หนานกงฉู่เงยหน้าขึ้น ยกสุราเข้าปากแล้วพูดด้วยความภาคภูมิใจ “น้องเหยียน เมืองหยุนจงก็คือสถานที่ที่ยอดอัจฉริยะของหลายร้อยหมู่บ้าน้าเข้าไปกันทั้งนั้น หากไม่เก่งและไร้ความสามารถ มีหรือจะอยู่รอด”
“เ้าต้องคิดภาพไม่ออกแน่ว่าเมืองหยุนจงใหญ่เท่าใด มันกว้างจนมองไม่เห็นขอบชานเมือง เป็เหมือนเมืองที่อยู่ในบ่อเมฆที่ลึกจนไม่มีที่สิ้นสุด ในนั้นมีเมืองอารักษ์หลายสิบเมือง ประชากรสามร้อยล้านคน เนินดาราเช่นที่นี่เป็เพียงหนึ่งในเมืองอารักษ์เท่านั้น ความจริงแล้ว เมืองหยุนจงมีรัศมีกว้างหนึ่งพันกว่าลี้ จากทางตะวันออกไปจนถึงตะวันตกของเมือง เป็ระยะทางประมาณสองพันลี้ เมืองหยุนจงถูกแบ่งออกเป็สองเขตแดน และสองเขตแดนนี้ถูกแบ่งออกเป็แปดมหาอำนาจใหญ่”
“แดนหนึ่งมีตระกูลอู่ตี้เป็ผู้นำ จากนั้นก็ตามมาด้วยสำนักเก้าชั้นฟ้า หุบเขาาา และสำนักหยินหยาง ส่วนอีกแดนมีสำนักหยุนเฟิงเป็ผู้นำ และตามมาด้วยวัดเมตตาธรรม สำนักสามิญญา และสำนักมาร”
หลงเหยียนฟังเงียบๆ จดจำชื่อของมหาอำนาจในใจ เขาคิดว่าการมาเมืองหยุนจงครั้งนี้ต้องเข้มข้นแน่ ตระกูลผู้ฝึกยุทธ์มากมายต่างก็ส่งคนไปตระกูลอู่ตี้ เมื่อเขามาถึงเนินดาราก็เจอสี่พี่น้องหนานกงแล้ว เมื่อไปถึงเมืองหยุนจงต้องเป็การรวมตัวของเหล่าอัจฉริยะมากมาย แค่คิดสีหน้าหลงเหยียนก็ประกายรังสีพร้อมต่อสู้แล้ว
“พี่ฉู่ พวกเราดื่มกันเถอะ…” หลงเหยียนกรอกสุราเข้าปาก จากนั้นก็ใช้พลังปราณมาลดระดับความร้อนของสุรา เพราะมาต่างถิ่น ไม่คุ้นเคยพื้นที่และวัฒนธรรม การดื่มจนเมาไม่ใช่เื่ดี อาจถูกคนลอบทำร้าย ชิงทรัพย์สิน อีกทั้งฝ่ายตรงข้ามก็อาจไว้ใจไม่ได้
หนานกงฉู่และคนอื่นๆ ดื่มสุราจนหมด ดูออกว่าพวกเขาล้วนเป็คนตรงไปตรงมา หลงเหยียนรู้ดี แต่ถึงอย่างไร การเอาชีวิตรอดในโลกภายนอกนั้น เขาก็ต้องระวังและละเอียด จำคำสั่งสอนของบิดาและท่านปู่ได้เป็อย่างดี
ขณะที่หลงเหยียนกำลังคุยกับพวกเขาอยู่นั้น อยู่ๆ ด้านล่างของร้านอาหารก็มีเสียงโต้เถียงกันดังขึ้น หนานกงฉู่ชะเง้อมองไปด้านนอกครู่หนึ่ง จากนั้นก็รีบหดศีรษะกลับเข้ามา
“สหายเหยียน ดูเหมือนวันนี้พวกเรามีวาสนาต่อกัน เมื่อออกไปด้านนอก จำไว้ว่าอย่าไปยุ่งเื่คนอื่นเชียวเล่า”
หลงเหยียนยิ้มเล็กน้อยพร้อมเอ่ย “ขอบคุณพี่ฉู่ที่ตักเตือน” จากนั้นเสียงโต้เถียงก็ดังขึ้นเรื่อยๆ
หนานกงฉู่กดเสียงต่ำ กล่าวว่า “ในเมืองหยุนจง ทุกคนต่างก็มีพลังอยู่ระดับชีพัขั้นที่เก้าทั้งนั้น ตระกูลอู่ตี้แบ่งออกเป็ตระกูลในและนอก ตระกูลในยังแยกออกเป็สี่แขนง ได้แก่ ตะวันออก ตะวันตก ใต้ และเหนือ พี่ชายทั้งสามของข้ามาเพื่อคุ้มกันและส่งข้า เมื่อไรที่ข้าผ่านการทดสอบของตระกูลอู่ตี้ คงกลายเป็แค่คนของตระกูลนอก ส่วนยอดฝีมือตัวจริงในตระกูลอู่ตี้ล้วนเป็สายเืที่แท้จริงของตระกูล คนเ่าั้เป็คนตระกูลใน คนตระกูลในคือคนสายเืตระกูลอู่ตี้โดยแท้ ส่วนข้าที่ผ่านการทดสอบ ความจริงก็เป็แค่มหาอำนาจชั้นนอกของตระกูลเท่านั้น อีกหน่อยหากอยากเข้าชั้นใน ต้องมีพร์ที่ล้ำเลิศ ทว่าก็เป็เื่ที่ยากกว่าปีนขึ้น์”
ขณะที่หนานกงฉู่พูดนั้น เสียงขัดแย้งด้านล่างก็ดังมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งสี่พี่น้องหันออกไปมองนอกหน้าต่าง หลงเหยียนก็อดสงสัยไม่ได้จึงขยับเข้าไปดู
ด้านล่างคือคนกลุ่มหนึ่งที่ถือไม้กระบองในมือ ตรงหน้าพวกเขาคือชายหนุ่มคนหนึ่ง จากนั้นคนกลุ่มที่เสมือนเด็กในตระกูลก็ถูกชายหนุ่มสวมชุดเกราะสีทองปัดออก
หลงเหยียนเห็นชายหนุ่มสวมชุดเกราะสีทอง ในมือเขาถือใบพัดระดับทองคำขั้นที่เก้า บนตัวมีรังสีที่ร่ำรวยและหยิ่งผยอง
ดูเหมือนเขามีอายุเพียงยี่สิบปีเท่านั้น ทว่ากลับเย่อหยิ่ง ท่าทางคล้ายเป็ผู้สูงส่งและอวดดีจนทำให้หลงเหยียนเห็นแล้วรู้สึกไม่พอใจ
การปรากฏตัวดั่งเทพจาก์ สีหน้าเย้ยหยามผู้อื่น มาพร้อมรังสีที่ยิ่งใหญ่ ดูเหมือนเื้ัเขาต้องมีตระกูลใหญ่หนุนหลังแน่
มุมหนึ่งของร้านอาหารถิงหยุน ผู้จัดการร้านวิ่งมาถึงตรงหน้าชายหนุ่มที่ร่ำรวย แสดงท่าทางถ่อมตัว หลงเหยียนเห็นแล้วก็รู้สึกสะอิดสะเอียน เมื่อชายหนุ่มเดินเข้าไป เขาก็ลากชายหนุ่มบนพื้นขึ้นมาแล้วตบหน้าไปสองที
ชายหนุ่มที่ร่ำรวยมองผู้จัดการร้าน เงยหน้ามองร้านอาหารถิงหยุน จากนั้นก็หัวเราะอย่างพึงพอใจ เตรียมเดินขึ้นชั้นสอง ชายที่สวมเสื้อผ้าเก่าๆ ขาดๆ เห็นว่ามีโอกาส จึงเตรียมวิ่งหนี
ครั้งนี้ ชายหนุ่มผู้ร่ำรวยะเิโทสะ ะโเสียงดัง “เร็ว รีบไปจับเขากลับมา ครั้งนี้ต้องหักขาเขาเสีย มิเช่นนั้นคงมลายความโกรธข้าไม่ได้”
หลงเหยียนกำหมัดแน่น ทำให้นึกถึงตอนที่ตนถูกคนในตระกูลรังแก สภาพของชายหนุ่มเสื้อผ้าหลุดลุ่ยไม่ต่างจากตนในตอนนั้น หลงเหยียนเห็นแล้วก็รู้สึกปวดใจ
ขณะที่หลงเหยียนจับหน้าต่าง เตรียมตัวะโลงไป หนานกงฉู่ที่อยู่ด้านข้างก็ขวางไว้ก่อน
“สหายเหยียน อย่ายุ่งเื่คนอื่นเลย คาดว่าชายหนุ่มผู้นั้นต้องเป็คนในตระกูลมหาอำนาจหนึ่งแน่ พวกเราแค่ผ่านทางมาเท่านั้น ที่นี่เกิดเื่แบบนี้ทุกวัน”
หลงเหยียนมองหนานกงฉู่ จากนั้นก็พยักหน้า อย่าว่าแต่จะลงไปช่วยชายที่น่าสงสารเลย ต่อให้ตนลงไปเอง ไม่แน่อาจพลอยเดือดร้อนไปด้วย เพราะหลงเหยียนลองใช้พลังิญญาััระดับพลังของชายหนุ่มสวมชุดเกราะนั่นแล้ว กลับไม่พบระดับพลัง แสดงให้เห็นว่าชายหนุ่มผู้นั้นมีพลังสูงยิ่งกว่า
ไม่นานการต่อสู้ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ชายหนุ่มที่น่าอนาถถูกจับอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มสวมชุดเกราะรวบรวมพลังปราณ ดึงไม้กระบองมาจากลูกน้องในตระกูลแล้วฟาดไม้ลงบนขาของชายหนุ่มอย่างแรง
“โอ๊ย” ชายหนุ่มที่อยู่บนพื้นส่งเสียงร้องด้วยความเ็ป จากนั้นก็มองชายหนุ่มที่สูงส่งด้วยสายตาเคียดแค้น แววตาเต็มไปด้วยความไม่ยอมแพ้ ทำให้หลงเหยียนเห็นตัวเองในอดีต
“ฉินเซียน ดูสิว่าเ้าจะหนีไปไหนอีก” ชายหนุ่มสวมชุดเกราะทิ้งไม้กระบองลง ใช้มือจับผมของเขาอย่างแรง จากนั้นก็ออกแรงดึงกระชาก ชายหนุ่มบนพื้นทนความเ็ปไม่ไหว แสดงสีหน้าอย่างทรมาน
“ลั่วเฉิง เ้าอาศัยที่ตระกูลของตนมีอำนาจ ขืนใจน้องสาวข้า เข่นฆ่าพ่อแม่ข้า ตอนนี้ยังอยากทำร้ายข้าให้ตาย จะไม่มีใครควบคุมเ้าได้เลยหรือ ต่อให้ต้องตาย ข้าก็ไม่มีทางยอมแพ้เ้าหรอก หากข้ามีพละกำลัง ข้าต้องฆ่าเ้าให้ได้!”
ฉินเซียนพูดจบ เขาก็คำรามเสียงดัง ดูออกว่านั่นคือความโกรธแค้นที่ปะทุออกมาจากใจ มันคือความแค้นที่มีต่อชายหนุ่มนามลั่วเฉิง
ผู้ดูแลตระกูลที่อยู่ด้านหลังลั่วเฉิงพูดเสียงดัง “เ้าช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง นายน้อยลั่วเฉิงของเราชอบน้องสาวเ้า นั่นเป็บุญของครอบครัวเ้า” เมื่อพูดจบผู้ดูแลก็ทิ้งหยกิญญาสามก้อนลง
“ไปหาที่ฝังพ่อ แม่ และน้องสาวเ้าเถอะ เหรียญเงินที่เหลือก็มากพอให้เ้าไปใช้ชีวิตในที่เล็กๆ ทั้งชาติแล้ว”
หยกิญญาสามก้อนเชียวนะ แค่หยกิญญาหนึ่งก้อนก็เท่ากับเหรียญเงินหนึ่งพันตำลึงเชียว ชายหนุ่มที่ชื่อลั่วเฉิงทิ้งของมีค่ามหาศาล ทำให้ผู้คนรอบข้างต่างประกายความโลภในแววตา
ตระกูลลั่วเป็ตระกูลที่ใหญ่สุดในเนินดาราแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็อำนาจ เงินทอง หรือตำราวิชาต่างๆ ล้วนเป็ระดับสูงทั้งนั้น ลุงสองของตระกูลลั่วคือใต้เท้าท่านเ้าเมืองแห่งเนินดาราแห่งนี้
อำนาจที่สูงเช่นนี้ มีหรือที่คนอื่นจะกล้าเข้ามายุ่ง?
หลงเหยียนมองนายน้อยลั่วเฉิง เขารังแกคนอื่นก็แล้วไป กลับยังทำร้ายคนในครอบครัวของฉิงเซียนตายถึงสามคน เนินดาราแห่งนี้ไม่มีกฎบ้านกฎเมืองกันหรืออย่างไร
หลงเหยียนไม่อาจทนได้อีกต่อไป ฉินเซียนไม่เพียงแค่เจอเหตุการณ์เหมือนตนเท่านั้น ทว่าจากแววตาที่ไม่ย่อท้อของเขาแล้ว หลงเหยียนมองออกได้ชัดเจนว่าจิตใจเขาแกร่งเพียงใด
ขณะที่ลั่วเฉิงกำลังทำท่าทางอวดดี หนานกงฉู่กับพวกเขายังไม่ทันตั้งตัว หลงเหยียนก็ะโม้วนตัวออกไปจากหน้าต่างพร้อมความโมโหแล้ว…
--------------------