เดิมทีกูเฟยเยี่ยนไม่ได้ตั้งใจจะยืดเวลา แต่เมื่อเจอจดหมายของฉีอวี้แล้วจึงโกรธและตัดสินใจที่จะยืดเวลาออกไปจริงๆ
เพิกเฉยต่อความน่ารังเกียจในอดีต? เพิกเฉยต่อข่าวลือ? แล้วยังอวดดีจะแต่งงานกับนาง?
ตระกูลฉีไม่เคยขอร้องคนอื่นมาก่อนหรือ?
เช่นนั้นนางก็จะสอนพวกเขาสักครั้งว่าการขอร้องคนอื่น ต้องมีท่าทีในขอร้องด้วย!
กูเฟยเยี่ยนหยิบจดหมายฉบับนั้นขึ้นมาพลางเอ่ยกับเซี่ยเสี่ยวหม่านว่า “ส่งคืนกลับไป บอกว่าข้าไม่อยู่”
เซี่ยเสี่ยวหม่านพอใจกับท่าทีของกูเฟยเยี่ยนเป็อย่างมาก ทว่าเขาไม่ได้นำจดหมายส่งกลับไป เขาเพียงแค่ให้คนไปขับไล่อารองตระกูลกูออกไป
เมื่อกูเฟยเยี่ยนเห็นว่าใบหน้าของเซี่ยเสี่ยวหม่านไม่ได้บูดบึ้งแล้วจึงเอ่ยถามด้วยความยิ้มแย้ม “เสี่ยวหม่าน สองสามวันมานี้เตี้ยนเซี่ยไม่ได้เสด็จกลับมาใช่หรือไม่? ”
เซี่ยเสี่ยวหม่านกลอกตามองบน เขากำลังจะออกไป ทว่าก็หยุดชะงักพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เ้าบอกข้ามาก่อนว่าเหตุใดในวันนั้นเ้าถึงได้กรีดร้องขึ้นมา เ้าไม่ให้ใครมอง? ไม่ให้มองอะไร? แล้วเปิ่นกงกงจะตอบเ้า! ”
เซี่ยเสี่ยวหม่านถามโดยไม่มีพิษมีภัย แต่ใบหูของกูเฟยเยี่ยนกลับเกิดความแดงก่ำ นางหลบหลีกสายตาของเซี่ยเสี่ยวหม่านแล้วทำท่าทางไม่แยแส “ไม่ตอบก็ไม่ตอบ ข้าไม่้า! ”
จากนั้นนางก็เดินออกไป
เซี่ยเสี่ยวหม่านยืนกำเส้นผมอยู่ที่เดิม สองสามวันมานี้เขาครุ่นคิดเื่ราวของเตี้ยนเซี่ยจนเส้นผมแทบจะขาวโพลนแล้ว เหตุใดเตี้ยนเซี่ยจึงได้หาเื่ให้ตนเอง? เหตุใดเตี้ยนเซี่ยจึงได้เจตนายืดเวลาของตระกูลฉี?
เขาทะนงตนและประกาศศักดาว่าตนเองเป็ผู้ที่เข้าใจเตี้ยนเซี่ยมากที่สุดมาโดยตลอด ทว่าั้แ่ที่กูเฟยเยี่ยนปรากฏตัวขึ้นมา เขาก็คาดเดาความคิดของเตี้ยนเซี่ยไม่ได้แล้ว
สองวันต่อมา กูเอ้อร์เย่ก็ส่งจดหมายหนึ่งฉบับมาอีกครั้ง
กูเฟยเยี่ยนเปิดออกมาดูจึงพบว่าฉีอวี้ยอมถอยแล้ว ในจดหมายบอกเอาไว้ว่าเพียงแค่นางเสนอเงื่อนไข ฉีอวี้ก็จะพิจารณา ในตอนท้ายยังเตือนนางเอาไว้ว่าไม่ให้ปลุกปั่นยุยงต่อหน้าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยอีกด้วย
เซี่ยเสี่ยวหม่านมองดูจากด้านข้างพลางหัวเราะเยาะเย้ยออกมา “ปลุกปั่นยุยง? เหอะๆ ตระกูลฉียกยอเ้าจริงๆ ! ”
ทว่าความสนใจของกูเฟยเยี่ยนล้วนตกอยู่ที่คำว่า “เงื่อนไข” คำนี้ นางครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเผยรอยยิ้มเ้าเล่ห์ออกมาเงียบๆ
นางคิดว่าโอกาสมาถึงแล้ว!
กูเฟยเยี่ยนรีบวิ่งไปที่ประตูด้านหลังทันที เซี่ยเสี่ยวหม่านรีบร้อนวิ่งตามไป “เ้าจะทำอะไร? ”
“ยกเลิกการหมั้นหมาย! ”
กูเฟยเยี่ยนตอบไปด้วยวิ่งไปด้วย ยิ่งวิ่งยิ่งเร็ว ยิ่งคิดยิ่งดีอกดีใจ
หากไม่ใช่เป็เพราะว่านางได้รับคัดเลือกให้เข้ามาในจิ้งหวางฝู่อย่างกะทันหัน ตระกูลฉีคงจะยกเลิกการหมั้นหมายฝ่ายเดียวมาตั้งนานแล้ว! บัดนี้เป็่เวลาที่ดีมากเลย กระแสน้ำหมุนเวียนเปลี่ยนทิศทาง ความโชคดีตกมาอยู่ที่นางแล้ว หากกูเฟยเยี่ยนไม่ถือโอกาสนี้แยกตัวจากตระกูลฉี นางจะต้องรอไปถึงเมื่อใด? นาง้าลบล้างความอัปยศอดสูในอดีตและยกเลิกการหมั้นหมายอย่างภาคภูมิ!
ทันทีที่กูเฟยเยี่ยนเปิดประตูด้านหลังก็มองเห็นกูเอ้อร์เย่ยืนอยู่ด้านนอกประตู เขาไม่หลงเหลือความเข้มงวดกับสีหน้าประจบสอพลอเช่นเดิมแล้ว สิ่งที่มีเพิ่มมาคือความหวาดผวาและความขี้ขลาด
เขาเอ่ยด้วยความยิ้มแย้ม “เยี่ยนเอ๋อร์ ในที่สุดอารองก็ได้พบเ้าแล้ว! ”
กูเฟยเยี่ยนเอ่ยถามออกมา “ตอนนี้ฉีอวี้อยู่ที่ตระกูลกูใช่หรือไม่? ”
กูเอ้อร์เย่ตกตะลึงครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าขึ้นลง “ใช่ๆ ยังรอให้อารองกลับไป เยี่ยนเอ๋อร์ จดหมายนั่นเ้าดูแล้วเป็อย่างไร? ”
กูเฟยเยี่ยนเอ่ยตอบ “ใช้ได้ เ้าให้เขารอไว้ ข้าจะกลับไปโดยเร็ว! ”
กูเอ้อร์เย่ดีใจเป็อย่างมากจึงรีบกลับไปแจ้งข่าวทันที
เซี่ยเสี่ยวหม่านยืนอยู่หลังกูเฟยเยี่ยนด้วยสีหน้าท่าทางที่ซับซ้อน เขาพึมพำเบาๆ “หรือนี่จะเป็สิ่งที่เตี้ยนเซี่ย้า? ไม่ๆ เื่บังเอิญ ต้องเป็เื่บังเอิญแน่ๆ ! ”
กูเฟยเยี่ยนเก็บของอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะออกเดินทาง เดิมทีเซี่ยเสี่ยวหม่านส่งองครักษ์ลับสองคนแอบติดตามไป แต่เมื่อครุ่นคิดดูแล้วก็ไม่วางใจจึงได้เพิ่มไปอีกสองคน
เมื่อกูเฟยเยี่ยนมาถึงตระกูลกู นางก็ตรงไปที่ห้องโถงเฟิงหวาทันที
ไม่บอกไม่ได้ว่าประวัติศาสตร์มีความคล้ายคลึงกันอย่างน่าประหลาดใจ คนในห้องโถงกำลังพูดคุยกัน เมื่อเห็นว่านางมาแล้วก็เงียบลง
ฉีอวี้ กูเอ้อร์เย่ และหวังฟูเหรินล้วนอยู่กันครบ ขาดเพียงแค่ฉีฟู่ฟางเท่านั้น ครั้งที่แล้วที่ฉีอวี้นั่งอยู่ตรงนี้ด้วยความทะนงตน ภาคภูมิใจในจิตใจและคุณธรรมอันสูงส่ง อีกทั้งชำเลืองตามองนางเพียงชั่วครู่เท่านั้น แต่ในปัจจุบันนี้ฉีอวี้จ้องมองมาที่นางด้วยความขุ่นข้องหมองใจราวกับว่าไม่อยากจะปล่อยให้หลุดรอดออกไป
กูเฟยเยี่ยนรำพึงในใจว่าท่านชายผู้นี้ไม่เคยขอร้องผู้อื่นจริงเสียด้วย เขาไม่ทราบว่าการจะขอร้องผู้อื่นจะต้องมีลักษณะท่าทีของการขอร้องด้วย!
นางยิ้มบางๆ พลางเดินเข้าไปอย่างอ้อยอิ่ง
กูเอ้อร์เย่กับหวังฟูเหรินรีบร้อนลุกขึ้นมา ใบหน้าของหวังฟูเหรินปรากฏถึงรอยยิ้มเมตตาดุจมารดา “เยี่ยนเอ๋อร์ มานั่งข้างอาสะใภ้เร็ว”
กูเฟยเยี่ยนรู้สึกสะอิดสะเอียนมากเหลือเกิน นางไม่แม้แต่จะสนใจ หญิงสาวเลือกที่จะนั่งในตำแหน่งที่ตรงข้ามกับฉีอวี้พลางเลิกคิ้วมองเขา บัดนี้ดวงตาของกูเฟยเยี่ยนมีความใสแป๋ว อีกทั้งยังมีท่าทางสูงศักดิ์ที่ดูไม่เหมือนบุคคลธรรมดาเลย
นางไม่้าจะพูดอะไรออกมา นางจะคอยดูว่าศีรษะของฉีอวี้ที่มีความเย่อหยิ่งจะก้มต่ำลงเมื่อใด แต่ใครจะไปทราบว่าฉีอวี้จะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเ็า “เ้า้าสินสอดเท่าใด? ให้มันตรงไปตรงมา! ข้าไม่มีเวลามาพูดเื่ไร้สาระกับเ้า! ”
กูเฟยเยี่ยนรู้สึกได้ถึงความใ นางเกิดความประหลาดใจมากจริงๆ !
นางประเมินความทระนงตนของฉีอวี้ต่ำเกินไปมากจริงๆ เห็นได้ชัดว่านางเข้าใจคำว่า “เงื่อนไข” ของฉีอวี้ผิดไป “เงื่อนไข” ของฉีอวี้ไม่ใช่เงื่อนไขอื่นๆ แต่เป็เงื่อนไขของการแต่งงาน!
ตระกูลฉีของเขาก่อเื่ราวใหญ่โตจนแทบจะปกป้องตัวเองไม่ได้แล้ว เมื่ออยู่ต่อหน้านางแล้ว เขาไปเอาความรู้สึกเหนือกว่ามาจากที่ใดกัน? แม้ว่าภูมิหลังของเ้าของร่างเดิมจะไม่ดี แต่ก็ไม่ถึงขนาดที่จะต้องมาถูกเหยียดหยามถึงขั้นนี้นี่?
นี่มันจะรังแกคนอื่นเกินไปแล้ว!
กูเฟยเยี่ยนค่อยๆ หรี่ตาลงพลันถามด้วยความเ็า “ตระกูลฉีให้เ้ามาเพียงคนเดียว? ”
ฉีอวี้เคยถูกสั่งสอนในครั้งที่แล้ว เขาจึงอธิบายด้วยความระมัดระวัง “เจรจาเงื่อนไขให้เรียบร้อยก่อน มารยาทที่ควรมีจะไม่มีทางขาดไปแม้แต่ข้อเดียว! ”
ดวงตาของกูเฟยเยี่ยนยังคงหรี่ลง นางยิ้มเยาะ “ท่านชายท่านแม่ทัพฉี เกรงว่าเ้าจะตัดสินใจเงื่อนไขที่เปิ่นเสี่ยวเจี่ยจะเจรจาในวันนี้ไม่ได้ เปิ่นเสี่ยวเจี่ยจะรออยู่ที่นี่จนถึงเที่ยง หากว่าผู้ที่สามารถตัดสินใจได้ไม่มา เปิ่นเสี่ยวเจี่ยนจะไม่พบพวกเ้าอีก! ”
“เ้า! ”
ฉีอวี้ถามด้วยความโมโห “นอกจากสินสอดแล้วเ้ายัง้าอะไรอีก? ”
เมื่อเห็นว่าบรรยากาศมีความผิดปกติ กูเอ้อร์เย่จึงรีบหันไปส่งสายตาเป็นัยให้หวังฟูเหริน หวังฟูเหรินจึงรีบไปนั่งข้างกายกูเฟยเยี่ยนพลันดึงมือนางมากระซิบโน้มน้าว
“เยี่ยนเอ๋อร์ ยามนี้ผู้คนด้านนอกล้วนด่าทอเ้า! จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยมีความสูงส่งถึงเพียงนั้น เ้าจะเอื้อมถึงได้อย่างไร? ต่อให้เตี้ยนเซี่ยมองเ้าด้วยความชื่นชม แต่ก็เป็ได้แค่ความสดใหม่ชั่วคราวเท่านั้น พระองค์จะให้เ้าอาศัยอยู่ในจิ้งหวางฝู่ไปตลอดได้อย่างไร? ผู้คนด้านนอกล้วนพูดคุยกันว่าฝ่าาทรงไม่พอใจกับเื่ของวัดต้าฉือจึงได้ลงโทษจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยไม่ได้เสด็จไปที่ศาลต้าหลี่ แต่ไปนั่งสำนึกผิดที่วัดต้าฉือแทน จากความคิดของอาสะใภ้แล้วเื่นี้น่าจะมีความจริงถึงแปดส่วน! เยี่ยนเอ๋อร์ เ้าก็เป็เด็กที่ฉลาดปราดเปรื่อง บัดนี้ตระกูลฉียอมถอยให้แล้ว เ้าก็ยินยอมซะเถอะ! ”
หวังฟูเหรินพูดเกลี้ยกล่อมอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเสริมอีกหนึ่งประโยคว่า “ไม่อย่างนั้นเ้าไปดื่มชาพักผ่อนที่ด้านหลังก่อน ให้อารองกับอาสะใภ้เป็ผู้เจรจาหารือเื่สินสอดกับข้อกำหนดในการแต่งงานแทนเ้าดีหรือไม่? เ้าวางใจได้ อารองกับอาสะใภ้ไม่มีทางทำให้เ้าเสียเปรียบอย่างแน่นอน ในส่วนของสินสอด…ตระกูลกู ตระกูลกูก็ไม่เอาแล้ว ยกให้เ้าหมดเลย! ”
เมื่อกูเฟยเยี่ยนได้ยินเช่นนี้ก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดคู่สามีภรรยาตระกูลกูผู้ที่ชอบประสบสอพลอผู้มีอำนาจไม่ทำการเกาะจิ้งหวางฝู่แต่มาคอยร่วมมือกับฉีอวี้แทน
ที่แท้พวกเขาก็คิดเช่นนี้นี่เอง!
สองสามวันมานี้นางไม่ได้สนใจข่าวลือด้านนอกจึงไม่ทราบว่าเื่ราวของใบเซียมซีวัดต้าฉือก็ถูกนำมาปลุกปั่นข่าวลือแล้ว จิตใจผู้ที่ปลุกปั่นข่าวลือนั้นอุบาทว์จริงๆ !
สองสามวันมานี้จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยยุ่งมากจนไม่มีผู้ใดพบเห็น เป็ไปได้หรือไม่ว่ากำลังจัดการเื่ยุ่งยากนี้อยู่? ฝ่าาโปรดอย่าได้เชื่อข่าวลือเหล่านี้นะ!
“พวกเ้าพิจารณาเรียบร้อยแล้วหรือยัง? ”
ฉีอวี้เอ่ยถามขึ้นมาอย่างไร้ความอดทน เสียงของเขาจึงขัดจังหวะความคิดของกูเฟยเยี่ยน กูเฟยเยี่ยนอดทนไม่ไหวกว่าเขาอีกจึงได้เอ่ยว่า “ไม่! เ้ากลับไปไตร่ตรองให้ดีแล้วค่อยมาเจรจา! ”
นางอยากจะยกเลิกการหมั้นหมายมาก เพียงแต่ว่าก่อนที่จะยกเลิกการหมั้นหมาย นางจะต้องเห็นว่าฉีอวี้ก้มศีรษะลงไป!
เมื่อกูเฟยเยี่ยนเอ่ยจบแล้วก็ลุกขึ้นเดินออกไป ฉีอวี้ทั้งโกรธทั้งไม่เข้าใจ หญิงสาวผู้นี้ให้เขากลับไปไตร่ตรองแล้วค่อยเจรจา? นางมีเงื่อนไขอะไรก็ไม่พูดออกมา แล้วจะให้เขาไปไตร่ตรองอะไรกัน?