จ้านอู๋มิ่งหัวเราะแล้ว
เขาไม่เคยอารมณ์ดีมากเช่นนี้มาก่อน เขาทราบว่าบนเส้นทางการฝึกฌานบ่มเพาะพลังชีวิตของตนรุดหน้าขึ้นแล้วก้าวใหญ่ก้าวหนึ่ง ถึงแม้จะยังห่างขั้นควบคุมชะตาอีกไกล แต่การที่บรรลุขอบเขตด่านรู้ชะตาแล้ว ก็สามารถ่ชิงชะตาชีวิตกับฟ้าดินได้เช่นไร การบ่มเพาะลำดับต่อไปจะราบรื่น ไร้อุปสรรคอีกต่อไป
ยามที่จ้านอู๋มิ่งโคจรปราณดูดซับพลังธาตุและฤทธิ์โอสถในกระถางั์จนหมดสิ้นและออกมาจากห้องลับมานั้น เวลากักตนเข้าด่านได้ล่วงเลยมาถึงวันที่สิบแล้ว จ้านอู๋มิ่งรู้สึกใขึ้นมา ตนเองกลับสลบไสลไม่ได้สติอยู่ในกระถางั์นานถึงเจ็ดวัน หากมิใช่เพราะตนมิกลัวสิ้นเปลือง ใช้ดอกบัวศักดิ์สิทธิ์ฟีนิกซ์์ไปถึงห้ากลีบ เกรงแต่ว่าพลังแห่งนิพพานจะไม่สามารถทำให้ตนฟื้นฟูกลับคืนมาอย่างสมบูรณ์ได้ ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็จะทำให้กลายเป็คนพิการไปจริงๆ คิดแล้วอดที่จะรู้สึกครั่นคร้ามมิได้
จ้านอู๋มิ่งยังมีเื่ราวมากมายต้องไปกระทำ ่เวลาชั่วพริบตาที่องค์ประกอบธาตุอัคคีหลอมรวมเข้ากับธาตุแห่งชีวิต ความทรงจำชาติภพก่อนในส่วนลึกของห้วงคำนึงถูกพลังบริสุทธิ์สายนั้นพุ่งชนจนปริเป็รอยแยก ความทรงจำมากมายของชาติก่อนเปลี่ยนเป็ชัดเจนขึ้นมา ก่อนหน้านี้ความทรงจำของจ้านอู๋มิ่ง ด้วยการดำรงอยู่ของิญญาคู่ ท่ามกลางความมืดมิดถูกพลังบางอย่างปิดผนึกไว้ สิ่งที่น่าจดจำเ่าั้ไม่สามารถลืมเลือน สิ่งที่สำคัญมากมายกลับคลุมเครืออย่างยิ่ง ในที่สุดเวลานี้เขาเข้าใจแล้ว พลังของสิ่งที่คอยปิดผนึกนี้ จำเป็ต้องใช้พลังองค์ประกอบธาตุฟ้าดินเป็กุญแจ จึงสามารถเปิดอดีตที่ถูกผนึกออกมาทีละชั้นๆ เวลาที่ความทรงจำฟื้นตื่นขึ้นมาแล้ว เขาจึงทราบว่าตนเองสมควรกระทำเื่ใดบ้าง มิฉะนั้นแล้วชะตาชีวิตก็จะนำพาเขาไปสู่เส้นที่ไม่หวนคืนกลับเช่นเดิมอีก
……
ระยะเวลาสิบวัน เมืองมู่เหย่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง หลายวันก่อนตระกูลจ้านได้จัดงานการรวมตัวของสี่ตระกูลใหญ่แห่งเมืองมู่เหย่ขึ้น
เมื่อทุกตระกูลมารวมตัวกันแล้ว ตระกูลจ้านได้นำเสนอยินดีแบ่งปันผลประโยชน์ของเม็ดโอสถกับเหล่าตระกูลใหญ่ และมอบสิทธิ์การซื้อขายเม็ดโอสถส่วนหนึ่งให้แก่สามตระกูลใหญ่ แต่ว่าอนุญาตให้จำหน่ายเฉพาะนอกเมืองมู่เหย่เท่านั้น ตระกูลจ้านจะนำเสนอขายให้ในราคาทุน และกำไรจากการขายแบ่งออกเป็ห้าสิบต่อห้าสิบ
ตระกูลจ้านใจกว้างเช่นนี้ ความเห็นของทั้งสามตระกูลใหญ่แปรเปลี่ยนไปทันที เป็ไปตามที่จ้านอู๋มิ่งกล่าว ไม่มีศัตรูที่ถาวรตลอดกาล มีเพียงผลประโยชน์เท่านั้นที่เป็นิรันดร์ ถึงแม้ยากจะระบุว่าราคาเม็ดโอสถที่ตระกูลจ้านให้จะเป็ราคาต้นทุนจริงหรือไม่ แต่เป็ราคาที่ต่ำมากแล้วจริงๆ ใกล้เคียงอย่างยิ่งกับค่าวัตถุยาที่นักหลอมโอสถของเหล่าบรรดาตระกูลใหญ่ใช้ในการเลียนแบบ ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าราคานี้ใกล้เคียงกับราคาต้นทุนแน่นอน ส่วนการแบ่งกำไรกันห้าสิบต่อห้าสิบกับตระกูลจ้าน ก็ถือได้ว่าเป็การฝากจำหน่ายเท่ากับได้กำไรเปล่าๆ เม็ดโอสถของตระกูลจ้านสรรพคุณช่างน่าอัศจรรย์นัก และเหมาะกับผู้ฝึกยุทธ์นักฝึกฌานบ่มเพาะพลังระดับล่างทั่วไป ขอบเขตของตลาดจึงกว้างอย่างยิ่ง ซึ่งบรรดาตระกูลใหญ่ล้วนทราบกันดี หลายๆ ตระกูลใหญ่เริ่มแสดงออกถึงการตอบรับที่ดี แต่ละตระกูลยามจำหน่ายสินค้าให้ตระกูลจ้านก็สามารถนำเสนอลดราคาพิเศษกว่าให้เช่นกัน
ตระกูลจ้านประกาศ เมื่อเป็พันธมิตรกันแล้ว ต่อไปในอนาคต ตำรับโอสถใดๆ ที่คิดค้นขึ้นใหม่โดยตระกูลจ้าน จะจัดให้แก่สี่ตระกูลใหญ่ของเมืองมู่เหย่ก่อน หวังเพียงว่าสี่ตระกูลใหญ่จะสามารถกำหนดราคาสินค้าร่วมกันเป็หนึ่งเดียวในเมืองมู่เหย่ การจัดจำหน่ายภายนอกก็กำหนดเท่าๆ กัน ความคิดเห็นเหล่านี้สอดคล้องกับผลประโยชน์ของแต่ละตระกูลใหญ่ ได้รับด้วยความเห็นชอบเป็เอกฉันท์จากสามตระกูลใหญ่
หลังจากการรวมตัวของสี่ตระกูลใหญ่ ไม่นานก็มีข่าวดีออกมาจากเมืองมู่เหย่เื่หนึ่ง
จ้านอู๋ฝ่า คุณชายสองของตระกูลจ้านหมั้นหมายกับหลงอิ๋งอิ๋ง คุณหนูใหญ่ตระกูลหลง จ้านหยวนหยวน คุณหนูห้าตระกูลจ้านแต่งเข้าบ้านตระกูลเฉิน ตระกูลใหญ่หลายตระกูลแห่งเมืองมู่เหย่กลายเป็ญาติกันโดยการสมรส บวกกับตระกูลจ้านจงใจสานความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น เมืองมู่เหย่เกิดความสมัครสมานขึ้นอย่างที่มิเคยมีมาก่อน ตระกูลจี้ภายใต้การขับเคลื่อนโดยจี้เซี่ยงหนาน ละทิ้งกรณีพิพาทที่เคยมีก่อนหน้ากับตระกูลจ้าน มีความร่วมมือกันอย่างลึกซึ้ง
หลังจากจ้านอู๋มิ่งทราบเื่ทั้งหมดนี้แล้วก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ บรรดาพวกดื้อรั้นในตระกูลถูกตนพูดกล่อมจนเข้าใจกระจ่างแล้วจริงๆ มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก ทุกอย่างกำลังดำเนินไปในทิศทางที่ดี ตอนนี้เพียงแค่ดำเนินการอย่างระมัดระวัง แล้วชะตากรรมของตระกูลจ้านก็จะแปรเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
จ้านอู๋มิ่งได้รับข่าวสารจากจี้เซี่ยงหนานอย่างรวดเร็ว ตระกูลเจิ้งจัดส่งยอดฝีมือจำนวนไม่น้อยมาอีกครั้ง จี้เซี่ยงหนานเล่าเื่ราวของหุบเขาค่างปีศาจจนสามารถเห็นภาพชัดเจนอย่างมีรสชาติ ถึงแม้ไม่ได้พบเห็นดอกบัวศักดิ์สิทธิ์ฟีนิกซ์์ แต่กลับััได้ถึงความแปรปรวนอย่างใหญ่หลวงในพลังจิติญญาของฟ้าดิน จี้เซี่ยงหนานยังจงใจปกปิดสถานการณ์การติดตามบุคคลลึกลับ เื่ที่ไปหุบเขาค่างปีศาจกลายเป็ว่านายท่านสามเจิ้งไปได้แผนที่ขุมทรัพย์ลึกลับมา หวังให้ตระกูลจี้ช่วยเขาอย่างสุดกำลังในฐานะพันธมิตร
แต่ผลลัพธ์กลับทำให้ตระกูลจี้ต้องประสบความสูญเสียครั้งใหญ่ เห็นแก่ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเจิ้งและตระกูลจี้ ตระกูลจี้ยังคงมอบแผนที่ให้เจิ้งหย่งฟู ผู้รับผิดชอบคนใหม่ของตระกูลเจิ้ง
เจิ้งหย่งฟูเรียกได้เป็ตัวแทนคนหนุ่มของตระกูลเจิ้ง นอกจากผู้นำตระกูลแล้วก็เป็ยอดฝีมืออันดับหนึ่ง ยามนี้การบ่มเพาะบรรลุขอบเขตราชันา อีกทั้งยังบรรลุระดับสามดาวแล้ว
สำหรับสิ่งที่จี้เซี่ยงหนานพูด เจิ้งหย่งฟูไม่สงสัยแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ทายาทผู้นำตระกูลคนต่อไปของตระกูลจี้ก็เสียชีวิตในหุบเขาค่างปีศาจเช่นกัน จะเห็นได้ว่าการต่อสู้ดุเดือดเืพล่านเพียงใด
และเขาก็รู้อุปนิสัยของเจิ้งอวี้ฟูเป็อย่างดี ถ้าเจิ้งอวี้ฟูได้แผนที่ขุมทรัพย์มา ต้องทุ่มเทเพื่อสร้างผลงานอย่างจริงจัง ้าปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จลุล่วงคนเดียว เพื่อที่จะได้รับการสนับสนุนจากทางตระกูลมากยิ่งขึ้น เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าจะเสียชีวิตในหุบเขาค่างปีศาจ
ครั้งนี้เขามาเมืองมู่เหย่ ไม่ใช่เพราะเขาทราบเื่ดอกบัวศักดิ์สิทธิ์ฟีนิกซ์์ แต่เนื่องจากลูกชายตนเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจในเมืองมู่เหย่ เวลานี้พลันได้ทราบข่าวของดอกบัวศักดิ์สิทธิ์ฟีนิกซ์์ จึงรู้สึกทนไม่ไหวขึ้นมาทันที ผู้าุโเจิ้งซู่ที่ร่วมเดินทางด้วยก็ตื่นเต้นยิ่งนักเช่นกัน ส่วนความแค้นของลูกชาย เนื่องเพราะเจิ้งอวี้ฟูและพวกล้วนตายหมดสิ้น คนที่ทราบเื่มีเพียงตระกูลจี้เท่านั้น เมื่อตระกูลจี้้าปกปิดความจริงย่อมเป็ไปไม่ได้ที่จะพูดให้ชัดเจน เจิ้งหย่งฟูคิดจะหาตัวฆาตกรให้ได้โดยเร็วที่สุดย่อมเป็ไปไม่ได้ ดังนั้นตระกูลเจิ้งจึงเตรียมพร้อมที่จะสำรวจหุบเขาค่างปีศาจอีกครั้ง
ทุกอย่างล้วนกำลังมุ่งไปตามแผนการของจ้านอู๋มิ่ง เขามั่นใจในทักษะการแสดงของจี้เซี่ยงหนาน แต่ว่าในใจรู้สึกต้องขออภัยสัตว์อสูรวานรเฒ่าตัวนั้นอยู่บ้าง ที่ใช้มันเป็เกราะกำบังลูกธนูครั้งแล้วครั้งเล่า คิดไปคิดมา จ้านอู๋มิ่งยังคงบอกกับคนในครอบครัวว่าตนจะเดินทางไปที่ป่าสัตว์อสูรอีกครั้ง
……
เทือกเขาสัตว์อสูรสลับซับซ้อนทั้งในแนวตั้งและแนวนอน ั้แ่เทือกเขานกอินทรีเทพเ้า สันเขาัเขียว เทือกเขาหมื่นสัตว์อสูรสามแนว เทือกเขาหลักแผ่ขยายแนวเขากิ่งก้านสาขาเล็กๆ ออกไปมากมายนับมิถ้วน แนวเทือกเขาแต่ละลูกทอดยาวนับหลายหมื่นลี้ ตำนานเล่าว่าเทือกเขานกอินทรีเทพเ้านี้เคยถูกนกอินทรีศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดยึดครองมานานปีจนนับมิถ้วน และมนุษย์ตั้งชื่อเทือกเขาที่นกอินทรีศักดิ์สิทธิ์อาศัยอยู่นี้ว่าเทือกเขานกอินทรีเทพเ้า เพื่อแสดงความเคารพต่อนกอินทรีศักดิ์สิทธิ์
สันเขาัเขียวก็มีตำนานเกี่ยวกับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ัเขียวเช่นกัน แต่นั่นเป็เื่ราวในอดีตที่เกิดขึ้นมาเนิ่นนานปีจนนับมิถ้วนแล้ว ตำนานเล่าว่าสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ัเขียวคืุ์คนแรกของแผ่นดินนี้ที่ทำลายกฎเกณฑ์ของฟ้าดิน เป็ิญญาศักดิ์สิทธิ์ทะยานขึ้นสู่์กลายร่างเป็เทพะ เหล่าบรรดาสัตว์อสูรทั้งหมดล้วนเคารพนับถือัเขียวเป็บรรพบุรุษ แนวเทือกเขาสัตว์อสูรทั้งหมดยึดถือสันเขาัเขียวเป็อาณาเขตดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ที่เหล่าบรรดาหมื่นสัตว์อสูรสักการบูชา สันเขาัเขียวเป็สถานที่ต้องห้ามของทั่วอาณาเขตเทือกเขาสัตว์อสูรทั้งหมด ซึ่งมนุษย์แทบมิอาจย่างเท้าล่วงล้ำกล้ำกราย
อาณาเขตทั่วทั้งเทือกเขาสัตว์อสูรมีแม่น้ำใหญ่สี่สาย ไหลผ่านตัดแบ่งป่าสัตว์อสูรออกเป็หลายส่วน สายน้ำของแม่น้ำใหญ่ไหลตรงลงสู่มหาสมุทรวันสิ้นโลก มียอดคนผู้ทรงอำนาจมองจากฟากฟ้าในระยะไกล พื้นที่ของป่าสัตว์อสูรทั้งหมดเหมือนดั่งถูกฝ่ามือั์เบิกฟ้ากดประทับลงครั้งหนึ่ง มหาสมุทรวันสิ้นโลกคือตำแหน่งตรงกลางของฝ่ามือั์นั้น แม่น้ำใหญ่ขนาดมหึมาสี่สายก็คือรอยประทับของสี่นิ้ว กับแดนรกร้างโหยวอวิ๋นรวมเป็รอยประทับห้านิ้วพอดี จ้านอู๋มิ่งในชาติภพที่แล้ว เนื่องจากตำนานเล่าขานนี้พยายามมองให้ทั่วอาณาเขต แต่เพราะข้อจำกัดที่ไม่สามารถทำลายขอบเขตกฎเกณฑ์ของฟ้าดิน ไม่สามารถทะลุทะลวงฟากฟ้า แต่ก็ได้เห็นความสวยงามเหนือธรรมดาของอาณาเขตทั่วทั้งเทือกเขาสัตว์อสูรแล้ว ััรู้สึกเลือนรางว่าตำนานเล่าขานนั้นไม่ถึงกับไร้เหตุผลเลยเสียทีเดียว พื้นพสุธาแผ่นดินขนาดใหญ่คล้ายดั่งถูกฝ่ามือั์ตบลงมาครั้งหนึ่งจริงๆ เพียงแต่เขาบินได้ไม่สูงเพียงพอ ไม่สามารถดูภาพรวมทั้งหมด แต่ว่าไฉนจึงมีฝ่ามือใหญ่ขนาดมหึมาถึงเพียงนี้ได้เล่า?
หน้าผาไม้ดำ ชายขอบรอบนอกเทือกเขาสัตว์อสูร สถานที่ซึ่งอันตรายอย่างยิ่งแห่งหนึ่ง แต่ก็เป็สถานที่ซึ่งน่าตื่นเต้นเย้ายวนใจที่สุดสำหรับนักเสี่ยงโชคทุกคน ถ้าหากสามารถแอบเล็ดลอดเข้าไปในหน้าผาไม้ดำได้ ก็จะมีโอกาสได้รับไข่นกอินทรีสายฟ้า สัตว์อสูรวิหคจิติญญา ถ้าโชคดีมีโอกาสได้มาสักฟอง ก็สามารถฟักไข่ออกมาเป็วิหคพาหนะสัตว์อสูรจิติญญา พลังแฝงระดับห้าได้
นกอินทรีสายฟ้าที่โตเต็มวัยทั่วไปคือสัตว์อสูรระดับสาม สายเืเข้มข้นขึ้นอีกหน่อยสามารถเติบโตเป็ราชันอินทรีสายฟ้าระดับสี่ได้ หากได้รับการเสริมด้วยวัตถุประเภทจิติญญา กระตุ้นสายเืเจือจางของนกั์ปีกสีทองตามตำนานภายในร่างกายนกอินทรีสายฟ้า จะสามารถกลายเป็จักรพรรดิอินทรีสายฟ้าสัตว์อสูรระดับห้า ดังนั้นการขโมยไข่นกอินทรีสายฟ้าจึงได้รับเงินรางวัลที่สูงที่สุดของเมืองมู่เหย่เสมอมา เงินรางวัลสูงมากถึงหนึ่งล้านเหรียญทองเลยทีเดียว
ผลตอบแทนสูง อันตรายและความเสี่ยงก็ย่อมสูงเช่นกัน นกอินทรีสายฟ้านับเป็ราชันแห่งท้องฟ้าเขตรอบนอกของป่าสัตว์อสูร มีความหวงแหนอาณาจักรของตนยิ่งนัก ถ้ามีมนุษย์หรือสัตว์อสูรตัวอื่นๆ ล่วงล้ำดินแดนของพวกมัน ล้วนถูกโจมตีอย่างไร้ปรานี ด้วยพลังโจมตีของนกอินทรีสายฟ้า ผู้ที่ระดับพลังต่ำกว่าราชันาล้วนเสียชีวิต แม้แต่โอกาสหลบหนีก็ยังไม่มี เพราะไม่มีผู้ใดมีอัตราความเร็วเหนือกว่านกอินทรีสายฟ้า ขอเพียงถูกพวกมันหมายตา อัตราส่วนของการพบจุดจบชีวิตคือเก้าส่วนตาย หนึ่งส่วนรอด
ณ บริเวณใต้ผาไม้ดำ เวลานี้เงาร่างมากมายกำลังหลบหนีอย่างทุลักทุเล นกอินทรีสายฟ้าบนท้องฟ้าตามติดดุจิญญา ในกลุ่มคนที่เร่งรีบหลบหนี มีเพียงสองคนเท่านั้นที่พลังการบ่มเพาะระดับราชันา คนอื่นๆ ที่เหลือทั้งหมดคือปรมาจารย์นักยุทธ์ คนเหล่านี้ระหว่างกำลังหลบหนี ยังคงคอยปกป้องคุ้มครองหญิงสาวผู้หนึ่งที่อยู่ตรงกลางอย่างระมัดระวัง
ถ้าพูดว่านี่คือกลุ่มนักเสี่ยงโชคกลุ่มหนึ่งละก็ พลังความแข็งแกร่งของคนกลุ่มนี้น่ากลัวมาก กลุ่มนักเสี่ยงโชคที่มีราชันาถือได้ว่าเป็กลุ่มชั้นนำในเมืองมู่เหย่แล้ว
“ท่านลุงชิง โอสถนี้มิใช่ว่าสามารถปิดบังลมหายใจ รอดพ้นการตรวจจับของอินทรีสายฟ้าหรอกหรือ? ไฉนพวกเรายังมิทันถึงก้นเหวผาไม้ดำ นกอินทรีสายฟ้าจำนวนมากก็ปรากฏตัวขึ้นแล้ว…” หญิงสาวภายใต้การคุ้มครองตรงกลางโกรธเคืองยิ่งนัก
“ข้าก็ไม่ทราบว่าไฉนจึงเป็เช่นนี้ โอสถนี้คุณชายสองซื้อจากศิษย์ของปรมาจารย์นักหลอมโอสถท่านหนึ่งในราคาสูงยิ่ง ไม่น่าจะเป็ของปลอม และปกตินกอินทรีสายฟ้าแต่ละตัวจะมีรังของมันเอง ส่วนใหญ่จะอยู่กันเป็คู่ในรังเดียว ไฉนพวกเราถึงดึงดูดพวกมันมาพร้อมกันทีเดียวห้าตัว…”
“น้องสาม เ้าพาพวกมันไปคุ้มกันคุณหนูให้ออกจากผาไม้ดำโดยเร็วที่สุด ข้าจะหันเหความสนใจของนกอินทรีสายฟ้าเหล่านี้” ชายชราหนึ่งในนั้นพูดกับชายชราอีกคน
“ท่านลุงควน ไม่ได้นะ ในฝูงนกอินทรีมีสามตัวที่ขอบเขตพลังระดับสี่ อีกสองตัวบรรลุขอบเขตสามระดับสูงสุดด้วย ถึงแม้พวกเราจะหนีมาด้วยกันอย่างทุลักทุเลมากก็ตาม แต่ก็มิต้องกังวลว่าจะมีอันตรายถึงชีวิต ยังสามารถพอจะตอบโต้ได้อยู่บ้าง หากพวกเราแยกย้ายกันเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็เ้าหรือข้าล้วนไม่สามารถจะเร็วกว่านกอินทรีสายฟ้า ผลสุดท้ายต่างได้แต่ถูกโจมตีจนพ่ายแพ้ไปในที่สุด” หญิงสาวปฏิเสธอย่างเด็ดขาด
“คุณหนูอาจไม่รู้ ถึงแม้ตอนนี้มีนกอินทรีสายฟ้าเพียงห้าตัว แต่ที่นี่คือหน้าผาไม้ดำ อีกไม่นานอินทรีสายฟ้าจะถูกเรียกมาจำนวนมากมายยิ่งขึ้นอีก ถึงยามนั้นเกรงว่าพวกเราจะหนีจากความโชคร้ายไม่พ้นแล้ว”
“ถ้าเป็เช่นนี้จริงๆ เช่นนั้นชะตาชีวิตก็ควรเป็เช่นนี้อยู่แล้ว บางทีพวกเราอาจมิได้โชคร้ายขนาดนั้นก็ได้ มิทราบเช่นกันว่าเกิดอะไรขึ้น หรือว่าคนอื่นแอบไปขโมยไข่ของพวกมัน?” คิ้วงามของสาวน้อยขมวดขึ้นเล็กน้อย สีหน้าครุ่นคิด นกอินทรีสายฟ้าไม่น่าจะคลุ้มคลั่งขึ้นมาโดยมิมีสาเหตุ เห็นคนก็เกลียดชังดุจความแค้นที่ฆ่าบุตรและขโมยภรรยาคู่ชีวิตก็มิปาน จู่โจมทำร้ายอย่างดุร้ายบ้าคลั่งทันที ครั้งนี้ถ้าในกลุ่มมิใช่มีท่านลุงป๋อและท่านลุงควนที่มีความแข็งแกร่งระดับราชันาสองดาวอยู่ในกลุ่ม เกรงว่าจะถูกกวาดล้างพ่ายแพ้ยับเยินทั้งหมอไปแต่แรกนานแล้ว
การโจมตีไม่ประสบผลสำเร็จ นกอินทรีสายฟ้าส่งเสียงระดมแนวร่วมเพิ่มขึ้นจริงๆ ครู่เดียวก็เรียกมาเพิ่มอีกห้าตัว ยามนี้พวกเขาจึงได้ทราบว่าเื่ราวยุ่งยากแล้ว ปัญหายุ่งยากยิ่งกว่าเดิมคือนกอินทรีสายฟ้าไม่เพียงรวดเร็วปานสายฟ้า และมีความสามารถควบคุมสายฟ้าโดยธรรมชาติ คายลูกบอลสายฟ้าออกมาเป็ระยะๆ ถึงแม้ภายใต้การต่อต้านสุดกำลังทุกคนจึงมิมีผู้ใดเสียชีวิต แต่ในกลุ่ม ยกเว้นราชันาสองคนกับหญิงสาวที่คุ้มกันอยู่ตรงกลาง ปรมาจารย์นักยุทธ์ระดับสูงอีกห้าคนที่เหลือล้วนถูกจู่โจมกระหน่ำจนภายนอกไหม้เกรียม ภายในบอบช้ำอ่วมไปหมด ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงสุดเปรียบปาน อีกทั้งยังพ่นควันดำออกมาทางปากเป็ระยะๆ
โชคดีที่หลายคนซ่อนพาหนะสัตว์อสูรวิหคกระจอกสีขาวไว้ใต้หน้าผามาก่อน ไม่นานพวกเขาก็มาถึงสถานที่ซ่อนพาหนะ ก่อนที่นกอินทรีสายฟ้าจะโจมตีอีกครั้ง ต่างพากันนั่งพาหนะสัตว์อสูรหลบหนีไปอย่างร้อนรน ระหว่างที่ฝ่ายหนึ่งไล่ล่าอีกฝ่ายหนึ่งหลบหนี จำนวนนกอินทรีสายฟ้าเพิ่มมากขึ้นมาอีกแล้วกลายเป็เจ็ดตัว ถึงแม้สัตว์อสูรวิหคกระจอกสีขาวจะเป็สัตว์อสูรระดับสาม แต่เป็ระดับสามขั้นต้นเท่านั้นเพียงสามารถวิ่งหนีแค่บนพื้นดิน วิ่งไปได้่ระยะเวลาหนึ่ง ขนนกที่แต่เดิมสีขาวสวยงามแปรเปลี่ยนเป็สีดำแถบหนึ่ง สีลายแถบหนึ่ง เหมือนกับสุกรกระดำกระด่างก็มิปาน ไหนเลยจะหลงเหลือความสง่างามของสัตว์อสูรวิหคกระจอกสีขาวอยู่อีก
เมื่ออินทรีสายฟ้ากลายเป็แปดตัว สาวน้อยรู้สึกท้อแท้สิ้นหวังแล้ว เวลานี้ถึงกับมีจำนวนราชันนกอินทรีสายฟ้าระดับสี่ถึงสี่ตัว ถ้ามีราชันนกอินทรีสายฟ้ามาสักตัวหนึ่ง พวกเขาก็จะมีเส้นทางมรณะเพียงสายเดียวเท่านั้น และเบื้องหน้ายังมีแม่น้ำใหญ่ขวางอยู่สายหนึ่ง หลายคนมาถึงทางตันไม่มีหนทางไปแล้ว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้