยกที่แขวนกับเอวหลิวเล่ย เบ่งบานแสงแวววับ กลายเป็เกราะกำบังครึ่งวงกลมตั้งตรงบนพื้นพสุธา หยุดเ่ิูที่กำลังพุ่งหอกสังหาร!
สีหน้าเด็กหนุ่มมิเปลี่ยนแปร หอกที่สองฟาดฟันลงมาดุจสายฟ้า
พวกเศรษฐีมีเงินพกของคุ้มชีวิตติดตัว เขาคาดการณ์มาล่วงหน้าแล้ว แต่นี่ไม่มีทางขัดขวางโอกาสฆ่าอันดุเดือดของเขาได้ นับแต่วินาทีที่หลิวเล่ยคะนองปากจะขุดหลุมศพบิดามารดาเขา เ่ิูก็ได้ตัดสินใจเด็ดขาด จะไม่ปรานีเปิดโอกาสให้หลิวเล่ยมีชีวิตอยู่ดูพระอาทิตย์วันใหม่ หัวเด็ดตีนขาดอย่างไรก็ไม่ไว้ชีวิต!
ไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม!
เคร้งๆๆ!
หอกไน่เหอทรงอานุภาพดั่งค้อนั์หนักหมื่นจิน จ้วงแทงปะทะเกราะกำบังนั่นถี่รัว พลังโจมตีอันน่ากลัวรังเ่ิูเท้าไม่ติดพื้น กระเด็นลิ่วไปไกลลิบ
“ไอ้ทาสโสมมอย่างแก...ใจเด็ดดีเหลือเกินนะ...” น้ำเสียงเยี่ยงคนกระเสือกกระสน
“ฆ่าระยำตัวหนึ่ง ทำไมต้องมีความกล้า?” พลังลึกลับะเิพลัน หอกพุ่งพรวดพราด มีดปลายบุกทะลุ พื้นผิวเหล็กเสียดสีเป็ดวงไฟดั่งดารากลางอากาศธาตุ
เพล้ง!
ราวกับมีกระจกที่มองไม่เห็นถูกทำลายจนแตกละเอียด เกราะแสงกระบวนพลังที่คุ้มครองเ่ิู ในที่สุดก็ม้วยมลาย
ใบหน้าหลิวเล่ยสุดสังเวช กระนั้นก็ยังเหมือนจะเอ่ยสิ่งใด...
เ่ิูวาดเล็งหอกออกไป ดั่งบุปผานับหมื่นบานสะพรั่ง เสียงเหล็กเฉือนเนื้อดังมาหลายหน ตัดแขนขาหลิวเล่ยขาดสะบั้น
“อา อ๊าก!!!” หลิวเล่ยหอนเยี่ยงโหยหวน
เ่ิูหยุดก้าวเดิน ปลายหอกจ่อลำคอหลิวเล่ย
“เฮอะๆ เฮอะๆ” เืสดกระอักออกจากปาก ฉีกยิ้มหลุดโลกพลางว่า “เ้า...เ้าไม่กล้าฆ่าข้าหรอก ตระกูลหลิวจะไม่มีวันปล่อยเ้า...ข้ามีเชื้อสายชนชั้นสูง ฆ่าข้าไป เ้าจักกลายเป็นักโทษของทั้งแคว้นเสวี่ย!”
“ข้าไม่ข้าเ้าหรอก ใจข้าสงบได้ยาก” น้ำเสียงเ่ิูค่อยๆ เรียบสงบขึ้น “คราวก่อนที่เ้าจงใจมาหาเื่ข้ากลางสนามแสดงยุทธ์ ก็เพื่อใช้โอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้นั้นกำจัดข้า ข้าหักแขนเ้าไปข้างหนึ่ง อุตส่าห์ยั้งมือ ไม่คิดเลยว่าจะถึงขั้นพาคนมาตามฆ่าข้า...”
“เฮอะๆ ข้าเป็ชนชั้นสูง เ้ากล้าทำร้ายข้า สมควรต้องตาย!” หลิวเล่ยขบกรามตอบ
“จริงหรือ? ั้แ่ตราบใดที่ข้าปล่อยให้เ้ามีลมหายใจอยู่ต่อ เ้าก็จะไม่หยุดตามฆ่าข้า งั้นข้าฆ่าเ้าให้มันเสร็จๆ ไป เท่านี้ก็ไม่มีใครตามรังควานข้าแล้วสินะ” เ่ิูเริ่มหัวเราะ “กับหมาบ้าเกินเยียวยาเยี่ยงเ้า ต้องฆ่าถอนรากถอนโคน อ่อนมืออ่อนตีนไม่ได้เด็ดขาด!”
เอ่ยถึงตรงนี้ เ่ิูพลันรู้สึกถึงบางอย่าง ส่งเสียงหึเยือกเย็น ส่งหอกสะบัดออกไป ปะทะโขดหินด้านข้างในพริบตา
ครืน!
หินั์ดั่งภูผาถูกแรงมหาศาลจนถล่มราบ แรงเยี่ยงเขาเทพ ทับถมร่างหนุ่มผมแดงที่ตะเกียกตะกายหนี บดกระดูก บี้เนื้อหนังจนเละ เหลือแต่ขาข้างหนึ่งกระตุกให้เห็นจะๆ ตา
ศิษย์ปีสองคนนี้ถึงจะโดนแทงอกซ้ายทะลุแต่ก็ยังไม่สิ้นชีพ พลังชีวิตของผู้แข็งแกร่งขั้นครึ่งทางอาณาเนื้อฟ้า หากเ่ิูประมาทนิดเดียว ก็เกือบปล่อยให้หนีไปได้แล้ว!
“ฆ่าไปสองแล้ว อีกหนึ่งจะเป็ไรไป” เ่ิูตัดสินใจมาดมั่น จักไม่ปล่อยปัญหาให้เรื้อรังอีกแล้ว
“เ้า...” หลิวเล่ยสั่นเป็เ้าเข้า เด็กอายุแค่สิบกว่าขวบกลับรู้จักความกลัวเข้าแล้วในยามนี้ “เ้าฆ่าข้าไม่ได้ ข้าสาบานว่าจากนี้ จะไม่ไปหาเื่เ้าอีกแล้ว!”
“เฮอะๆ เ้าชอบด่าคนอื่นว่าไอ้โง่นักนี่ แต่เ้าไม่คิดเลยหรือ? ว่าเ้าเองนั่นแหละที่โง่เง่าเต่าตุ่น ข้าฆ่าหมาไปสองตัวแล้ว ยังจะคิดว่าจะไว้ชีวิตเ้าอีกงั้นหรือ?” แววตานั้นดูถูกเหยียดหยาม “อย่าบอกนะว่าไม่เคยได้ยินคำว่าฆ่าปิดปากน่ะ ถึงข้าจะเชื่อว่าต่อจากนี้เ้าจะไม่มาหาเื่ข้าอีก ข้าก็ฆ่าเ้าได้เหมือนเดิม!”
หลิวเล่ยชะงักค้าง
ใบหน้าของเขา เป็ครั้งแรกที่ระบายด้วยความหวาดกลัวจับจิต
ใช่ เ่ิูฆ่าเด็กปีสองไปสองคนแล้ว เพื่อจะปิดปากไม่ให้ข่าวนี้รั่วไหล ต้องฆ่าเขาสถานเดียว...นี่มันมองทางไหนก็มีแต่ตายกับตาย
“ขอโทษที แต่เ้าบังคับข้าเอง” เ่ิูไม่อยากพูดมากให้เปลืองน้ำลาย ไม่อยากให้ใครฝันลมๆ แล้งๆ หอกเปล่งกลิ่นอายบานสะพรั่ง หากก่อนที่หลิวเล่ยจะเอ่ยอะไรออกมาอีก หอกในมือพลันพุ่งแทงหัวใจให้ทะลุ
“เ้า...ไม่มีทางตายดี...บนตัวข้ามีสัญลักษณ์ ถ้าเ้าฆ่าข้า...ตระกูลหลิวจะรู้ได้ในทันที ข้าจะรอเ้า รอเ้าอยู่ในเส้นทางไปสู่ปรโลก!” ใน่เวลาสุดท้ายหลิวเล่ยสาปแช่งอย่างสิ้นหวังและครั่นคร้าม ตาเขม็งมองเ่ิูจะเป็จะตาย
เ่ิูขมวดคิ้ว
เขาเองก็เคยได้ยินมาก่อน ว่าพวกร่ำรวยมีกินจะทำสัญลักษณ์พลังไว้บนตัวลูกหญิงลูกชาย หากทายาทถูกฆ่าตาย สัญลักษณ์นี้จะเปลี่ยนผ่านไปติดตัวฆาตกร ไร้ทางลบล้าง ฆาตกรจักถูกหาจนเจอในไม่นาน
หากเป็เช่นนั้นจริง มีหวังเป็เื่ยุ่งแน่
เ่ิูมองฟากฟ้าที่มืดคล้ำลงไปอีก พายุฝนกำลังจะมา เห็นทีต้องรีบกำจัดร่องรอยให้สิ้นซาก แล้วไปจากที่นี่ได้แล้ว