“ปู่... เหรอ?” เย่เฟิงอดสะดุ้งไม่ได้เมื่อได้ยินเสียง ปู่ของเขาอยู่ที่ไหน? ชายหนุ่มพยายามมองรอบๆ แต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงาของปู่ ถึงอย่างไรเสียงนั้นก็เป็เสียงของปู่แน่นอน ถึงมันจะดังก้องดูลึกลับก็ตามที แสดงว่าคนที่โทรหาหัวหน้าหลิวคือปู่เหรอ?
ในความทรงจำของเย่เฟิงคนก่อน เขาเติบโตมาตามลำพังั้แ่เด็ก ั้แ่จำความได้ เขาเคยเจอปู่บ่อยครั้งแต่ไม่มีเื่ประทับใจมากนัก จนถึงตอนนี้ก็ไม่ได้เจอปู่มาหลายปีเเล้ว ทุกปีคนสูงวัยแค่โอนเงินค่าเทอมกับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้เท่านั้น ภาพของปู่จึงเหลือเพียงเงาเลือนราง จนกระทั่งเย่เฟิงสร้างปัญหา เขาถึงยอมโผล่มา
“ขอบคุณนะไอ้หลานเลวที่ยังจำคนแก่อย่างฉันได้” เสียงแหบแห้งลอยเข้าหูชายหนุ่มอีกครั้ง“วันนี้ฉันช่วยแกจัดการสาวน้อยคนนั้นแล้ว ต่อจากนี้ถ้าเกิดอะไรขึ้นอีก ฉันจะไม่ช่วยเเล้วนะ”
เย่เฟิงได้ยินดังนั้นก็เข้าใจทันทีว่าคนที่ช่วยจัดการคือปู่ของเขาจริงๆ ชายหนุ่มอดคิดไม่ได้ว่าปู่ของตนมีอิทธิพลมากแค่ไหนกัน
รู้วิธีการถ่ายทอดเสียง ทั้งยังขว้างลูกเกาลัดใส่เขาจนล้มหัวชนต้นไม้อีก หรือว่าจะรู้จักวรยุทธ์เหมือนสาวน้อยคนนั้น อีกทั้งระดับวรยุทธ์ของปู่ก็ไม่ธรรมดาเสียด้วย
ฟิ้ว!
กระแสลมจู่โจมใส่เขาอีกครั้ง แม้เย่เฟิงพยายามหลบ แต่ก็ยังถูกลูกเกาลัดกระแทกใส่หลังหัวจนเซไปสองก้าวอยู่ดี เมื่อหันกลับไปมอง ก็ยังเห็นเพียงคู่รักคู่หนึ่งที่มองเขาด้วยสายตาประหลาดใจ
“ที่รักดูนั่น เมื่อกี้น้องคนนั้นเจอผี!” หญิงสาวชี้เย่เฟิงพร้อมพูดกับแฟนหนุ่มด้วยน้ำเสียงใ
“ที่รัก คุณไม่ใช่พวกไร้การศึกษานะ ยังจะเชื่อเื่ผีสางอีก ไปกันเถอะ ผมว่าเขาคงเป็พวกคนป่วยทางจิตน่ะ” นักศึกษาหนุ่มดึงมือแฟนสาวก่อนมองเย่เฟิง แล้วรีบเดินจากไป
เมื่อเย่เฟิงได้ยินก็ทำอะไรไม่ถูก เจอผี? ป่วยทางจิต?
“เอาล่ะไอ้หลานเลว ปู่คนนี้ยังมีงานต้องทำต่อ” น้ำเสียงแหบแห้งดังขึ้นอีกครั้งในอีกทิศทางหนึ่ง “อย่าลืมสอบเข้ามหาวิทยาลัยเยี่ยนจิงให้ได้ พอถึงเวลานั้น ฉันจะแนะนำคู่หมั้นให้แก ฉันคิดแป๊บ หลานสาวของไอ้แก่ตระกูลหลินก็ไม่เลว เพราะงั้นก็พยายามเข้าล่ะ”
น้ำเสียงนั้นจางหายไป เหลือเพียงกระแสลมกระทบร่างของเขาจากทั่วทิศทาง ทำให้ชายหนุ่มขนลุกอย่างบอกไม่ถูก ไม่ต้องสงสัยเลย ปู่ของเขาเป็ผู้เชี่ยวชาญวรยุทธ์ระดับสูง ไม่น่าแปลกใจที่เขาสามารถปรากฏตัวและหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“สอบเข้ามหาวิทยาลัยเยี่ยนจิง? แนะนำคู่หมั้น? หลานสาวของไอ้แก่ตระกูลหลิน?” เย่เฟิงทบทวนคำพูดปู่ของเขาแล้วรู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย ในฐานะผู้ฝึกวิถีเซียน เขาต้องทำตามคำสั่งคนอื่นเมื่อไรกัน ยิ่งกว่านั้น ใครคือไอ้แก่ตระกูลหลินและหลานสาวของเขา?
แม้เย่เฟิงอารมณ์ไม่ดี แต่ตอนนี้เขาทำได้เพียงทำตามคำพูดคนสูงวัย เพราะปู่ของเขาเหมือนมีวรยุทธ์ที่แข็งแกร่งกว่าตัวเขาในปัจจุบันมาก
“ต่อให้หนีออกจากบ้าน ปู่ก็สามารถตามตัวเขาเจอ... ดูท่าหากจะทำอะไรคงต้องระวังหน่อย ตอนนี้เรายังไม่มีพลังที่จะปกป้องตัวเองได้” เย่เฟิงแอบเสียใจเล็กน้อย ในอนาคตเขาต้องไม่ทำตามอำเภอใจเพียงเพราะตัวเองเป็ผู้ฝึกวิถีเซียน ในโลกนี้ยังมีคนอีกมากที่คุกคามเขาได้
“ไอ้แก่ เชื่อฟังนายไปก่อนคงไม่เสียหาย?” เย่เฟิงพึมพำกับตัวเอง
ดูท่าจากวันนี้ไป เขาต้องทำงานหนักเพื่อรับประกันความปลอดภัยของตัวเอง โดยบ่มเพาะวรยุทธ์พร้อมกับเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยเยี่ยนจิง ในเวลาไม่ถึงสามเดือนก่อนการสอบเข้ามหาวิทยาลัย การหวังเข้ามหาวิทยาลัยเยี่ยนจิงด้วยคะแนนเก็บของเย่เฟิงคนก่อนเป็แค่การฝันกลางวัน แต่สำหรับเย่เฟิงในตอนนี้ ด้วยพลังความจำของผู้ฝึกวิถีเซียน การสอบเข้ามันง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
……
เย่เฟิงอยู่ที่ทะเลสาบเว่ยิทั้งคืน ่ครึ่งแรกของคืน เขาผ่อนคลายจิตใจพร้อมดูดซับพลังฟ้าดินจากหญ้าจินเย่ กระทั่งถึงเที่ยงคืน ในที่สุดเขาก็สามารถพัฒนาระดับวรยุทธ์เป็ระดับ 5 เดือนแล้ว
ความสำเร็จนี้ไม่น่าพูดถึงเลยแม้แต่น้อยเมื่อเทียบกับตัวเขาในโลกเทวะ แต่การบ่มเพาะวรยุทธ์จำเป็ต้องทำอย่างค่อยเป็ค่อยไป หากเขามีวรยุทธ์ระดับ 5 ปีก็สามารถใช้ทักษะเสริมความว่องไวที่แม้แต่ปู่ของเขาก็ไล่ตามไม่ได้ง่ายๆ ถึงตอนนั้น เขาคงเป็อิสระอย่างแท้จริง
หลังเที่ยงคืน รอบทะเลสาบเว่ยิช่างเงียบสงบ เขาเดินไปรอบๆ เพื่อหาแมงมุม มด และตะขาบบางชนิด จากนั้นซื้อน้ำแร่มาขวดหนึ่งแล้วเทน้ำออกครึ่งขวด จับแมลงเ่าั้ใส่ขวดพร้อมหญ้าจินเย่ต้นสุดท้ายเพื่อดองพวกมัน
วรยุทธ์ระดับ 5 เดือนทำให้เขาควบคุมพลังชี่ในร่างได้อย่างราบรื่น ไม่นานในพื้นที่ที่ไม่มีคนอยู่ เขากลั่นสิ่งที่อยู่ในขวดน้ำแร่จนได้ยาเม็ดกลมสีดำ
นี่คือยาพิษที่ชายหนุ่มจะนำไปใช้กับหัวหน้าแก๊งอสรพิษ์ เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง แก๊งอสรพิษ์ต้องอยู่ในกำมือเขา แต่ตอนนี้เย่เฟิงไม่รู้ว่าสถานที่รวมตัวของแก๊งอสรพิษ์อยู่ที่ไหน จึงนึกถึงโอวบี
“หมอนั่นมีเครือข่ายกว้างขวาง อาจรู้ที่อยู่ของหัวหน้าแก๊ง เราไปบ้านของโอวบีก่อนได้ หากมีหินจิติญญาหยกโบราณก็สามารถเพิ่มระดับวรยุทธ์ขึ้นอีกขั้น จะได้เผชิญกับศัตรูอย่างมั่นใจมากขึ้น" เย่เฟิงบ่มเพาะวรยุทธ์และกลั่นยาพิษที่ทะเลสาบเว่ยิตลอดคืน เมื่อฟ้าเริ่มสว่างจึงไปโรงแรมนอกมหาลัยเยี่ยนเพื่อนอนพัก
……
เช้าวันนี้ นอกวิลล่าชิงเฟิงมีอันธพาลสามคนนั่งรอเย่เฟิงทั้งคืน พวกเขาคือพวกที่ไปหาเื่เย่เฟิงหน้าประตูโรงเรียนเมื่อวาน
“ซวยฉิบ… ไอ้เด็กนั่นไม่ได้กลับบ้านทั้งคืน” อันธพาลร่างผอมสูงบ่น จนถึงตอนนี้เ้าน้องชายของเขายังปวดระบมไม่หาย โชคดีที่เมื่อวานไปโรงพยาบาล อาการาเ็ไม่ร้ายแรง
ถึงอย่างนั้นพวกเขาไม่ได้มาเพื่อหาเื่เย่เฟิง แต่เพราะพี่เถี่ย หัวหน้าแก๊งอสรพิษ์สนใจฝีมือของชายหนุ่มมาก และสั่งให้อันธพาลทั้งสามส่งคำเชิญเข้าร่วมแก๊งให้เย่เฟิง
“เรียกความสนใจจากลูกพี่เถี่ยได้ เ้าเด็กนี่โชคดีจริง” อันธพาลอีกคนกล่าวอย่างอิจฉา
“ถ้าแกมีฝีมือเหมือนมัน ลูกพี่เถี่ยคงสนใจแกเหมือนกันนั่นแหละ” อันธพาลคนสุดท้ายพูดอย่างปลงตกก่อนจุดบุหรี่ในปากของเขา
ใครจะไปคิดว่าเด็กนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาจะมีฝีมือขนาดนี้ ไม่น่าแปลกใจที่ลูกพี่เถี่ยจะโดนเย่เฟิงปาอิฐครึ่งก้อนใส่จนหน้าแหกแบบนั้น ไม่แปลกที่ไอ้เด็กคนนี้ไม่ธรรมดา
พวกเขารอเย่เฟิงอยู่นอกวิลล่าชิงเฟิง น่าสงสารที่ไม่เห็นเขาทั้งคืน
“ถ้าอย่างนั้นเรากลับไปรายงานลูกพี่เถี่ยก่อนแล้วค่อยหาที่งีบหลับสักพัก จากนั้นค่อยไปดูที่โรงเรียนมัธยมปลายเยี่ยนอีกที” อันธพาลร่างสูงตัดสินใจก่อนหยิบโทรศัพท์มือถือ
…………….
เย่เฟิงหลับยาวจนถึงบ่าย เพิ่งนึกได้ว่าตัวเองลืมเปิดโทรศัพท์ทั้งคืน เด็กหนุ่มหยิบมือถือขึ้นมาดู พบข้อความและสายที่ไม่ได้รับจากโอวบีหลายสาย และยังมีข้อความเสียงะโด่าว่าเขาออกนอกลู่นอกทาง เข้าคุกเพราะค้าประเวณี จากนี้ไปชีวิตของเขาจะมืดมนและพังทลาย
เย่เฟิงไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ดูเหมือนข่าวลือของเขาจะกระจายไปทั่วโรงเรียนมัธยมปลายเยี่ยนเสียแล้ว คงไม่ต้องถามว่าใครเป็คนกระจายข่าว นอกจากเถียนโหย่วเลี่ยงยังจะมีใครอีก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้