บทที่3 ความทรงจำที่ไม่เคยขาดหาย
ความเงียบเข้าปกคลุมชั่วขณะรอบตัวของคนทั้งสอง ราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุน เหลือเพียงสายตาคู่หนึ่งที่เต็มไปด้วยความสับสนและโหยหา กับอีกคู่หนึ่งที่ฉายแววเ็ปและผิดหวังอย่างสุดซึ้ง
คำพูดของจ้าวลู่ซือที่ว่า “ท่านก็ไม่ใช่คนรักที่ข้ารอคอย” ยังคงก้องอยู่ในใจของิซัวหลง มันเป็ความจริงที่เฉือนลึกเข้าไปในแผลเก่าที่ยังไม่ทันหายดี
พ่อบ้านอาหลงซึ่งยืนอยู่ไม่ไกล เห็นท่าทีของคุณหนูเปลี่ยนไปก็รีบก้าวเข้ามาขวางระหว่างคนทั้งสองทันที สายตาของเขามองิซัวหลงอย่างไม่ไว้ใจและพร้อมจะปกป้องเ้านายทุกเมื่อ
“คุณหนู! อย่าเข้าไปใกล้มัน! เรายังไม่รู้ว่ามันเป็ใคร มาจากไหน เหตุใดถึงมีใบหน้าเหมือนคุณชายหยวนลู่นัก อาจเป็ไส้ศึกของตระกูลอื่นที่ส่งมาปั่นป่วนเราใน่เวลาสำคัญนี้ก็เป็ได้!”
คำพูดของพ่อบ้านเรียกสติของจ้าวลู่ซือกลับมา นางสูดลมหายใจลึกๆ เก็บซ่อนความรู้สึกส่วนตัวเอาไว้ภายใต้ใบหน้าที่เรียบเฉยและแววตาที่แข็งกร้าวขึ้นในฐานะผู้นำตระกูลจ้าว นางมองสำรวจิซัวหลงั้แ่หัวจรดเท้าอีกครั้ง เสื้อผ้าที่ดูประหลาดและท่าทางที่ดูสับสนของเขา มันดูไม่เหมือนนักฆ่าหรือไส้ศึก แต่ในยามนี้ นางไม่อาจไว้วางใจผู้ใดได้
“ท่านบอกว่าชื่อิซัวหลง” นางเอ่ยถามเสียงเย็น “แล้วเ้ามาจากที่ใด ทำไมถึงมาปรากฏตัวที่นี่?”
ิซัวหลงตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุดในชีวิต เขาคือหน่วยรบพิเศษที่ถูกฝึกให้เอาตัวรอดและแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้ามานับครั้งไม่ถ้วน แต่ครั้งนี้ศัตรูของเขาคือ “ความจริง” ที่ไม่อาจเปิดเผยได้ เขาจะบอกได้อย่างไรว่าเขามาจากโลกอนาคต
“ข้า…” เขาเริ่มต้นปรับตัวอย่างยากลำบาก “ข้า...จำไม่ได้แน่ชัด รู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่ที่นี่แล้ว ความทรงจำสุดท้ายของข้ามันเลือนลางนัก” เขาเลือกที่จะพูดความจริงเพียงครึ่งเดียว ซึ่งเป็กลยุทธ์ที่ดีที่สุดในตอนนี้
“จำไม่ได้รึ?” พ่อบ้านจงแค่นเสียงอย่างไม่เชื่อ “ช่างเป็คำแก้ตัวที่ฟังดูง่ายดายเสียจริง!”
จ้าวลู่ซือยกมือขึ้นห้ามพ่อบ้าน นางจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของิซัวหลง พยายามค้นหาความจริงหรือคำโกหก แม้ในใจจะเ็ปที่ชายตรงหน้าไม่ใช่คนที่นางรอคอย แต่ความจริงที่ว่าใบหน้าของเขาเหมือนหยวนลู่ราวกับคนเดียวกันนั้น มันเป็ปริศนาที่นางไม่อาจปล่อยผ่านไปได้ ์กำลังเล่นตลกอะไรกับนางกันแน่?
หลังจากชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง การตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยวในฐานะผู้นำก็เปล่งออกมาจากปากของนาง
“ลุงอาหลง พาชายผู้นี้ไปที่เรือนพักท้ายสวน”
“คุณหนู!” พ่อบ้านร้องท้วงด้วยความใ
“ข้าตัดสินใจแล้ว” จ้าวลู่ซือกล่าวเสียงหนักแน่น ตัดบทสนทนาทุกอย่าง “จัดคนเฝ้าไว้ อย่าให้เขาหนีไปไหนได้ จนกว่าเราจะรู้ว่าเขาเป็ใครและมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ ในเมื่อเขามาปรากฏตัวที่นี่ เราก็ต้องเป็ผู้ควบคุมสถานการณ์”
ิซัวหลงลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องถูกโยนออกไปข้างถนนและมีโอกาสได้ตั้งหลักก่อน
พ่อบ้านแม้จะไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่อาจขัดคำสั่งของคุณหนูได้ เขาจึงหันมาส่งสายตาแข็งกร้าวให้ิซัวหลงก่อนจะพูดว่า “ตามข้ามา!”
ิซัวหลงพยักหน้ารับแล้วเดินตามไป แต่ก่อนที่จะลับสายตา เขาหันกลับไปมองจ้าวลู่ซือเป็ครั้งสุดท้าย สายตาของพวกเขาสบกันอีกครั้ง ในแววตาของนางเต็มไปด้วยความสับสน ซับซ้อน และคำถามมากมายที่ไร้คำตอบ
จ้าวลู่ซือยืนมองแผ่นหลังของชายปริศนาเดินจากไปจนลับสายตา เหล่าคนงานต่างเริ่มซุบซิบถึงเหตุการณ์ประหลาดที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่นางไม่ได้สนใจ ในหัวของนางมีแต่เื่ “การประกวดสุรา”
ใช่แล้ว... ตอนนี้นางไม่มีเวลามาจมอยู่กับเื่ส่วนตัวหรือปริศนาบ้าๆ นี่ เกียรติยศของตระกูลจ้าวและอนาคตของ "สุราเหม่าไถพันลี้" สำคัญกว่าสิ่งใดทั้งหมด
“ทุกคน! กลับไปทำงานของตนเอง!” นางสั่งเสียงดังฟังชัด “เตรียมวัตถุดิบที่ดีที่สุด เราจะเริ่มกลั่นสุราล็อตใหม่ ความผิดพลาดจะต้องไม่เกิดขึ้น!”
สิ้นคำสั่ง ทุกคนก็กลับไปทำหน้าที่ของตนเองอีกครั้ง บรรยากาศกลับมาคึกคัก แต่ในใจของจ้าวลู่ซือกลับว้าวุ่นอย่างที่ไม่เคยเป็มาก่อน
‘เหตุใด์จึงส่งคนที่หน้าเหมือนเขายิ่งนักมาให้ข้า... เพื่อตอกย้ำความเ็ป หรือเพื่อสิ่งใดกันแน่?’ นางได้แต่ถามตัวเองในใจ ก่อนจะสะบัดศีรษะไล่ความคิดฟุ้งซ่านแล้วมุ่งหน้าไปยังห้องเก็บตำราสูตรสุราของตระกูล... ที่ซึ่งอนาคตของทุกคนแขวนอยู่บนนั้น
หลังจากถูกพาตัวมายังเรือนพักท้ายสวน ิซัวหลงใช้เวลาไม่นานในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ ในฐานะทหารหน่วยรบพิเศษ เขาถูกฝึกให้สงบนิ่งและสังเกตการณ์ภายใต้สถานการณ์ที่กดดันที่สุด เขาไม่ได้แสดงท่าทีตื่นตระหนกหรือขัดขืน แต่กลับให้ความร่วมมืออย่างดี จนทำให้คนของตระกูลจ้าวที่ถูกส่งมาเฝ้าลดความระแวดระวังลงไปบ้าง
เขานั่งนิ่งอยู่ในห้องพักประมาณหนึ่งชั่วยาม ก่อนจะตัดสินใจว่าการเก็บตัวอยู่เฉยๆ ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด เขาจึงเดินไปที่ประตูแล้วเอ่ยกับคนเฝ้าที่ชื่ออาเฉียงด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“พี่ชาย ข้ารู้สึกอึดอัดอยู่ในห้องมานาน อยากจะออกไปสูดอากาศข้างนอกสักครู่ได้หรือไม่”
อาเฉียงมองเขาอย่างลังเล แต่เมื่อเห็นท่าทีที่ดูไม่มีพิษมีภัยของิซัวหลง จึงพยักหน้าอย่างเสียไม่ได้ “ก็ได้ แต่ข้าต้องตามไปด้วย และห้ามท่านออกไปไกลจากหน้าโรงกลั่นเป็อันขาด”
“ตกลง ข้าสัญญา”
เมื่อได้รับอนุญาต ิซัวหลงจึงก้าวออกจากเรือนพัก เดินผ่านลานโรงกลั่นที่ยังคงคึกคักไปด้วยคนงาน และมายืนอยู่ที่หน้าประตูใหญ่ของโรงกลั่นสุราตระกูลจ้าวในที่สุด
ทันทีที่ภาพเบื้องหน้าปรากฏแก่สายตา เขาก็ต้องหยุดนิ่งราวกับถูกมนตร์สะกด
เสียงอื้ออึงของผู้คนมากมายดังคลอกับประกาศขายสินค้าในย่านตลาด ผู้คนในชุดผ้าฝ้ายและผ้าไหมเดินสวนกันขวักไขว่ แผงลอยที่ทำจากแผ่นไม้เตี้ยๆ ตั้งเรียงรายริมถนนดินอัดแน่น สองข้างทางคืออาคารไม้ทรงโบราณที่ประดับด้วยโคมไฟและธงผ้าเขียนอักษรจีนโบราณ เด็กเล็กกลุ่มหนึ่งวิ่งไล่จับกันพลางหัวเราะเสียงดัง ปะปนไปกับเสียงต่อรองราคาและเสียงร้องเรียกลูกค้า บรรยากาศทั้งหมดเปี่ยมไปด้วยสีสันและชีวิตชีวาอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
ขณะที่เขากำลังยืนตะลึงอยู่นั้น หญิงชราที่กำลังขายผักอยู่แผงลอยใกล้ๆ ก็เหลือบมาเห็นเขาเข้าพอดี นางเบิกตากว้างด้วยความดีใจก่อนจะร้องทักเสียงดัง
“คุณชายหยวนลู่! ท่านกลับมาจริงๆ ด้วย! ์คุ้มครอง! ข้าละดีใจแทนคุณหนูจ้าวจริงๆ!”
ิซัวหลงทำได้เพียงพยักหน้าและส่งยิ้มบางๆ กลับไปอย่างงุนงง ไม่ทันไร ชายฉกรรจ์สองสามคนที่เดินผ่านมาก็เข้ามาทักทายอย่างคุ้นเคย
“หายไปเสียนานเลยนะสหาย! เรานึกว่าเ้าจะไม่ได้กลับมาเสียแล้ว!” หนึ่งในนั้นตบไหล่เขาเบาๆ
หลายคนที่เดินผ่านไปมาต่างส่งยิ้มและพยักหน้าทักทายเขาในนาม “หยวนลู่” ทุกคนดูเหมือนจะรู้จักชายคนนี้เป็อย่างดี และการกลับมาของเขาก็นำความยินดีมาสู่ผู้คนแถบนี้
อาเฉียงที่ยืนคุมอยู่ไม่ห่างกระแอมเบาๆ “ดูเหมือนทุกคนจะดีใจที่ท่านกลับมานะขอรับ คุณชาย”
ิซัวหลงไม่ได้ตอบ เขาเพียงแต่ยืนนิ่งพยายามประมวลผลภาพทั้งหมด แต่แล้ว… เขาก็เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง
เขามองไปตามถนนเส้นนี้… ทางโค้งที่อยู่ไกลออกไป… ตรอกเล็กๆ ที่แยกออกไปทางขวา… และตำแหน่งของโรงกลั่นสุราที่เขาเพิ่งเดินออกมา... ภาพทั้งหมดมันช่างคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด
เขาหันรีหันขวาง พยายามปะติดปะต่อภาพในหัวราวกับจิ๊กซอว์ ก่อนที่ความจริงอันน่าตกตะลึงจะฟาดเข้ามาในสมองของเขาอย่างจัง
“อาเฉียง...นี่มันเกิดอะไรกันทำไมบ้านเมืองถึงได้คึกคักเช่นนี้” เขาแกล้งถามเพื่อหาข้อมูล
“ท่านหยวนลู่ท่านน่าจะความจำเสื่อมแล้วจริงๆ อีกไม่กี่วันข้างหน้าจะมีการประกวดสุดยอดสุราแห่งต้าิ ครั้งนี้จัดขึ้นในรอบสิบปีเลยนะ” อาเฉียงตอบในขณะสายตามองดูความคึกคักเบื้องหน้า
ิวัวหลงพยักหน้าเข้าใจที่นี่... ถนนเส้นนี้... มันคือที่เดียวกันกับที่เขาอยู่นี่น่า!ที่ตั้งของโรงกลั่นสุราตระกูลจ้าวในยุคต้าิแห่งนี้ คือที่ตั้งของบาร์เล็กๆ ของเขาบนถนนหนานจิงลู่ในอีหลายร้อยข้างหน้า!
ภาพของโลกอนาคตซ้อนทับกับความจริงตรงหน้าอย่างรุนแรง ภาพแผงขายผักของหญิงชรากลายเป็ร้านสะดวกซื้อ ภาพอาคารไม้โบราณกลายเป็ตึกแถวสมัยใหม่ และเสียงจอแจของผู้คนก็กลายเป็เสียงแตรรถยนต์ที่ดังสนั่น
เขายืนอยู่บนผืนดินผืนเดิม ในตำแหน่งเดิม แต่แตกต่างกันเพียงแค่่เวลาเท่านั้น
“เป็ไปได้อย่างไร…” เขาพึมพำกับตัวเองเสียงแ่เบา หัวใจเต้นระรัวด้วยความตื่นตะลึง มือของเขากำตราหยก “เทพสุราแห่งต้าิ” ที่อยู่ในอกเสื้อไว้แน่น นี่ไม่ใช่เื่บังเอิญ การที่เขาถูกส่งมาที่นี่ ในยุคนี้ และ ณ สถานที่แห่งนี้ จะต้องมีความหมายบางอย่างซ่อนอยู่เป็แน่
ปริศนาการเดินทางข้ามเวลาของเขายิ่งทวีความซับซ้อนขึ้นไปอีก มันไม่ได้เป็เพียงการย้อนเวลา แต่เป็การย้อนกลับมาสู่จุดเริ่มต้นของสถานที่ที่ผูกพันกับชีวิตของเขาทั้งในอดีตและอนาคตอย่างแยกไม่ออก..!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้