“ข้าไม่ได้อยากสาบานอะไร ข้าก็แค่อยากทานของอร่อยตลอดทางให้ครบทุกอย่างดูว่าอุดรทักษิณแตกต่างกันอย่างไร” เ้าอ้วนน้อยฉินชิงครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่
ส่วนหลี่เคอกลับไม่ได้กล่าวอะไร เขาก็แค่ร่วมดื่มพร้อมเ้าอ้วนน้อยต่างคนต่างดื่มกันหมดจอก
“คอยดูนะข้าจะต้องเป็จั่วตูเว่ยทหารรักษาพระองค์ประจำเมืองหลวงให้ได้อย่างแน่นอน! ถึงตอนนั้นเมื่อพวกเ้ากลับมาก็ต้องเป็ข้าที่คอยดูแลพวกเ้า!” เซินสือเย่เหลือบมองกงอี่โม่อยู่ชั่วครู่เขาหัวเราะเสียงดังพร้อมกล่าวขึ้น
เมื่อกล่าวจบเซินสือเย่จึงดื่มสุราด้วยท่วงท่าสง่างาม!
หลังจากฟังความคาดหวังในอนาคตของผู้อื่นแล้วั์ตาของกงเช่อจึงสะท้อนประกายภาคภูมิใจ!
“ข้าจะต้องขุดคลองขนส่งให้สำเร็จอย่างแน่นอนข้าจะสร้างความสุขให้ปวงชน!” เมื่อกล่าวจบเขาจึงเงยหน้าดื่มสุราสุดท้ายสายตาของทุกคนจึงมองไปที่กงอี่โม่
“ขอให้พวกเราทุกคนประสบความสำเร็จ!” เมื่อเห็นหนุ่มน้อยเบื้องหน้าต่างมีความทะเยอทะยานเช่นนี้กงอี่โม่จึงคลี่ยิ้ม
เมื่อกล่าวจบนางจึงยกสุราดื่มหมดจอกท่ามกลางเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขของทุกคน
ในสมัยโบราณความเศร้าที่เกิดมากที่สุดก็คือการจากลาเนื่องจากไม่สามารถติดต่อสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์บางครั้งการแยกจากกันเพียงระยะสั้นๆ ก็อาจเป็การจากลาตลอดกาล
ทว่าพวกเขายังอ่อนเยาว์! ความอ่อนเยาว์ทำให้เกิดความเป็ไปได้อย่างไร้ขีดจำกัดพวกเขาไม่เกรงกลัวสิ่งใด มีเพียงการมองไปข้างหน้า การไขว่คว้าต่อสู้! เช่นนี้จึงจะสามารถบรรลุในสิ่งที่ตัวเอง้าได้มากที่สุด!
นี่ก็คือความอ่อนเยาว์
หลังจากอำลากันที่ศาลาสิบลี้แล้วเด็กหนุ่มทั้งหลายต่างดูเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด กงอี่โม่จึงรีบยื่นหน้าเข้าไปหาหยิบไพ่กระดาษที่ตัดด้วยตัวเองออกมา จากนั้นกล่าวอย่างมีลับลมคมใน
“อย่าทำหน้าเศร้าแบบนี้ มาๆๆข้าจะสอนพวกท่านเล่นเกมที่พวกท่านไม่เคยเล่นมาก่อนอย่างแน่นอน!”
เมื่อคิดว่าองค์หญิงมีสมองอันชาญฉลาด ความเศร้าของพวกเขาจึงหายไปพวกเขาต่างพยายามทำหน้าสดใส
ท่ามกลางสายตาคาดหวังของหนุ่มน้อยสามคนกงอี่โม่จึงสอนพวกเขาเล่นไพ่พิชิตเ้าของที่ดิน (โต้วตี้จู่)รวมทั้งวิธีการคำนวณแต้มรูปแบบต่างๆ ทำให้พวกเขามองอย่างละลานตาทว่าหลี่เคอกลับนั่งอ่านหนังสืออยู่ด้านข้างอย่างเงียบๆราวกับเป็รูปปั้นบุรุษรูปงาม
สิ่งที่น่าโมโหก็คือ ่ระหว่างทดลองเล่นไพ่พิชิตเ้าของที่ดินนั้นกงอี่โม่เป็ผู้ชนะแต่เพียงผู้เดียว ทว่าเมื่อเริ่มลงเงินแล้วเด็กหนุ่มพวกนั้นพลันเปลี่ยนไปราวกับเป็คนละคน พวกเขาคำนวณแต้มอย่างรอบคอบ กงอี่โม่ที่ประมาทเลินเล่อจึงเป็ฝ่ายแพ้อยู่ตลอด
นางคลำร่างของตน ตอนนี้นางไม่มีเงินแล้วจริงๆนางจึงเปิดม่านชะโงกหน้าออกไปพร้อมร้องะโ!
“ท่านพี่รัชทายาท! ท่านพี่รัชทายาท!”
เมื่อได้ยินเสียงของกงอี่โม่ กงเช่อพลันเกร็งตัวขึ้นในฉับพลันแม้เขาจะแกล้งทำเป็ไม่ได้ยินโดยการขี่ม้าต่อไป ทว่าม้าที่เขาขี่นั้นกลับว่าง่ายมากมันเดินช้าลงเรื่อยๆ สุดท้ายจึงอยู่ขนานกับรถม้า
“มีอะไรหรือ?”
น้ำเสียง สีหน้า ท่าทางของเขายังคงอ่อนโยนเหมือนเช่นเคยกงอี่โม่ไม่เห็นถึงความผิดปกติ แต่นางทำหน้างอกล่าวขึ้นอย่างน่าสงสาร
“ท่านพี่รัชทายาท พวกเขารวมหัวกันรังแกข้า ข้าไม่มีเงินติดตัวแล้วท่านพี่รัชทายาทให้ข้ายืมสักหน่อยได้ไหม?”
“ไม่พอค่อยขอใหม่” สีหน้าของกงเช่อยังคงเหมือนเดิม เขาหยิบถุงเงินตรงเอวให้กับนาง เมื่อกล่าวจบเขาก็กระแทกขาจากนั้นจึงควบม้าขึ้นไปด้านหน้าอีกครั้ง
กงอี่โม่มองเื้ัของเขาชั่วครู่ นางรู้สึกแปลกๆแต่ก็ไม่ได้คิดมากนัก นางรับถุงเงินด้วยใบหน้ายิ้มแย้มพร้อมหดตัวกลับเข้ามาในรถม้าจากนั้นจึงกล่าวขึ้น
“มีเงินแล้ว! เงินเยอะเสียด้วยข้าเชื่อว่าพวกท่านไม่มีทางชนะข้าได้ทั้งหมด!”
นางหยิบไพ่อย่างดีใจ ทว่าสวีหยวนกับอวี้จื่อชิงกลับสบตากันด้วยสายตาประหลาดอวี้จื่อชิงกล่าวขึ้น
“พวกเ้าว่าองค์รัชทายาททำตัวแปลกไปไหม?”
“สามหนึ่งใบ”กงอี่โม่ตอบกลับหนึ่งประโยค
“แปลกตรงไหนล่ะ?” เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้สังเกตเห็นถึงจุดนี้เลย
“เก้าหนึ่งใบ แปลกมากเลย หากเป็แต่ก่อนถ้าเขาเห็นท่านขลุกตัวกับพวกเรา แล้วยังเล่นไพ่เล่นการพนันเขาจะต้องเข้ามาเล่นงานพวกเราเป็แน่” สวีหยวนพยักหน้า ใช่! เล่นงานพวกเขา แต่ไม่ได้เล่นงานกงอี่โม่
“เอ๊ะ? อย่างนั้นหรือ?”
กงอี่โม่ดวงตาเป็ประกาย นางรีบหยุดเล่นไพ่จากนั้นจึงเริ่มสนทนากับพวกเขาอย่างสนใจ
“ใช่สิ! แต่ก่อนองค์รัชทายาทปกป้องท่านดุจของล้ำค่าคนอื่นเหลือบมองเล็กน้อยก็ยังไม่ได้ ตอนนี้ท่าทีของเขากลับไม่ได้ใส่ใจนัก”สวีหยวนวิเคราะห์ต่อไป
“หากกล่าวเช่นนี้ก็แสดงว่าข้าไม่ได้เป็ที่โปรดปรานแล้วสิ?” เมื่อได้ยินเขากล่าวเช่นนี้กงอี่โม่จึงลูบปลายคางพร้อมกล่าวอย่างประหลาดใจ
เมื่อเห็นพวกเขาสนทนากันอย่างเพลิดเพลินหลี่เคอที่นั่งอ่านหนังสือในมุมหนึ่งอย่างเงียบๆ ในตอนแรกจึงถอนหายใจพร้อมกล่าวขึ้น“องค์หญิง ท่านอย่าล้อเล่นเลย องค์รัชทายาทจะไม่สนใจท่านได้อย่างไร?”
“ความจริงก็คือความจริงนะ” ทว่าสวีหยวนกับกล่าวอย่างไม่ยอมแพ้
“เอาล่ะ เอาล่ะ ไม่คุยเื่พวกนี้แล้ว เล่นไพ่ก็เหนื่อยพอแล้วพวกเรามาคุยเื่สำคัญกันดีกว่า” กงอี่โม่ยักไหล่ นางกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ
เมื่อนางกล่าวถึงเื่สำคัญพวกเข้าจึงยื่นหน้าเข้ามาทำท่ารอฟังอย่างตั้งใจ
“การเดินทางในครั้งนี้จะเริ่มที่เมืองซิงก่อนพวกเราจะเริ่มจากแม่น้ำแยงซีที่เมืองซิง จากนั้นจะไล่ขึ้นไปทาง้าพวกเราจะตรวจสอบสถานการณ์คลองขนส่งอวี้หลงเน่ยในตอนนี้ก่อน” กงอี่โม่กล่าวขึ้น
“คลองขนส่งอวี้หลงเน่ยส่วนใหญ่จะอุดตันตื้นเขินไปหมดแล้วแค่จัดการส่วนกั้นทะเลสาบก็ต้องใช้เวลานานมากทีเดียว” หลี่เคอครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่
“ดังนั้นพวกเราจำเป็ต้องมีของบางอย่าง”
ดวงตาของกงอี่โม่พลันเป็ประกาย นางกระซิบข้างหูของแต่ละคนเมื่อกล่าวจบ พวกเขาจึงมองนางด้วยสายตาประหลาดใจ
“มองอะไร? อีกประเดี๋ยวก็จะถึงจุดหมายปลายทางจุดถัดไปแล้วพวกท่านก็ไปซื้อ จำไว้ว่า... ยิ่งเยอะยิ่งดี!” กงอี่โม่กล่าวอย่างดุดัน
“ไปซื้อของ แล้วเงินล่ะ?” เวลานี้เ้าอ้วนน้อยจึงยื่นมือออกมา
“เงินที่พวกท่านเล่นชนะไปแล้วไงล่ะ!” กงอี่โม่ส่งยิ้มอย่างเ้าเล่ห์
เด็กหนุ่มยังไม่ยอมแพ้ส่วนกงอี่โม่กลับถลึงตาใส่พวกเขาด้วยท่าทางดุดัน!
“อย่าต่อรองให้มากนัก มิฉะนั้น จำฝีมือข้าได้ไหมล่ะ! หึๆ พวกท่านคงไม่อยากลองใช่ไหม!”
จากนั้นขบวนรถม้าก็เดินทางและหยุดเป็ระยะๆพวกเขาเดินทางไปตามเส้นทางน้ำ ในขณะเดียวกันก็มีการตรวจสอบเก็บข้อมูลต่างๆเมื่อมาถึงเมืองซิงก็ใช้เวลาหนึ่งเดือนแล้ว
นายอำเภอประจำเมืองซิงได้รับข่าวล่วงหน้าแล้ว เขาจึงมาต้อนรับแต่ไกลทว่านอกจากกงเช่อที่อยู่พูดคุย คนอื่นๆ กลับรีบแยกย้ายไปพักผ่อนอย่างรวดเร็ว
วันถัดมากงอี่โม่ตื่นขึ้นมาั้แ่เช้า!
นางสั่งให้คนยกของที่ซื้อมาตลอดทางวางไว้ในสวนที่พักของตนจากนั้นจึงปิดประตูและเริ่มลงมือทันที!
หากกล่าวว่าควรทำอย่างไรจึงจะสามารถขุดทางน้ำได้อย่างรวดเร็วกงอี่โม่ไม่ได้คิดสร้างรถขุดขึ้นมาเลยแต่นางใช้วิธีที่ง่ายที่สุดและมีประสิทธิภาพสูงสุด นั่นก็คือการะเิ!
เวลานี้กงเช่อกำลังปรึกษาเื่สำคัญกับนายอำเภอ
“คลองขนส่งอวี้หลงเน่ยที่อยู่ในเมืองซิงมีระยะทางนับหมื่นเมตรอีกทั้งหนึ่งในนี้ยังมีเนินอุดตันมากมาย ดังนั้นข้าจึงคิดประกาศหาแรงงานของประชาชนมาขยายเส้นทางน้ำ”
“ในเมื่อองค์รัชทายาททำตามราชโองการแล้วเพราะเหตุใดจึงไม่ติดประกาศเกณฑ์แรงงานล่ะ?”
ดวงตาเล็กๆ ของนายอำเภอพลันเป็ประกาย การเกณฑ์แรงงานไม่จำเป็ต้องให้ค่าตอบแทนทว่าการประกาศหาแรงงานจำเป็ต้องให้ค่าตอบแทนอีกทั้งการเกณฑ์แรงงานเป็การบังคับให้แต่ละครอบครัวต้องส่งตัวแทนมาหนึ่งคนส่วนการประกาศหาแรงงานทั่วไปจะให้ผลต่างออกไปในสายตาของเขาแล้วการขยายเส้นทางน้ำเช่นนี้ หากไม่มีแรงงานหลายแสนแล้วก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องขุดกันถึงเมื่อไร
“ไม่จำเป็ต้องใช้คนเยอะขนาดนั้น ขอแค่มีร่างกายแข็งแรงก็พอข้ายินดีให้ค่าตอบแทน แต่ละคนทำงานครึ่งวัน ค่าตอบแทนยี่สิบอีแปะ” กงเช่อส่งยิ้ม
นายอำเภอใอย่างหนัก!
เงินยี่สิบอีแปะถือว่าไม่น้อยเลย ครอบครัวทั่วๆ ไปปกติหนึ่งวันจะหาเงินได้แค่สิบหรือยี่สิบอีแปะเท่านั้นแต่ครั้งนี้ทำงานเพียงครึ่งวันเท่านั้น?
ดูเหมือนว่าครั้งนี้ฮ่องเต้น่าจะพระราชทานเงินมาไม่น้อย
ดวงตาเล็กๆ ของเขากลอกไปมา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้