เซี่ยยวี่หลัวเขินอายยิ่งนัก ลูบสันจมูกตามสัญชาตญาณกล่าวด้วยท่าทางเก้อเขินเล็กน้อย “คือ… จื่อเมิ่งหกขวบแล้วไม่ใช่หรือ? เ้าเองก็แปดขวบเป็เด็กโตแล้ว แม้จะเป็พี่น้องแท้ๆ แต่ถึงอย่างไรก็เป็ชายหญิง เื่อย่างการอาบน้ำให้จื่อเมิ่งข้าจะทำเองรอให้นางเติบใหญ่จนอาบเองเป็ ค่อยให้นางทำ พวกเ้าคิดเห็นเช่นไร?”
นางกล่าวเป็นัยกึ่งอธิบาย กึ่งขอความเห็นน้ำเสียงถ่อมตัวเสียยิ่งกว่าอะไร
เซียวจื่อเซวียน “...”
เขารู้สึกเอะใจ เพราะไม่เคยเห็นเซี่ยยวี่หลัวสนทนาเชิงปรึกษากับพวกเขาเช่นนี้มาก่อนเซี่ยยวี่หลัวในอดีต เป็คนหัวรั้น พูดจาเด็ดขาดไม่ใช่หรือ?
เมื่อครู่นี้ นางกำลังขอความคิดเห็นจากพวกเขาอย่างนั้นหรือ? ทั้งยังคล้ายว่านางกำลังอธิบายให้พวกเขาฟังว่าเหตุใดถึงต้องทำเช่นนี้!
ระหว่างที่เซียวจื่อเซวียนตะลึงงัน เซี่ยยวี่หลัวเกรงว่าเขายังมีความระแวงจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อ “หากเ้ายังไม่วางใจ ก็เฝ้าอยู่นอกประตูห้องข้าถ้าภายในห้องมีอะไรผิดปกติ เ้าก็เข้ามา เช่นนี้ดีหรือไม่?”
ไม่รู้ว่าเพราะความอ่อนโยนของเซี่ยยวี่หลัวทำให้เซียวจื่อเซวียนเชื่อใจหรือเพราะประโยคสุดท้ายของนางทำให้เซียวจื่อเซวียนวางใจ สุดท้ายเซียวจื่อเมิ่งก็เข้าไปในห้องของเซี่ยยวี่หลัวเซียวจื่อเซวียนเฝ้าอยู่ด้านนอก
เซี่ยยวี่หลัวถอดเสื้อผ้าให้เซียวจื่อเมิ่งด้วยความอ่อนโยนนางสวมใส่เสื้อผ้าไว้หลายชั้น แม้แต่เสื้อผ้าในฤดูร้อนก็สวมไว้เสื้อนวมผืนบางด้านนอกไม่เพียงแค่บาง แต่ยังขาดด้วย มีบางจุดที่ปุยฝ้ายหายไปแล้วเหลือเพียงชั้นบางๆ ไม่สามารถต้านทานความหนาวเย็นได้เลย
เด็กคนนี้ใบหน้าซีดเซียวร่างกายซูบผอม ผอมจนเห็นกระดูกบนกายไม่มีเนื้อสักนิด เส้นผมก็หยาบกระด้าง มองแวบเดียวก็รู้ว่าขาดสารอาหารอย่างหนักตอนที่เซี่ยยวี่หลัวอุ้มนางเข้าไปในอ่างอาบน้ำ ก็รู้สึกว่าตัวเบาเหลือเกินราวกับอุ้มกระดูกกองหนึ่งก็มิปาน
เซี่ยยวี่หลัวรีบเบือนหน้าหลบเพื่อเช็ดคราบน้ำตาก่อนเริ่มอาบน้ำสระผมให้เซียวจื่อเมิ่ง
ภายในห้องอบอุ่นมากหลังจากเซี่ยยวี่หลัวกลับมาก็จุดฟืนเพื่อทำให้ห้องอุ่นขึ้นวางเสื้อผ้าจำนวนหนึ่งไว้ข้างๆ ผึ่งอยู่ข้างเตา
เซียวจื่อเมิ่งนั่งอยู่ในน้ำอุ่น น้ำถึงระดับไหล่แช่น้ำจนรู้สึกอุ่นสบาย ทว่า ถึงอย่างไรเซี่ยยวี่หลัวก็เพิ่งจะเคยช่วยอาบน้ำให้เป็ครั้งแรกเซียวจื่อเมิ่งรู้สึกกังวลเล็กน้อย ตอนที่เซี่ยยวี่หลัวช่วยเช็ดตัวให้นางนางนั่งอยู่ด้านใน ไม่กล้าขยับเขยื้อน ราวกับเป็หุ่นกระบอกก็มิปาน
เซี่ยยวี่หลัวรู้ว่านางจะอึดอัดบ้าง จึงพูดคุยกับนางเป็ระยะเพื่อทำให้นางผ่อนคลายลง ระหว่างที่อาบน้ำให้เซียวจื่อเมิ่ง ก็อาบด้วยความนุ่มนวลใช้สบู่ของนางถูเต็มร่างกายท่อนบนเซียวจื่อเมิ่ง ส่งกลิ่นหอมละมุน
เซียวจื่อเมิ่งคิดไม่ถึงว่าเซี่ยยวี่หลัวจะใช้สบู่ของตัวเองอาบน้ำให้นางไม่กล้าหายใจแรงด้วยซ้ำ เพียงนั่งอยู่ภายในอ่าง ปล่อยให้เซี่ยยวี่หลัวอาบน้ำให้นางอย่างอ่อนโยนจนสะอาด
เซี่ยยวี่หลัวแย้มรอยยิ้มอยู่ตลอดบอกให้เซียวจื่อเมิ่งยกมือและแหงนหน้าเป็ครั้งคราวเซียวจื่อเมิ่งทำตามอย่างว่าง่าย ใน่แรกเซียวจื่อเมิ่งไม่กล้ามองนาง ในภายหลังคงเพราะคิดว่าเซี่ยยวี่หลัวจะไม่ด่าแล้วเซียวจื่อเมิ่งจึงกล้าเงยหน้าขึ้นมองเซี่ยยวี่หลัวเป็ระยะ
เซี่ยยวี่หลัวพบว่าในที่สุดนางก็กล้ามองตัวเองแล้วภายในใจย่อมรู้สึกดีใจ ด้วยเหตุนี้ จึงอาบน้ำให้นางด้วยความนุ่มนวลยิ่งกว่าเดิม
หลังจากอาบเสร็จเซี่ยยวี่หลัวบอกให้เซียวจื่อเซวียนที่อยู่ด้านนอกยกน้ำร้อนเข้ามาอีกหนึ่งถังเมื่อผสมน้ำร้อนกับน้ำเย็นจนได้ที่แล้วเซี่ยยวี่หลัวใช้กระบวยตักน้ำทีละกระบวยชะล้างตัวเซียวจื่อเมิ่งจนสะอาด
น้ำที่ผสมจนได้ที่ราดบนตัว ทำให้รู้สึกอบอุ่นและสบายเซียวจื่อเมิ่งอาบจนไม่อยากลุกด้วยซ้ำ
ในที่สุดก็อาบเสร็จเซี่ยยวี่หลัวใช้ผ้าสะอาดผืนหนึ่งห่อผมของเซียวจื่อเมิ่งไว้จากนั้นจึงใช้ผ้าเช็ดตัวผืนหนาห่อตัวเซียวจื่อเมิ่ง ก่อนอุ้มนางออกมาหลังเช็ดคราบน้ำบนกายจนแห้งแล้วจึงวางเซียวจื่อเมิ่งลงบนเตียง เลิกผ้านวมขึ้นห่มไว้บนตัวเซียวจื่อเมิ่ง
เครื่องนอนนุ่มๆ อันอบอุ่น ราวกับได้นอนอยู่บนปุยนุ่นก็มิปานนอกจากนั้น เครื่องนอนของเซี่ยยวี่หลัวก็หอมละมุนมาก เหมือนกับตัวนาง
เซียวจื่อเมิ่งอาบน้ำเสร็จแล้ว บนกายมีแต่กลิ่นหอมรู้สึกสดชื่นนัก ไม่ได้รู้สึกกลัวเท่าไรแล้ว มือเล็กจับผ้านวมไว้สายตามองตามการเคลื่อนไหวของเซี่ยยวี่หลัว
เซี่ยยวี่หลัวหยิบเสื้อผ้าที่ผึ่งไว้ข้างเตาไฟขึ้นมาหลังจากผึ่งไฟ เสื้อผ้าจึงมีความอุ่น เซี่ยยวี่หลัวรีบสวมให้เซียวจื่อเมิ่งเสื้อด้านในยังเป็เสื้อตัวเก่าของเซียวจื่อเมิ่งคืนนี้เซี่ยยวี่หลัวคิดจะเย็บแก้เสื้อซับในที่ตัวเองใส่ไม่ได้แล้วอีกสองตัวเสื้อตัวในของเซียวจื่อเมิ่งตอนนี้ทั้งเก่าทั้งขาด มีรอยปะเต็มทั้งตัว
หลังจากใส่เสื้อด้านในเสร็จเซี่ยยวี่หลัวสวมเสื้อนวมที่ตัวเองเย็บแก้เสร็จแล้วให้เซียวจื่อเมิ่งเมื่อสวมเสร็จ เซี่ยยวี่หลัวยิ้มพร้อมกล่าว “ดูท่าข้าก็มีฝีมือดีเหมือนกัน เย็บแก้ได้ไม่เลวเลย!”
เสื้อผ้าของเซี่ยยวี่หลัวล้วนเป็เสื้อผ้าเนื้อดีอย่างเสื้อนวมที่สวมอยู่บนกายเซียวจื่อเมิ่งในตอนนี้ ผ้าด้านนอกเป็ผ้าฝ้ายละเอียดด้านในเป็ปุยฝ้ายชั้นหนา เมื่อสวมบนกาย ทำให้อบอุ่นสบายตัว
เซียวจื่อเมิ่งมองเสื้อผ้าที่สวมบนกายตัวเองด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลนกล่าวด้วยท่าทีหวั่นเกรง “พี่สะใภ้ใหญ่ข้าไม่เอาเสื้อใหม่...”
เซี่ยยวี่หลัวยิ้มพร้อมกล่าว “ไม่ได้ซื้อมาใหม่ เป็เสื้อผ้าที่ข้าใส่ไม่ได้แล้วแต่ยังใหม่อยู่ จึงเย็บแก้ขนาด เ้าดูสิ ใส่ได้พอดีตัวเลยไม่ใช่หรือ? อบอุ่นหรือไม่?”
เซียวจื่อเมิ่งกัดริมฝีปาก มองเซี่ยยวี่หลัวด้วยท่าทางหวั่นๆก่อนมองดูเสื้อนวมบนกายตัวเอง นี่เป็เสื้อนวมพื้นสีชมพูลายดอกไม้สีฟ้าหลังจากเย็บแก้แล้วยังหลวมเล็กน้อย แต่เสื้อนวมย่อมต้องเป็เช่นนี้แน่นเกินไปจะขยับตัวลำบาก
เซียวจื่อเมิ่งรู้สึกราวกับฝันไป นั่งอยู่ในผ้านวมปล่อยให้เซี่ยยวี่หลัวเช็ดผมนางจนแห้ง ทั้งสองต่างฝ่ายต่างเงียบงันเมื่อเซียวจื่อเซวียนที่คอยเฝ้าอยู่ด้านนอกตลอดไม่ได้ยินเสียงจากด้านใน จึงกลัวว่าจะเกิดเื่กับน้องสาวจึงผลักเปิดประตูเข้าไปทันที
ประตูห้องถูกเปิดออก สองคนด้านในไปมองทันทีเซียวจื่อเซวียนเห็นน้องสาวตัวเองนั่งอยู่ในผ้านวม ส่วนเซี่ยยวี่หลัวถือกำลังช่วยเช็ดผมให้นางอย่างตั้งใจ
ส่วนเสื้อผ้าบนกายน้องสาว ไม่ใช่ที่เคยใส่อยู่ทุกวันนางสวมเสื้อนวมสีชมพูลายดอกไม้สีฟ้า เสื้อนวมลายดอกใหญ่พอดีตัวเหมือนตัดเย็บขึ้นเพื่อนางโดยเฉพาะ
เซียวจื่อเมิ่งเห็นพี่ชายเข้ามาจึงเอ่ยเรียกพี่รองด้วยท่าทีตื่นเต้น เซี่ยยวี่หลัวยิ้มพร้อมกล่าว “เข้ามาพอดี เ้าช่วยเอาน้ำพวกนี้ไปเททิ้งด้วย!”
นางจำได้ว่าเซียวจื่อเซวียนเคยพูดไว้ ว่างานหนักต้องให้บุรุษทำ
เซียวจื่อเซวียนเห็นน้องสาวยังอยู่ดีจึงผ่อนลมหายใจด้วยความโล่งอก มองเซี่ยยวี่หลัวด้วยท่าทีประหลาดใจ แต่มิได้กล่าวสิ่งใดเพียงยกถังน้ำไปเทเท่านั้น
เมื่อเขากลับมาเซี่ยยวี่หลัวจูงมือเซียวจื่อเมิ่งเดินออกมาจากห้อง เมื่อเซียวจื่อเมิ่งเห็นพี่ชายก็วิ่งไปหาเขาด้วยท่าทางตื่นเต้น “พี่รอง...”
ตัวเซียวจื่อเซวียนสกปรก จึงรีบยื่นมือกันนางให้ห่างก่อนถอยหลังสองก้าว มองน้องสาวจากศีรษะจรดปลายเท้าอย่างพินิจเส้นผมถูกหวีเป็มวยน่ารักสองข้าง เหมือนซาลาเปาลูกเล็กสองลูก ข้างหนึ่งมีเชือกผูกผมผูกไว้หลายเส้นส่วนที่เหลือปล่อยลู่ลงข้างหู เมื่อลมพัดผ่านจึงพลิ้วไหว นางแต่งตัวเช่นนี้ดูดีเสียยิ่งกว่าอะไร