เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 (แปลจบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

        ในที่สุดเฉินชิ่งก็ถูกมารดาปลุกใจสำเร็จ

        ที่เขารู้สึกหม่นหมอง เดิมเป็๞เพราะว่าเขารู้สึกโกรธตัวเองด้วยเช่นกัน ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีโอกาสตั้งมากมาย แต่เขากลับขลาดกลัวไม่กล้าสารภาพออกไป ตอนนี้เซี่ยเสี่ยวหลานคบกับคนอื่นแล้ว เขาจะโทษใครได้?

        แต่ถึงเซี่ยเสี่ยวหลานจะมีคนรักแล้ว เฉินชิ่งก็ลืมเธอไม่ได้อยู่ดี

        ความชอบของวัยรุ่นอาจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและง่ายดาย ทว่าเฉินชิ่งดันสิ้นชีพก่อนคว้าชัยชนะในสนามรบ ทว่าเขายังคงไม่ยอมแพ้

        หากเสี่ยวหลานกับคนรักของเธอเข้ากันไม่ได้แล้วเล่า?

        เหมือนที่มารดาของเขาว่า การคบหาดูใจไม่ใช่การแต่งงาน เขาไม่ได้ทำเ๹ื่๪๫น่ารังเกียจ ชอบเสี่ยวหลานคือธุระของตัวเขาเอง เขาจะไม่สร้างปัญหาให้ใครทั้งนั้น เฉินชิ่งพยายามทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างเต็มที่ จากนั้นก็ลุกขึ้นมาและวิ่งไปช่วยงานเซี่ยเสี่ยวหลานจริงๆ

        เซี่ยเสี่ยวหลานพากงหยางมาสำรวจพื้นที่จริง นี่ไม่ใช่การตกแต่งภายใน แต่เป็๲การประมวลสภาพแวดล้อมโดยรอบสำหรับการสร้างบ้านหลังนี้

        กงหยางชื่นชอบบึงต้นอ้อของหมู่บ้านชีจิ่งยิ่งนัก ในเดือนกรกฎาคม กอต้นอ้อเขียวขจีทั่วพื้นที่ พอสายลมสายน้ำพัดผ่าน คลื่นสีฟ้าใสม้วนกลิ้งไหลไปกอปรกับต้นอ้อที่ลู่เอนตามสายลม กงหยางบอกว่างดงามคู่ควรแก่การบันทึกเป็๞ภาพวาดยิ่งนัก

        “เป็๲ชนบทเหมือนกัน ทว่าทิวทัศน์ที่นี่สวยกว่าบ้านเกิดของฉันเสียอีก”

        มณฑลอวี้หนานไม่จัดว่าเป็๞พื้นที่ที่ปริมาณน้ำอุดมสมบูรณ์ มีบางแห่งติดแม่น้ำเหมือนหมู่บ้านชีจิ่ง และมีบางแห่งค่อนข้างแห้งแล้ง พื้นที่แล้งน้ำจะยากจนกว่า นับประสาอะไรกับทิวทัศน์อันสวยงามเช่นนี้ กงหยางโปรดปรานสถานที่ที่เปี่ยมไปด้วยพลังชีวิต ดงต้นอ้อริมแม่น้ำได้มอบแรงบันดาลใจให้แก่กงหยาง เขาคิดว่าหากที่ดินมีเนื้อที่ใหญ่พอ ความคิดที่จะขุดสระย่อมๆ ในสวนและสูบน้ำไหลจากคลองชลประทานย่อมเป็๞ไปได้ ทำคูน้ำเล็กๆ เลี้ยงปลาตัวน้อยสักนิด ปลูกต้นอ้อสักหน่อย ตัดกับทัศนียภาพจริงของหมู่บ้านชีจิ่งได้เพลินตาเพลินใจเหลือเกิน

        เฉินชิ่งไม่รู้จักกงหยาง แต่เคยพบหลี่ต้งเหลียงและเก่อเจี้ยน

        สำหรับบุรุษผู้ติดสำเนียงต่างถิ่นสองคนนี้ แม้จะบอกว่าเป็๞ญาติห่างๆ ของเซี่ยเสี่ยวหลาน แต่ในความเป็๞จริงกลับเคารพนบนอบต่อเสี่ยวหลานเป็๞อย่างมาก

        รอจนกงหยางพูดจนจบ เฉินชิ่งถึงถามเซี่ยเสี่ยวหลานว่าพรุ่งนี้จะไปรับคะแนนเมื่อไร

        “จากกำหนดการของเมื่อสองปีก่อน วันที่สองหลังจากตรวจข้อสอบเสร็จ สำนักงานอุดมศึกษาก็จะติดประกาศคะแนนขั้นต่ำไว้ และจะมีคนของโรงเรียนพวกเรารออยู่ด้านนอกสำนักงานกลางด้วย สามารถสอบถามคะแนนได้ทันที... ปีนี้โรงเรียนของพวกเรามีครูเหลยเป็๞คนไปตรวจข้อสอบน่ะ”

        ในโรงเรียนมีอาจารย์แซ่เหลยเพียงคนเดียว อาจารย์เหลยประจำวิชาภาษาอังกฤษ เป็๲สามีของอาจารย์ฉีประจำวิชาภาษาจีน

        ในฐานะนักเรียนซ้ำชั้นอย่างเฉินชิ่ง ย่อมรู้เ๹ื่๪๫พวกนี้ดีกว่าเซี่ยเสี่ยวหลาน สำนักงานอุดมศึกษาจะติดคะแนนขั้นต่ำบนกระดานประชาสัมพันธ์ในเวลาประมาณ 9 นาฬิกา ผู้สื่อข่าวจากสถานีวิทยุกระจายเสียงประจำมณฑลรวมถึงจากแต่ละสำนักพิมพ์จะรออยู่ตรงนั้น เพื่อรายงานเกณฑ์รับเข้าเรียนของมณฑลอวี้หนานโดยเร็วที่สุด จะออกอากาศทั้งทางวิทยุ และรายการข่าวทางโทรทัศน์ก็จะออกอากาศเช่นกัน เนื่องจากเกาเข่าคือเหตุการณ์สำคัญระดับชาติ

        ทางโรงเรียนให้เหล่านักเรียนไปรับใบแสดงผลคะแนนในเวลา 10 นาฬิกา ไม่ว่าอย่างไรผลคะแนนของทุกโรงเรียนก็ต้องใช้เวลาคัดลอกและนับจำนวน สามารถคัดลอกคะแนนจากสำนักงานอุดมศึกษามายังอันชิ่งเซี่ยนอีจงในเวลา 10 นาฬิกาได้นั้นถือว่ารวดเร็วมากแล้ว ยุคนี้ยังไม่มีระบบตรวจสอบคะแนนผ่านทางโทรศัพท์ อาศัยแรงคนคัดลอกทั้งหมด

        เฉินชิ่งคิดว่าพรุ่งนี้ควรถึงโรงเรียนก่อน 9 โมง “ห้องพวกเรายังต้องถ่ายรูปเรียนจบอีกนะ”

        เมื่อคะแนนออกมา หากผลสอบดีก็ไม่จำเป็๲ต้องกังวล หากผลสอบไม่ดียังจะเหลืออารมณ์ถ่ายภาพเสียที่ไหน ดังนั้นจึงควรถ่ายภาพจบการศึกษาก่อนประกาศผลคะแนน เซี่ยเสี่ยวหลานคิดว่าสมเหตุสมผลเหมือนกัน “ถ้าอย่างนั้นฉันก็คงไปถึงโรงเรียนตอน 9 โมงด้วย พรุ่งนี้พวกเราสองคนเจอกันที่โรงเรียนสินะ?”

        เฉินชิ่งผิดหวังเล็กน้อย เขานึกว่าคืนนี้เซี่ยเสี่ยวหลานจะพักในหมู่บ้านเสียอีก

        ทว่าพอครุ่นคิดอีกทีก็ถือว่าถูกต้อง บ้านหลิวไม่มีคนอาศัยมานานแล้ว เซี่ยเสี่ยวหลานจะพักหนึ่งคืนยังต้องทำความสะอาด การกลับเข้าเมืองมณฑลย่อมดีกว่าอาศัยอยู่ในหมู่บ้านตามลำพัง

        ----------------------------------------

        คืนวันที่ 15 กรกฎาคม อาจารย์เหลยตามคำบอกเล่าของเฉินชิ่ง—สหายเหลยเซิ่งลี่เสร็จสิ้นภารกิจตรวจข้อสอบเป็๲เวลา 5 วันเรียบร้อย

        สถานที่สำหรับตรวจข้อสอบไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้า ตัวข้อสอบเองก็ถูกปิดชื่อไว้ หลังตรวจกระดาษคำตอบทั้งหมดเสร็จถึงจะเปิดออกและลงคะแนน ทำแบบนี้เพื่อเลี่ยงกรณีอาจารย์ลำเอียงให้คะแนนสูงเมื่อเจอนักเรียนจากโรงเรียนของตน โดยเฉพาะโจทย์ที่เน้นการแสดงทัศนคติส่วนบุคคลอย่างเรียงความวิชาภาษาจีน ถ้าเขียนถูกรสนิยมของอาจารย์ผู้ตรวจ อาจให้ 40 คะแนน ในขณะที่อยู่ในมือของอาจารย์อีกคน อาจได้เพียง 30 คะแนนเท่านั้น

        เหลยเซิ่งลี่มาตรวจข้อสอบ ทุกวันมีเบี้ยเลี้ยง 3 หยวน การรับเบี้ยเลี้ยง 15 หยวนสำหรับห้าวันกลับบ้านเป็๲แค่เ๱ื่๵๹รอง ที่สำคัญคือเขากำลังแบกรับหน้าที่สำคัญในการคัดลอกคะแนนแทนอันชิ่งเซี่ยนอีจง

        ในสภาพอากาศร้อนจัดขนาดนี้ ต้องทำงานตรวจข้อสอบท่ามกลางความกดดันสูงทุกวัน หากทำเพียงเพื่อเบี้ยเลี้ยงเหล่าอาจารย์คงไม่มา แต่หน้าที่นี้มีเกียรติ และศาลาริมน้ำจะได้แสงจันทร์ก่อน [1] ไม่มีใครได้โอกาส๱ั๣๵ั๱คะแนนเกาเข่าก่อนเหมือนพวกเขา

        เวลาง่วงก็แค่จุดบุหรี่สักมวนและทนต่อไป บากบั่นมา 5 วัน ภารกิจเกือบเสร็จสิ้นแล้ว

        ต่อจากนั้นเป็๞การแยกกระดาษคำตอบ

        สำนักงานอุดมศึกษาถนัดในการทำสิ่งนี้มาก หลังจากดึงกระดาษปิดผนึกออก ก็ทำการแยกโดยแบ่งตามโรงเรียนก่อน และบันทึกคะแนนของทุกโรงเรียนเป็๲ลำดับถัดไป

        เหลยเซิ่งลี่ไม่สามารถคว้างานนี้ได้ ความหวังที่เขาอยากเห็นกระดาษคำตอบของเซี่ยเสี่ยวหลานหลังตรวจเสร็จทันทีไม่สมดั่งใจปรารถนา ในค่ำคืนนี้ ทั้งที่เขารู้สึกเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ามากแท้ๆ ทว่าเหลยเซิ่งลี่กลับนอนไม่หลับ วิชาภาษาอังกฤษของเซี่ยเสี่ยวหลานในการสอบเกาเข่าจะสามารถทำคะแนนเต็มอีกครั้งได้ไหมนะ? ตอนกำลังตรวจข้อสอบ ไม่ได้ยินใคร๻ะโ๷๞ป่าวร้องว่าวิชาภาษาอังกฤษมีกระดาษคำตอบที่ได้คะแนนเต็มเลย กระดาษคำตอบที่ได้คะแนนเต็มต้องถูกตรวจสอบโดยกลุ่มย่อยต่อ เหลยเซิ่งลี่จึงเกิดความสงสัยว่ากระดาษคำตอบของเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้ถูกแบ่งมายังกลุ่มของพวกเขา

        คิดมากเกินไปก็ไร้ประโยชน์ เช้าพรุ่งนี้ก็ได้เห็นคะแนนแล้ว

        เหลยเซิ่งลี่อยู่ในที่พักชั่วคราวซึ่งจัดโดยสำนักงานอุดมศึกษามณฑล นอนพลิกตัวกลับไปกลับมาเหมือนขนมปิ่งที่ปิ้งบนอยู่กะทะ

        อาจารย์ร่วมห้องพักบ่นอุบอิบ เหลยเซิ่งลี่ถึงได้บังคับตนเองให้นอนนิ่งๆ เพื่อไม่ให้รบกวนผู้อื่น เฮ้อ เพื่อนร่วมอาชีพพวกนี้เข้าใจความคิดของเขาเสียที่ไหน นักเรียนเสี่ยวหลานคือผู้มีความเป็๲ไปได้สูงสุดที่จะสอบติดมหาวิทยาลัยหัวชิงในหน้าประวัติศาสตร์อันชิ่งเซี่ยนอีจง อาจารย์คนไหนในโรงเรียนจะไม่สนใจใยดีกัน?

        อาจารย์เหลยมีข้อจำกัดมากมาย ส่วนอาจารย์ใหญ่ซุนนอนอยู่บนเตียงในบ้านตนเอง อยากพลิกกายอย่างไรก็ได้พลิกตามใจชอบ

        เดี๋ยวถอนหายใจ เดี๋ยวหัวเราะคิกคัก ในที่สุดภรรยาของเขาก็ทนความผิดปกติของสามีคนนี้ไม่ได้แล้ว ไล่เขาออกไปนอนบนโซฟาแทน

        อาจารย์ใหญ่ซุนยังคงเถียงกลับฉอดๆ “ผู้หญิงอย่างคุณนี่ไร้ความรู้เสียจริง คุณจะเข้าใจอะไร!”

        เขาพะว้าพะวงแทนเซี่ยเสี่ยวหลานนี่นา ประเมินคะแนนได้ 584 คะแนน จะสามารถสอบได้เท่าไรกันแน่? เกิดอาจารย์ที่ตรวจข้อสอบพวกนั้นอารมณ์ไม่ดี ตรงนี้ให้น้อยลงสักสองคะแนน ตรงนั้นหักคะแนนกระดาษคำตอบอีกหน่อย แบบนั้นคะแนนรวมของเซี่ยเสี่ยวหลานก็หดหายไปไม่ใช่หรือ! อาจารย์ใหญ่ซุนสาบานกับตนเอง ถ้าคะแนนรวมของเซี่ยเสี่ยวหลานต่ำกว่า 560 คะแนน จะติดต่อสำนักงานอุดมศึกษาทันที เขาต้องยื่นคำร้องขอตรวจสอบกระดาษคำตอบ!

        ----------------------------------------

        ยิ่งเป็๲เวลาที่น่าประหม่า สภาพจิตใจของเซี่ยเสี่ยวหลานก็ยิ่งมั่นคง เนื่องจากมีความมั่นใจ เมื่อคืนเธอนอนหลับตามปกติ วันต่อมาเซี่ยเสี่ยวหลานออกเดินทางตอนเจ็ดโมงครึ่ง นั่งรถมุ่งหน้าไปโรงเรียน วันนี้หลิวเฟินไม่มีกะจิตกะใจเข้าร้านเช่นกัน จึงไปอันชิ่งพร้อมเซี่ยเสี่ยวหลาน

        เวลาเก้าโมงเช้า เซี่ยเสี่ยวหลานกับหลิวเฟินมาถึงห้องเรียน

        แม้จะแจ้งว่าคะแนนออกตอน 10 นาฬิกา ทว่านักเรียนคนไหนไม่รีบร้อนบ้าง เรียกได้ว่าเซี่ยเสี่ยวหลานมาถึงช้ากว่านักเรียนคนอื่นเลยก็ว่าได้

        ด้านนอกสำนักงานอุดมศึกษามณฑลอวี้หนานมีกลุ่มผู้สื่อข่าวรอคอยอยู่แล้ว พวกเขารอคอยคะแนนขั้นต่ำของปีนี้ และกำลังรอคอยคะแนนสูงสุดของปีนี้อีกด้วย สองสิ่งนี้คือหัวข้อข่าวที่ควรค่าแก่การรายงานอย่างเป็๞เ๹ื่๪๫เป็๞ราว เหลยเซิ่งลี่เองก็กำลังรอเหมือนกัน ตอนเวลา 9 นาฬิกา มีคน๻ะโ๷๞ว่า ‘คะแนนขั้นต่ำออกแล้ว’ เหลยเซิ่งลี่วิ่งตามออกไปโดยพลัน

        ตัวอักษรสีขาวสีดำบนกระดานประกาศชัดเจนแจ่มแจ้งมาก

        เกณฑ์มหาวิทยาลัยชั้นนำ (กลุ่มที่หนึ่ง) : 494 คะแนน

        เกณฑ์ปริญญาตรี (กลุ่มที่สอง) : 460 คะแนน

        เกณฑ์วิชาชีพ (กลุ่มที่สาม) : 427 คะแนน

        การตอบสนองแรกของเหลยเซิ่งลี่คือ เกณฑ์รับเข้าเรียนของปีนี้ต่ำกว่าปีก่อนอย่างที่คาดไว้!

        ปฏิกิริยาต่อมาคือ การประเมินคะแนนประจำปีนี้ของโรงเรียนแม่นยำเหลือเกิน การคาดการณ์ต่อเกณฑ์รับเข้าเรียนของทุกโรงเรียนล้วนแตกต่างกัน และแน่นอนว่าปีนี้อันชิ่งเซี่ยนอีจงอัศจรรย์ยิ่งนัก เกณฑ์ปริญญาตรีที่พวกเขาประเมินไว้ก็คือ 460 คะแนน นี่มันเป็๞ประโยชน์กับการสมัครเรียนมหาวิทยาลัยของนักเรียนอย่างมาก!

        “เสี่ยวเหลย นายดูผลคะแนนนี่สิ ปีนี้อันชิ่งเซี่ยนอีจงประเมินคะแนนได้ไม่เลวเลยใช่หรือไม่?”

        คนรู้จักขยับเข้ามาหา เหลยเซิ่งลี่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เขาเห็นว่าพวกผู้สื่อข่าววิ่งกรูพรึ่บพรั่บไปทางสำนักงาน ตนเอจึงวิ่งตามไปด้วยอีกคน

        “คะแนนสูงสุดล่ะ? ทำไมคะแนนสูงสุดยังไม่ออกมา?!”

        “ออกมาแล้ว ได้ยินว่ามีปัญหานิดหน่อย กำลังตรวจซ้ำ...”

        คะแนนสูงสุดจะมีปัญหาอะไรได้ เหลยเซิ่งลี่เกิดความสงสัยใคร่รู้

        คนของสำนักงานอุดมศึกษาก็เครียดหนักไม่แพ้กัน พวกคุณตรวจข้อสอบมั่วซั่วหรือเปล่าน่ะ? สายศิลป์นั้นช่างมันก่อน ทว่าคะแนนสูงสุดของสายวิทย์ประจำมณฑลอวี้หนานเยอะกว่าอันดับที่สองถึง 45 คะแนนเต็มๆ นี่มันเหมาะสมรึ?!

        เป็๲การตรวจผิดหรือเปล่า ก่อนจะประกาศคะแนนออกไป ยื่นคำร้องขอตรวจข้อสอบซ้ำเถอะ

        “คัดกระดาษคำตอบของผู้เข้าสอบคนนี้ออกมาก่อน พวกเรายินดีเสียเวลาอีกหน่อย จะปล่อยให้เกิดความผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด!”

 

         

         

 

 

เชิงอรรถ

[1]近水楼台先得月 ศาลาริมน้ำได้แสงจันทร์ก่อน หมายถึง ได้รับผลประโยชน์หรือความสะดวกสบายบางอย่างจากการอยู่ในสถานะที่เอื้ออำนวย


 


 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้