ใน่าโลกครั้งที่หนึ่ง ท่ามกลางาที่ยิ่งทวีความรุนแรงของประเทศฝั่งตะวันตก มีหนึ่งเกาะซึ่งอยู่กึ่งกลางเขตน่านน้ำระหว่างประเทศมหาอำนาจที่กำลังชิงชัยเป็ผู้ชนะในา จุดยุทธศาสตร์สำคัญที่ทำให้เข้าใกล้ประเทศศัตรู รวมถึงเป็ดินแดนที่ยังไม่ได้มีผู้ใดสำรวจจึงตกเป็ที่ยื้อแย่งระหว่างหลายประเทศ แต่จวบจนผ่านไปหลายปีก็ยังไม่มีประเทศใดยึดครองพื้นที่แห่งนี้ได้สำเร็จ ซ้ำยังต้องสูญเสียกำลังพล ทรัพยากรยุทโธปกรณ์โดยใช่เหตุ เหล่าประเทศมหาอำนาจจึงตกลงทำสนธิสัญญาจัดตั้งพื้นที่เกาะแห่งนี้ให้เป็ No man’s Land[1]
หลังจากสิ้นสุดาอย่างเป็ทางการ เกาะแห่งนี้ก็ได้กลายเป็พื้นที่การทำธุรกิจระหว่างประเทศต่าง ๆ แต่เนื่องมาจากเป็พื้นที่ซึ่งไม่ได้มีรัฐใดควบคุม ไม่นานมันจึงกลายเป็เกาะสำหรับทำธุรกิจผิดกฎหมาย กลุ่มมาเฟียเข้ามาปกคลุม ขยายอำนาจ แย่งชิงทรัพยากร จากพื้นที่ปลอดาก็ได้กลายเป็พื้นที่าแห่งใหม่
การแย่งชิงอำนาจในพื้นที่ดำเนินไปอย่างดุเดือดเกือบสิบปี จวบจนในที่สุดข้อพิพาทก็สิ้นสุด มีการทำข้อตกลงแบ่งแยกเขตการปกครองออกเป็สามภาคส่วนคือฝั่งตะวันออก ฝั่งตะวันตก และภูมิภาคส่วนกลาง ทั้งสามเขตการปกครองจัดตั้งขึ้นเป็สาธารณรัฐ
แต่แม้จะกล่าวเช่นนั้นทว่าพื้นที่ภูมิภาคส่วนกลางซึ่งกินเขตแดนเป็จำนวนเกือบครึ่งของโนแมนแลนด์ ก็แทบจะถือว่าเป็พื้นที่ที่มีอำนาจในประเทศมากที่สุด
ในอดีตภูมิภาคส่วนกลางนี้มีสามตระกูลใหญ่ปกครองเขตแดนได้แก่ ลูเซียโน่ ลอเรนโซ่ และเบอร์ตินี
ปัจจุบันเบอร์ตินีกลายเป็ตระกูลตกอับสิ้นอำนาจั้แ่หมดทายาทรุ่นหนึ่ง ตระกูลชนชั้นสูงอื่น ๆ เข้ามายื้อแย่งกินส่วนแบ่งแทน ส่วนลอเรนโซ่ยังถือว่าเป็หนึ่งในตระกูลชั้นสูง ทว่าความรุ่งเรืองก็ร่อยหรอลงตามยุคสมัย และในปัจจุบันอำนาจก็กำลังสั่นคลอนเนื่องจากการจากไปอย่างกะทันหันของเ้าตระกูลลอเรนโซ่คนก่อน หรือก็คือบิดาของไฮยาซินท์
เหลือเพียงลูเซียโน่ที่ยังคงกอบกุมอำนาจเอาไว้ในฝ่ามือได้ ผู้ท้าชิงตำแหน่งสืบทอดการเป็เ้าตระกูลลูเซียโน่รุ่นถัดไปทั้งบุตรชายคนโตเซฟิรอส ลูเซียโน่ และบุตรชายคนเล็กลูกนอกสมรสอย่างดีเลียน ลูเซียโน่ ต่างก็มีความสามารถโดดเด่นในหมู่อัลฟ่าด้วยกันเอง ดังนั้นสุดท้ายไม่ว่าตำแหน่งเ้าตระกูลจะไปตกอยู่ที่มือใคร ลูเซียโน่ก็จะยังคงเป็ตระกูลที่รุ่งเรืองไปอีกหนึ่งชั่วอายุคน
ปัจจุบันเ้าตระกูลลูเซียโน่ได้กล่าวว่ากำลังจะสละตำแหน่งผู้ปกครองตระกูลแล้ว ่เวลานี้คือ่เวลาที่ทายาททั้งสองต่างกำลังแย่งชิงความโดดเด่นเพื่อให้ได้รับเลือกเป็ผู้สืบทอด กลายเป็เ้าของธุรกิจของลูเซียโน่
ในเช้าวันหนึ่งเ้าตระกูลลูเซียโน่ได้มอบของสิ่งหนึ่งให้กับทายาททั้งสองด้วยจำนวนที่เท่าเทียม รวมถึงป่าวประกาศให้คนนอกได้รับรู้ถึงการมอบสิ่งนั้น แม้ไม่ได้เอ่ยบอกจุดประสงค์ตามตรง แต่ทุกคนต่างก็รู้ดีว่ามันคือสิ่งที่เ้าตระกูลลูเซียโน่จะนำไปทดสอบว่าบุตรชายคนใดจะได้เป็ผู้สืบทอดตระกูลคนถัดไป
มันคือหุ้นบริษัทผลิตยาของลูเซียโน่
ธุรกิจของลูเซียโน่ประกอบด้วยธุรกิจหลายภาคส่วน ธุรกิจการพนัน กาสิโน การค้าอาวุธา แต่ธุรกิจที่ทั้งสร้างเม็ดเงิน และเป็แหล่งธุรกิจฟอกเงินที่ใหญ่ที่สุดของโนแมนแลนด์มีเพียงหนึ่งเดียว
ในโลกที่ฟีโรโมนคือทุกสิ่งทุกอย่าง ตัวยาที่มีความสามารถกดข่มฟีโรโมน ยาที่มีความสามารถกระตุ้นขีดจำกัดฟีโรโมน ยาที่สามารถเปลี่ยนภาวะของฟีโรโมน ยาที่ทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมายก็ล้วนสร้างรายได้ให้กับลูเซียโน่จนสามารถกลายเป็ตระกูลที่ปกครองพื้นที่ส่วนกลางได้
หากทายาทคนใดสามารถรวบรวมหุ้นจากกลุ่มพันธมิตรของบริษัทผลิตยาลูเซียโน่ได้จนมีอำนาจในการเป็เสียงส่วนใหญ่ของบริษัท ย่อมหมายความว่าเก้าอี้ที่นั่งได้กลายเป็ของทายาทคนนั้นโดยสมบูรณ์
หุ้นที่ล้ำค่ายิ่งกว่าทองคำและเพชรพลอยใด สมัยที่ไฮยาซินท์ตบแต่งเข้ามา เ้าตระกูลลูเซียโน่ก็เคยมอบหุ้นให้เป็การรับขวัญสะใภ้คนโปรด แม้จำนวนจะมีน้อยนิดเพียงไม่กี่เปอร์เซนต์ ทว่าหากดูจำนวนเงินที่ไฮยาซินท์ได้รับส่วนแบ่งต่อปีมาจากหุ้นตัวดังกล่าวก็จะพบว่าไม่สามารถดูิ่ตัวเลขหุ้นนั้นได้
ไฮยาซินท์กล่าวแล้วว่าจะช่วยผลักดันดีเลียนขึ้นไปเป็เ้าตระกูลเพื่อแลกกับภารกิจของตนเอง แต่ตอนนี้นอกจากหุ้นที่มีจำนวนน้อยนิดจนน่าสงสารแล้ว ไฮยาซินท์ก็ต้องหาอำนาจเพื่อเป็แต้มต่อรองของตัวเอง
ในโชคร้ายก็ยังมีความโชคดี เมื่อสกุลเกิดของไฮยาซินท์คือ ‘ลอเรนโซ่’
ตอนที่เกิดความคิดเช่นนั้น จู่ ๆ ระบบกลับเสนอในสิ่งที่เขาไม่คาดคิดขึ้น
[อันที่จริงแล้วใน่ที่ผมหายไประหว่างรอบฮีตของโฮสต์ ผมก็ได้ไปศึกษาถึงสิ่งที่จะทำได้แล้วก็พบว่าระบบเอไอยังสามารถมอบรางวัล หากท่านจอมมารตกลงทำภารกิจเสริมบางอย่างที่จะมีพลังอำนาจในการสั่นะเืเส้นเื่]
ซึ่งนั่นก็คือ?
[การแย่งชิงอำนาจของลอเรนโซ่กลับคืนมาสู่มือของทายาทโดยชอบธรรม... ซึ่งก็คือตัวท่านที่เป็บุตรของภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเ้าตระกูลลอเรนโซ่]
ตามเนื้อเื่เดิม หลังจากที่บิดาของไฮยาซินท์เสียชีวิต เหล่าลูกนอกสมรสต่างยื่นมือเข้ามายื้อแย่งส่วนแบ่งทางมรดก แม้ในพินัยกรรมจะดูน่าแปลกประหลาดมากแค่ไหน เ้าตัวก็ได้แต่เฝ้ามองตระกูลลอเรนโซ่ที่พ่อสร้างมาจากเืและหยาดเหงื่อล่มจมจากฝีมือลูกนอกสมรสเพราะความคิดที่ว่าตนคือโอเมก้า โอเมก้าที่มีหน้าที่เป็แค่มารดาและภรรยา มิใช่ผู้ที่จะไปดูแลตระกูล
ไฮยาซินท์คนเดิมถูกโอเมก้าเวิร์สกลืนกินมากแค่ไหนก็คงดูได้จากการที่มีคู่พันธะเฮงซวย ชั่วช้าสารเลว นอกจากจะไม่โกรธแค้นสามี ยังย้ายความเกลียดชังนั้นไปลงกับโอเมก้าด้วยกันอย่างฮิโนกิเป็หลัก
ดังนั้นการที่ไฮยาซินท์ผู้นี้เลือกจะทำอะไรที่ขบถต่อ ‘ความเป็โอเมก้า’ ที่อยู่กับตัวเองมาทั้งชีวิต นั่นจะสร้างพลัง OOC เพิ่ม ทำให้เข้าใกล้ความสำเร็จในการกลับโลกเดิมไม่มากก็น้อย
[และรางวัลทรงคุณค่าแด่โอเมก้าที่ฝืนชะตาก็คือ!!!]
ฉับพลันมีตัวหนังสือยาวเหยียดปรากฏขึ้นภายในกรอบสี่เหลี่ยมกลางอากาศที่ว่างเปล่า
ผู้เล่น :
ไฮยาซินท์ จอมมารที่สง่างาม มีออร่า น่านับถือที่สุดใน 5 ทวีป โอเมก้าสุดสวยแสนยั่วยวน ขวัญใจอินิกม่าว่าที่เ้าตระกูลลูเซียโน่คนถัดไป
ภารกิจหลัก :
แย่งชิงโชคชะตาตัวเอกมาเป็ของตัวเอง (ขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดของโนแมนแลนด์) –50% โปรดดำเนินการให้เสร็จสิ้น--
ภารกิจรอง :
1. ทำให้เซฟิรอส ลูเซียโน่รู้สึกเสียใจในการทอดทิ้งไฮยาซินท์ (ความปรารถนาของเ้าของร่างเดิม) –1% โปรดดำเนินการให้เสร็จสิ้น---
NEW! 2. แย่งชิงอำนาจลอเรนโซ่กลับมาสู่มือของตน (แลกเปลี่ยนความเป็ไปได้ในการกลายเป็เพียวโอเมก้า)
[ท่านจะกลายเป็เพียวโอเมก้า เป็ไงครับสุดยอดไปเลยใช่มั้ย!!!]
แค่นี้เนี่ยนะ
[...เพียวโอเมก้าเลยนะครับ] ระบบ 666 จ๋อยลงไปทันทีเมื่อปฏิกิริยาโฮสต์ของตนไม่ได้ร้อนแรงดังที่คาด
ขอเป็แต้ม OOC เพิ่มยังดีเสียกว่า
[มันเป็ไปได้ที่ไหนกันครับ การแจกแต้ม OOC ในแต่ละโลกย่อมมีจำกัด อีกอย่างท่านจะบอกว่าการกลายเป็เพียวโอเมก้าในโลกที่เพศรองแทบจะเป็ตัวกำหนดชะตาทั้งชีวิต มันจะไม่สำคัญได้อย่างไร! ไพ่ใบเดียวที่ตัวเอกมีเหนือกว่าท่านคือเพศรอง ใช่ครับมีแค่ใบเดียวแต่มันกลับทำให้ฮิโนกิมาไกลได้ถึงขนาดนี้ ท่านยอมได้อย่างไร!!!]
หูข้า… ลดเสียงลงหน่อยเถอะ
[ถ้าหากคว้าไพ่ใบเดียวที่เหลือนั้นมาถือไว้ได้เช่นกัน ไม่คิดบ้างเหรอว่ามันจะสะใจแค่ไหน ตัวท่านที่ทั้งสวยน่ารัก เซ็กซี่ขี้เล่น สุขุมนุ่มลึก แอบหวานซ่อนเปรี้ยว ถ้าหากได้กลายเป็เพียวโอเมก้ามันจะต้องยิ่งอร๊างง อย๊า~ อย่างแน่นอน!]
รถยนต์คันหรูขับมาหยุดยังหน้าคฤหาสน์แห่งหนึ่ง พร้อมกับการปรากฏตัวของโอเมก้าชายผู้หนึ่ง เส้นผมสีเงินยาวดัดเป็ทรงลอนขนาดใหญ่ตัดกับผ้าเช็ดหน้าลูกไม้สีดำ ดวงหน้าขาวกระจ่างจนแทบกลืนเป็สีเดียวกับเส้นผม จึงทำให้ดวงตารูปอัลมอนด์และกลีบปากอิ่มเป็กระจับสีแดงสดโดดเด่นขึ้นมา
ใบหน้างดงาม รูปร่างสะโอดสะอง ผิวกายผุดผ่อง แม้จะอยู่ในชุดเดรสสีดำสนิทไร้ลวดลาย แต่ก็บ่งบอกได้ถึงสถานะอันสูงส่งเหนือผู้คนของอีกฝ่าย
คนรับใช้เก่าแก่ของลอเรนโซ่มีท่าทางดีอกดีใจต่อการปรากฏตัวของไฮยาซินท์ ขณะที่คนรับใช้หน้าใหม่เห็นได้ชัดว่ามีท่าทีเคลือบแคลง ลังเลจะต้อนรับเขา ดูท่าว่าพวกลูกนอกสมรสคงจะพูดอะไรบางอย่าง
“ฉันมาเยี่ยมโอเลนเดอร์”
ในอดีตคฤหาสน์ลอเรนโซ่โอ่อ่าไม่แพ้ลูเซียโน่ แต่หลังจากที่เ้าตระกูลคนเดิมทรุดตามสุขภาพร่างกาย กิจการก็พลอยถดถอย การเงินไม่อาจใช้ได้อย่างฟุ้งเฟ้อเฉกเช่นเดิม การจ้างคนรับใช้ก็น้อยลง สภาพแวดล้อมของตัวคฤหาสน์จึงทรุดโทรมตาม
ไฮยาซินท์นั่งรอในห้องรับรองเพียงชั่วครู่ น้องชายต่างมารดาก็เข้ามาในห้องด้วยสีหน้าที่อารมณ์ไม่ดีนัก
“น้องชาย ไม่ได้เจอกันเสียนาน”
“งานศพคุณพ่อเพิ่งผ่านไปเพียงไม่กี่วันเท่านั้น” โอเลนเดอร์ทิ้งตัวลงนั่งโซฟาฝั่งตรงข้ามไฮยาซินท์ “มีธุระอะไรก็รีบพูดเถอะ ผมมีอะไร ๆ ต้องจัดการ”
รอยยิ้มบางผุดพราย ส่งเสริมให้ใบหน้าที่ได้ชื่อว่างดงามเป็หนึ่งในโนแมนแลนด์ยิ่งดูเย้ายวน พี่ชายผู้นี้ยังคงสง่าเฉกเช่นความทรงจำอันยาวนานของโอเลนเดอร์ ทว่าวันนี้โอเมก้าคนงามกลับถูกปกคลุมด้วยบรรยากาศที่ดูแปลกประหลาดไป ราบเรียบแต่กลับดูน่าเกรงขาม ราวผืนมหาสมุทรก่อนคืนพายุจะโหมกระหน่ำ
“ที่นี่คงไม่ได้มีเครื่องดักฟัง หรือห้องสำหรับแอบฟังบทสนทนาหรอกนะ”
“อะไรนะ?”
“ถ้ามีก็จัดการหน่อย ไม่อย่างนั้นเธอจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต”
โอเลนเดอร์ลุกขึ้นเดินไปแตะบางสิ่งที่อยู่ใต้เตาผิง ขยับไปเปิดเครื่องเล่นแผ่นเสียงดนตรีคลาสสิกดังขึ้นเคล้าคลอบรรยากาศในห้องรับรองให้ไม่เงียบเหงา
“ไม่มีแล้ว บทสนทนาของโอเมก้าสองคนไม่มีใครใคร่ใส่ใจมากนักหรอก”
ไฮยาซินท์ส่งรอยยิ้มบางอย่างพึงพอใจ
“ฉันชอบงานเขียนของเธอนะ อ่านผิวเผินเป็เพียงแค่การเขียนเล่าเื่ซุบซิบธรรมดาแต่ก็แฝงไปด้วยเนื้อหาจิกกัด เหยียดหยามเยาะเย้ยโชคร้ายของโอเมก้าด้วยกัน”
“...”
“นามปากกาสกาลาร์ โรงอุปรากร สถานที่สำหรับรับชม รื่นเริงกับความโชคร้ายผู้อื่นเสมือนเป็แค่เื่บันเทิงหนึ่ง ช่างตั้งได้คลาสสิกยิ่งนัก”
“เธอ…” โอเลนเดอร์มีท่าทีตกตะลึง
“นึกว่าเธอรู้แล้วซะอีก” ไฮยาซินท์แสร้งทำสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย ยกถ้วยชาขึ้นมาจิบ “โรงม้าส่วนตัวของลูเซียโน่ มีเพียงแค่คนในของลูเซียโน่เท่านั้นที่ได้รับอนุญาตเข้าไป แต่กลับมีข่าวหลุดออกมาว่าเซฟิรอสแอบสมสู่กับชู้ที่นั่น เงินเดือนที่ลูเซียโน่จ่ายให้คนงานนั้นมากพอที่จะรวมถึงค่าเก็บความลับของตระกูล บทสรุปของลูกน้องที่ไม่อาจทำตามค่าจ้างได้ทุกคนย่อมรู้ดี ดังนั้นเธอคิดว่าใครกันที่กล้าพอจะเล่าเื่คาว ๆ แบบนั้นของลูเซียโน่ได้”
หลังได้ฟังเื่ฮิโนกิจากระบบ ไฮยาซินท์ก็เลือกจะลงมือเองด้วยการเขียนจดหมายไปหาสกาลาร์ไฮยาซินท์เป็คนเขียนจดหมายไปหาสกาลาร์ เหตุผลทั้งเพื่อซื้อใจ รวมถึงยังแสดงว่าตนกำลังถือไพ่เหนือกว่าน้องชายผู้นี้
“เธอต้องการอะไร” โอเลนเดอร์หน้าซีดเผือด
“อย่าทำท่าทางเป็ปรปักษ์เช่นนั้นเลยน้องชาย ฉันเพียงมาสนทนาต่อจากเื่ที่เราเคยคุยค้างกันไว้” ไฮยาซินท์ยกยิ้ม กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยอย่างใจเย็น “งานเลี้ยงสถาปนาเ้าตระกูลลอเรนโซ่คนใหม่ที่กำลังมาถึง ทั้งเธอและฉันต่างก็มีศักยภาพในการทำให้มันล่มจม”
“...”
“อำนาจของลอเรนโซ่ กิจการทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย ทุกสิ่งทุกอย่างของคุณพ่อที่เราควรได้ มาทวงคืนกันเถอะ โรงพิมพ์นั่นเป็ความฝันของเธอไม่ใช่หรือ นักเขียนวรรณกรรมโอเมก้าคนแรกของโนแมนแลนด์ ชื่อสกาลาร์ควรไปได้ไกลกว่าแค่เขียนข่าวซุบซิบใต้เตียงชาวบ้าน”
หนึ่งในเื่ที่น่าประหลาดใจอีกอย่างของแฟนฟิกชั่นเื่นี้คือตระกูลลอเรนโซ่มีธุรกิจฝั่งขาวที่ใหญ่ที่สุดคือโรงพิมพ์ บุตรชายโอเมก้าในสมรส คนหนึ่งเป็นักเขียน ส่วนอีกคนเป็นักอ่าน หากเป็ความบังเอิญก็คงเป็ความบังเอิญที่น่าตกตะลึง หากเป็ความตั้งใจก็ต้องชื่นชมนักเขียนที่ทำการบ้านมาเป็อย่างดี
“พวกเราเป็เพียงโอเมก้า”
“ฉันไม่ได้พูดถึงเพศรองของเราแต่กำลังพูดถึงศักยภาพของเรา เธอมีอำนาจที่เรียกว่านักเขียน สิ่งยิ่งใหญ่มากพอจะชักจูงคนอ่านได้ ส่วนฉันก็กำลังมาขอความร่วมมือจากเธอ และกำลังจะแสดงศักยภาพของตัวเองให้เห็น” โอเลนเดอร์มีท่าทีลังเล ไฮยาซินท์จึงพูดเสริมต่อ “จดหมายจากสกาลาร์น่ะไม่ได้มีแค่พวกโอเมก้าว่างงานหรอกนะที่อ่าน” แม้แต่เ้าตระกูลลูเซียโน่ยังได้รับข่าวสารเื่บุตรชายเฮงซวยจากจดหมายนั้น ดังนั้นไฮยาซินท์จึงเชื่อว่าตระกูลอื่นเองก็คงต้องหามาอ่าน เนื่องจากมันเกี่ยวโยงถึงภาพลักษณ์ของแต่ละตระกูล
โอเลนเดอร์เงียบไปเนิ่นนาน ปล่อยให้เสียงเพลงคลาสสิกบรรเลงอย่างเหงาหงอยเพียงลำพัง
“คุณพี่มีหลักฐานงั้นหรือเื่ที่คุณพ่อถูกวางยา คุณพ่อถูกฝังไปแล้วไม่มีทางที่จู่ ๆ จะมีใครขุดขึ้นมา หรือหากแจ้งทางการ…”
“หลักฐานอยู่ที่สวนหลังคฤหาสน์ของเราไง”
“...”
“ส่วนวิธีการฆ่า ฉันจะสร้างขึ้นมาอีกครั้ง”
“เธอรู้หรือว่ายาพิษที่ฆ่าคุณพ่อคืออะไร”
“เธอไม่รู้หรือ” ไฮยาซินท์เลิกคิ้วด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ
“...”
“ทั้งที่พวกเราก็สูดดมมันมาั้แ่เด็ก”
หลังคฤหาสน์ตระกูลลอเรนโซ่มีสวนดอกไม้นานาชนิดสำหรับจัดงานเลี้ยง และเป็สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ หนึ่งในดอกไม้ที่ถูกปลูกอย่างอุดมสมบูรณ์มากที่สุดก็คือดอกไฮยาซินท์[2] ดอกไม้ที่มารดาของไฮยาซินท์ชื่นชอบและนำมาตั้งเป็ชื่อของบุตรชาย
พุ่มดอกไม้ถูกปลูกติดกับแนวรั้ว นอกจากจะเพื่อความสวยงามแล้วยังสามารถปกป้องสัตว์ป่าที่เข้ามากัดแทะสวน สัตว์ป่าที่เผลอกินเข้าไปแม้จะไม่ถึงตายแต่ก็เกิดอาการป่วย อาเจียนไปจนถึงท้องร่วง พวกมันจะเข็ดขยาดจนไปบอกกับฝูงไม่ให้มากล้ำกรายยังสวนอันตรายแห่งนี้
เ้าตระกูลลอเรนโซ่เองก็เจออาการแบบเดียวกัน แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้มีโอกาสเฉกเช่นสัตว์ป่า สภาพร่างกายป่วยออด ๆ แอด ๆ เช่นนั้นเจอกับอาการอาเจียน ท้องร่วงอย่างรุนแรงย่อมจบชีวิตได้อย่างง่ายดาย
เื่ที่ไฮยาซินท์ได้กลิ่นดอกไม้ติดตัวศพนั้นเป็เื่จริง แต่ไม่ใช่เพราะร่างนี้คลุกคลีกับดอกไม้ดังกล่าว
ไฮยาซินท์คือเืเนื้อของมารชั้นสูง ลืมตาดูโลกครั้งแรกก็ถูกสวมหมวกผู้สืบทอดบัลลังก์ธานาทอส ั้แ่เล็กตนจึงต้องฝึกฝนการเอาตัวรอด การสูดดมและกลืนกินพิษคือหนึ่งในการฝึกนั้น
มรดกของตระกูลลอเรนโซ่ผ่านไปโดยที่ทายาทจากภรรยาเอกซึ่งเป็โอเมก้าทั้งสองไม่ได้สิ่งใดเลย กลายเป็เื่ตลกอดสูในหมู่ชนชั้นสูง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครคิดว่าแปลกประหลาด โอเมก้าแต่งงานออกไปอยู่ตระกูลอื่นก็ไม่ต่างจากคนนอก แต่ไฮยาซินท์รู้ดีว่าเ้าตระกูลลอเรนโซ่รักใคร่บุตรชายในสมรสทั้งสองแค่ไหนจากข้อความไม่กี่บรรทัดในบทต้นฉบับแฟนฟิกชั่น รักโดยไม่มีเงื่อนไขว่าจะเป็เพศรองใด ความรักนั้นจึงส่งผลให้ไฮยาซินท์ร่างเดิมเองก็ไม่รังเกียจหากทายาทที่เกิดมาของตนจะเป็โอเมก้าหรือเบต้า
ดังนั้นอย่างน้อยที่สุดเ้าตระกูลลอเรนโซ่ก็น่าจะแบ่งทรัพย์สินไว้ใช้เป็ทางรอดให้กับบุตรชายโอเมก้าทั้งสองยามไม่มีใครหนุนหลัง
งานพิธีฉลองการขึ้นรับตำแหน่งของเ้าตระกูลลอเรนโซ่คนถัดไปถูกจัดอย่างโอ่อ่า อีกฝ่ายแม้จะเป็ลูกนอกสมรสแต่ก็เป็อัลฟ่าคนโตจึงได้รับตำแหน่งนั้นไป ส่วนน้องชาย น้องสาวอีกสองคนก็ได้รับแบ่งสันปันส่วนการดูแลธุรกิจโรงพิมพ์
ไฮยาซินท์เดินเข้างานกับเซฟิรอส ทันทีที่อัลฟ่าหนุ่มข้างกายหันไปเห็นดีเลียนที่กำลังยืนคุยอยู่กับเ้าตระกูลลอเรนโซ่คนใหม่ สามีก็รีบพาไฮยาซินท์ตรงดิ่งไปทิศทางนั้นทันที
“สวัสดีครับ ตอนนี้คงต้องเรียกว่าประมุขของลอเรนโซ่แล้ว”
เซฟิรอสกล่าวทักขึ้น ดึงดูดความสนใจของคนสองคนที่กำลังยืนคุยให้หันมามองตนเอง
ดีเลียนหันมามองคู่สามีภรรยาทั้งสองเช่นกัน สายตาไปหยุดค้างที่บริเวณฝ่ามือบางของไฮยาซินท์ที่เกาะเกี่ยวแขนของเซฟิรอส
“สวัสดีครับ ผมเองก็เฝ้ารอคอยผู้นำตระกูลคนถัดไปของลูเซียโน่เช่นกัน” ลูกนอกสมรสของลอเรนโซ่ผู้นั้นทักทายเซฟิรอสด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “คุณพี่ไฮยาซินท์ วันนี้ก็ยังคงงดงามเช่นเดิม”
ไฮยาซินท์เพียงกล่าวแสดงความยินดีกับน้องชายเล็กน้อย หันไปผงกหัวทักทายดีเลียน อินิกม่าหนุ่มสบตาไฮยาซินท์ ส่งมอบรอยยิ้มอันอ่อนโยนให้เขา
สองทายาทลูเซียโน่ที่ยิ่งใหญ่ปรากฏตัวรายล้อม ลูกนอกสมรสผู้นั้นก็มีท่าทางกระตือรือร้นขึ้น
“วันนี้ลอเรนโซ่ของเรามีไวน์พิเศษเพื่อเตรียมมาต้อนรับลูเซียโน่โดยเฉพาะ ถ้ายังไงเดี๋ยวผม…”
“น้องชายอยู่คุยที่นี่แหละ” ไฮยาซินท์เอื้อมมือไปแตะแขนผู้พูดแ่เบา เอ่ยด้วยสีหน้าของพี่ชายผู้แสนใจดี “วันนี้นายเป็ตัวเอก เดี๋ยวพี่เดินไปบอกคนรับใช้ให้”
อีกฝ่ายชะงักไป จ้องมองไฮยาซินท์คล้ายอยากจะสืบหาเจตนาของการเอ่ยประโยคดังกล่าว
“ขอบคุณครับคุณพี่”
[ว้าว ยอมง่ายกว่าที่คิด]
คนผู้นั้นประเมินสถานะตนเองแล้วว่ายิ่งใหญ่เพียงใด คงคิดว่าการกระทำนี้ของไฮยาซินท์เป็การประจบเอาใจเพื่อพึ่งพาตระกูลลอเรนโซ่ในภายภาคหน้า
[สมกับเป็ท่านจอมมาร!] แทบจะได้เห็นระบบ 666 เอามือปิดปากด้วยความปลาบปลื้ม [รู้ตัวอีกทีท่านกำลังหลอมรวมเข้ากับโลกโอเมก้าเวิร์สแห่งนี้ ผมภูมิใจยิ่งนักฮึกฮือฟืดดด…]
ไฮยาซินท์รู้ถึงไวน์พิเศษนั้นจากคำบอกเล่าของโอเลนเดอร์ เพราะเป็ไวน์ที่ต้องเก็บไว้ในอุณหภูมิหนึ่งเพื่อไม่ให้รสััเสีย ดังนั้นอีกฝ่ายจึงต้องรอให้ลูเซียโน่ปรากฏตัวก่อนจึงจะค่อยนำมาเสิร์ฟด้วยมือตัวเองเพื่อเพิ่มความประทับใจ
ไฮยาซินท์ถือแก้วที่บรรจุเครื่องดื่มสีแดงคล้ำ แก้วในมือฝั่งซ้ายยื่นไปให้เซฟิรอส ส่วนฝั่งขวาเป็ของดีเลียน
ดีเลียนหลุบตามองไวน์แก้วนั้นในมือตนเอง ก่อนจะสบตาไฮยาซินท์ด้วยสีหน้าที่อ่านไม่ออก ไฮยาซินท์ส่งยิ้มบางกลับไปก่อนจะขอตัวหลบฉากออกมายืนเงียบ ๆ ที่มุมหนึ่งของงานซึ่งไร้ผู้คน แต่กลับกลายเป็ว่ามีสุนัขตัวหนึ่งถือแก้วไวน์เดินตามมาหยุดยืนข้าง ๆ เขา
“ไม่ไปคุยกับพวกผู้นำตระกูลอัลฟ่าหรือ”
“สามีที่ดีควรอยู่ข้างภรรยาในงานที่เต็มไปด้วยพวกอัลฟ่าสิครับ” ดีเลียนกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“งั้นก็ฝากไปบอกเซฟิรอสด้วยสิ”
ตอนนั้นเองจู่ ๆ อินิกม่าหนุ่มก็ขยับมายืนต่อหน้าเขา รูปร่างสูงใหญ่บดบังแสงไฟในงาน เกิดเป็เงามืดแผ่ปกคลุมร่างบอบบางของไฮยาซินท์จนมิด มีเพียงั์ตาสีทองคู่นั้นที่เกิดประกายวูบไหวราวกับดวงจันทร์เพียงหนึ่งเดียวในท้องฟ้ายามราตรี
“พี่สะใภ้ ผมเป็พวกเดียวกับคุณนะครับ”
ฝ่ามือใหญ่นั้นเอื้อมมาลูบยังบริเวณผิวหลังคอขรุขระจากรอยกัด ปลายนิ้วร้อนผ่าวราวกับไฟลวก
เพล้ง!
“คุณชายลูเซียโน่!”
“คุณเซฟิรอส!”
ตอนนั้นเองพลันมีเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นมาจากบริเวณกลางงาน มีชายผู้หนึ่งล้มทรุดลงไป พร้อมกับฝูงชนที่รุมล้อมด้วยความตกอกใ
ดีเลียนปรายตามองจุดกำเนิดของความวุ่นวาย แล้วเมื่อหันกลับมาก็พบว่าไฮยาซินท์กำลังมองหน้าตัวเองอยู่
แก้วไวน์ในมือดีเลียนถูกคว้าแย่งไป ไฮยาซินท์ยกมันขึ้นดื่มอึกใหญ่ผิดแผกไปจากธรรมเนียม
รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้างาม รอยยิ้มซุกซนที่กำลังเย้าหยอกคู่สนทนา
“ส่วนตอนนี้คือตอนที่น้องสามีจะพิสูจน์แล้วว่าเป็พวกเดียวกับฉันดังคำกล่าวอ้างหรือเปล่า”
เมื่อประมวลผลคำพูดนั้นได้ ดีเลียนก็ยกยิ้มกว้างอย่างที่ไม่เคยเป็มา ดวงตาเป็ประกายวิบวับของความสนุกสนาน
ไฮยาซินท์ส่งแก้วไวน์กลับคืนเ้าของ แล้วตนจึงสาวเท้ายาว ๆ ก้าวไปยังบริเวณใจกลางของฉากละคร ใบหน้าราบเรียบแปรเปลี่ยนเป็ตื่นตระหนกในชั่วพริบตา
“สามี! เกิดอะไรขึ้นครับ!”
[1] No man’s Land (โนแมนแลนด์) – หมายถึงดินแดนที่ไม่ได้มีใคร หรือประเทศใดเป็เ้าของอย่างชัดเจน หากเป็คำศัพท์ทางการทหารจะหมายถึงพื้นที่ซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่างศัตรูสองฝั่ง เป็พื้นที่ปลอดทหาร
[2] ดอกไฮยาซินท์ เป็ดอกไม้ที่มีพิษไปทุกส่วน ทำให้ผู้ที่กลืนกินเกิดอาการป่วย คลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วงได้จริง ทว่าในส่วนของกลิ่นที่ติดหลังรับประทาน ไปจนถึงลักษณะอาการภายนอกอื่น ๆ ผู้เขียนเสริมเติมแต่งจินตนาการขึ้นสำหรับนิยายเื่นี้โดยเฉพาะ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้