วันนี้โหมวเจิ้นเฉียงมาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดครบรอบเจ็ดสิบปีของผู้าุโตระกูลหลิน ทว่ากลับได้รับโทรศัพท์แจ้งเหตุจากภัตตาคารจิงเฉิงที่อยู่ตรงข้ามสถานที่จัดงาน เขาจึงแจ้งกองกำลังตำรวจอาชญากรรมให้รีบมาเร็วที่สุด
เมื่อมาถึงสถานที่เกิดเหตุ เพียงกวาดตามองก็เห็นเย่เฟิงถูกขวางอยู่ตรงประตูห้องส่วนตัว เขายิ้มเยาะในใจ เป็เด็กหนุ่มที่ก่อเื่ให้ตระกูลหลง นี่ยังอวดดีก่อเื่อีกแล้วเหรอ?
ผู้บัญชาการสำนักรักษาความปลอดภัยสาธารณะเมืองเยี่ยนจิงทั้งยังพ่วงตำแหน่งรองคณะกรรมการพรรคบริหารเทศบาลนครนำกำลังควบคุมสถานการณ์ด้วยตัวเองแล้ว เมื่อเขาปรากฏตัว ตรงนั้นก็เงียบสงบทันที
“เย่เฟิง เขาคือโหมวเจิ้นเฉียง” ซูเมิ่งหานดึงแขนเย่เฟิงก่อนกระซิบบอกเขา ขณะเดียวกันก็กังวลมากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่บุคคลระดับนี้ก็ปรากฏตัวแล้ว ต่อให้เป็พ่อของเธอก็ไม่มีสิทธิ์เอ่ยปากตามใจได้
“อืม” เย่เฟิงหรี่ตามองชายวัยกลางคนร่างกำยำที่ติดอินทรธนูของตำรวจชั้นหนึ่งบนบ่า สถานการณ์ตอนนี้เกินความคาดหมายของเขาไปแล้ว หากจัดการไม่ระวังอาจทำให้ซูเมิ่งหานพลอยลำบากไปด้วย ไหนจะเตาปา หลิวลี่ฮุย และคนอื่นที่คอยช่วยเหลืออยู่ข้างเขาอีก
“วางอาวุธลงแล้วยกมือขึ้น!” โหมวเจิ้นเฉียงถือโทรโข่งขนาดเล็กพร้ะโกนใส่กลุ่มคนที่อยู่ตรงประตูห้องส่วนตัว
เมื่อเซี่ยเฉิงเย่เห็นดังนั้นก็รีบเอ่ย “เ้าหน้าที่ตำรวจ คนพวกนี้เป็แก๊งมาเฟีย ถือมีดจ้องทำร้ายคนผิดกฎหมายร้ายแรง ต้องได้รับโทษหนัก!”
โหมวเจิ้นเฉียงได้ยินแล้วหัวเราะในลำคอ “ทำไมทหารถึงไร้ประโยชน์ขนาดนี้ แค่พวกมาเฟียกระจอกก็เอาไม่อยู่เหรอ?”
เมื่อเซี่ยเฉิงเย่ได้ยิน ใบหน้าก็เปลี่ยนเป็สีแดงก่ำ ปกติความสัมพันธ์ระหว่างทหารกับตำรวจก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว จึงไม่แปลกที่โดนถากถางในสถานการณ์เช่นนี้
โหมวเจิ้นเฉียงลดมือลงแล้วมองเย่เฟิงด้วยสายตาวาววับ จากนั้ออกคำสั่งอย่างเด็ดขาด “ลงมือปฏิบัติ! นำตัวมาเฟียกลุ่มนี้กับเ้าเด็กที่สวมชุดลำลองนั่นกลับไป!”
เขารู้ว่าไม่นานมานี้ตระกูลหลงถูกเอาเปรียบอีกครั้งที่เมืองหลางฝาง และเหมือนชายสวมหน้ากากจะเกี่ยวข้องกับเย่เฟิงด้วย เนื่องจากข้อตกลงกับปู่ของเด็กหนุ่ม ตระกูลหลงจึงไม่กล้าเอาเื่เขา แต่โหมวเจิ้นเฉียงไม่กลัว
ถ้าเค้นเื่ชายสวมหน้ากากจากเย่เฟิงได้ เขาคงช่วยตระกูลหลงได้อย่างไม่ต้องสงสัย ซ้ำยังมีประโยชน์อีกมาก ข้าราชการระดับสูงเช่นเขาพอรู้เื่ในยุทธจักรอยู่บ้าง และมีความสัมพันธ์อันดีกับตระกูลหลงด้วย
คำสั่งจากปากของโหมวเจิ้นเฉียงทำให้คนทั้งหมดรู้ผู้แพ้ชนะในครั้งนี้!
หลังจากกลุ่มทหารรู้ว่าพวกตนชนะการต่อสู้นี้ก็มองคนแก๊งอสรพิษ์อย่างได้ใจ
ในใจของเซี่ยเฉิงเย่ยังไม่พอใจเพราะไม่ได้ฉีกหน้าเย่เฟิงด้วยตัวเอง แต่ก็รู้ดีว่าไม่อาจลงมือกับอีกฝ่ายได้ เขามองออกว่าถึงโหมวเจิ้นเฉียงจะเยาะเย้ยตน แต่ความจริงการกระทำนี้มุ่งเป้าไปที่เย่เฟิง ต่อให้เด็กหนุ่มไปสถานีตำรวจก็ไม่ช่วยให้เขาดีขึ้นแน่นอน ไม่รู้หมอนี่ทำอะไรให้ข้าราชการระดับสูงเช่นนี้ไม่พอใจ?
แม้เซี่ยิ่ที่ยังอยู่ในห้องส่วนตัวจะไม่เห็นเหตุการณ์ แต่ก็พอเดาได้จากเสียงะโด้านนอก หญิงสาวอดผิดหวังไม่ได้เมื่อมองซูเมิ่งหานที่อยู่ข้างๆ เย่เฟิง แค่รอเย่เฟิงจากไป ดูสิว่าใครจะปกป้องนังจิ้งจอกตัวนี้ได้อีก?
เซี่ยผิงฮุยกับซูซิ่นชางที่อยู่ด้านในต่างนั่งไม่ติด จึงลุกขึ้นเดินไปหากลุ่มคนหน้าประตู
ซูซิ่นชางเหงื่อตก ไม่คิดเลยว่าการชวนลูกสาวมากินข้าวที่ภัตตาคารจะทำให้สถานการณ์เลยเถิดจนถึงขนาดข้าราชการระดับสูงต่างมารวมกันที่นี่ ดูเหมือนเย่เฟิงจะไม่ถูกกับผู้บัญชาการโหมวจริงๆ ในฐานะที่เด็กหนุ่มเป็ลูกพี่ลูกน้องของหัวหน้าแก๊งอสรพิษ์ การต่อกรกับข้าราชการระดับสูงนับเป็การรนหาที่ตายอย่างไม่ต้องสงสัย
เซี่ยผิงฮุยก็แปลกใจเช่นกัน แต่ก็ถือเป็เื่ดีสำหรับเขา วิธีของผู้บัญชาการโหมวดีกว่าเ้าลูกชายไม่ได้เื่ของเขาเสียอีก เมื่อถูกคนระดับนี้เพ่งเล็ง จุดจบของเย่เฟิงต้องน่าเวทนาแน่นอน
เพียงรอให้เย่เฟิงกับพวกแก๊งมาเฟียถูกพาตัวไป เขาจะได้จัดการเื่ของตระกูลเซี่ยให้เรียบร้อยเสียที ขณะชายชราเหลือบมองซูเมิ่งหานที่อยู่ข้างกายเย่เฟิง นังจิ้งจอกนี่หน้าตาสะสวยไม่น้อย บางที...
หากเปรียบเทียบความดีใจของคนเหล่านี้ อารมณ์บนใบหน้าของเตาปา หลิวลี่ฮุย และซูเมิ่งหานกลับตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง
หลิวลี่ฮุยมองเย่เฟิงอยู่หลายครั้ง พร่ำเรียกคุณชายเย่อยู่ในใจ ทำไมยังไม่แสดงฐานะตระกูลหลินของคุณออกมาล่ะ? หรือรอไปสถานีตำรวจแล้วเล่นบทคนโง่อีกครั้ง?
ซูเมิ่งหานกอดแขนเย่เฟิงแน่น ดวงตาคู่สวยฉายแววกังวล แม้จะไม่ได้พูดออกมา แต่ชายหนุ่มก็รับรู้ได้
เตาปาส่งสายตาให้เย่เฟิง “ลูกพี่เย่ ทำยังไงดี สู้กับพวกมันเลยไหม?”
สู้กับน้องสาวแกสิ!
เย่เฟิงกลุ้มใจ สมองไอ้หมอนี่มันตายไปแล้วหรืออย่างไร หลังจากประเมินสถานการณ์แล้วเห็นได้ชัดว่าเหลือเพียงทางเดียวเท่านั้นคือตนต้องยอมให้ฝ่ายตรงข้ามพาตัวไป พวกเตาปาจึงจะมีทางรอด
ประการแรกหากแก๊งมาเฟียเข้าสถานีตำรวจย่อมไม่เป็ผลดีแน่ และประการที่สองเพราะต้องมีคนปกป้องซูเมิ่งหานที่นี่ เขาไม่วางใจหากถูกพาตัวไปกันหมด
หลิวลี่ฮุยหรือ? เย่เฟิงไม่คิดว่าหลังจากตนถูกพาตัวไปแล้ว ผู้ชายคนนี้จะยังยืนหยัดอยู่ข้างเขา
ชายหนุ่มเงยหน้ามอง. บริเวณสุดปลายทางเดินปรากฏร่างสง่าผ่าเผยของโหมวเจิ้นเฉียง อีกฝ่ายมองตอบพร้อมรอยยิ้มเย้ยหยัน เย่เฟิงรู้ดีว่าผู้ชายคนนี้อยู่ฝ่ายตระกูลหลงและจะไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆ แน่นอน
เ้าหน้าที่ตำรวจติดอาวุธหลายนาขยับเข้าใกล้ประตูห้องส่วนตัวอย่างระมัดระวังเพื่อจับกุมเย่เฟิงและพวกเตาปา
“เธออยู่ที่นี่นะ ฉันไม่เป็ไรหรอก” เย่เฟิงปลอบซูเมิ่งหาก่อนเดินไปข้างหน้าอย่างไม่หวั่นเกรง
“ฉันแนะนำว่าพวกนายอย่าขัดขืนดีกว่า หรือใครกล้ามีปัญหากับพลซุ่มยิงที่รอรับคำสั่งอยู่ก็ไม่ว่ากัน” โหมวเจิ้นเฉียงแสยะยิ้ม พูดราวกับเสือที่จ้องกัดเหยื่อ
“ผู้บัญชาการโหมวช่างน่าเกรงขามเหลือเกิน เกิดเื่ใหญ่จนพลซุ่มยิงต้องเคลื่อนไหวเลยหรือ?” ขณะนั้นเองเสียงทุ้มและทรงพลังดังก้องจากด้านหลังของโหมวเจิ้นเฉียง
ร่างกายของโหมวเจิ้นเฉียงก็ชะงักทันทีที่ได้ยินเสียงนี้ ชายชราคนนี้มาได้อย่างไร ไม่ใช่ว่าคืนนี้มีงานเลี้ยงครบรอบเจ็ดสิบปีของเขาหรือ?
สายตาของทุกคนจับจ้องด้านหลังของโหมวเจิ้นเฉียง ชายชราสวมเสื้อคอจีนสีเทาอ่อนค่อยๆ เดินเข้ามา แม้อายุย่างเลขเจ็ดแล้วแต่ยังดูแข็งแรง
“ท่านหลินครับ ตำรวจกำลังปฏิบัติหน้าที่จับกุมผู้ร้าย ทำไมท่านถึงมาที่นี่...” เพียงครู่เดียวโหมวเจิ้นเฉียงก็เหงื่อท่วมตัว ชายคนนี้ปรากฏตัว แปดสิบเปอร์เซ็นต์ก็เพื่อปกป้องเ้าเย่เฟิงงั้นหรือ? เคยได้ยินว่าคุณปู่ของเย่เฟิงมีความสัมพันธ์อันดีกับตระกูลหลิน พอมองตอนนี้แล้วก็มั่นใจได้ถึงแปดสิบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์เลย!
ในสายตาของคนคนที่อยู่ที่นี่ โหมวเจิ้นเฉียงผู้สง่าผ่าเผยเปลี่ยนจากเสือร้ายเป็แมวป่วยในทันที แต่อีกด้านหนึ่ง หัวใจของเซี่ยผิงฮุยและคนอื่นๆ กลับสั่นสะท้ายิ่งกว่า!
ไม่คิดเลยว่าผู้าุโหลินผู้มีอำนาจและอิทธิพลในเมืองเยี่ยนจิงคนนี้จะมาที่นี่? อยู่ต่อหน้าชายชราแล้วอย่าเอ่ยถึงตำแหน่งของโหมวเจิ้นเฉียงเลย เอาเป็ว่าผู้นำประเทศยังต้องเรียกเขาว่า ‘ผู้าุโ’ เลย!
บรรดาคนที่ปรากฎตัวคืนนี้ ในที่สุดก็มาถึงบุคคลที่อยู่จุดสูงสุดแล้ว!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้