“อ่อ..รุ่งเช้า ข้าจะเตรียมตัวอย่างดี แล้วข้าจะนำอาหารเผื่อท่านด้วย” พูดจบหญิงสาวก็ส่งยิ้มหวานให้เขา แล้วเดินกลับไป พร้อมสายตาแปลกใจของโม่โฉวจะทอดมองนางจนลับสายตา
ขณะเดินทางออกจากวังหลวง เสียงฝีเท้าของรถม้าควบไปอย่างสม่ำเสมอ คราวนี้ไม่ต้องพักกินอาหาร เพราะเสี่ยวเฟยหอบเอาขนมและหมั่นโถวจากในวังมามากพอควร นางยื่นให้โม่โฉวทว่าชายหนุ่มไม่รับ ก่อนจะเปิดม่านรถม้าแล้วยื่นให้เจ่าเจา
“รับไปสิ อีกนานกว่าจะถึง” เจ่าเจารับไปอย่างงง ๆ ก่อนหญิงสาวจะหันมายิ้มหวานให้สามี
“ไม่กินแน่รึเ้าคะ” เขาแน่นิ่งไม่ตอบ พร้อมมือของเสี่ยวเฟยจะควักเอาหมั่นโถวขึ้นมาเคี้ยวหมุบหมับ
นับจากนี้ไม่มีอะไรต้องกลัวเมื่อเขารับปากว่าจะไม่ทำร้าย นางก็จะอยู่ที่จวนได้อย่างปลอดภัย ยังคงรักษาหัวของนางไว้ได้อย่างดีตลอดรอดฝั่ง หลังจากกินอิ่มนางก็เริ่มหาวหวอดออกมา ก่อนจะเผลองีบหลับ
โม่โฉวไม่อาจทำใจได้ เขายังคงหยิบเอาแหวนของเซียนเยว่ขึ้นมามองเป็ระยะ ๆ ความคิดถึงควบแน่นอยู่ในจิตไม่อาจปล่อยวาง เสี่ยวเฟยแอบหรี่ตามองแล้วเก็บรายละเอียดอย่างเงียบ ๆ
“แบบนี้ ข้าคงต้องหาเมียใหม่ให้เขาเร็ว ๆ จะได้ลืมความทุกข์ใจที่สูญเสียลูกเมียไป” ความคิดของหญิงสาวผุดขึ้น ก่อนนางจะค่อย ๆ เผลอหลับไปในที่สุด
หลังจากกลับถึงจวนสกุลจ้าว ทุกคนแยกย้ายกันกลับเรือน สายตาของฮูหยินเสี่ยวเฟย มองสามีที่เดินกลับเรือนไปด้วยความเห็นใจ ทว่าอีกฝ่ายไม่แม้แต่ชายตาหันมอง ซึ่งเขาแสดงออกเช่นนี้ นับจากวันแรกที่รับนางเข้ามาเป็ภรรยา
“เข้าเรือนเถิดเ้าค่ะ” มู่เลี่ยนพูดกับนายหญิงด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนหญิงสาวจะตัดใจแล้วหันกลับเข้าเรือนมา จัดแจงให้มู่เลี่ยนเก็บข้าวของรวมถึง ตระเตรียมชุดใหม่ที่เพิ่งได้มาจากวังหลวง
“ชุดสีขาวงามนัก” เสี่ยวเฟยเอ่ยพร้อมั์ตาเป็ประกาย ก่อนมู่เลี่ยนจะพูดขึ้น
“ก่อนหน้านายหญิงไม่ชอบสีขาว ท่านชอบสีชมพูหรือไม่ก็แดงเ้าค่ะ”
“สีพวกนั้นแสบตา สู้สีขาวเช่นนี้ไม่ได้ ท่านแม่ช่างรู้ใจข้า” เสี่ยวเฟยพูดพร้อมสายตาพอใจ แตกต่างจากเสี่ยวเฟยคนเก่าที่มู่เลี่ยนรู้จัก ทว่านายหญิงของนางเปลี่ยนไปเช่นนี้ย่อมเป็ผลดี จะว่าไปแล้วมู่เลี่ยนก็อยากให้นางสูญสิ้นความจำเช่นนี้ตลอดไป
“ไปอาบน้ำเถิดเ้าค่ะ ทางนี้ข้าจะจัดการเอง”
“ขอบใจที่ดูแลข้าอย่างดี เ้าช่างรู้ใจข้ายิ่งนัก” คำพูดอ่อนหวานของเสี่ยวเฟย ทำให้สาวใช้น้อมรับด้วยหัวใจเบิกบาน นานแล้วที่นางไม่ได้รับคำชมเช่นนี้
หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนชุดสีขาวสะอาดตาแล้ว มู่เลี่ยนพานายหญิงมาแต่งแต้มใบหน้า กระจกสีขุ่นทำจากทองเหลือง พอมองออกว่าใบหน้าของเสี่ยวเฟยแท้จริงงดงามนัก มู่เลี่ยนเห็นนายหญิงมองภาพตัวเองในกระจกซ้ำแล้วซ้ำเล่าจึงพูดว่า
“ว่ากันว่า ทั่วทั้งวังหลวง ไม่มีผู้ใดงามเท่านายหญิงอีกแล้วเ้าค่ะ” เสี่ยวเฟยถอนหายใจแล้วหันมายังสาวใช้
“เื่ความงามข้าไม่เถียง แต่เื่ความร้ายกาจก็ไม่มีเทียบเท่า เ้าว่าจริงหรือไม่” มู่เลี่ยนปักปิ่นลงบนผมชิ้นสุดท้าย ก่อนจะพูดขึ้น
“นายหญิงเ้าคะ หากข้าพูดสิ่งใดออกไป ท่านอย่าโกรธนะเ้าคะ” เสี่ยวเฟยพนักหน้างึก ๆ แล้วตั้งใจฟังสาวใช้พูดด้วยท่าทางจริงจัง
“ความจริงแล้ว ข้าอยากให้นายหญิงสูญสิ้นความจำเช่นนี้ตลอดไป ข้าชอบนายหญิงตอนนี้มากกว่า เพราะไม่ต้องคอยระแวงว่าท่านคิดจะปองร้ายผู้ใด แต่ข้าก็กลัวว่าหากผู้อื่นรู้ว่าท่านสูญสิ้นความทรงจำแล้ว ท่านจะกลายเป็เหยื่อให้พวกเขารุมรังแก”
“เ้าหมายถึงศัตรูที่ข้าเคยทำร้ายไว้น่ะเหรอ”
“เ้าค่ะ ทั้งเจ่าเจา เหลียนต้า ชิงเหอ คนพวกนี้ล้วนถูกท่านเล่นงานจนยับ หากรู้ว่านายหญิงสูญสิ้นความจำ หลงเหลือเพียงความอ่อนโยนไร้เดียงสา อีกทั้งนายท่านก็ไม่ได้คิดปกป้อง นายหญิงจะอยู่ในอันตราย เช่นนั้นแล้ว เื่ที่ท่านความจำสูญสิ้น อย่าได้บอกให้ผู้ใดล่วงรู้ หากเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ก็แค่บอกว่าเกิดจากพิษที่ดื่มทำให้ท่านหลง ๆ ลืม ๆ ไปบ้างเท่านั้นก็พอ” เสี่ยวเฟยถอนหายใจเฮือกใหญ่
“หึ! ไปทางไหนก็มีแต่ศัตรู เสี่ยวเฟยนะเสี่ยวเฟย เ้าอยู่รอดมาได้เช่นไรกัน”
“หากนายหญิงไม่ฟื้น ก็คงไม่รอดเ้าค่ะ” มู่เลี่ยนแอบได้ยินอีกฝ่ายพึมพำเลยกล่าวเสริม ก่อนฮูหยินเสี่ยวเฟยจะยิ้มกว้าง
“เอาล่ะ ๆ เ้าไม่ต้องห่วง ข้าจะไม่บอกเื่นี้กับผู้ใด” เมื่อนายหญิงรับปาก มู่เลี่ยนก็ปล่อยยิ้มกว้างออกมาอย่างสบายใจ
ก่อนเสียงฝีเท้าของเจ่าเจาจะวิ่งเข้ามาน้อมกายลงเล็กน้อย พลันตกตะลึงเมื่อเห็นเสี่ยวเฟยอยู่ในชุดสีขาวสะอาดตา ผมถูกรวบพร้อมเครื่องประดับวาววับอยู่บนศีรษะ เมื่อตั้งสติได้จึงเอ่ยขึ้น
“นายท่านเรียกให้ฮูหยินเสี่ยวเฟยเข้าพบโดยด่วนขอรับ”
“มีเื่ใดงั้นเหรอ”
“ข้าน้อยมิทราบขอรับ เพียงแต่เรียกให้ทุกคนในจวนไปพบกันที่เรือนใหญ่ ขอรับ” เสี่ยวเฟยหันมองหน้ามู่เลี่ยนก่อนจะหันมายังเจ่าเจา
“เ้ากลับไปก่อน เดี๋ยวข้าตามไป”
“ขอรับ”
ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของเหล่าทหารและคนรับใช้ โม่โฉวเองก็เผลอมองภรรยาเอกของเขา จนไม่อาจละสายตาได้ เสี่ยวเฟยในชุดสีขาวสะอาดตา แต่งแต้มใบหน้าด้วยเครื่องประทินผิวบาง ๆ ริมฝีปากอวบอิ่มอมชมพูเป็ธรรมชาติ เดินเข้ามาหาสามี พร้อมน้อมกายลงเล็กน้อย
