อาณาจักรเธรซ?
ในใจของซุนเฟยพลันรู้สึกดีใจขึ้นมา ทีแรกคิดว่าเบาะแสที่ไล่ตามมาจนถึงที่นี่เพื่อจับตัวการใหญ่จะถูกตัดขาด แต่ใครจะรู้ว่าความจริงแล้ว ูเาซับซ้อนแม่น้ำวกวนไร้ซึ่งเส้นทาง ป่าหลิวรกครึ้มดอกไม้บานจะได้พบพานกับหมู่บ้านที่ซ่อนอยู่1 จึงรีบถามเพื่อยืนยัน “องค์ชายมอดริช ท่านแน่ใจว่าเป็เขาจริงๆ...?”
“น่าจะไม่ผิด นี่เป็ยอดฝีมือที่มีไม่มากนักของอาณาจักรเธรซ และชายคนนั้นมักจะติดตามอยู่ข้างกายขององค์ชายโอบินนา สมญานาม ‘ปีกอินทรี’ เพราะรูปร่างแข็งแกร่งกำยำแปลกกว่าคนอื่น ดังนั้นข้าจึงจำได้...องค์าาอเล็กซานเดอร์ หากตอนที่พวกท่านประมือกันแล้วคนคนนั้นใช้คลื่นพลังธาตุดินล่ะก็ ต้องเป็ฮาซึงจินอย่างแน่นอน” ในมือของมอดริชถือแก้วไวน์สีทองที่ฝังอัญมณีสีเขียว หลังจากที่วิเคราะห์อย่างละเอียด ในที่สุดก็ยืนยันออกมา
“ฮ่าๆ มันเป็ยอดฝีมือคลื่นพลังธาตุดิน...ฮ่าๆ เยี่ยมจริงๆ!”
ซุนเฟยรู้สึกยินดีปรีดามาก เขาเดินออกจากก้านหลังโต๊ะหินก่อนจะยกชายร่างั์ที่ถูกมัดไว้ในสภาพที่ไม่ต่างอะไรกับหมาตัวหนึ่ง จากนั้นก็ตบหน้ามันไปสามที เืพร้อมกับฟันสองสามซี่ก็กระเด็นออกมาจากปากของฮาซึงจิน ฮาซึงจินที่กำลังสลบอยู่ก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา ขณะที่ความคิดยังสับสน เขาก็รู้สึกได้ถึงความเ็ปที่รยางค์ทั้งสี่ เพื่อป้องกันไม่ให้เขาหลบหนี พวกทหารต้องใช้โซ่พิเศษเจาะเข้าไปในกระดูกและเนื้อของเขา ตรึงเขาไว้อย่างแ่า ไม่ให้เขาดิ้นหนีไปได้
“เป็โอบินนาที่ส่งเ้ามาสังหารข้า?”
ซุนเฟยเผยสายตาเหี้ยมออกมา ในขณะที่ยกฮาซึงจินขึ้นมาพลางถามอย่างดุดัน
ฮาซึงจินปรือตาขึ้นเล็กน้อย เขาเริ่มเข้าใจสถานการณ์ของตัวเองตอนนี้แล้ว นอกจากร่างกายจะได้รับาเ็สาหัสแล้ว ยังมีโซ่ที่เจาะทะลุกระดูกเพื่อตรึงร่างเขาอีก ด้วยสภาพแบบนี้ไม่ต้องคิดเลยว่าจะหนีรอดออกไปได้ โซ่ประเภทนี้เป็โซ่ที่สร้างขึ้นเพื่อไว้สำหรับจับยอดฝีมือในด้านคลื่นพลังและพลังเวทมนตร์โดยเฉพาะ มันมีประโยชน์ในการควบคุมพลังของพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนหน้านี้ซุนเฟยเอาชนะเขาได้อย่างง่ายดาย สำหรับฮาซึงจินแล้ว เขาไม่มีโอกาสรอดแล้ว
เขามองซุนเฟยด้วยสายตาดุร้าย จากนั้นก็เบือนหน้าหนีไม่พูดอะไรสักคำ
“โฮ่ นักฆ่าที่ถูกทุบจนปางตายเหมือนหมาอย่างเ้า ยังคิดจะมาสวมบทเป็ผู้กล้าพลีชีพอะไรอีกเล่า?”
ซุนเฟยยกมือตบหน้ามันอีกสองที
ใบหน้าของฮาซึงจินตอนนี้ปูดบวมขึ้นมา มองไกลๆ เหมือนนำหมั่นโถวสองลูกที่เพิ่งออกจากเตามาแปะบนหน้า ริมฝีปากบวมเจ่อมีเต็มไปด้วยรอยเื ฟันอีกจำนวนหนึ่งก็หลุดกระเด็นออกมา ตาบวม จมูกหัก ในจมูกมีแต่เสียงฟืดฟาด หายใจเข้าแต่ไม่มีหายใจออก
เหล่าขุนนางและองค์ชายแห่งเล็กซัสที่อยู่รอบๆ เมื่อเห็นฉากนี้ก็พลันหน้าเขียวขึ้นมา
ฟืบ!
ทุกคนต่างสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พวกเขารู้สึกหนาวยันกระดูกสันหลัง...พระเ้า าาหนุ่มของเมืองแซมบอร์ดคนนี้ ทั้งโหดร้ายทั้งมากด้วยพละกำลัง แค่ตบหน้าธรรมดายังเหมือนใช้ค้อนทุบ เขามีความแข็งแกร่งมากเท่าไรกัน?
ทุกคนพลันนึกถึงฉากตอนที่องค์าาคนนี้ถีบประตูเข้ามา ฉับพลันก็ไม่กล้าหายใจแรงขึ้นมา
โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง!
‘ลมกรดทมิฬ’ ที่หมอบอยู่ข้างๆ กำลังแทะหมูย่างอย่างเอร็ดอร่อย ราวกับว่าใต้หล้านี้ไม่มีเื่วุ่นวาย เมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้ามันก็เห่าออกมาอย่างคึกคักเหมือนได้กินยาชูกำลังเข้าไป ดวงตาของมันไม่ปกปิดอารมณ์ดุร้ายของตัวเอง มันยืนขึ้นมาแล้วส่ายหางเหมือนจะบอกว่าตัวเองอยู่นี่นะ
แต่เมื่อเบสท์ปรายตามองมาที่มัน เ้าสัตว์เลี้ยงแสนชาญฉลาดก็รีบหันกลับไปแทะหมูย่างต่อ...เมื่อได้เห็นฉากนี้ คนของอาณาจักรเล็กซัสต่างก็พูดไม่ออก ในใจคิดว่า มันคงจะจริงที่ว่าสุนัขและคนเลี้ยงมักจะมีนิสัยคล้ายๆ กัน ดูอย่างเ้านายกับสุนัขพวกนี้สิดุร้ายและโเี้เหมือนกัน ช่างเป็คู่หูที่สมบูรณ์แบบ!
ซุนเฟยโยนฮาซึงจินไปด้านข้างก่อนจะหันกลับมา หัวเราะอย่างเ็าแล้วถามว่า “ท่านอาเบสท์ ท่านรู้ไหมว่า คณะทูตอาณาจักรเธรซพักอยู่ที่ไหน?”
“ท่านจะเสด็จไป...” เบสท์เข้าใจนิสัยใจคอของซุนเฟยดี ไม่ช้าเขาก็เข้าใจความหมายของซุนเฟย สีหน้าเคร่งเครียดเล็กน้อย ก่อนจะพูดโน้มน้าวว่า “อเล็กซานเดอร์ ท่านอย่าเพิ่งใจร้อน เื่นี้ยังไม่ชัดเจน หากมันเป็เื่เข้าใจผิด อาจทำให้เกิดข้อพิพาทระหว่างทั้งสองอาณาจักรได้!”
“ใจร้อน? ข้อพิพาท?”
ซุนเฟยส่ายหน้าพลางพูดว่า “ท่านอาเบสท์ ข้าไม่ได้ใจร้อน นี่ก็ไม่ใช่ข้อพิพาทอะไรด้วย อาณาจักรเธรซไม่ใช่ว่าให้การสนับสนุนอาณาจักรแบล็กสโตนมาตลอดหรือ โดยเฉพาะจงใจหาเื่กับอาณาจักรแซมบอร์ด? ครั้งนี้ที่มาร่วมพิธี คาดว่าคงมีเจตนาไม่ดีอยู่แล้ว จับกุมองค์ชายอะไรนั่นก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที หากเข้าใจผิดอะไร ก็ให้าาของพวกเขามาอธิบายกับข้า!”
ประโยคที่เต็มไปด้วยความเอาแต่ใจของตัวเอง ทำเอาองค์ชายเล็กซัสและเหล่าขุนนางหน้าเปลี่ยนสีทันที
เบสท์ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ลังเลอยู่เล็กน้อย ในที่สุดก็พยักหน้า “งั้นเราแจ้งให้บรู๊คและแลมพาร์ดมาที่นี่ก่อน รอให้แน่ใจว่าผิดจริง มันก็ยังไม่สายที่จะจับกุมเขา แค่ท่านคนเดียว...”
“แค่ข้าก็พอ!”
ซุนเฟยพูดจบก็กวักมือเรียกสุนัขั์สีดำ เ้าสุนัขั์สีดำที่กำหลังแทะขาหมูอย่างเอร็ดอร่อยก็พลันะโขึ้นยืน เหมือนทหารที่ได้รับคำสั่งจากผู้บัญชาการทหารสูงสุด แล้ววิ่งไปตรงหน้าซุนเฟยด้วยความเฉลียวฉลาด
ที่นี่มีคนมากมายเกินไป ซุนเฟยไม่สามารถอธิบายเื่ราวบางอย่างที่ตัวเองค้นพบก่อนหน้านี้ให้เบสท์ฟังได้ แต่ในเมื่อสถานะของชายร่างั์คนนี้ได้รับการยืนยันอย่างแน่นอนแล้ว อาณาจักรเธรซก็กลายเป็ผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ หากสามารถจับองค์ชายโอบินนาที่เป็บุคคลสำคัญได้ ไม่แน่ว่าเขาอาจได้รับข้อมูลสำคัญบางอย่างด้วย ดังนั้นจึงต้องฉวยโอกาสดำเนินการอย่างฉับพลัน ไม่อย่างนั้นอาจพลาดอะไรบางอย่างไปก็ได้
“องค์าาอเล็กซานเดอร์ รอเดี๋ยว” องค์ชายมอดริชพลันส่งเสียงเรียกขึ้นมา “หากท่านไม่รังเกียจ ข้ายินดีให้นักรบและทหารของอาณาจักรเล็กซัสไปช่วยท่าน”
“โอ้ เยี่ยมไปเลย ขอบคุณท่านมาก!”
ซุนเฟยดีใจมาก เขารีบเอ่ยขอบคุณทันที
ทีแรกแผนของเขาคือการบุกเดี่ยวไปจับกุมบุคคลสำคัญของคณะทูตเธรซ แต่ถ้าเป็แบบนั้นพวกทหาร ผู้คุ้มกัน และข้ารับใช้คนอื่นๆ ในคณะทูตของอาณาจักรเธรซอาจจะหลบหนีไปได้แน่ๆ ไม่สามารถเก็บกวาดได้ แต่ถ้ามีมอดริชนำคนของอาณาจักรเล็กซัสมาปิดกั้นบริเวณด้านนอก คาดว่าคนของอาณาจักรเธรซคงไม่มีทางเหลือรอดไปได้
ดูเหมือนว่าองค์ชายมอดริช ช่างสมกับเป็บุคคลที่ได้รับยกย่องว่าเป็ ‘มิตรภาพระหว่างเมืองแซมบอร์ด’
……
สิบนาทีต่อมา
ภายใต้ความมืดที่ปกคลุม ซุนเฟยและมอดริชนำผู้คุ้มกันจำนวนร้อยกว่าคนมาล้อมที่พักของคณะทูตอาณาจักรเธรซอย่างเงียบๆ นี่เป็คฤหาสน์ที่ค่อนข้างอยู่ห่างไกลจากตัวเมืองและไม่ได้อยู่ติดกับอาคารบ้านเรือนโดยรอบ ตัดขาดจากภายนอก บานประตูไม้ขนาดั์ของคฤหาสน์ก็ปิดสนิท ตรงหน้าประตูมีโคมไฟวิเศษแสงอยู่สองอัน เปลวไฟไหวลู่ไปตามแรงลม แสงของมันดูริบหรี่ ทั่วทั้งคฤหาสน์เงียบสนิท
องค์ชายมอดริชสั่งการให้ทหารปิดกั้นเส้นทางเข้าออกรอบๆ คฤหาสน์ ตัวเขาเองและผู้คุ้มกันข้างกายก็จะเฝ้าอยู่ตรงหน้าประตู ความจริงแล้วนี่เป็การพิพาทระหว่างอาณาจักรเธรซและเมืองแซมบอร์ด การที่พวกเขาให้ความช่วยเหลือแบบนี้ถือว่าใจกว้างมากแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้ร่วมกับซุนเฟยโจมตีคฤหาสน์
ซุนเฟยและ ‘ลมกรดทมิฬ’ หนึ่งคนหนึ่งสุนัขต่างค่อยๆ เข้าใกล้ประตูคฤหาสน์อย่างเงียบๆ
ท่ามกลางแสงจันทร์ที่ถูกม่านเมฆบดบัง ในขณะที่ลมหนาวพัดผ่านหอบเอาใบไม้ที่ร่วงอยู่บนพื้นขึ้นมา ระหว่างฟ้าและดินพลันมีกลิ่นอายเงียบเหงาวังเวงอย่างบอกไม่ถูก ในคืนที่เงียบสงบกลับซุกซ่อนนักฆ่าที่น่ากลัว
วินาทีต่อมา ไม่แน่ว่าความเงียบสงบแบบนี้อาจจะเปลี่ยนเป็าแห่งความตาย
ซุนเฟยแอบเข้าใกล้คฤหาสน์หินอย่างเงียบๆ ทีละก้าว
“ไม่ดีแล้ว เื่กลับตาลปัตรหมดเลย!”
ในตอนที่เดินเข้ามาในระยะห่างจากประตูคฤหาสน์แค่ห้าหกเมตร ทันใดนั้นซุนเฟยก็หน้าเปลี่ยนสี เพราะเขาได้กลิ่นเืเข้มข้นลอยอยู่ในอากาศ ราวกับเจือไปด้วยความร้อนจางๆ...
ซุนเฟยพลันนึกอะไรขึ้นมาก็รีบวิ่งไปเตะประตูไม้ั์ออก
ปัง!
บานประตูทั้งสองข้างอย่างน้อยก็หนักสักห้าร้อยหกร้อยจิน ปลิวเข้าไปในคฤหาสน์ทันที ร่างของซุนเฟยกลายเป็เงาติดตา โดยมีสุนัขั์สีดำตามเข้าไปติดๆ
ไม่รอให้เห็นสภาพด้านในคฤหาสน์
ซุนเฟยก็พลันตกตะลึง
สุนัขั์สีดำก็ใไม่แพ้กัน มันได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับพื้น
หนึ่งคนหนึ่งสุนัขหันมาสบตากัน
“เป็ไปได้อย่างไร?”
สภาพในปราสาทมันเกินกว่าที่ซุนเฟยจินตนาการไว้ เขาเห็นศพประมานหลายสิบศพกองอยู่บนพื้นหลังบานประตู เห็นได้ชัดว่าเพิ่งจะเสียชีวิต เพราะที่าแยังคงมีเืไหลออกมา ในคืนฤดูใบไม้ร่วงที่หนาวเย็น ปรากฏไอขาวๆ พวยพุ่งขึ้นมา ซุนเฟยสังเกตอย่างถี่ถ้วน ก็พบว่าชุดที่สวมอยู่บนศพเหล่านี้ไม่ใช่ทหารเมืองแซมบอร์ด ฉับพลันก็โล่งใจ
กลิ่นเืคละคลุ้งไปทั่วอากาศ
เืที่ไหลออกมาจากศพ หยดลงมาบนพื้นจนกลายเป็ ‘ลำธารเล็กๆ’ ยังไม่มีการแข็งตัว เืค่อยๆ ไหลออกมาอย่างช้าๆ
ทั่วทั้งคฤหาสน์เงียบสงัดและน่ากลัว
ในห้องที่อยู่ห่างออกไปมีแสงสว่างจากด้านใน แต่ไม่มีเสียงใดๆ เล็ดรอดออกมา
ราวกับเป็เมืองที่ตายแล้ว
ซุนเฟยและสุนัขั์สีดำเดินเข้าไปข้างในโดยระมัดระวังทุกฝีก้าว ไม่พบใครที่ยังมีชีวิตอยู่เลยสักคน ไม่ว่าจะตรงขั้นบันได ในสวนดอกไม้ ใต้ต้นไม้ใหญ่ บนเก้าอี้หิน มุมกำแพง หรือแม้แต่ข้างๆ ท่อระบายน้ำ...ก็เต็มไปด้วยศพอย่างเนืองแน่น เห็นได้ชัดว่าพวกเขาถูกจู่โจมกะทันหันโดยที่ต้านทานไม่ได้ อาวุธส่วนใหญ่ของคนตายยังไม่ทันได้ถูกชักออกมาจากฝักด้วยซ้ำ บนใบหน้าของเขายังคงแสดงสีหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อ ราวกับว่าได้พบสิ่งที่น่ากลัว
ซุนเฟยสังเกตอย่างรอบคอบ
ซุนเฟยพบว่าบนร่างของศพทุกคนต่างมีบางแผลไม่ต่ำกว่าสี่แผลขึ้นไป แต่ละแผลก็แทงลึกเข้าไปในกระดูก บางศพก็โชคร้ายถูกฟันเป็ชิ้นๆ บนพื้นเต็มไปด้วยซากแขนขาที่ถูกฟัน...ช่างเป็ฉากที่น่าสังเวช ดูไม่ต่างอะไรกับนรกในตำนานเลย
-------------------------------
1 ูเาซับซ้อนแม่น้ำวกวนไร้ซึ่งเส้นทาง ป่าหลิวรกครึ้มดอกไม้บานจะได้พบพานกับหมู่บ้านที่ซ่อนอยู่ อุปมาว่า ในการเผชิญกับความยากลำบากก็จะได้ค้นพบคำตอบ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้