ปัง.......!
โบ๋ววว......!
เสียงกรีดร้องด้วยความเ็ปดังขึ้น จากนั้นร่างอันใหญ่โตร่วงหล่นลงพื้น ทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ เมื่อแรดสูงสามฉื่อได้ดิ้นรนเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะตายลง หลุมขนาดใหญ่มองเห็นแต่เพียงหัวของแรดและผู้ที่อยู่ถัดจากแรดก็เป็ชายหนุ่มในชุดขาว ที่ยืนอยู่ขณะที่กำลังถือดวงจิตอสูรที่ส่องประกาย
ดวงจิตอสูรได้หดเล็กลง ก่อนที่จะหายไปจากมือของชายหนุ่ม นั่นเพราะว่ามันถูกชายหนุ่มดูดซับโดยสมบูรณ์
"สัตว์อสูรแก่นแท้มนุษย์ขั้นปลายช่างอ่อนแอเสียจริง มันไม่ได้ช่วยอะไรข้ามากนัก ข้าดูดซับดวงจิตสัตว์อสูรแก่นแท้มนุษย์ขั้นปลายไปถึงสามดวง ข้าเพิ่งจะสร้างตราประทับัได้เพิ่มเพียงดวงเดียวเท่านั้น ดูเหมือนว่าคงต้องหาราชันย์สัตว์อสูรแก่นแท้์แล้วสิเนี่ย"
เจียงเฉินพูดออกมา ในตอนนี้เขาอยู่ที่เขตที่สองด้วยกันกับหวงต้า แต่พวกเขายังห่างไกลจากคำว่าเสี่ยง พวกเขายังไม่ได้พบราชันย์สัตว์อสูรขั้นแก่นแท้์สักตัวเดียว พวกเขาทำแค่เพียงสังหารสัตว์อสูรแก่นแท้มนุษย์ขั้นปลายไม่กี่ตัวเท่านั้น
"เ้าบ่มเพาะทักษะเทวะอันใดอยู่รึ?มันสามารถดูดซับดวงจิตอสูรได้อย่างไร้ขีดจำกัด เ้ามันสัตว์ประหลาด!"
หวงต้าอดไม่ได้ที่จะถามถึง มันสงสัยมาโดยตลอดเกี่ยวกับทักษะที่เจียงเฉินทำการบ่มเพาะอยู่ั้แ่ที่เมืองชื่อจนถึงบัดนี้ เจียงเฉินได้ดูดซับดวงจิตอสูรมากมาย หากไม่มีทักษะเทวะคอยสนับสนุน ผู้ฝึกตนมนุษย์อย่างเขาคงไม่มีทางทำได้แน่
"เ้าอยากรู้จริงๆหรือ?"
"ใช่แล้ว!"
"ถ้าเช่นนั้นเ้าก็เอาเืของเ้ามาให้ข้าหนึ่งชาม แล้วข้าจะบอกเ้า"
"ข้าให้แต่ฉี่ จะเอาไหม..ข้าให้เป็ถ้วย"
"ไสหัวไป!"
ครืน.....!
การต่อสู้อันรุนแรงทำให้เกิดเสียงดังสั่นะเืทั่วทั้งเทือกเขา สัตว์อสูรจำนวนมากได้หลบหนีไป สิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเจียงเฉินและหวงต้า คือราชันย์สัตว์อสูรแก่นแท้์ขั้นต้นได้ตายลง และได้ถูกเจียงเฉินนำดวงจิตอสูรออกมา
ด้วยความช่วยเหลือของทักษะร่างแปลงั เจียงเฉินได้ดูดซับดวงจิตอสูร อย่างไรก็ตามดวงจิตนี้ทำได้เพียงสร้างตราประทับัเพิ่มขึ้นอีกสี่ดวง รวมกับก่อนหน้านี้อีกหนึ่งดวง ตอนนี้เจียงเฉินมีตราประทับัทั้งหมดห้าสิบดวงอยู่ในทะเลปราณของเขา
"ทักษะร่างแปลงันี่ทำการบ่มเพาะยากขึ้นเรื่อยๆ พลังงานที่ต้องใช้ยิ่งมากขึ้นและมากขึ้น เหลือตราประทับัอีกเพียงสิบดวงที่ต้องสร้าง เกรงว่ามันจะไม่ง่าย"
เจียงเฉินถอนหายใจออกมา ทักษะร่างแปลงัเป็ทักษะเทวะา เป็สุดยอดทักษะบ่มเพาะไร้ที่เปรียบ นอกจากน่าสะพรึงกลัว การบ่มเพาะทักษะนี้มันยากเย็นยิ่ง ไม่ใช่สิ่งที่ทักษะบ่มเพาะทั่วไปจะเทียบ มันยากที่จะจินตนาการได้ว่าต้องใช้พลังงานมากเท่าใดเจียงเฉินจึงสามารถสร้างตราประทับัได้ครบแสนดวง หากลองคิดดูเล่นๆอาจต้องใช้พลังงานทั่วทั้งโลกก็เป็ได้
"ภายในเขาหมื่นอสูรมีสัตว์อสูรอยู่มากมาย ด้วยความสามารถของเ้าคงไม่เป็ปัญหาหากเ้า้าบ่มเพาะพลังที่นี่ต่อ แต่ว่าการดูดซับจิติญญาอสูรซ้ำแล้วซ้ำอีก มันจะทำให้เ้าทะลวงระดับได้อย่างรวดเร็ว แต่มันจะไม่ส่งผลต่อรากฐานของเ้ารึ?"
หวงต้าถามด้วยความเป็ห่วง วิธีการบ่มเพาะของเจียงเฉินเลวร้ายนัก เทียบได้กับวิถีมาร แม้ว่าเขาจะได้พลังมากและทะลวงระดับได้อย่างรวดเร็ว แต่มันก็ส่งผลกับรากฐานของเขา เมื่อรากฐานของเขาไม่เสถียรการบ่มเพาะพลังในอนาคตของเขาต้องยากลำบากเป็แน่
"ข้ารู้ว่าข้าทำอะไรอยู่ ด้วยรากฐานพลังของข้าในตอนนี้ มันเพียงพอที่จะดูดซับพลังที่เข้มข้นได้ถึงขอบเขตแก่นแท้์ ไม่ส่งผลกับข้าในอนาคตแน่นอน แต่เมื่อไรที่ข้าทะลวงเข้าสู่แก่นแท้มนุษย์ขั้นปลาย ข้าจะหยุดทำเช่นนี้และปรุงยาขึ้นมาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับรากฐานพลัง"
เจียงเฉินพูด เมื่อพูดถึงเกี่ยวกับประสบการณ์บ่มเพาะพลัง เขาเป็ถึงบรรพบุรุษโบราณ แน่นอนว่าเขาไม่ยอมให้ตนเองต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่รากฐานไม่เสถียรได้ แม้ว่านี่จะเป็ครั้งแรกที่เขาได้บ่มเพาะทักษะร่างแปลงั แต่เขาก็วางแผนไว้อย่างชัดเจน เขารู้ทุกรายละเอียดของขั้นต่อไป
"ถึงอย่างนั้น ภายในเขาหมื่นอสูรเขตที่สองนี้ ข้าััได้ถึงอันตรายบางอย่าง มีบางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวอยู่ที่นี่ ข้าแน่ใจว่ามีราชันย์สัตว์อสูรที่ทรงพลังเป็แน่ เราทั้งสองไม่สามารถััถึงการดำรงอยู่ของมันมาก่อน ดังนั้นพวกเราต้องระวังให้มาก อย่าได้ผลีผลาม"
หวงต้ามีท่าทีจริงจังที่หาได้ยาก
เจียงเฉินผงกหัว เขาหมื่นอสูรมิใช่สิ่งที่เขาต้นกำเนิดจะเทียบได้ ถึงแม้ว่าทั้งตัวเขาและหวงต้าจะไม่ธรรมดา แต่พวกเขาก็มีระดับการบ่มเพาะเพียงขอบเขตแก่นแท้มนุษย์เท่านั้น พวกเขาสามารถสังหารราชันย์สัตว์อสูรขั้นแก่นแท้์ขั้นต้นได้ แต่หากพวกเขาพบเจอราชันย์สัตว์อสูรแก่นแท้์ขั้นกลาง พวกเขาคงมีทางเลือกเพียงแค่หนีเพื่อเอาชีวิตรอดเท่านั้น
อาจบอกได้ว่าในแต่ละระดับขั้นนั้นแตกต่างราวกับคนละโลก แม้ว่าจะแตกต่างกันเพียงหนึ่งขั้น ความแตกต่างนั้นมากมายยิ่งนัก โดยเฉพาะในขอบเขตแก่นแท้์ เจียงเฉินต้องทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้มนุษย์ขั้นปลายเสียก่อน ถึงจะมีโอกาสที่จะจัดการกับคู่ต่อสู้ที่เป็ขอบเขตแก่นแท้์ขั้นกลางได้
"ใช่แล้ว!หวงต้าเ้าััถึงสมบัติใกล้ๆนี้บ้างรึไม่? "
เจียงเฉินถามด้วยความคาดหวัง
"ตอนนี้ยังไม่พบ แต่ว่าูเาโบราณอย่างเขาหมื่นอสูร มันจะต้องมีของดีเป็แน่ แต่ยอดสมบัติมักมาพร้อมกับอันตรายร้ายแรงล่ะนะ ทางที่ดีเ้าอย่าคาดหวังกับมันมากนัก"
หวงต้าพูดขึ้น
ผ่านไปกว่าครั่งชั่วโมง เจียงเฉินและหวงต้าได้เข้าไปในเขตที่สองลึกกว่าร้อยลี้ ตรงหน้าของพวกเขามีหมาป่าที่มีร่างกายทอแสงสีทอง แววตาที่ดุร้ายและป่าเถื่อนของมันจ้องไปที่เจียงเฉินและหวงต้า
"หมาป่าอาบโลหิต มันเป็าาของเหล่าหมาป่าทั้งปวง เ้าต้องระวังตัวให้มาก เ้าหมาป่านี่แข็งแกร่งยิ่งกว่าอสรพิษทมิฬเสียอีก"
เจียงเฉินพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ในขณะเดียวกันเขารู้สึกตื่นเต้นเป็อย่างมาก เจียงเฉินรู้ว่าหมาป่าอาบโลหิต เป็าาของเหล่าหมาป่าทั้งปวง ก็เป็ไปได้ว่ามันมีสายเืของาาหมาป่าแท้จริงอยู่
"ไม่ว่ามันจะแข็งแกร่งแค่ไหน มันก็เป็เพียงราชันย์สัตว์อสูรแก่นแท้์ขั้นต้นเท่านั้น หากเราร่วมมือฆ่ามันคงไม่มีปัญหาอะไร"
หวงต้าแลบลิ้นของมันออกมาเลียริมฝีปากของมัน จิติญญาการต่อสู้ได้ะเิออกมาจากร่างของมัน จริงอยู่ที่ว่าหมาป่าอาบโลหิตแข็งแกร่งยิ่งกว่าอสรพิษทมิฬ แต่หวงต้าเป็สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ มันจึงไม่เป็ปัญหาที่จะสู้กับระดับที่เหนือกว่าตัวมัน นอกจากนี้เจียงเฉินก็แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับตอนที่พวกเขาสู้กับงูบึงทมิฬ ด้วยตราประทับัห้าสิบดวง พวกเขามั่นใจว่าสามารถสังหารหมาป่าอาบโลหิตได้แน่นอน
"ลงมือ!"
หลังจากกล่าวออกไป เจียงเฉินจู่โจมใส่ด้วยหกดัชนีสุริยัน ดัชนีทองคำขนาดั์สามดัชนีเปล่งแสงเจิดจ้าในคืนมืด ได้พุ่งไปยังหมาป่าอาบโลหิต ในขณะเดียวกันหวงต้าได้พ่นลูกพลังสีทองออกจากปาก เจียงเฉินไม่รู้ว่าการโจมตีนี้เรียกว่าอะไร แต่ลูกพลังงานที่หวงต้าพ่นออกมานั้นมีพลังที่น่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง
โบร๋ว.....!
หมาป่าอาบโลหิตเห่าหอนออกมาอย่างเกรี้ยวกราด มีแสงสีทองส่องสว่างออกมาจากร่างกายมัน ลำแสงนี้ได้เข้าปะทะกับหกดัชนีสุริยันและลูกบอลพลังงานของหวงต้า
แรงะเิราวกับูเาไฟสามลูกได้ปะทุออกมาพร้อมกัน พลังมหาศาลปะทะกันส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงไปทั่วบริเวณนั้น เปลวเพลิงได้ปะทุขึ้นมาทุกหนทุกแห่ง มันเกิดขึ้นจากแรงเสียดทานระหว่างพลังงานกับอากาศ ได้เปลี่ยนสถานที่แห่งนี้ให้เป็ทะเลเพลิง รอบๆเต็มไปด้วยพลังงานที่น่าสะพรึงกลัว
ตึก...ตึก...ตึก...
หมาป่าอาบโลหิตไม่อาจป้องกันตัวมันเองจากการโจมตีของศัตรูทั้งสอง ร่างกายของมันแข็งแกร่งมันจึงถูกทำให้ถอยหลังไปไม่กี่ก้าวเท่านั้น ก่อนที่มันจะพยุงตัวขึ้นได้
"พวกเ้าทั้งคู่เป็เพียงแก่นแท้มนุษย์ สามารถทำให้ข้าถอยหลังได้ ช่างเป็เื่ที่น่าขันยิ่งนัก! แต่ตอนนี้เ้าได้ทำให้ข้าโกรธจริงๆเสียแล้ว ข้าจะให้เ้าได้ตายอย่างน่าอนาถ"
หมาป่าอาบโลหิตข่มขู่พวกเขา การทำให้าาหมาป่าผู้หยิ่งทะนงโกรธ ผลที่ตามมาย่อมร้ายแรงยิ่ง
ฟุ่บ....!
เพียงพริบตาเดียว ได้มีร่างหมาป่าอาบโลหิตปรากฏขึ้นมาอีกแปดร่าง ร่างของหมาป่าอาบโลหิตทั้งเก้า ล้อมรอบเจียงเฉินและหวงต้าเป็วงกลม
"มารดามันเถอะ... นี่มันวิชาอะไรกันเนี่ย?"
ท่าทีของหวงต้าเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน จากหนึ่งเป็เก้า สายตาของมันไม่อาจบอกได้ว่าตัวไหนคือร่างจริงของหมาป่าอาบโลหิต
"นี่คือความสามารถดั้งเดิมของสายเืของหมาป่าอาบโลหิต ที่เรียกว่า 'มายาเก้าร่าง' ทักษะนี้ไม่ได้สร้างความเสียหายใดๆแต่ความน่ากลัวของมันอยู่ที่มันได้สร้างภาพมายาออกมาอีกแปดร่างทำให้ศัตรูสับสน"
เจียงเฉินอธิบาย ดวงตาเปล่งแสงสีทอง ทักษะดั้งเดิมเฉพาะสายเืของมันน่าสะพรึงกลัวจริงๆ มันยากที่จะจับได้ ร่างมายาทุกตนเคลื่อนไหวพร้อมกับร่างต้น แม้กระทั่งโจมตียังโจมตีพร้อมกัน หากว่าศัตรูไม่สามารถบอกว่าร่างจริงคือร่างไหนละก็ ผลที่ตามมาไม่ต้องสงสัยเลยว่าร้ายแรงนัก
ชิ้ง.....
หวงต้าได้เปลี่ยนตัวเองเป็แสงสีทองเอาหัวของมันพุ่งเข้าชนหมาป่าโลหิต แต่หมาโลหิตได้กลายเป็ฟองน้ำแล้วแตกกระจายหายไป มันเป็เพียงภาพมายาเท่านั้น
"แม่งเอ๊ย!"
หวงต้าสบถออกมา ความรู้สึกของการโจมตีพลาดเป้าจะทำให้มันหดหู่นัก
" หวงต้า ปลดปล่อยปีกแสงของเ้า ป้องกันการโจมตีของมัน ข้าจะหาร่างจริงของมันเอง "
เจียงเฉินพูดขึ้น
"ได้!"
หวงต้ากางปีกแสงของมันออกมา มันพร้อมแล้ว จากนั้นเจียงเฉินได้ส่งััเทวะออกไปตรวจสอบหมาป่าโลหิต แต่เขาก็ไม่สามารถบอกได้ว่าตัวไหนคือตัวจริง
"ฮ่าฮ่า ้าที่จะมองทะลุมายาเก้าร่างของข้างั้นรึ?หยุดเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ดีกว่า!"
หมาป่าโลหิตหัวเราะเสียงดัง ขณะเดียวกันร่างมายาทั้งหมดก็หัวเราะพร้อมกันด้วย ร่างมายาที่ถูกหวงต้าทำลายลงไป ได้ปรากฏขึ้นมาใหม่อีกครั้ง หมาป่าโลหิตทั้งเก้าได้โจมตีพร้อมกัน พวกมันพุ่งไปยังหวงต้าและเจียงเฉิน
"ฮึ่ม!"
หวงต้าแค่นเสียงเ็า ปีกแสงของมันกระพือออก และมันได้เปลี่ยนร่างกายของมันเป็แสงสีทอง บินไปรอบๆเจียงเฉิน มันไม่ยอมเปิดโอกาสให้หมาป่าอาบโลหิตทำอันตรายเจียงเฉินได้
บนใบหน้าเจียงเฉินเผยรอยยิ้มแสยะขึ้น ทักษะร่างมายาเก้าร่าง นั้นเป็ทักษะดั้งเดิมที่น่ากลัว หากเป็เพียงคนธรรมดาทั่วไป ในตอนนี้คงตายไปแล้ว แม้ว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์ขั้นกลางอยู่ที่นี่ จะต้องถูกหมาป่าอาบโลหิตทรมานจนตายเป็แน่
แต่โชคไม่ดีของมันที่คนที่มันพบดันเป็เจียงเฉิน การเผชิญหน้าในครั้งนี้ชะตากรรมของมันจะไม่เป็ดั่งที่มันปรารถนา บางทีอาจไม่มีใครที่หาร่างจริงของมันพบ แต่ไม่ใช่เจียงเฉิน เขาเริ่มโคจรพลังด้วยทักษะยอดิญญาต้าเหยี่ยน และพลังิญญาได้พวยพุ่งออกมาจากร่างของเขา
ทักษะยอดิญญาต้าเหยี่ยน เป็ทักษะไร้เทียมทาน เป็ทักษะบ่มเพาะพลังิญญาที่หาที่เปรียบมิได้ มันทำให้เจียงเฉินสามารถมองสิ่งใดๆได้อย่างทะลุปรุโปร่ง และด้วยการโคจรใช้ทักษะนี้ เจียงเฉินสามารถบอกได้ว่าร่างจริงของหมาป่าอาบโลหิตคือร่างไหน
ปัง!
"บัดซบเอ๊ย!!"
หวงต้าก่นด่าอย่างบ้าคลั่ง แม้ว่าตัวมันจะรวดเร็วมาก แต่มันทำได้เพียงทำลายร่างมายาเท่านั้น แม้ว่าการโจมตีของร่างมายาถูกไม่ได้สร้างความเสียหายใดๆแก่หวงต้า แต่มันได้สร้างโอกาสให้หมาป่าอาบโลหิตร่างจริงโจมตีใส่หวงต้า ด้วยร่างกายที่แข็งแกร่งและทรงพลังของหวงต้า ทำให้มันเพียงกระเด็นไปไกลเท่านั้น หากเป็คนอื่นแทนที่มัน ในตอนนี้คนนั้นต้องตายไปแล้ว
หลังจากที่หวงต้ากระเด็นออกมาไกล หมาป่าอาบโลหิตหมุนตัวของมันเตรียมพร้อมที่จะโจมตีเจียงเฉิน ทันใดนั้นเอง เจียงเฉินได้หมุนตัวกลับตาทั้งคู่ของมันได้ส่องประกาย เขามองไปยังหมาป่าอาบโลหิตร่างหนึ่ง
หมาป่าอาบโลหิตร่างนั้นสั่นสะท้าน มันรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับสิ่งนี้ เจียงเฉินได้นำเอาขวานสีทองออกมา จากนั้นเขาก็ไม่สนใจการโจมตีของหมาป่าอาบโลหิตร่างอื่น เขาชี้ขวานของเขาออกไปด้านหน้า ไปยังหมาป่าอาบโลหิตร่างที่เขามองอยู่
"หวงต้า เ้านี่คือร่างจริงของหมาป่าอาบโลหิต จัดการมัน!"
เจียงเฉินะโออกไปเสียงดัง
