ทั้งสี่ได้สติอีกที คือฟื้นขึ้นมาบริเวณ คือหน้ากระจกพืชพันธุ์ ทั้งสี่ลุกขึ้น
“มึนเลย เหมือนพวกเราเดินทางกันมาไกลมาก ข้าเหนื่อย! ข้าเมื่อย! ข้าจะกิน! ข้าจะอาบน้ำ! ข้าจะนอนให้เต็มอิ่ม! เนอะ! หลิ่งกวาง” เ้าวั่งซูพูดพร้อมบิดี้เีไปทางหลิ่งกวาง “แง๊วๆ”
“เป็การเดินทางที่ยาวนาน เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปอดีต และพบเื่ราวที่น่าเหลือเชื่อและยิ่งใหญ่มากมาย ช่างเป็การเดินทางที่วิเศษจริงๆ” ฮวาเฟยฟากล่าวใบหน้าพอใจ
“เฟยเฟย เ้าไปอยู่เรือนข้านะ ที่เรือนข้าไม่มีใครนอกจากบ่าวรับใช้ เพียงแต่ว่ามันโบราณ และวังเวงหน่อย เ้าอาจจะไม่ชอบบรรยากาศ” เ้าวั่งซูเอ่ยชวน ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะอยากไปไม๊
“ได้สิ! งั้นข้าไม่เกรงใจ! ถ้าข้าอยู่ยาวก็อย่าว่ากัน! ส่วนเื่วังเวงไม่ต้องกังวลมันไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่ข้าเคยไปที่นั่น” ฮวาเฟยฟาเอ่ยมองขึ้นฟ้าอมยิ้ม
“เอ๊ะ! ในอดีตเ้าเคยมาคฤหาสน์ตระกูลข้าแล้วหรอ เ้ามาทำอะไร แล้วอยู่นานไม๊ แล้วเ้ารู้จักกับใครในตระกูลข้า ท่านปู่ท่านปู่ทวด หรือ ใคร!?” เ้าวั่งซูเดินตามฮวาเฟยฟาเร้าหรือจะเอาคำตอบ
“ฮ่าๆๆ! ข้ารู้จักเรือนจันทร์มืดมากกว่าที่เ้าคิด ซูซู” ฮวาเฟยฟาพูดไปหัวเราะไป
“แหม! นี่เ้าก็จะมาทำตัวเหมือนพวกตาเฒ่าหมู่ซู่นั่นอีกคนหรอ เฟยเฟย รู้มันซะทุกเื่ในโลกนี้ เชอะ”เ้าวั่งซูพูดหมั่นไส้ ทั้งสองเดินลงจากสำนักเก้ายุตรา หุบเขาเก้ากระจก มุ่งหน้าผ่านป่า และหุบเขาตรงไปยังหมู่บ้านชุนเทียน ทั้งสองหยุดพักตามทาง เก็บผลไม้ ร้องเพลง เดินไปเรื่อยๆ จนเย็นย่ำ
“โอ๊ย! ข้าเมื่อยแล้วอ่ะ! หลิ่งกวางน้อย” เ้าวั่งซูแกล้งพูดตัดพ้อ หันไปมองหลิ่งกวางที่นั่งสบายบนบ่า หลิ่งกวางะโลงเร่งพลังมนต์ขยายร่างใหญ่ขึ้นพอนั่ง เ้าวั่งซูรีบะโขึ้นนั่งนอนเอนหลังบนหลังหลิ่งกวางมองดูฟ้า และร้องเพลงอย่างสบายใจ โดยมีฮวาเฟยฟาเดินตามข้างๆ อย่างสงบ ในที่สุดพวกเค้าก็เดินทางมาถึง ตำหนักจันทร์มืด คฤหาสน์สกุลเ้า (月亮 เย่วเลี่ยว) คฤหาสน์แห่งเดียวที่ตั้งตระหง่านสีดำเงาสะท้อนแสงเงาจันทร์ที่สาดกระทบสะท้อนความเป็มันเลื่อมของตัวตำหนัก ตัดกับธรรมชาติพพฤกษารอบด้าน ความลึกลับ ทรงพลัง งดงาม โดดเด่นก็ยังคงฉายแววแม้ในยามค่ำคืน
“คุณชายวั่ง! ท่านกลับมาแล้ว! คุณชาย! คุณชาย! ท่านหายไปไหนมา ทิ้งพวกข้าไปนานทีเดียว” บ่าวใช้ต่างพากันออกมาทำความเคารพ และถามไถ่ด้วยความคิดถึง
“คือข้า...............เอ่อ!” ก่อนที่เ้าวั่งซูจะตอบบ่าวใช้ที่มารุมล้อมด้วยความปลื้มใจที่ทุกคนเป็ห่วงและคิดถึงตน ทุกคนก็ทำสีหน้าใและพากันวิ่งกรูเข้าไปหาฮวาเฟยฟาและคุกเข่าคารวะ บ้างก็กอดร่ำไห้
“หา! เกิดอะไรขึ้น!?” เ้าวั่งซูกำลังงงในใจกับสิ่งที่เห็น
“องค์ชายฮวา องค์ชายฮวา ฮือฮือ! ท่านหายไปไหนมาขอรับ พวกข้าคิดว่าท่านจะทอดทิ้งพวกข้าไปแบบไม่กลับมาเหมือนเ้านายคนอื่นๆ ฮือฮือ!”
“มันนานมากแล้วนะเพคะ หลายร้อยปีมานี้ไม่มีข่าวคราวของท่านเลย ท่านไปอยู่ที่ไหนมาองค์ชาย!? ทำไมท่านไม่กลับมาบ้านของพวกเรา ฮืฮฮือ!” บ่าวไพร่ต่างพากันร้องไห้ระงมเข้ากอดแขนกอดขาฮวาเฟยฟา
“ขอบใจพวกเ้าทุกคน ขอบใจจริงๆ ที่ไม่เคยลืมข้า อีกทั้งยังภักดิ์ดี คิดถึงห่วงใยกันมิวางวาย ขอบใจจริงๆ” ฮวาเฟยฟาจับมือทุกคน และน้ำตารื้น กล่าวขอบคุณบ่าวไพร่ทุกคน ที่ยังคิดถึง และรอคอยการกลับมาของตนตลอด
“เดี๋ยวๆ นะ! พวกเ้า ข้าไม่เข้าใจ ต้องเป็ข้าสิที่พวกเ้าคิดถึง และ อยากให้กลับมาบ้าน ทำไมพวกเ้าถึงเรียก เฟยเฟยว่าองค์ชายฮวาอย่างกับคุ้นเคยกันมานานอย่างใดอย่างนั้นแล” เ้าวั่งซูยืนเกาหัวงง
“องค์ชายฮวา ยังไม่ได้เล่าเื่ของ ท่านกับสกุลเ้า ให้คุณชายฟังหรอขอรับ” หัวหน้าพ่อบ้านกล่าวถามเฟยฟา
“ยัง พอดีพวกเราเจอกันโดยบังเอิญ และการเดินทางของพวกเราก็ค่อนข้างลำบาก เจอศัตรูระหว่างทาง และตัวคุณชายเ้าเอง ก็ไม่ได้สนใจการมีอยู่ของข้าเท่าไหร่ ข้าเลยยังไม่ได้เล่าอะไรมากมายนัก” ฮวาเฟยฟาเอ่ย ทำหน้ามึนๆ อมยิ้ม มองมาทางเ้าวั่งซูขณะตอบคำถามพ่อบ้าน
“นี่เ้าๆ สรุปเื่อะไรที่ข้ายังไม่รู้ ไหนเ้าเล่ามาซิ เล่ามาเดี๋ยวนี้” เ้าวั่งซูคะยั้นคะยอ ปนบังคับให้ฮวาเฟยฟารีบเล่าให้ตนฟัง
“ได้สิ ข้าก็บอกเ้าแล้ว ไม่นานเ้าก้จะรู้ วันนี้พวกเราเหนื่อยแล้ว เข้าแช่น้ำอุ่น ทานอาหาร และพูดคุย พักผ่อนกันเถอะ” ฮวาเฟยฟาเอ่ยชวนอ่อนโยน
“นี่เ้า เลื่อนข้าอีกแล้ว” เ้าวั่งซูชี้หน้าแบบไม่รู้จะทำยังไงกับคนตรงหน้า
“ก็ได้ วันนี้ข้าก็เพลียมากจริง งั้นพักก่อน” เ้าวั่งซูกล่าวอย่างเสียไม่ได้
“เชิญเพคะ เชิญขอรับองค์ชายฮวา คุณชายวั่งซู พวกเราจัดเตรียมน้ำร้อน และจะไปเตรียมสำรับ และ ห้องนอนให้พวกท่าน เชิญพวกท่านเข้าเรือนก่อน เื่อื่นค่อยหารือกัน” บ่าวใช้พากันรีบแย่งพูดเชิญทั้งสองให้เข้าเรือนก่อน
ห้องอาบน้ำใหย่บ้านสกุลเ้า ใหญ่โตอ่างน้ำเหมือนขุดบ่อเอาไว้ในบ้าน มีรูปปั้นสลักกิเลนไฟและหงษ์ฟ้าอยู่สองฝั่งคอยคายน้ำร้อนลงสู่บ่อ ในน้ำเหล่าบ่าวไพร่ได้เตรียมโรยดอกไม้กลิ่นหอมนานาพันธุ์ฟุ้งกระจายไปทั่ว ฮวาเฟยฟาชิงหลงและหลิงกวางมาถึงก่อน ด้วยความไม่สบายตัว บวก เมื่อยล้าจากการเดินทางและต่อสู้ และบรรยากาศที่อบอุ่นน่าชะล้างในห้องอาบน้ำสกุลเ้าแห่งนี้ที่คุ้นเคย ก็ปลดชุดออกและลงแช่น้ำอย่างสบายใจ สักพักไม่นานเ้าวั่งซูหลังจากที่แวะทักทายเหล่าคนใช้ที่สนิทบางคน ก็มาถึง เมื่อเดินเข้ามาในห้องอาบน้ำ หลังจากสูดหายใจและยิ้มด้วยความชื่นมื่นอยากจะอาบน้ำชำระร่างกายใจจะขาด ก็เปลื้องผ้าออกหมด สายผ้าเตี่ยวถูกสะบัดไปมาทำให้ไอหมอกควันเหนือบ่อกระจายตัวออกเปิดเป็ช่องให้เห็นแผ่นหลังของผู้ที่มาก่อน เ้าวั่งซูลืมตัว ยืนมองในรูปร่างที่งดงามอ่อนช้อยแต่เข้มแข็งนั่น บ่ากว้างได้รูป มีมัดกล้ามสมส่วน เนื้อตัวผิวพรรณละเอียด โครงร่างแข็งแกร่งแต่บางอ่อนช้อย
“ขาวเนียน แต่ เอ๊ะ! ทำไมถึงมีแผลเป็เต็มไปหมด แผลพวกนี้มาจากไหนกัน” เ้าวั่งซูเผลอพูดสิ่งที่คิดอยู่ในใจออกมา
“แผลเป็เหล่านี้เกิดจากการต่อสู้ ข้ามีชีวิตมายาวนาน ย่อมมีพลาดพลั้งบ้างเวลาเจอศัตรู” ฮวาเฟยฟาเอ่ย
“เอ๊ะ! อ่ะ! เอ้ย! ตะกี้ๆ เ้าอ่านใจข้า!” เ้าวั่งซูใเหวอ ว่าทำไมเฟยฟารู้สิ่งที่อยู่ในใจ
“เ้าพูดมันออกมาต่างหาก ซูซู และถ้าเ้าแอบมองเรือนร่างข้าจนพอแล้ว เ้าก็ลงมาแช่น้ำได้ละ เพราะข้าเองก็เห็นเรือนร่างเ้าจนพอละ” ฮวาเฟยฟาพูดนิ่งอมยิ้มเ้าเล่ห์ เ้าวั่งซูหน้าแดงใลืมว่าตนได้ปลดอาภรณ์ออกหมดแล้ว ได้สติก็รีบเอามือปิดส่วนสำคัญและรีบกระโจนลงน้ำ และดำน้ำหายไปสักพักหลบหนีความเขิลอาย ในระหว่างนั้นก็ใช้ความคิด
“แต่รอยาแพวกนั้นเหมือนกับ รอยที่เหมือนเนื้อถูกกัดกร่อน หรือร่อนออก และเป็แผลเป็ลึกมากกว่า รอยดาบรอยธนู หรือว่าเค้าเคยประมือกับสิ่งมีชีวิตแปลกๆ จากภพภูมิอื่น และ โดนพลังจักราที่รุนแรงโจมตีมา”
“แล้วเ้าเข้ามาเมื่อไหร่ ทำไมข้าไม่เห็นเ้าเลย” เ้าวั่งซูลอยหน้าพ้นน้ำมาครึ่ง และเอ่ยถามฮวาเฟยฟาที่แช่น้ำอย่างสบายอารมณ์อยู่
“พวกข้าเห็นเ้าคุยกับพวกบ่าวไพร่เลยพากันเข้ามาก่อน” ฮวาเฟยฟาเอ่ย
“พวกข้า....!?” เ้าวั่งซูยังพูดไม่ทันจบ หลิ่งกวางและชิงหลงที่ดำน้ำอยู่ก็โผล่พรวดพราดขึ้นมา
“เฮ้ย! นี่พวกเ้า หลิ่งกวางเ้าไม่รอข้าเลยนะ” เ้าวั่งซูแกล้งตำหนิ “แง๊วๆ” หลิงวางร้องรับและไปเล่นน้ำกับชิงหลงต่อ
“เอ๊ะ! ทำไมหน้าเ้าหน้าแดงขนาดนั้น เ้าเป็อะไรรึเปล่า?! ซูซู” ฮวาเฟยฟาเอ่ยถามพร้อมพุ่งตัวเข้าไปหา เ้าวั่งซูใหน้าแดงก่ำขึ้นไปอีก รีบหันหน้าคมหล่อหลบไปอีกทาง
“เปล่าๆ! ข้าๆ! ไม่เป็อะไร!” แต่ก็ดูเหมือนจะสายไป ฮวาเฟยฟามาถึงประชิดตัว และเอามือช้อนคางเ้าวั่งซูขึ้นมองเห็นใบหน้าหล่อ คม โด่ง ได้สัดส่วน แก้มลูกส้มแดงก่ำระเรื่อ ปากกระจับคมที่สั่นแดงและเผยอขึ้น
“เ้าๆ! คิดจะทำอะไรหน่ะ” เ้าวั่งซูเสียงสั่นถาม แต่ก็ไร้แรงต้านทาน เพราะแขนข้างหนึ่งของฮวาเฟยฟาเกาะกุมแขนเค้า และอีกข้างก็ช้อนคางลอคไว้ในนิ้วมือเรียวยาว อีกทั้งใบหน้างาม ตากวางในดวงตาที่ดูสว่างใส แต่แข็งกร้าว ขนตางามเป็แพรคู่นั้น จ้องมองเข้ามาที่เค้า
“อื้ม! ไม่น่าเป็อะไร ข้าจำได้ เ้ายังดูไม่เปลี่ยนไปจากเดิม ไม่เลยยังเป็คนเดิมที่ข้ารู้จัก” สิ้นเสียงดวงตาคู่งามก็หลี่ลงอย่างอ่อนโยน มือที่ช้อนคางก็ปลดคลายลง
“หมายความว่ายังไง ที่ว่าข้ายังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงไป หมายความว่ายังไงกัน” เ้าวั่งซูคิดพร่ามัว พร้อมกับไอหมอกควันทั่วห้องอาบน้ำ เมื่อเอามือช้อนดอกไม้ขึ้นจากน้ำดอกไม้หอมพวกนั้นกลับเหี่ยวเฉา ฤดูใบไม้ร่วงกลับมาและนำภาพในอดีตย้อนวิ่งแว่บมา