เย่เฟิงเงยหน้า สายตาจับจ้องผู้าุโที่เพิ่งพบกันครั้งแรกตรงหน้า
หลินหงชวน ผู้าุโตระกูลหลินแห่งเมืองเยี่ยนจิง บุคคลสำคัญที่มีส่วนร่วมสถาปนาประเทศ อีกทั้งลูกหลานรายล้อม จึงจัดตั้งเป็ตระกูลขนาดใหญ่ผู้กุมอำนาจในเมืองหลวง แม้ตอนนี้ชายชราจะไม่ได้ดำรงตำแหน่งอย่างเป็ทางการ แต่ก็ไม่มีใครกล้าเพิกเฉยอิทธิพลของเขา ยิ่งกว่านั้นลูกชายคนโตของเขายังดำรงตำแหน่งสำคัญในรัฐบาลกลางชุดปัจจุบันอีกด้วย
เขาค่อยๆ ก้าวออกจากลิฟต์พลางกวาดสายตามองโดยรอบ ยิ่งทำให้ทุกคนกระวนกระวาย ทุกย่างก้าวของเขาส่งผลให้กลุ่มคนถึงกับหายใจติดขัด นอกจากคนส่วนน้อยก็ไม่มีใครรู้ว่าทำไมผู้าุโหลินจึงปรากฏตัวที่นี่
ที่นี่มีคนที่ทำให้บุคคลยิ่งใหญ่เช่นนี้สนใจด้วยหรือ?
“ท่านปู่ ช้าลงหน่อยเถอะครับ” ชายหนุ่มผู้มีรอยยิ้มประดับบนใบหน้า สวมใส่เครื่องแต่งกายหรูหราเดินตามหลังผู้าุโหลิน ข้อมือของเขาสวมนาฬิกา Patek Philippe เรือนสวย นี่ไม่ใช่หลินซิวเหวินที่เย่เฟิงเจอเมื่อครั้งก่อนหรอกเหรอ?
ณ ตอนนี้มีหลินซิวเหวินคนเดียวที่เดินตามหลินหงชวนมา ต่อให้มีเพียงคุณชายสามตระกูลหลินก็ทำให้ผู้คนหวาดกลัวจนตัวสั่นได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้าุโหลินตรงหน้า
ลูกค้ากลุ่มอื่นต่างพากันเงียบเสียง ยืนตรงหน้าประตูอย่างมีมารยาท ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มารับประทานอาหารที่ภัตตาคารจิงเฉิงล้วนมีสถานะทางสังคมที่ดีในระดับหนึ่ง แค่มองปราดเดียวก็พอรู้สถานะของผู้าุโหลินทันที
“เสี่ยวโหมว ฉันอยู่ที่นี่แล้ว นายก็ถอนกำลังกลับไปเถอะ” ผู้าุโหลินหยุดยืนข้างโหมวเจิ้นเฉียง ก่อนตบไหล่อีกฝ่ายพร้อมรอยยิ้ม
โหมวเจิ้นเฉียงต่อสู้เพื่อตระกูลหลง ส่วนผู้าุโหลินช่วยเหลือตระกูลเย่ ทั้งสองฝ่ายไม่ลงรอยกัน เพียงแต่ความแตกต่างระหว่างฐานะของทั้งสองฝ่ายมากเกินไป เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้าุโหลิน แค่คำเดียวโหมวเจิ้นเฉียงก็ยังไม่กล้าเอ่ยปาก
“ถอนกำลัง!” โหมวเจิ้นเฉียงไม่พูดมากความ เพียงปรายตามองเย่เฟิงด้วยสายตาเ็าก่อนหมุนตัวเดินจากไป
ต่อให้เป็เสือก็ถูกผู้าุโหลินทำให้เชื่องได้อย่างง่ายดาย
เย่เฟิงยืนอยู่ที่เดิม จดจำหน้าเหลี่ยมของโหมวเจิ้นเฉียงที่แสดงสีหน้าชั่วร้ายแล้วทดไว้ในใจ ต้องมีสักวันที่ได้เอาคืน
หลังจากหันมองผู้าุโหลินและหลินซิวเหวิน คิ้วพลันขมวด เขาไม่เคยคิดพึ่งพาตระกูลหลินเพื่อแก้ปัญหา ทว่าอีกฝ่ายกลับปรากฏตัวโดยไม่คาดคิด
หลิวลี่ฮุยที่อยู่ด้านหลังเย่เฟิงเมื่อเห็นสถานการณ์คลี่คลายก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาคาดแล้วว่าเื่ต้องลลงเอยอย่างนี้ แต่ผู้าุโหลินถึงกับมาด้วยตัวเอง มันไม่เกินคาดไปหน่อยหรือ? เขายังเชื่อว่าเย่เฟิงขอความช่วยเหลือจากหลินหงชวน
ซูเมิ่งหานที่อยู่ข้างกายเย่เฟิงกระวนกระวายเล็กน้อย เธอไม่รู้จักผู้าุโหลิน ทว่ารู้จักหลินซิวเหวินผู้เป็ลูกชายมหาเศรษฐีแห่งเมืองเยี่ยนจิง จากการมองปฏิกิริยาของคนรอบข้าง ไม่นานก็พอจะเดาสถานะของผู้าุโหลินได้ เธอไม่รู้ว่าชายชรามาทำอะไรที่นี่ หรือแม้แต่เขาก็ยัง้าจัดการเย่เฟิง หากเป็เช่นนั้น... เธอไม่กล้านึกถึงผลลัพธ์ที่จะตามมา
“ออกไปเถอะ ไม่เป็ไร” เย่เฟิงโบกมือให้พวกเตาปาเก็บอาวุธ เขารู้ว่าเพียงผู้าุโหลินปรากฏตัวก็ไม่มีใครกล้าลงมืออีก
ถึงจะไม่เต็มใจนัก แต่เย่เฟิงก็ต้องยอมรับว่าเมื่อเป็เช่นนี้ก็สามารถคลี่คลายปัญหาได้อย่างง่ายดาย ซูซิ่นชาง ตระกูลเซี่ย หรือแม้แต่แก๊งอสรพิษ์... ทั้งหมดล้วนไม่เป็ปัญหา เพียงรู้ว่าเขาเป็ว่าที่สามีของหลานสาวสุดที่รักของผู้าุโหลิน ส่วนเย่เฟิงจะยอมรับหรือไม่นั่นก็เป็อีกเื่หนึ่ง
เตาปางุนงง แต่ในเมื่อเย่เฟิงเป็คนพูดเอง เขาก็เพียงโบกมือให้แก๊งอสรพิษ์ทั้งหมดถอยกลับไปยืนด้านหลังของเย่เฟิง
คนของตระกูลเซี่ยและทหารเ่าั้ต่างรวมตัวด้วยความประหลาดใจ เมื่อเห็นผู้าุโหลินเข้าใกล้มาเรื่อยๆ แต่ละคนก็เริ่มกังวลมากขึ้น แม้แต่คนหยิ่งผยองอย่างเซี่ยิ่ยังทำได้เพียงปิดปากเงียบ ไม่กล้าส่งเสียงแม้แต่น้อย
ขณะผู้าุโหลินขยับเข้าใกล้ เย่เฟิงก็ััได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศรอบตัว ไม่... ไม่ใช่เพียงบรรยากาศเท่านั้น แม้แต่ลมหายใจก็ด้วย!
สีหน้าของเย่เฟิงเริ่มเคร่งเครียด แม้ตอนนี้ตนยังไม่มีจิตหยั่งรู้ แต่ก็พอััได้ว่าบรรยากาศที่แผ่จากตัวผู้าุโหลินราวกับมีพลังภายในอันเลือนรางอยู่
ไม่ใช่แค่หลินหงชวน แต่ยังมีคนอื่นคอยปกป้องเขา!
สักพักเย่เฟิงก็เข้าใจ ไม่แปลกที่หลินหงชวนจะกล้ามากับหลินซิวเหวินเพียงสองคน ทั้งยังเข้าใกล้แก๊งมาเฟียที่ถือมีดมาเชเต้ครบมือโดยไม่เกรงกลัว
ราวกับเวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า แต่แท้จริงเป็เพียงชั่วครู่เท่านั้นที่หลินหงชวนเดินมาหาชายหนุ่ม
“เย่เฟิง? นี่ถือเป็ครั้งแรกที่เจอกันเลยนะ เธอพอจะรู้ไหมว่าฉันเป็ใคร?” หลินหงชวนยืนห่างจากเย่เฟิงสามเมตรพลางส่งยิ้มให้เขา ก่อนถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“คุณคือหลินหงชวนสินะครับ” เย่เฟิงมองตอบแล้วเอ่ยคำพูดชวนใ!
เพียงคำพูดเดียวก็ทำให้คนทั้งหมดตกตะลึง เ้าเด็กคนนี้ถึงกับกล้าเอ่ยชื่อผู้าุโหลินออกมาตรงๆ เขารนหาที่ตายหรือ? เพียงแต่ทำไมผู้าุโถึงพูดกับเขาด้วยความสุภาพราวกับเป็เพื่อนเก่า นี่ไม่ดูเป็เื่น่าเหลือเชื่อเกินไปหน่อยเหรอ?
“นี่! อย่าคิดว่านายเป็หลานของเพื่อนท่านปู่แล้วจะลามปามแบบนี้ได้นะ!” หลินซิวเหวินที่ยืนอยู่ข้างผู้าุโหลินถลึงตามองเย่เฟิง เขารู้สถานะของคนตรงหน้าดี แต่ชัดเจนไม่เห็นอีกฝ่ายอยู่ในสายตา เวลานี้ชายหนุ่มเพียงรู้สึกคุ้นหน้าเย่เฟิงเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
“อ่าฮะ ขออภัยด้วยครับ แต่คุณปู่ของผมแนะนำคุณให้ผมรู้จักแบบนี้” เย่เฟิงไม่สนใจหลินซิวเหวิน เขาเพียงอธิบายกับผู้าุโหลิน
“ฮ่าๆ ไม่เป็ไร ไม่ผิด... ไม่ผิดเลย นิสัยตาเฒ่านั่นก็แบบนี้แหละ” ผู้าุโหลินไม่เพียงไม่โกรธ ทว่ากลับหัวเราะอย่างชอบใจ ในแววตามีเพียงความชื่นชม เขาไม่ได้เห็นคนหนุ่มแบบนี้มาหลายสิบปีแล้ว เฮ้อ... ตอนนี้ทุกคนต่างมองเขาราวกับจักรพรรดิ เขาเป็เพียงชายชราคนหนึ่งแต่ถูกสรรเสริญเยินยอจนเขาอยากจะอาเจียน
เพียงบทสนทนาเรียบง่ายก็แสดงสถานะของเย่เฟิง
ที่แท้เ้าเด็กนี่ก็เป็หลานชายเพื่อนเก่าของผู้าุโหลิน! และดูเหมือนผู้าุโหลินจะมีไมตรีที่ดีต่อเพื่อนคนนั้นมาก!
ทุกคนถึงกับตกตะลึง!
ซูเมิ่งหานเกาะแขนเย่เฟิงแน่น สีหน้าประหลาดใจคล้ายไม่อยากจะเชื่อ ความจริเย่เฟิงมีตระกูลหลินแห่งเมืองเยี่ยนจิงหนุนหลัง! น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว! ไม่แปลกใจที่เขาสามารถสงบนิ่งได้ตลอด ไม่ว่าจะเจออะไรล้วนไม่ต้องกังวล
เด็กสาวหยิกเขาเพราะไม่พอใจเล็กน้อย เื่แบบนี้เขากลับไม่บอกเธอ น่าโมโหเกินไปแล้ว
ขณะเดียวกันเตาปาที่ยืนอยู่ด้านหลังของเย่เฟิงอย่างนอบน้อมก็แสดงสีหน้าใ เขารู้จักเื้ัของผู้าุโตรงหน้าดี ไม่คิดเลยว่าเย่เฟิงจะมีความสัมพันธ์อันดีกับผู้าุโตระกูลหลิน ถือเป็เื่น่ายินดีมาก! ชายหน้าบากไม่หวังว่าจะขยายอิทธิพลของแก๊งอสรพิษ์ ทว่าปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะล้างแค้นผู้ฝากรอยแผลเป็บนหน้าของตนเมื่อสิบปีก่อน เห็นได้ชัดว่าเื้ัของเย่เฟิงแข็งแกร่งมากเท่าไรก็ยิ่งมีประโยชน์มากเท่านั้น
ผู้บังคับการหลิวลี่ฮุยตื่นเต้นจนเก็บอาการไม่อยู่ เขาแทบจะลุกขึ้นมาเต้นอยู่แล้ว ครั้งนี้ถือว่าเขาเลือกข้างถูก!
อย่างไรก็ตามเมื่อมีฝั่งหนึ่งยินดี ย่อมมีอีกฝั่งกระวนกระวาย
เมื่อซูซิ่นชาง เซี่ยผิงฮุย เซี่ยเฉิงเย่ เซี่ยิ่และคนอื่นๆ เห็นเย่เฟิงและผู้าุโสนทนากันถูกคอ ก็แสดงสีหน้าหลากหลายอารมณ์
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้