วันรุ่งขึ้น หลังจากขายปลาไหลเสร็จ สวี่ฮุ่ยก็โทรหาลู่ฉี่เสียน เธอตั้งใจจะเริ่มจีบเขาด้วยการขอบคุณสำหรับของขวัญวันเกิด
หลูเจียิ่เดินผ่านห้องทำงานของลู่ฉี่เสียน ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังไม่หยุด แต่ลู่ฉี่เสียนไม่อยู่ เธอนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เขาหยุด
หลูเจียิ่เลยเดินเข้าไปรับสาย “สวัสดีค่ะ กองบังคับการตำรวจมณฑล หน่วยสืบสวนคดีอาญาที่ 1 ไม่ทราบว่าติดต่อเื่อะไรคะ?”
ปลายสาย สวี่ฮุ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง “สวัสดีค่ะ ฉันอยากคุยกับหัวหน้าลู่ รบกวนให้เขารับสายหน่อยได้ไหมคะ?”
หลูเจียิ่ได้ยินเสียงผู้หญิง แถมยังฟังคุ้นหู คล้ายกับเสียงของนางจิ้งจอกที่ชื่อสวี่ฮุ่ย
เธอก็ถามอย่างระแวดระวัง “คุณเป็ใครคะ?”
สวี่ฮุ่ยชะงักอีกครั้ง นึกว่านี่เป็กฎระเบียบของหน่วยสืบสวน เธอเลยบอกชื่อตัวเองอย่างตรงไปตรงมา “ฉันชื่อสวี่ฮุ่ยค่ะ”
เป็เธอจริง ๆ ด้วย!
ดวงตาของหลูเจียิ่ฉายแววเป็ปรปักษ์ “หัวหน้าลู่ไม่อยู่ค่ะ คุณมีอะไรฝากฉันบอกได้”
สวี่ฮุ่ยปฏิเสธ “ไม่เป็ไรค่ะ”
“หัวหน้าลู่จะกลับมาเมื่อไหร่คะ? ฉันจะโทรมาใหม่ตอนนั้น”
“เื่นี้บอกไม่ได้หรอกค่ะ หน่วยสืบสวนต้องออกไปทำงานข้างนอกบ่อยเพื่อสืบคดี”
สวี่ฮุ่ยส่งเสียง “อ้อ” อย่างผิดหวัง ก่อนวางสายแล้วขึ้นรถกลับบ้าน
เธอลงรถแถวตำบลเถาฮวาเช่นเคย
ยังไม่ทันเดินไปไกล ก็ได้ยินเสียงคนเรียกเธอ
เป็เสียงของจูฉีเจี้ยน
สวี่ฮุ่ยขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจปนคลื่นไส้ เธอแสร้งทำเป็ไม่ได้ยินแล้วเดินต่อไป
ผู้ชายสารเลวที่ชั่วช้าสามานย์แบบนี้ เธอไม่อยากข้องแวะด้วยไปตลอดชีวิต
เพราะมันน่าขยะแขยง!
ยัยบ้ากล้าเมินฉันเหรอ! ไม่คิดถึงตอนที่เคยเลียแข้งเลียขาฉันเหมือนหมาบ้างเลยรึไง!
จูฉีเจี้ยนโกรธขึ้นมาฉับพลัน เขาวิ่งตามไปดึงสวี่ฮุ่ยอย่างแรง แล้วถามด้วยติดโมโห “ฉันเรียก ทำไมไม่ตอบ?”
ถึงจะรู้ว่าสวี่ฮุ่ยไม่ได้ชอบเขาแล้ว และรู้ดีว่าต้องเอาใจสวี่ฮุ่ยเพื่อสวี่เยว่
แต่จูฉีเจี้ยนเคยชินกับการออกคำสั่งควบคุมเบี้ยล่างอย่างสวี่ฮุ่ย เขาจึงเปลี่ยนแปลงตัวเองในทันทีไม่ได้
สวี่ฮุ่ยนึกถึงไอ้สารเลวคนนี้ที่ทั้งชาติที่แล้วและชาตินี้เอาแต่ใช้เธอปรนนิบัติย่าของมัน ก็โมโหจนแทบกระอัก
แล้วไอ้สารเลวยังกล้าพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงแบบนี้อีก
เหมือนกับว่าถ้าเธอไม่สนใจเขา ฟ้าคงจะผ่าลงมาตาย
เศษสวะแบบมัน เอาความหน้าด้านมาจากไหนกัน!
สวี่ฮุ่ยโกรธจนเืขึ้นหน้า เธอเงื้อมมือตบหน้าจูฉีเจี้ยนฉาดใหญ่ แล้วตวาดว่า “ไอ้ลามก ยังจะกล้าแตะฉันอีกไหม?”
“ใครลามก! เธอใส่ร้ายป้ายสีฉัน!” จูฉีเจี้ยนโกรธจนหน้าแดงก่ำ ในขณะเดียวกันก็รู้สึกตื่นตระหนก
ถูกตราหน้าว่าเป็คนลามก ไม่ใช่เื่สนุกเลย
“ฉันว่าแล้วว่านายต้องไม่ยอมรับ!”
สวี่ฮุ่ยเหวี่ยงถังเปล่าในมือฟาดเข้าที่หัวของจูฉีเจี้ยนอย่างเต็มแรง
เสียงดัง ‘โพล๊ะ!’ ถังพลาสติกแตกกระจายเป็เสี่ยง ๆ
สวี่ฮุ่ยร้องะโ “โรคจิต! ช่วยจับคนโรคจิตที!”
จูฉีเจี้ยนเห็นดังนั้น ไม่สนใจแม้แต่ใบหน้าที่ถูกเศษถังพลาสติกบาดจนเป็แผล เขารีบวิ่งหนีทันที
ไม่วิ่งไม่ได้ เขากลัวว่าจะถูกจับในข้อหากระทำอนาจาร ถึงตอนนั้นต่อให้ะโแม่น้ำเหลืองล้างมลทินก็คงไม่มีใครเชื่อ
สวี่ฮุ่ยวิ่งตามอย่างไม่ลดละ พลางะโ “จับคนโรคจิต!”
ลู่ฉี่เสียนขับรถจี๊ปมาตำบลเถาฮวาั้แ่เช้าตรู่เพื่ออธิบายเื่เข้าใจผิดให้สวี่ฮุ่ยฟัง
บังเอิญเห็นหญิงสาววิ่งไล่ตามชายร่างเตี้ยหน้าตาอัปลักษณ์ไปทั่วถนน แล้วยังะโว่า “จับคนโรคจิตที!”
เขาก็หน้าดำทะมึน จอดรถแล้วลงมาจากรถ ก้าวเท้ายาว ๆ ไปหาจูฉีเจี้ยน จากนั้นก็เตะเข้าที่อกเขา
จูฉีเจี้ยนถูกเตะจนตัวลอยไปไกลหลายเมตร นอนพังพาบอยู่กับพื้น ลุกไม่ขึ้นชั่วขณะ
ตอนนี้สวี่ฮุ่ยวิ่งมาถึงตรงหน้าแล้ว เธอหอบหายใจด้วยความแปลกใจปนดีใจ “ขอบคุณค่ะ พี่ลู่”
สีหน้าของลู่ฉี่เสียนดูน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก “เขาทำอะไรเธอ?”
“เมื่อกี้...เมื่อกี้เขา...จับก้นฉัน...”
ต่อหน้าชายในดวงใจ สวี่ฮุ่ยเขินอายมากที่ต้องพูดโกหกแบบนี้ ใบหน้าแดงก่ำไปหมด
แต่วันนี้ไอ้สารเลวจูวอนหาเื่เธอถึงที่ เธอก็ต้องจัดการให้สาสม ขอแก้แค้นทั้งใหม่และเก่าพร้อมกัน เพราะฉะนั้นเธอจึงจำเป็ที่ต้องกุเื่โกหกนี้!
เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของลู่ฉี่เสียนพานน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม เหมือนกับสมบัติล้ำค่าของเขาถูกมือสกปรกแตะต้อง
เขารู้สึกเสียใจที่เมื่อกี้เตะเบาไปหน่อย
“เธอใส่ร้ายฉัน!” จูฉีเจี้ยนเช็ดเืตรงมุมปาก พยายามลุกขึ้นจากพื้นอย่างยากลำบาก พลางะโโวยวายด้วยความตระหนก
ลู่ฉี่เสียนล้วงกุญแจมือออกมา ล็อกข้อมือของจูฉีเจี้ยนไว้ด้านหลัง แล้วเอ่ยน้ำเสียงเ็า “ผู้หญิงเขาใส่ร้ายนายหรือไม่ ทางการจะสืบสวนเอง ไปสถานีตำรวจกับฉัน!”
ลู่ฉี่เสียนควบคุมตัวจูฉีเจี้ยน ไปยังสถานีตำรวจตำบลเถาฮวาพร้อมกับสวี่ฮุ่ย
หลี่ไห่เห็นเข้าจึงถาม “เกิดเื่อะไรขึ้น?”
ลู่ฉี่เสียนเล่าเหตุการณ์คร่าว ๆ ให้เขาฟัง
หลี่ไห่และเพื่อนร่วมงานอีกคนแยกกันสอบปากคำสวี่ฮุ่ยและจูฉีเจี้ยน
สองคน คนหนึ่งบอกว่าตนเองถูกใส่ร้าย อีกคนหนึ่งยืนยันว่าอีกฝ่ายเป็พวกโรคจิต
หลี่ไห่ทิ้งสวี่ฮุ่ยและจูฉีเจี้ยนไว้ในห้องสอบสวน แล้วเดินออกมาคนเดียว
ลู่ฉี่เสียนถาม “สอบสวนไปถึงไหนแล้ว?”
หลี่ไห่เล่าสถานการณ์ให้เขาฟัง “ตอนนี้กำลังไปหาหลักฐานครับ”
ลู่ฉี่เสียนพูด “ฉันไปกับนายด้วย”
ทั้งสองมาถึงสถานีขนส่งตำบลเถาฮวา สอบถามพ่อค้าแม่ค้าแผงลอยแถวนั้น
ในบรรดาพ่อค้าแม่ค้าเจ็ดราย มีหกรายยืนยันว่าจูฉีเจี้ยนเป็ฝ่ายลวนลามก่อน สวี่ฮุ่ยค่อยไล่ตามไปตีเขาทีหลัง
หลี่ไห่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเที่ยงตรง ซักไซ้ถามอีกครั้ง “พวกคุณเห็นชายคนนั้นลวนลามกับตาตัวเองหรือเปล่า? เขาลวนลามยังไงครับ?”
คำให้การของพ่อค้าแม่ค้าหลายรายคล้ายคลึงกัน
พวกเขาได้ยินเสียงตบจึงเงยหน้าขึ้น เห็นมือของจูฉีเจี้ยนกำลังหดกลับจากตัวของสวี่ฮุ่ย ตรงนั้น...ดูเหมือนจะเป็ก้น
ลู่ฉี่เสียนและหลี่ไห่สบตากัน จุดนี้ตรงกับที่สวี่ฮุ่ยกล่าวทุกประการ
สาเหตุที่พ่อค้าแม่ค้าเ่าั้พูดเช่นนี้ ความจริงเกิดจากการด่วนสรุปเอาเอง
พวกเขาได้ยินเสียงตบ พอเงยหน้าขึ้นมา ก็ได้ยินสวี่ฮุ่ยดุด่าจูฉีเจี้ยน
และเห็นมือจูฉีเจี้ยนหดกลับไป เลยทึกทักไปเองว่าจูฉีเจี้ยนจับก้นสวี่ฮุ่ย
พ่อค้าแม่ค้าเ่าั้ยังบอกอีกว่า พวกเขาเห็นสวี่ฮุ่ยมารอรถที่นี่แทบทุกวัน ไม่เคยมีเื่ทะเลาะกับใคร วันนี้เป็ครั้งแรก
หลี่ไห่ให้พ่อค้าแม่ค้าเ่าั้ประทับลายนิ้วมือหรือเซ็นชื่อในบันทึกที่เขาทำไว้ พ่อค้าแม่ค้าเ่าั้ก็ทำตามโดยไม่ลังเล
ส่วนพ่อค้าแม่ค้าอีกรายหนึ่งกำลังยุ่งอยู่กับการค้าขาย ไม่ได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด จึงไม่ได้ให้ปากคำ
ทั้งสองกลับไปที่สถานีตำรวจตำบลเถาฮวา หลี่ไห่โยนหลักฐานที่สืบสวนได้ลงตรงหน้าจูฉีเจี้ยน พร้อมกับพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“อย่าคิดว่า่ปราบปรามเข้มงวดผ่านพ้นไปแล้ว ข้อหากระทำอนาจารจะไม่ร้ายแรงนะ ฉันบอกนายไว้เลย โทษฐานอนาจารต้องโดนควบคุมตัวอย่างน้อยสามเดือน!”
จูฉีเจี้ยนร้องไห้น้ำตาไหลพราก ร้องขอความเป็ธรรม “ผมไม่ได้ลวนลามจริง ๆ ! พวกเขาใส่ร้ายผม!”
หลี่ไห่พูดอย่างเ็า “ทำไมพวกเขาต้องใส่ร้ายนายด้วย? มีเื่บาดหมางกับนายกันหมดเลยเหรอ?”
จูฉีเจี้ยนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ จำต้องพลิกลิ้น “คุณตำรวจ ผมติดคุกไม่ได้ ผมยังต้องดูแลย่าที่เป็อัมพาตติดเตียง”
“ถ้าผมติดคุก ใครจะดูแลย่าที่เป็อัมพาตของผม ย่าผมได้อดตายแน่ ๆ !”
หลี่ไห่พูดขัดอย่างมีเหตุผล “ตอนที่นายทำเื่เลวทราม ทำไมไม่คิดถึงย่านายบ้างล่ะ?”
“ตอนนี้เอาท่านมาเป็ข้ออ้างเพื่อหนีความผิด นายคิดง่ายเกินไปแล้ว”
“ถ้าหากอาชญากรทุกคนต่างก็หาข้ออ้างเพื่อหลบเลี่ยงบทลงโทษตามกฎหมาย แล้วจะมีกฎหมายไว้ทำไม?”
“อีกอย่าง ฉันไม่ได้ให้โอกาสนายหรือไง? ฉันให้นายสารภาพตามตรงเพื่อลดหย่อนโทษ นายไม่ยอมฟังเอง!”
“ถ้านายสารภาพตามตรงั้แ่แรก อาจจะไม่ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ตอนนี้มันสายไปแล้ว!”
จูฉีเจี้ยนอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา