ทว่าจ้าวหรูอวิ๋นกลับหน้าแดงแจ๋ถึงเพียงนี้ นั่นเท่ากับยอมรับว่าตนเป็โคลนตมที่ไม่มีแก่นสาร
สายตาจางซานปราดมองใบหน้าจ้าวหรูอวิ๋น ส่วนลึกของั์ตามีแววผิดหวังแลบแล่นแล้วก็หายไป จ้าวหรูอวิ๋นเดิมทีเป็คนหนุ่มผู้ปราดเปรื่องที่เขาคาดหวังที่สุดคนหนึ่งในฝ่ายพลาธิการ เพราะลักษณะนิสัยทางอารมณ์มีความคล้ายคลึงกับเขาไม่น้อย พฤติกรรมตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็นับได้ว่าดี แต่เห็นทีวันนี้จ้าวหรูอวิ๋นคงห่างชั้นจากเ่ิูแสนไกล...แสนไกล
“ในเมื่ออยากเป็โต๊ะ ก็ต้องเตรียมใจรับแรงกดดันบดขยี้ให้เป็ผุยผงไว้เสียด้วย” จางซานเดินออกนอกประตูใหญ่อย่างเชื่องช้า “ข้าเองก็สงสัยนัก ว่าเ้าจะทนรับไว้ได้อีกนานแค่ไหน”
เ่ิูหัวเราะเย็น เขาตอบ “ใครๆ ก็พูดว่าเ้ายโสและระเริงในอำนาจ วันนี้ข้าได้มาเห็นกับตาตัวเอง ระเริงในอำนาจตรงไหนกัน เ้ามันบ้าบิ่น เป็ทหารนายหนึ่งแท้ๆ กลับใช้สิทธิอำนาจในมือกดดันคนอื่นตามอำเภอใจ ก่อเื่อลหม่านเพราะความรั้น มองกฎหมายเหมือนสวะข้างถนน ใช้คำว่าบ้านิยามเ้ามันเหมาะที่สุดแล้ว”
จางซานสีหน้าเปลี่ยนทันที
ฝีเท้าเขาหยุดชะงัก
กี่ปีแล้ว ที่ไม่มีใครกล้าพูดเช่นนี้ต่อหน้าเขา?
“ไอ้หนุ่ม เ้ายั่วโมโหข้าครั้งแล้วครั้งเล่า เ้าอยากตายจริงๆ อย่างนั้นใช่ไหม?” จางซานหันหลังกลับมาอย่างมืดมน สายตาดั่งคมมีดกรีดกระดูกจับจ้องเ่ิูไม่วางตา พร้อมจะลงมือทันทีไม่ว่าเมื่อใด
เ่ิูจ้องตาตรงๆ ไม่มีแม้เศษเสี้ยวความหวาดกลัว “ตายแค่เพราะเ้าลงมือหรือ? ลองดูสักตั้งสิ”
เปลวเพลิงเร่าร้อนราวกับไฟในขุมนรกเบ่งบานในฝ่ามือจางซาน
หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงด้วยโกรธจัด จางซานไม่ใช่พวกน้ำนิ่งไหลลึกอะไรมาั้แ่แรกอยู่แล้ว ถูกเ่ิูยั่วโมโหไม่กี่ประโยคก็จะะเิ
แต่ว่า...
จางซานพลันเห็นนิ้วมือทั้งห้าของตน ยังมีไอเย็นสีเงินเส้นแล้วเส้นเล่าที่ยังไม่หายไป เขาหวาดหวั่นในใจน้อยๆ
เมื่อครู่ที่เ่ิูโยนทองคำบริสุทธิ์ก้อนนั้นมา เหมือนไอเย็นน้ำค้างแข็งสีเงินะเิออก มันทรงอานุภาพขั้นสูงสุด ความเย็นนั้นเป็พลังที่จางซานไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อนในชีวิต พลังระดับอาณาทะเลระทมของเขา กลับไม่มีทางขับไล่ความเย็นในร่างกายจ้าวหรูอวิ๋นนั่นออกไปได้ กลับกันยังถูกพลังความเย็นนั่นแทรกซึมเข้าไปในร่างกายตัวเอง ราวกับพิษแล่นในกระดูก น่ากลัวเป็ยิ่งยวด
นั่นทำให้จางซานมองพลังที่แท้จริงของเ่ิูไม่ออก
แล้วยังเื่ที่เด็กหนุ่มคนนี้หนีจากเงื้อมมือของเยี่ยนปู้หุยมาได้ ยิ่งเป็ความลึกลับที่ตรวจสอบไม่ได้ จางซานแอบหวาดระแวงไม่น้อย ทว่าหากวันนี้เขาลงมือไปจริงและเกิดเอาชนะเ่ิูไม่ได้ เช่นนั้นแล้วมันต้องกลายเป็เื่น่าขำสุดอัปยศอย่างแน่นอน
คนผู้รักพวกพ้อง ส่วนมากล้วนรักหน้าตัวเอง
จางซานเป็ยิ่งกว่านั้น
หากเขาสู้กับเ่ิูวันนี้และเกิดตายน้ำตื้น นั่นย่อมเป็เื่ที่รับไม่ได้อย่างเด็ดขาด
พอคิดถึงส่วนนี้ ความอยากสู้กับเ่ิูของจางซานเป็อันต้องลดน้อยลง
หากเขาไม่มั่นใจในอะไรสักอย่าง เขาย่อมจะไม่ลงมือ
เขาทำแม้กระทั่งคิดมากไปกว่านั้น เ่ิูแกร่งกล้าเพียงนี้ เพราะอะไร? เป็แค่เด็กต๊อกต๋อยที่เริ่มก่อหวอด กล้ามากระทบกระทั่งเขา? พลังนั่นมันอีกเื่ แต่ยากจะปักใจเชื่อว่าไม่มีใครสนับสนุนเ้าเด็กนี่อยู่ข้างหลัง หลายปีมานี้เขาทำผิดต่อคนมาก็มาก หากมีใครรวมหัวกันปั้นเ่ิูเป็อาวุธเพื่อวางแผนปฏิปักษ์กับเขาเล่า?
“ดี ดีมาก เ้าหนุ่ม เห็นท่าเ้าคงอยากเป็ปรปักษ์กับข้ามากจริงๆ” เปลวเพลิงสีส้มบนฝ่ามือค่อยๆ อันตรธานหาย เขาพยักหน้าอย่างแรงแล้วว่าต่อ “นี่อาจเป็เื่ที่เ้ารนหาที่เอง ข้าก็ยินดีจะลองเล่นกับเ้าดูสักตั้ง ดูซิว่าใครจะเป็ฝ่ายเล่นใครตาย ตลอดหลายปีคนที่กล้าแข็งข้อกับข้าอย่างหนักหน่วง ไม่ได้มีแค่เ้าคนเดียวหรอก จำได้ว่าเมื่อสองปีก่อน มีแม่ทัพกองโจรนายหนึ่งอยู่ทัพหน้า กำเนิดมาในตระกูลชนชั้นสูงขนาดย่อย พร์ด้านวรยุทธ์โดดเด่น ทำความชอบในศึกก็มาก เขาถึงคิดว่าตัวเองนั้นเลิศเลอที่สุด กล้าสะบัดหน้าใส่ข้า นามของเขาคือเกาเชิ่งหาน เ้าลองไปถามดูสิว่าตอนนี้มันกำลังทำอะไรอยู่...”
ยังพูดไม่ทันขาดคำ เ่ิูก็ทนไม่ไหว เขาะเิอารมณ์ออกมา
“หุบปาก” เ่ิูตวาดอย่างโกรธเกรี้ยว “คนที่ทำตัวเหมือนหมาข้างถนน ไร้ยางอาย ทำเื่จัญไรพรรค์นี้แล้วยังกล้าโอ้อวดอย่างภูมิใจต่อหน้าคนอื่นอีก เ้าใช้ประโยชน์จากอำนาจ อิทธิพลและตำแหน่งของเ้ากดดันนายทัพอายุน้อยอนาคตไกล ทำให้กองทัพได้รับความเสียหายมหาศาล เ้าคิดว่าตัวเองเลิศเลอนักใช่ไหม? หมาชัดๆ เ้าต่างหากคือหนอนเน่าชอนไชกองทัพ อันธพาลชั่วช้า ตำแหน่งสูงส่งแท้ๆ กลับไม่คิดหมั่นตอบแทนพระคุณของอาณาจักร ตอบแทนพระคุณของเทพาโยวเยี่ยนใต้เท้าลู่เฉาเกอที่เห็นค่าเ้า แต่ดันวางแผนชั่วสร้างสถานการณ์ไปทั่ว หลงผิดว่ามันสะท้อนให้เห็นพลังอำนาจ ถุย เ้าไปถามเองสิ ไม่รู้ว่ามีกี่คนที่คอยเป็หอกข้างแคร่ ด่าโคตรเหง้าศักราชเ้าไปสิบแปดรุ่น ยังมีหน้ามาหน้าชื่นตาบานอยู่ได้ หน้าไม่อายที่สุด!”
เ่ิูไม่เคยรังเกียจเหยียดหยามใครขนาดนี้มาก่อนในชีวิต
จางซานคนนี้ เป็เนื้อร้ายของกองทัพ
ยากจะนึกออกเหลือเกิน ว่าทำไมเทพาโยวเยี่ยนลู่เฉาเกอ หนึ่งในสิบยอดแม่ทัพที่มีทั้งความรู้ความสามารถและความประพฤติแห่งภพไทวะ ถึงใช้เ้าจางซานคนโฉดหน้าไม่อายมาจัดการฝ่ายพลาธิการได้
อีกด้าน
จ้าวหรูอวิ๋นตะลึงงัน
เขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน
และจางซานเ้ากรรมชี้หน้าเ่ิู เขาอ้าปากค้างและเบิกตากว้างเช่นเดียวกัน นิ้วมือสั่นระริก หน้าแดงด้วยเืสูบฉีดแรงกล้า “เ้า เ้าๆๆๆ...”
หัวหน้าฝ่ายพลาธิการผู้เกรียงไกร บัดนี้โกรธจนพูดไม่ออก
นี่เป็ประสบการณ์ที่เขาไม่เคยได้รับมาก่อน ถูกคนอื่นชี้หน้าด่าฉอด กระทั่งลู่เฉาเกอยังไม่เคยประณามเขาเสียๆ หายๆ ขนาดนี้มาก่อน
ทว่าแม้แต่เขายังรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างจากคำพูดของเ่ิู กลายเป็พลังงาน แต่ละคำแทงใจดำเขาได้เจ็บแสบ ทำให้ส่วนหนึ่งในกายเขาพังทลายลงดังโครม ราบคาบจนไม่อาจเหมือนเดิมได้อีกเลย
“ข้าๆๆ? ข้าทำไม?” เ่ิูหยัดกายยืนขึ้น
ร่างกายกำยำอยู่แล้วของเขา บัดนี้พลันสูงใหญ่ขึ้นทันตา “ข้าเป็แค่นายทัพเล็กๆ คนหนึ่งเท่านั้น ไม่มีที่พึ่งพิง แต่ข้าซื่อสัตย์สุจริต ข้าถามใจตัวเองได้อย่างไม่ลังเล ว่าคนอื่นกลัวเ้า แต่ข้าไม่กลัว แค่อันธพาลชั่วไม่รู้ประสาเท่านั้น ต่อหน้าข้า ทำมาอวดโอ่ไร้แก่นสาร? วันนี้เ้าเป็หัวหน้าฝ่ายพลาธิการอันสูงส่งอยู่เบื้องบน พรุ่งนี้เ้าจะเป็อะไรใครเล่าจะพูดได้ เดินบนทางตอนกลางคืนยากจะไม่เจอผี ทำเื่เลวร้ายมามากมายยากจะไม่เจอวันหนึ่งที่ความเลวนั้นสนองคืน ลองวันหนึ่งที่เ้าล้มไม่เป็ท่า ดูซิว่าพวกคนที่กระหายเ้าเหมือนพยัคฆ์จะทำอย่างไรกับเ้าบ้าง!”
แต่ละคำๆ เหมือนฟ้าผ่าลงใจดำจางซานอย่างรุนแรง
จางซานหน้าซีดเซียว เขาโต้ด้วยโทสะ “เ้า...เ้าจะไปรู้อะไร ไอ้เศษเดน ข้าจะฆ่าเ้า...”
เขาโกรธจนคลั่งไปแล้วจริงๆ
เขาสามารถไม่โกรธเคืองได้ เขาสามารถมาเพื่อทำความอัปยศให้คนหนุ่มคนนี้ได้ ทว่าตอนนี้ เขากลับโกรธจนไฟแทบลุกหัว เขาไม่เคยได้ลิ้มรสความโกรธสุดชีวิตเช่นนี้มาก่อน กระทั่งหลังจากความขุ่นเคื้องอย่างบ้าคลั่ง เขายังรู้สึกถึงก้นบึ้งของใจที่แอบซ่อน...ความกลัวเอาไว้!
“เฮอะๆ ข้าไม่รู้เื่อะไรเลย แต่ข้ากลับรู้อย่างหนึ่ง ทุกการกระทำของเ้า เป็การแผ้วถางทางสู่ความบรรลัย น่าสมเพชเ้าที่หลงระเริงมัวเมาในอำนาจ ขุดหลุมฝังตัวเองไว้นานโขแล้ว ในกายมีซิวหลัวอยู่แท้ๆ กลับไม่รู้ตัวเลย” เ่ิูหัวเราะถากถาง
สายตาที่มองจางซานเหมือนมองหนอนตัวจ้อยน่ารังเกียจ
จางซานใช้อำนาจหลอกลวงคนมากมาย ดูทรงอิทธิพลจนแม้แต่ผู้บัญชาการเผิงอี้เจินแห่งกองทัพฝ่ายขวายังต้องออกมาก้มหัวให้ ดูเป็ที่สองรองจากลู่เฉาเกอกลายๆ ทว่าความจริงแล้ว เขากลับกำลังขุดหลุมฝังตัวเอง เขาทำชั่วต่อคนอื่นมามาก คนที่เกลียดเขาจึงมีมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน ในสายตาเขาคือเขาได้ชัย คนอื่นหลีกทางให้เขา แต่หากเขามีแนวโน้มเสียอำนาจไปเมื่อใด เมื่อนั้น กำแพงจะถูกมหาชนทุบทำลาย รอให้จางซานประสบกับหายนะจนแหลกเหลวทั้งเืเนื้อและกระดูก
เ่ิูยั่วยุและแทงใจดำซ้ำแล้วซ้ำเล่า จางซานจึงโมโหสุดขั้วแล้ว
หัวหน้าฝ่ายพลาธิการท่านนี้ลืมเลือนความหวาดระแวงเมื่อก่อนหน้าหมดสิ้น ไม่มีหนทางใดจะควบคุมจิตสังหารและไฟโทสะที่โหมกระพืออยู่ในกายนี้ได้
สองมือของเขามีแสงร้อนแรงสีส้มเรืองรอง คลื่นพลังปราณร้อนน่ากลัวเอ่อท้นทั่วทั้งห้อง ความโชติ่ของเปลวเพลิงร้อนแรง เขาลงมือในพริบตา
พลังของอาณาทะเลระทม ทำให้คนหายใจลำบาก
จ้าวหรูอวิ๋นกรีดร้อง ถูกแรงแห่งการะเิอันบ้าคลั่งกระแทกจนปลิวไปด้านหลัง ชนเข้ากับผนังหิน กระอักเืออกมาเป็สาย สีหน้าตื่นตระหนกสุดชีวิต
“มาก็ดี”
เ่ิูคำรามลั่น เขาลงมือเช่นกัน
กระตุ้นพลังน้ำพุิญญาทั้งยี่สิบตา ร่างกายปะทุเสียงครวญแห่งัและเสียงหวนแห่งพยัคฆ์ พลังลมปราณไหลเวียนไปทั่วร่างอย่างบ้าคลั่ง ราวกับแม่น้ำที่หลั่งไหลประกาศศักดา ัหิมะสีเงินยี่สิบตนพันล้อมรอบกาย พลังมหาศาลเพิ่มกำลัง และยังกระตุ้นเพลิงน้ำแข็งยอดยุทธ์ในโลกตันเถียนอย่างไม่คิดตระหนี่อีกด้วย
ในบรรดาไพ่ทั้งหมดของเ่ิู มีเพียงเพลิงน้ำแข็งยอดยุทธ์เท่านั้นที่สามารถต่อกรกับผู้แข็งแกร่งอาณาทะเลระทมได้ แสดงความคุกคามมาสู้
ขณะเดียวกัน เ่ิูรวบรวมจิตใจทั้งหมด ดึงเอาประสาททั้งสามในร่างรวมกันเป็หนึ่ง ััสภาวะแห่งเทพเ้าไร้ขีดสุด
แม้ว่าจะเป็เพียงขีดแรกของเทพเ้าไร้ขีดสุดเท่านั้น แต่ก็เกินพอแล้ว
พลังต่อสู้เพิ่มขึ้นเท่าตัวในพริบตา
พลังของน้ำพุิญญาสี่สิบตาะเิออกมาโครมคราม
โครมๆๆ!
ทั้งสองแลกหมัดกันสามหมัด
ทุกครั้งที่หมัดปะทะร่าง จะมีวงแหวนแสงสีเงินและส้มะเิตลบเป็ชั้นๆ จากพวกเขาที่เป็ศูนย์กลาง
มีคลื่นพลังต่อสู้มีรูปร่างแต่ไร้ตัวตนะเิออกไปทั่วทิศทาง ทุกที่ที่มันเฉียดผ่าน เก้าอี้และโต๊ะหินจะป่นปี้เป็ผุยผง กระบวนอักขระเพิ่มความแข็งบนผนังหินของหอคอยอาชาขาวถูกกระตุ้น ริ้วลายแสงอักขระกระเจิงเหมือนฟ้าแลบแปลบปลาบ
ด้านหลัง
จ้าวหรูอวิ๋นกระตุ้นกำลังภายในเพื่อปกป้องตัวเองอย่างบ้าคลั่ง ปากกระอักเืสดออกมาไม่ได้ขาด
เขาเหมือนกระดาษแผ่นหนึ่งถูกพลังปราณมหาศาลกดทับให้ติดอยู่กับผนัง ประหนึ่งภาพแขวนที่ไม่เพียงแค่ไม่อาจหลีกหนีหรือหลบซ่อน แต่กระทั่งจะอ้าปากพูดสักคำยังทำไม่ได้ แค่อ้าปากเท่านั้น แรงอันน่ากลัวจะกรอกเข้าปากเขา ทำให้เขาแทบหายใจไม่ออก
เสียงะเิสามครั้งดังกึกก้องทั่วหอคอยอาชาขาว
ทั้งหอคอยอาชาขาวเหมือนมีแผ่นดินไหว หอคอยสั่นะเืแรงกล้า เหมือนจะถล่มลงมาเมื่อไรก็ได้
ผนังกำแพง เส้นแสงอักขระสายแล้วสายเล่ากำลังแล่นชุลมุนเหมือนฟ้าแลบ เพิ่มความแข็งแกร่งและความทนทาน ท้ายสุดแล้วสิ่งปลูกสร้างที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานก็ยังยืนหยัดอยู่ท่ามกลางคลื่นพลังปราณอันน่ากลัวนี้ได้
เ่ิูอ้าปากพ่นเืออกมา เขาเหาะออกไป
ตัวเขาแม้จะอยู่กลางอากาศ แต่ก็ไม่สูญเสียการควบคุม
เมื่อยึดติดกับผนังเบาๆ แล้ว เ่ิูพลิกมือซ้ายกางออกทีหนึ่ง น้ำแข็งเย็นเยียบขนาดใหญ่ลุกลามบนผนัง เขากำลังยืมแรงโรยตัวสู่เบื้องล่าง ราวกับผีเสื้อกระพือปีก ท่วงท่างดงาม ใบหน้าแดงชื้น ร่างกายแกร่งกร้าว
นอกจากเืที่เพิ่งพ่นไปเมื่อครู่แล้ว เ่ิูไม่ได้รับาแภายในแต่อย่างใด คลื่นปราณยังคงสะดวกและทรงพลังดังเดิม!
อีกด้าน
จางซานอาภรณ์พละพลิ้ว สองมือกุมไว้ด้านหลัง ท่าทางผ่าเผยเป็ยิ่งยวด
บัดนี้ ธาตุแท้แห่งอาณาทะเลระทมได้สำแดงออกมาเต็มคราบ
ลมแรงพลังปราณในห้องโถงซึ่งเคลื่อนไหว ค่อยๆ กลับคืนสู่ความสงบ
จ้าวหรูอวิ๋นไหลลงมาจากบนผนังเหมือนหมาจนตรอก ทั้งเนื้อทั้งตัวเ็ปเหมือนกระดูกถูกตัดทีละท่อนๆ
แต่จ้าวหรูอวิ๋นไม่ใส่ใจเลย
เขาถูกความตื่นตระหนกและหวาดกลัวเข้ากอบกุมใจเหมือนหมึกดำที่ยากจะอธิบายได้
เพราะวินาทีที่เขาไถลลงมานั้น เขามองเห็นอย่างชัดเจน ถึงมือทั้งสองข้างที่จางซานไขว้ไว้ด้านหลัง มันกำลังสั่นน้อยๆ รอยเืแดงฉานไหลลงมาจากปลายนิ้วชี้ หยดลงพื้น ส่งเสียงติ๋งๆ แ่เบาจนอาจมองข้าม
จ้าวหรูอวิ๋นสมองอื้ออึงและขาวโพลนในสิ้นเชิง
“หัวหน้าาเ็? เป็ไปได้อย่างไร?”
ตอนนี้เอง
โครม!
ประตูใหญ่แห่งหอคอยอาชาขาวถูกผลักออก
คนมากมายนับไม่ถ้วนบุกเข้ามา
คนแรกที่ก้าวเข้ามาคือเวินหว่านอย่างแน่นอน
“ไอ้บรรลัยจางซาน วันนี้ข้าจะลุยกับเ้าให้รู้เื่...เสี่ยวหยู เสี่ยวหยูเ้าไม่เป็ไรใช่ไหม” คำรามอย่างกับเสือคลั่ง เวินหว่านมองสภาพห้องโถง ด้านหลังเขามีหลิวจงหยวนที่ดึงเข้าไว้สุดแรง แต่เสียดายที่ถูกเขาสลัดจนหลุด
หลิวจงหยวนทำได้เพียงตามเขาไป
กลุ่มคนด้านหลังกรูกันเข้ามา
เห็นได้ชัดว่าคงใเสียงหมัดกัมปนาทะเืฟ้าสามหมัดรวด นอกจากเวินหว่าน หลิวจงหยวนและทหารทัพหน้าอีกสิบกว่าคนแล้ว ยังมีหลินหลาง อีซานเช่อและคนของกลุ่มชิงเฟิงชาน นายทัพจัดสรร ทหารเกราะของฝ่ายพลาธิการ ทัพหลัง ทัพหน้า ทัพฝ่ายซ้าย ทัพฝ่ายขวา รวมทั้งสำนักเ้าด่าน คนของหน่วยลาดตระเวน ล้วนมีมากไม่แพ้กัน
คนที่สังเกตหอคอยอาชาขาวอยู่รอบทิศทางกรูเข้ามาเช่นกัน
เดิมทีพวกเขาคิดว่าจางซานมาหอคอยอาชาขาวเพื่อมาสร้างความลำบากให้เ่ิูอย่างชัดเจน แต่ควรจะเป็ทางคำขู่น่ากลัวหรือวาจาทำความอัปยศเสียมากกว่า ใครจะรู้เล่าว่าจะลงมือจริงๆ เสียได้ แถมยังลงมือเองด้วย แล้วยังสร้างความเคลื่อนไหวใหญ่ขนาดนี้อีก...
จางซานบ้าไปแล้ว
เ่ิูเพิ่งได้รับแต่งตั้ง ทำความดีความชอบมาก และยังเป็แบบอย่างของวีรบุรุษผู้กล้าของกองทัพอีก ตอนนี้ใครจะทำอะไรต้องไตร่ตรองอย่างหนักก่อน เื่ขี้ปากชาวบ้านอย่างนี้มีแต่จะนำความเดือดร้อนมาสู่ตน
ไม่นึกเลยว่าจางซานจะลงมือเอง ใช้กำลังเฉกเช่นอาณาทะเลระทมเพื่อฆ่าเ่ิู
ใช่แล้ว คนอื่นล้วนคิดว่า เ่ิูถูกสังหารไปเรียบร้อย
ไม่มีใครคิดเลยสักคนว่าเ่ิูจะมีชีวิตอยู่ เมื่อปะทะกับยอดฝีมืออาณาทะเลระทม
สามหมัดน่ากลัวเมื่อครู่ แม้จะมีกำแพงหอคอยอาชาขาวปิดกั้น ทุกคนกลับรู้กันดี รู้สึกถึงพลังเหมือนคลื่นใต้น้ำสาดซัดทำให้คนหายใจไม่ออก ความเป็ไปได้เดียวที่มี คือผีกลุ้มจางซานแผลงฤทธิ์เท่านั้น ปลดปล่อยพลังอันเลิศล้ำออกมาฆ่าเ่ิู ประหัตปะาเขาให้เหลือแต่เศษซาก