“ไอ้หนู ดูถูกสี่มหาองครักษ์แห่งอาณาจักรเว่ย เ้าต้องตาย!” ไป๋หู่เว่ยกล่าวเสียงเย็น จากนั้นเหวี่ยงหมัดโจมตีเย่เฟิงโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง พลันที่กลางอากาศเหมือนปรากฏเงาเสือขาว และอ้าปากหมายเขมือบทุกสิ่ง
เย่เฟิงเผยสีหน้าเย็นเยียบ พลันพลังปราณพวยพุ่งออกจากร่างก่อนจะหลบหลีกการโจมตีของไป๋หู่เว่ย แล้ววาดฝ่ามือภูผาพิฆาตโจมตี
“หมัดพยัคฆ์คลั่ง!” ไป๋หู่เว่ยแผดเสียงะโพร้อมสำแดงพลังยุทธ์ที่ตนถนัด ก่อนจะเข้าปะทะกับฝ่ามือของเย่เฟิง ตามมาด้วยเสียงะเิดังสนั่นและมีคลื่นทำลายล้างแพร่กระจายไปทั่วบริเวณ ทว่าด้วยการปะทะครั้งนี้ เย่เฟิงสงบนิ่ง แต่ไป๋หู่เว่ยกลับตัวสั่นสะท้าน เืลมปั่นป่วนกระทั่งยังเซถอยหลัง
“โฮก!” เสียงคำรามของเสือพลันดังกึกก้อง นาทีนี้ผู้คนพบว่ามีเงาเสือขาวปรากฏที่ด้านหลังไป๋หู่เว่ย ร่างเรืองแสงระยิบระยับพร้อมแผ่พลังแห่งเสือขาวออกมา ประหนึ่งสัตว์เทพโบราณมาเยือน
“ิญญาาเสือขาวขั้นเขียว!” มีคนจำได้ทันทีว่าิญญาาของไป๋หู่เว่ยอยู่ขั้นอะไรและเป็ประเภทไหน ซึ่งผู้มีิญญาาขั้นเขียวในอาณาจักรจ้าวถือว่าเป็บุคคลอัจฉริยะ นี่เป็การพิสูจน์ความสามารถของไป๋หู่เว่ยอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
“ตายซะเถอะ!” ไป๋หู่เว่ยแผดเสียงะโ ภายใต้แสงเรืองรองของิญญาาเสือขาว ทำให้เขาดูร่างสูงใหญ่ขึ้นสองสามส่วน จากนั้นเขาเหวี่ยงหมัดออกไป ขณะเดียวกันิญญาาเสือขาวที่อยู่ด้านหลังก็เคลื่อนไหวเช่นกัน มันกางกรงเล็บเข้าตะปบเย่เฟิง ซึ่งไม่รู้ว่าแกร่งกว่าการโจมตีของไป๋หู่เว่ยกี่เท่า
ดวงตาของเย่เฟิงเผยประกายเยือกเย็น จากนั้นเขาใช้ย่างก้าวดาวตกผีเสื้อหลบหลีกการโจมตีนั้นของิญญาาเสือขาว ก่อนจะเห็นพลังหอกพวยพุ่งออกจากร่างเย่เฟิง เขาเหยียดนิ้วชี้พร้อมกับมีรังสีหอกถูกยิงออกไป เมื่อไป๋หู่เว่ยเห็นก็ดูใ ก่อนจะยกมือขึ้นต้าน
“อั่ก!” ไป๋หู่เว่ยส่งเสียงร้องโอดครวญ รังสีหอกนั่นทะลวงมือของเขา และยังคงพุ่งมาหาเขาต่อ ฉากนี้ทำผู้คนใไม่น้อยและอดไม่ได้ที่จะเดาดัชนีของเย่เฟิงว่าเป็เคล็ดวิชาอะไร เพียงไม่กี่กระบวนท่า เย่เฟิงผู้นี้ก็ทำไป๋หู่เว่ยาเ็ได้ นี่จะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นรวมชี่ที่ 5 ควรมีพลังเช่นนี้หรือ?
ไป๋หู่เว่ยหน้าถอดสีก่อนจะเบี่ยงตัวหลบรังสีหอกนั่น แต่ว่ารังสีหมัดของเย่เฟิงก็มาถึงแล้วเช่นกัน จึงปิดทางหนีทีไล่ของเขาทันที
“ปัง!” ไป๋หู่เว่ยถูกหมัดของเย่เฟิงซัดจนกระเด็นปลิว
“แกร่งมาก!” ผู้คนต่างต้องตกตะลึง ก่อนหน้านี้พวกเขาคิดว่าเย่เฟิงไม่มีทางเอาชนะไป๋หู่เว่ย แต่บัดนี้ดูแล้วความคิดนั้นเป็เหมือนเื่ตลกขบขัน ไป๋หู่เว่ยอ่อนหัดเมื่อเผชิญหน้ากับเย่เฟิง
“เย่เฟิง เยี่ยมไปเลย!” มีเสียงหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางฝูงชน และยังมีอีกหลายคนที่ทนความหยิ่งผยองของอาณาจักรเว่ยไม่ได้ก็พากันส่งเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจเช่นกัน
จ้าวซินอี๋ยิ้มแย้มอย่างสดใส เห็นทีเมื่อครู่นี้นางจะคิดมากไป นางดูออกว่าเย่เฟิงยังไม่ได้ออกแรงทั้งหมดในการเอาชนะไป๋หู่เว่ย ส่วนจ้าวเยี่ยตาก็เป็ประกาย พลังของเย่เฟิงทำเขาประหลาดใจมาก ลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้นจริง ๆ ปีนั้นจอมพลเย่เจินก็เป็คนเก่งกล้าสามารถมิใช่หรือ
“นี่น่ะหรือไป๋หู่เว่ยแห่งอาณาจักรเว่ย อยู่จุดสูงสุดของขั้นรวมชี่ที่ 8 แต่ดูเหมือนพลังก็งั้น ๆ แหละ” เย่เฟิงหันไปมองเว่ยฉีเทียนแล้วยิ้มหยัน เขาไม่ชอบสร้างปัญหา แต่ั้แ่เขาก้าวเข้ามาในตำหนักสุริยันแห่งนี้ เว่ยฉีเทียนก็ดูถูกเขาไม่หยุด แม้อีกฝ่ายจะเป็องค์ชายแห่งอาณาจักรเว่ย เขาเย่เฟิงก็ไม่จำเป็ต้องอดทน ตุ๊กตาดินยังมีอารมณ์โกรธสามส่วน แล้วนับประสาอะไรกับเด็กหนุ่มที่มีเืเนื้ออย่างเย่เฟิง
เว่ยฉีเทียนเผยหน้าเขียว เขาเองก็นึกไม่ถึงว่าเย่เฟิงจะเอาชนะไป๋หู่เว่ยได้ ทั้งยังเอาชนะได้สบาย ๆ แต่ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ที่มีผู้คนมากมายจากหลายอาณาจักรมารวมตัวกัน ทำให้อาณาจักรเว่ยเขาต้องขายหน้าเป็อย่างมาก
“คนผู้นี้ดูถูกความเกรงขามของอาณาจักรเว่ย ทำผิดจนอภัยให้ไม่ได้ จูเชวี่ยเว่ย ไปฆ่าเขาให้ข้าที!” เย่เฟิงไม่เห็นอาณาจักรเว่ยอยู่ในสายตาจนทำเว่ยฉีเทียนโมโห ถึงกับถ่ายทอดคำสั่งฆ่าเย่เฟิงอย่างโจ่งแจ้ง
“เ้าค่ะ!”
จูเชวี่ยเว่ยนั้นเป็ผู้หญิงหน้าตาสะสวยคนหนึ่ง รูปร่างสมส่วน ผิวพรรณขาวนวล และด้วยการแต่งกายที่สมบูรณ์แบบของนาง ดูแล้วก็ยิ่งทำให้ผู้คนเืเดือดพล่าน
บัดนี้ผู้คนเพิ่งสังเกตเห็นการมีอยู่ของจูเชวี่ยเว่ย พวกเขาต่างมองเนินอกของอีกฝ่ายเป็สายตาเดียวกันด้วยความละโมบ แต่ขณะนั้นจูเชวี่ยเว่ยตวัดสายตามองคนเ่าั้ด้วยท่าทีเย็นเยือก ทำให้คนเ่าั้ละสายตาไป จากนั้นนางก็เดินไปยังใจกลางโถง
“พี่เว่ย ทำเช่นนี้มันไม่มากเกินไปหน่อยหรือ!” จ้าวเยี่ยกล่าว เว่ยฉีเทียนออกคำสั่งสังหารในถิ่นของเขา แม้อาณาจักรจ้าวจะด้อยกว่าอาณาจักรเว่ย แต่ก็ไม่อนุญาตให้เว่ยฉีเทียนมากำเริบเสิบสานที่นี่
“เด็กคนนี้ดูถูกข้า ต้องตายเท่านั้น!” เว่ยฉีเทียนกล่าวเสียงเย็นโดยไม่สนใจคำพูดของจ้าวเยี่ยแม้แต่นิดเดียว ทำจ้าวเยี่ยเผยสีหน้าเย็นเยียบ และอยากพูดบางอย่าง แต่เสียงเย่เฟิงพลันดังขึ้นว่า “องค์ชายรองตอบรับเขาเถิด!”
เสียงนี้ทำให้จ้าวเยี่ย จ้าวซินอี๋ และทุกคนในที่แห่งนั้นต่างต้องประหลาดใจ
หากตอบรับเขา นั่นก็เท่ากับเห็นด้วยที่จูเชวี่ยเว่ยจะลงมือฆ่าเย่เฟิง นี่เป็การรนหาที่ตายชัด ๆ ต้องรู้ว่าจูเชวี่ยเว่ยอยู่จุดสูงสุดของขั้นรวมชี่ เป็ผู้ฝึกยุทธ์ที่เก่งกล้าสามารถ และยังไม่ใช่คนที่ไป๋หู่เว่ยจะต่อกรด้วยได้ หากไป๋หู่เว่ยประมือกับจูเชวี่ยเว่ย เกรงว่าคงรับสามกระบวนท่าของอีกฝ่ายไม่ได้ แต่จะถูกอีกฝ่ายฆ่าตายแทน
“น้องเย่ตรึกตรองให้ดี ๆ!” จ้าวเยี่ยกล่าวพร้อมเผยสีหน้าจริงจัง เขารู้ว่าเื่นี้ร้ายแรงเพียงใด ไม่เช่นนั้นเขาก็คงไม่เกือบหักหน้าเว่ยฉีเทียน
“วางใจเถิด เื่ที่ข้าตัดสินใจก็ย่อมรับผิดชอบผลที่จะตามมาเอง” เย่เฟิงกล่าวพลางแววตาเผยประกายเชื่อมั่น
“ในเมื่อเป็เช่นนี้ ข้าก็จะไม่ยุ่ง” จ้าวเยี่ยกล่าว ส่วนจ้าวซินอี๋ดูเป็กังวลขณะมองเย่เฟิง แต่ครั้งนี้นางเงียบกริบไม่พูดอะไร เพราะนางเชื่อในตัวเย่เฟิง เย่เฟิงกล้าทำเช่นนี้ เขาก็ย่อมมีความมั่นใจของตน
“แกว่งเท้าหาเสี้ยนเสียจริง ในเมื่อเ้าไม่คัดค้าน เช่นนั้นศึกต่อไปของเ้ากับจูเชวี่ยเว่ยก็คือศึกเป็ตาย คิดว่าไง?” เว่ยฉีเทียนกล่าว เขารู้ดีว่าพลังของจูเชวี่ยเว่ยแข็งแกร่งเพียงใด นางฆ่าเย่เฟิงได้ภายในสองกระบวนท่าอย่างแน่นอน
เย่เฟิงมองเว่ยฉีเทียนด้วยรอยยิ้มเยือกเย็น ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ไยต้องยุ่งยากเช่นนั้นเล่า หากข้าฆ่านาง ก็ยังต้องสะสางอีกปัญหา มิสู้ให้พวกเขาเข้ามาพร้อมกัน จะได้ไม่ต้องเสียเวลา!”
“เปรี้ยง!” เมื่อเหล่าผู้คนได้ยินต่างต้องใ รู้สึกเสียงของเย่เฟิงราวกับเป็เสียงสายฟ้าที่ผ่าลงใจกลางศีรษะของพวกเขา ทำให้ในหัวพวกเขากลายเป็ขาวโพลน
“เย่เฟิงผู้นี้บ้าไปแล้วหรือ จูเชวี่ยเว่ยไม่ใช่คนที่เขาจะจัดการได้ง่าย ๆ แต่ไม่นึกว่าเขาจะใจกล้า ถึงกับให้ชิงหลงเว่ยและจูเชวี่ยเว่ยขึ้นเวทีพร้อมกัน!” ผู้คนต่างตกตะลึงขณะมองเงาร่างที่ยืนอยู่ตรงใจกลางโถงด้วยสายตาเหลือเชื่อ
“หมอนี่” จ้าวซินอี๋กะพริบตาปริบ ๆ พร้อมตัวสั่นสะท้าน นางรู้ดีว่านิสัยของเย่เฟิงบ้าระห่ำมากแค่ไหน แต่ก็ไม่คิดว่าเย่เฟิงจะบ้าได้ขนาดนี้ เขาคนเดียวท้าสองมหาองครักษ์แห่งอาณาจักรเว่ยที่แข็งแกร่งที่สุด คำว่าโอหังมิอาจอธิบายการกระทำของเย่เฟิงได้แล้ว
จ้าวเยี่ยตกตะลึงไม่แพ้กัน ในฐานะองค์ชาย เขาพบเจออัจฉริยะมาตั้งมากมาย แต่ยังไม่เคยพบเจอคนที่บ้าระห่ำอย่างเย่เฟิงมาก่อน
“นี่เ้าอยากตายเร็วถึงเพียงนี้เชียวหรือ?” เว่ยฉีเทียนแปลกใจก่อนจะแสยะยิ้ม
“ใครอยากตายเดี๋ยวก็รู้!” เย่เฟิงกล่าวขณะมองเว่ยฉีเทียน
“ดี ดีมาก คนผู้นี้อยากตาย เ้ากับจูเชวี่ยไปฆ่าเขา ให้เขารู้ว่าสิ่งที่เขาพูดเมื่อครู่มันโง่เง่ามากเพียงใด!” เว่ยฉีเทียนเผยสีหน้าดูถูก ก่อนจะกล่าวกับชิงหลงเว่ยที่อยู่ด้านหลังเช่นนั้น
“อยากตายมากนัก เช่นนั้นเ้าก็ไปสนองความ้าให้สมใจเขาหน่อย!” เว่ยซินหย่ากล่าว
ฉากนี้ทำให้มู่เยี่ยนแสยะยิ้ม และแทบรอไม่ไหวที่จะเห็นเย่เฟิงถูกชิงหลงเว่ยและจูเชวี่ยฆ่าตาย
ชิงหลงเว่ยเดินไปข้างหน้า ก่อนจะเคียงบ่าเคียงไหล่กับจูเชวี่ยเว่ย เขามองเย่เฟิงแล้วกล่าวว่า “เ้าทึ่ม ข้าจะทำให้เ้าได้รู้ว่าพลังของผู้ฝึกยุทธ์จุดสูงสุดของขั้นรวมชี่ที่แท้จริงมันทรงอานุภาพมากเพียงใด!”
“งั้นก็ขึ้นอยู่กับพลังของเ้าแล้ว!” เย่เฟิงแสยะยิ้ม พลันหอกัเงินประกายปรากฏในมือพร้อมตัวหอกเปล่งแสงเจิดจ้า ขณะเดียวกันพลังปราณพวยพุ่งออกจากร่างเขา ก่อนชุดเกราะเทพาจะเข้าห่อหุ้มร่างเพื่อเตรียมรับมือกับผู้ฝึกยุทธ์จุดสูงสุดของขั้นรวมชี่สองคน
“ตาย!” เย่เฟิงแผดเสียงะโก่อนจะแทงหอกออกไป พลังรังสีหอกกลายเป็ลำแสงแห่งการทำลายล้าง หมายทะลวงลำคอของชิงหลงเว่ย
ชิงหลงเว่ยเผยสีหน้าไม่ชอบใจ พลันดาบัครามปรากฏในมือ ก่อนจะตวัดโจมตีทันทีราวกับมีัสองตัวพุ่งทะยานก็ไม่ปาน
“เคร้ง!” เสียงโลหะกระทบดังกังวาน ดาบัครามของชิงเว่ยเข้าปะทะกับรังสีหอกของเย่เฟิง ตามมาด้วยคลื่นทำลายล้างแพร่กระจายไปทั่วบริเวณ การปะทะครั้งนี้พอฟัดพอเหวี่ยงกัน
“ชิ้ง!” จูเชวี่ยเว่ยตวัดกริชหงส์แดงไปที่ลำคอของเย่เฟิงหมายปลิดชีวิต
เย่เฟิงพลันใช้ย่างก้าวดาวตกผีเสื้อ พลังดาราปกคลุมร่างกาย แผนที่ดาวขนาดใหญ่ปรากฏและมีลวดลายโคจรบนนั้น จากนั้นมันนำทางเย่เฟิงก่อนจะหลบหลีกการโจมตีของจูเชวี่ยเว่ย
“หอกดุจั!” เย่เฟิงแผดเสียงะโ เขาเคลื่อนไหวดุจเงาพร้อมกับแทงหอกที่ราวกับเทพัออกไป
“ัครามนภา!”
ชิงหลงเว่ยกวัดแกว่งดาบโจมตี ประหนึ่งสองเงาร่างัครามที่อยู่บนตัวดาบมีชีวิต ก่อนจะเข้าปะทะกับรังสีหอกดุจเทพันั่น ตามมาด้วยเสียงะเิดังสนั่นหวั่นไหว ัทั้งสามแตกะเิ ชิงหลงเว่ยและเย่เฟิงต้องถอยหลังไปหนึ่งก้าว
