การปิดตัวลงของหอเลิศรสในเมืองันั้นไม่ได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนเท่าไรนักแต่การเพิ่มขึ้นของโรงแรมฉินหวังต่างหากที่ก่อให้เกิดพายุขึ้นในอุตสาหกรรมประเภทเดียวกันสายตาของผู้คนส่วนใหญ่จับจ้องมาที่าการป้องกันเมือง
หลังจากที่กิลด์ราตรียิ่งใหญ่ทำาป้องกันเมืองล้มเหลวกิลด์สมาคมโลกก็ล้มเหลวในการทำภารกิจป้องกันเมือง กิลด์์เองก็ล้มเหลว กิลด์ต้นไม้ทงเทียนก็ล้มเหลวกิลด์ราชวงศ์มดก็ล้มเหลวเช่นกันทุกคนต่างก็รู้สึกใที่การทำภารกิจป้องกันเมืองล้มเหลวมีคนพูดไว้ว่าการโจมตีเมืองไม่ใช่เื่ง่ายแต่ดูเหมือนว่าการป้องกันเมืองนั้นก็ไม่ง่ายเช่นกันระดับความยากนั้นสูงเสียจนคนทั่วไปนึกไม่ถึง
ใน่เวลานี้ทุกกิลด์ต่างก็ไม่กล้าทำอะไรอย่างหุนหันพลันแล่นการสูญเสียหลังจากการทำภารกิจล้มเหลวนั้นมากเกินไป ค่าใช้จ่ายก่อนหน้ารวมถึงค่าใช้จ่ายที่จะต้องก่อสร้างเมืองขึ้นมาใหม่ไม่ต่างจากจำนวนของดวงดาวบนท้องฟ้าเลย และสิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือพวกเขามีโอกาสเพียงสามครั้งเท่านั้น หลังจากผ่านสามครั้งนี้ไปแล้วตราคำสั่งสร้างเมืองก็จะสูญหายไป
ตามข่าวลือที่ได้ยินมาหลังจากผ่านาการป้องกันเมือง การเงินของหลายๆ กิลด์นั้นแทบจะอยู่ในจุดต่ำสุดทำให้ความเร็วในการก่อสร้างใหม่นั้นลดลงเป็อย่างมากในเวลาอันสั้นนี้คงยังไม่สามารถเปิดาการป้องกันเมืองครั้งที่สองได้เป็แน่
ในขณะที่ผู้เล่นกำลังเรียนรู้ประสบการณ์จากวิดีโอาการป้องกันเมืองอยู่นั้นกิลด์กลุ่มสายฟ้าก็เริ่มาการป้องกันเมือง ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงก็ปรากฏว่าสามารถป้องกันเมืองได้สำเร็จและได้กลายเป็เมืองขนาดใหญ่ในเขตเหยียนหวงต่อจากเมืองัมีพลังที่จะป้องกันตนเองอย่างอิสระ สามารถกำหนดกฎเกณฑ์ขึ้นได้เองและเมื่อตราคำสั่งสร้างเมืองได้ถูกเปิดใช้งานก็จะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเื่มอนสเตอร์ที่จะมาบุกโจมตีอีกต่อไป
ทุกคนต่างประหลาดใจที่กลุ่มสายฟ้าสามารถป้องกันเมืองไว้ได้สำเร็จความยากในการป้องกันเมืองนั้นทุกคนต่างก็ประจักษ์เป็อย่างดีมันไม่ง่ายเลยที่จะรอดชีวิตจากการโจมตีของบอสในด่านสุดท้ายความสำเร็จของกลุ่มสายฟ้าทำให้ผู้เล่นต่างก็มีความหวังมากขึ้นผู้เล่นทั้งหลายจึงรีบหาวิดีโอการต่อสู้าป้องกันเมืองของกลุ่มสายฟ้ามาดู
เช่นเดียวกับการต่อสู้อื่นๆกลุ่มสายฟ้าใช้กลยุทธ์กับดักเพื่อสังหารมอนสเตอร์ที่อ่อนแอกว่า และใน่กลางก็ใช้นักธนูในการโจมตีระยะไกลเพื่อทำการยับยั้งการบุกใน่สุดท้ายนั้นแตกต่างออกไป กลุ่มสายฟ้าไม่ได้ป้องกันกำแพงเมืองแต่กลับออกไปเผชิญหน้าเพื่อต่อสู้แทนทหารม้าเกราะเหล็กนับหมื่นไม่ต่างจากมีดที่พุ่งแหวกเข้าไปในฝูงมอนสเตอร์แหวกทะลวงเข้าสู่ใจกลางฝูงมอนสเตอร์ ก่อนจะกระจายกำลังออกเป็กลุ่มย่อยๆ จำนวน 5-0คน เพื่อโจมตีมอนสเตอร์จากทุกทิศทาง ในเวลานี้แสดงให้เห็นว่าทหารม้าเกราะเหล็กนับหมื่นนั้นทรงอานุภาพมากขนาดไหน ถึงแม้ว่าระดับเลเวลของมอนสเตอร์จะสูงมากกว่าผู้เล่นทั้งหลาย แต่ก็ยังตกหลุมพรางยุทธวิธีทางการทหารความแข็งแกร่งของผู้เล่นแต่ละคนนั้นอ่อนแอมาก แต่เมื่อจับกลุ่มรวมกัน 5 คนหรือแม้กระทั่ง 10 คน มอนสเตอร์ก็จะไม่สามารถเป็คู่ต่อกรได้ บ่อยครั้งที่กำลังจะทำร้ายผู้เล่นก็จะถูกจัดการจนตายลงเสียก่อน เมื่อใช้ประโยชน์จากยุทธวิธีนี้จึงทำให้สามารถหยุดยั้งมอนสเตอร์ได้สำเร็จ
ในเื่ของความเร็วแล้วทหารม้านับหมื่นไม่ด้อยไปกว่ามอนสเตอร์เลยสามารถกันมอนสเตอร์ไว้ให้อยู่ภายนอกกำแพงได้ แต่เนื่องจากมีมอนสเตอร์เป็จำนวนมากและพวกมันก็แข็งแกร่งมากด้วยแถมยังมีมอนสเตอร์ระดับสูงและมอนสเตอร์ระดับหัวหน้าแฝงตัวปะปนอยู่ในกลุ่มทหารม้าเกราะเหล็กสามารถป้องกันอยู่ได้ราวสิบนาทีก่อนที่พวกเขาจะถูกมอนสเตอร์จัดการจนกลายเป็เศษเนื้อชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ถึงแม้ว่าจะทำได้แค่เพียงสิบนาทีแต่พลังการต่อสู้ของทหารม้าเกราะเหล็กนับหมื่นก็โด่งดังไปทั่วเขตเหยียนหวงภายใต้การโจมตีของมอนสเตอร์ที่รุนแรงดังกระแสน้ำเชี่ยวและระดับเลเวลของมอนสเตอร์ที่สูงมากกว่าปกติ พวกเขาสามารถป้องกันได้ถึงสิบนาทีผู้เล่นที่ได้ชมฉากนี้ต่างก็รู้สึกชื่นชมด้วยใจจริง
เมื่อเหลือเวลาแปดนาทีสุดท้ายกลุ่มสายฟ้าเริ่มโจมตีอีกครั้งก็ ยังคงเป็ทหารม้าอยู่แต่ไม่ใช่ทหารม้าธรรมดาทั่วไป เป็ทหารม้าเกราะหนักจำนวน 1,000 คนในตอนนี้มอนสเตอร์ทั้งหมดอยู่ในระดับเลเวล 45 ขึ้นไป ซึ่งค่อนข้างทรงพลังเป็อย่างมากและมีมอนสเตอร์ระดับหัวหน้าอยู่เป็จำนวนมากทำให้ผู้เล่นที่ได้พบเห็นต่างรู้สึกท้อแท้อยู่ในใจ ซึ่งผู้เล่นส่วนใหญ่คิดเช่นนั้นถ้าพวกเขาต้องตกอยู่ในสภาวะแวดล้อมเช่นเดียวกันนี้คงจะต้องถูกสังหารภายในไม่ถึงสิบวินาทีอย่างแน่นอน นี่เป็ถึงระดับผู้เชี่ยวชาญถ้าเป็คนธรรมดาทั่วไปคงจะถูกสังหารั้แ่วินาทีแรกไปแล้ว
การโจมตีของมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งทหารม้าเกราะหนักนั้นสามารถตั้งรับไว้ได้สี่นาทีโดยที่สี่นาทีนี้ไม่มีมอนสเตอร์ที่สามารถเข้าไปใกล้กำแพงเมืองได้เลย
เมื่อมองดูความแข็งแกร่งของทหารม้าเกราะหนักแล้วผู้เล่นทั้งหลายไม่รู้สึกประหลาดใจ แต่กลับรู้สึกหวาดกลัวแทนไม่มีใครคาดคิดว่ากลุ่มสายฟ้าที่ดูนิ่งเงียบมาเป็เวลานานนั้นจะมีอาวุธที่ทรงพลังซ่อนอยู่เช่นนี้โชคดีที่จำนวนที่มีนั้นยังค่อนข้างน้อย แต่ถ้าจำนวนเพิ่มขึ้นเป็ 10,000 ไม่กลายเป็ไร้เทียมทานเลยหรือการที่จะกวาดล้างกิลด์ทั้งสิบคงไม่ยากนัก
เมื่อเหลือสามนาทีสุดท้ายการโจมตีของมอนสเตอร์ทางอากาศก็ปรากฏขึ้นโดยทั้งทางพื้นดินและทางอากาศโจมตีพร้อมกันการตอบโต้กลับของกลุ่มสายฟ้านั้นเรียบง่าย โดยใช้ลูกธนูเวทจัดการกับกองทัพทางอากาศและใช้รูปแบบการโจมตีปกติรับมือทางภาคพื้นดิน โดยมีกองทัพขโมย นักฆ่า นักรบ เมจและนักบวช รวมกันเป็กลุ่มขนาดเล็ก โดยแยกกันโจมตีมอนสเตอร์
ถึงแม้ว่าผู้เล่นของกลุ่มสายฟ้านั้นจะเก่งกาจมีรูปแบบการประสานงานกันนั้นค่อนข้างสมบูรณ์แบบ แต่อย่างไรก็ตามระดับของมอนสเตอร์ที่สูงกว่าโดยเฉลี่ยแล้วจะสูงกว่าถึง 4 ระดับทำให้ชีวิตของผู้เล่นนับหมื่นสามารถป้องกันมอนสเตอร์ได้เพียงสองนาทีและมอนสเตอร์ก็ใกล้กำแพงเมืองเข้ามาทุกที แต่นั่นก็เพียงพอแล้วเพราะเมื่อกำแพงเมืองแตก เวลาก็หมดลงพอดี
กลุ่มสายฟ้าจึงประสบความสำเร็จในการป้องกันเมือง
าในครั้งนี้คงต้องบอกว่าในด้านของพละกำลังความแข็งแกร่งนั้นมอนสเตอร์เป็ฝ่ายชนะแต่ในขณะเดียวกันกลุ่มสายฟ้าก็กลายเป็กิลด์ที่แข็งแกร่งที่สุดในเขตเหยียนหวง
หลังจากที่กลุ่มสายฟ้าประสบความสำเร็จกิลด์วังเทพแห่งตะวันก็เริ่มาการป้องกันเมืองขึ้นบ้างและผลก็สำเร็จเช่นเดียวกัน ซึ่งผลลัพธ์นี้สร้างความประหลาดใจให้กับผู้คนส่วนใหญ่เพราะถ้าจะพูดถึงในเื่ของความแข็งแกร่งแล้วถึงแม้ว่ากิลด์วังเทพแห่งตะวันจะแข็งแกร่งน้อยกว่ากิลด์ราตรียิ่งใหญ่แต่เนื่องจากความแข็งแกร่งนั้นมีขีดจำกัด และยังสามารถทำสำเร็จได้โดยที่ไม่ได้คาดคิดแต่เมื่อผู้เล่นทั้งหลายได้ชมวิดีโอ พวกเขาก็เข้าใจได้ทันทีว่าเหตุใดกิลด์วังเทพแห่งตะวันจึงทำได้สำเร็จ พวกเขาถึงกับหัวเราะออกมา
กิลด์วังเทพแห่งตะวันนั้นไม่ได้ใช้กลยุทธ์แต่อย่างใดเพียงแค่ใช้เงินเท่านั้นเอง พูดง่ายๆ ก็คือ เขาใช้เงินในการจัดการกับมอนสเตอร์
จากการโจมตีมอนสเตอร์ั้แ่ต้นจนจบลงลูกธนูถูกยิงจากกำแพงเมืองโดยไม่มีหยุด ลูกธนูไม้ไผ่ ลูกธนูไม้ ลูกธนูเหล็กลูกธนูเจาะเกราะ ลูกธนูธาตุลม ลูกธนูเร็วกว่าเสียง ลูกธนูะเิลูกธนูก็ตกลงมาราวกับห่าฝน เมื่อมองไปทั่วบริเวณในเวลานี้ก็เต็มไปด้วยลูกธนูมอนสเตอร์ทุกตัวถูกฆ่าตายอย่างน่าอนาถ ถูกลูกธนูนับพันนับหมื่นเจาะทะลวงหัวใจจนตาย
จากที่มีการนับจำนวนไว้คร่าวๆาครั้งนี้ใช้ลูกธนูไปไม่ต่ำกว่า 1.2 พันล้านดอก ยังไม่รวมหินไฟ หอกเหล็กรถยิงปืนไฟ อุปกรณ์ป้องกันเมือง ม้วนคัมภีร์เวท อุปกรณ์สำหรับโจมตีทุกประเภทซึ่งจำนวนเงินที่ใช้ในการต่อสู้ครั้งนี้ราว 900 ล้านหยวน
โชคยังดีที่ประสบความสำเร็จเมื่อเทียบกับล้มเหลวแล้ว 900 ล้านหยวน ถือว่ายังเล็กน้อยถ้าล้มเหลวพวกเขาจะต้องสูญเสียไม่ต่ำกว่า 2 พันล้าน หลังจากการคำนวณแล้วพวกกิลด์ต่างๆ ที่ล้มเหลวในการป้องกันเมืองนั้นคงจะต้องเสียใจเป็แน่นี่เป็ตัวเลขง่ายๆ ที่ไม่เคยมีใครคำนวณมาก่อน
แน่นอนว่าจะโทษพวกเขาก็ไม่ได้เหตุผลหลักก็คือ กิลด์วังเทพแห่งตะวันนั้นมีเหมืองแร่เป็ของตนเองจึงไม่ต้องคำนวณค่าใช้จ่ายในการสร้างอุปกรณ์ดังนั้นแล้วจึงสามารถใช้ได้อย่างเต็มที่ แต่สำหรับกิลด์อื่นๆนั้นไม่ได้มีเหมืองแร่ ทำให้ต้องใช้จ่ายอย่างประหยัด
วิธีการแก้ปัญหาาป้องกันเมืองนั้นง่ายอย่างไม่น่าเชื่อพวกเขาเ่าั้ที่เคยผ่านประสบการณ์การป้องกันเมืองมาแล้วและกิลด์ที่เคยล้มเหลวรู้สึกเสียใจในเวลาเดียวกันซึ่งในเวลานั้นสายตาทุกคู่ล้วนจับจ้องไปที่ฉินหวังกรุ๊ป
การซื้อขายอุปกรณ์ในเขตเหยียนหวงนั้นฉินหวังกรุ๊ปเป็ตัวเลือกแรก เพราะไม่เพียงแต่รับประกันในเื่คุณภาพเท่านั้นแต่ยังมีความหลากหลายของสินค้า ราคาก็ยุติธรรมซึ่งตรงกันข้ามกับอุปกรณ์ในร้านของระบบที่มีจำกัด และที่สำคัญที่สุดก็คือขาดการบริการส่วนบุคคล ยกตัวอย่างเช่น ถ้า้าสร้างอุปกรณ์เฉพาะทางโดยออกแบบด้วยตนเองระบบก็จะไม่สามารถทำให้ได้
วันนี้ฉินโจ้วพาหนานกงเสี่ยวไปเยี่ยมชมภายในบ้านที่สร้างขึ้นมาโดยเฉพาะทันใดนั้นเขาก็ได้รับข่าวจากชูหลิงว่า คนของกิลด์สมาคมโลกมาขอซื้ออุปกรณ์เนื่องจากเป็ล็อตใหญ่ จึงเรียกให้ฉินโจ้วมาตอบรับด้วยตนเองชูหลิงกำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมตัวเพื่อรวบรวมลูกทีม จึงไม่สามารถปลีกตัวมาได้ฉินโจ้วก็ไม่ได้ยุ่งอะไรจึงตกลงมาดูเอง
ภายในบ้านมีที่สำหรับผลิตอุปกรณ์โดยเฉพาะซึ่งในห้องนั่งเล่นก็มีอุปกรณ์ทุกอย่างครบครัน มีผู้เล่นสามคนมาจากสมาคมโลก ผู้ที่อยู่หน้าสุดดูเหมือนจะเป็รองหัวหน้ากิลด์''หยิงเทียนฉาง'' และตามมาด้วยผู้าุโทั้งสองถึงแม้ว่าพวกเขาจะมากันเพียงแค่สามคนแต่ละคนในกลุ่มพวกเขาก็ติดอยู่ในรายชื่อการจัดอันดับการที่ทั้งสามคนมารวมอยู่ด้วยกัน แสดงให้เห็นว่าการซื้อขายครั้งนี้นั้นมีความสำคัญค่อนข้างมาก
หลังจากที่เดินเข้าประตูมาทั้งสามก็ประสานมือแสดงการทักทายกัน หยิงเทียนฉางพูดขึ้นด้วยเสียงอันดังว่า"ฉินหวัง ผมได้ยินชื่อเสียงมานานแล้ว นี่เป็ครั้งแรกที่ได้พบตัวจริง”จึงทักทายด้วยความสุภาพ
เมื่อมีผู้ที่ต้องมาติดต่อกับฉินหวังกรุ๊ปฉินโจ้วจึงได้ชื่อใหม่ในเกมว่า ''ฉินหวัง'' ถึงแม้ฉินโจ้วเองจะเคยได้ยินมาบ้างแล้วแต่เพิ่งจะถูกเรียกชื่อของตนต่อหน้าเป็ครั้งแรกทำให้เขารู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา
ฉินโจ้วยังคงยืนนิ่งอยู่และยังไม่ได้ทักทายพวกเขา ฉินโจ้วยิ้มก่อนจะกล่าวว่า"ได้ยินชื่อเสียงของรองหัวหน้ากิลด์มาตั้งนาน ทั้งสามท่านเชิญนั่ง"ตอนนี้สถานะของเขาในที่นี้เป็เ้าของบริษัทแต่เพียงผู้เดียวซึ่งปกติแล้วคนทั่วไปจะไม่สามารถที่จะขอเข้าพบได้
หยิงเทียนฉางและพวกอีกสองคนไม่กล้าที่จะชักช้าพวกเขาเดินตรงไปที่โต๊ะดื่มน้ำชาอย่างรวดเร็ว หลังจากที่นั่งลงก็มีพนักงานมาเสิร์ฟชาร้อนด้วยท่าทางนอบน้อมหนานกงเสี่ยวนั้นนั่งอยู่เงียบๆด้านหลังของฉินโจ้ว สถานะของเธอนั้นค่อนข้างพิเศษและไม่ว่าเธอ้าทำอะไรก็ตามคงไม่มีใครกล้าที่จะขัด
หยิงเทียนฉางเริ่มต้นพูดคุยแต่เขาเองก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ ฉินโจ้วนั้นอยู่ในอารมณ์ไหน ตามข่าวลือที่ได้ยินมาดูเหมือนฉินโจ้วจะไม่ค่อยเป็มิตรเท่าไรนักจากที่มองการกระทำที่มีต่อกิลด์์หลายต่อหลายครั้ง หลังจากคิดอยู่ชั่วครู่ว่าเปิดอกพูดอย่างตรงไปตรงมาเลยจะดีกว่า ดังนั้นแล้วจึงพูดขึ้นว่า"ที่ผมมาในวันนี้เื่หลักๆ ก็คือ ้าจะซื้ออุปกรณ์ที่ได้เคยเกริ่นไว้ก่อนหน้านี้แล้ว นี่คือรายการสิ่งของที่้าหวังว่าคุณฉินหวังจะอนุญาต"
ฉินโจ้วยิ้มก่อนจะรับรายการมา หลังจากที่ตั้งใจดูอย่างละเอียดก็พบว่ามีลูกธนูทุกชนิดรวมกันเป็จำนวน 1.3 พันล้านดอกอุปกรณ์สำหรับป้องกันเมืองทุกประเภทอีก 200,000 ชิ้น อุปกรณ์เหล็กดำ 1,000,000ชิ้น อุปกรณ์ทองแดง 500,000 ชิ้น อุปกรณ์เงินอีก 100,000 ชิ้นรวมมูลค่าทั้งหมดอยู่ที่ 950,000 เหรียญทอง
ไม่มีปัญหาตราบใดที่มีเงินเข้าบัญชี ก็สามารถรับสินค้าไปได้ตลอดเวลาฉินโจ้ววางรายการสินค้าลงบนโต๊ะ ต่อหน้า
หยิงเทียนฉางเขาเป็คนตรงๆ ไม่ชอบพูดอ้อมค้อมไม่ตรงประเด็นั้แ่ก่อนที่กิลด์ราตรียิ่งใหญ่นั้นจะทำาป้องกันเมือง ฉินหวังกรุ๊ปก็เริ่มสะสมอาวุธยุทโธปกรณ์อย่างลับๆรายการสินค้าของหยิงเทียนฉางดูเหมือนว่าจะมากมายยิ่งนักแต่สำหรับฉินหวังกรุ๊ปแล้วเป็เพียงแค่ส่วนเล็กน้อยเท่านั้น
"เนื่องจากเงินทุนของเราไม่เพียงพอทำให้ไม่สามารถวางเงินบางส่วนได้ โดยเหรียญทองทั้งหมดจะโอนให้เมื่อผ่านไประยะหนึ่งแล้วซึ่งทางเรารับประกันว่า จะไม่มีการเบี้ยวไม่จ่ายเงินอย่างแน่นอน"หยิงเทียนฉางพูดอย่างระมัดระวัง
“ไม่มีทาง”ฉินโจ้วตอบอย่างเฉียบขาด ไม่มีการผ่อนปรนใดๆเมื่อครั้งล่าสุดที่การเงินของธนาคารฉินหวังนั้นเข้าขั้นวิกฤติ ถ้ากิลด์สมาคมโลกแสดงเจตจำนงหยิบยื่นไมตรีช่วยเหลือเพียงเล็กน้อยฉินโจ้วคงไม่ไร้น้ำใจเช่นนี้ ตอนนี้คงทำได้แค่เสียใจเพราะเคยให้โอกาสแก่พวกเขาแล้ว แต่พวกเขานั้นไม่คว้าเอาไว้เอง
"ถ้าอย่างนั้นเอาแบบนี้ใช้ทรัพย์สินเป็สิ่งค้ำประกัน" หยิงเทียนฉางคิดไว้แล้วถ้าฉินโจ้วไม่ตกลงเขาก็จะยื่นข้อเสนออื่นทันที
"ก็ลองดูแต่เฉพาะของที่เป็ประโยชน์สำหรับผมเท่านั้นอย่านำของที่เปล่าประโยชน์ออกมาล่ะ" ฉินโจ้วกำลังนึกถึงเื่นี้ก่อนจะพยักหน้าตกลง เพราะเขาเองก็สนใจอยากรู้ว่าพวกเขาจะนำสินค้าใดมาแลกเปลี่ยนอย่างที่รู้กันว่า ในเกมนั้นมีสิ่งของแปลกๆ อยู่มากมายนับร้อยนับพันชิ้นเพื่อที่จะได้เพิ่มพูนประสบการณ์ของเขามากขึ้น
วัตถุดิบสำหรับปรุงยา4 ล้านชิ้น วัตถุดิบอาหาร 9 ล้านชิ้น วัตถุดิบหลอมสร้าง 5 ล้านชิ้นวัตถุดิบตัดเย็บ 1.5 ล้านชิ้น เหรียญทอง 2.5 แสนเหรียญ และจะจ่ายเพิ่มให้อีก 7แสนเหรียญทอง หยิงเทียนฉางพูดเสนอขึ้น
"ผมเคยได้ยินมานานแล้วว่ากิลด์สมาคมโลกนั้นสามารถรวบรวมวัตถุดิบได้มากที่สุดเหนือกว่าทุกกิลด์เป็ไปอย่างที่เขาว่ากันไว้ สมคำร่ำลือจริงๆอย่างไรก็ตามวัตถุดิบเหล่านี้มีมูลค่าเพียง 1.5 แสน คุณควรจะเพิ่มให้อีกสัก 1แสนเหรียญทอง" ฉินโจ้วพูดขึ้นอย่างไม่แยแส ไม่มีเสียงพูดใดๆ ดังขึ้นให้ได้ยินนอกจากเสียงเคาะเสาไม้ไผ่
ทันทีที่คำพูดนี้ถูกเอ่ยออกไปสีหน้าของพวกเขาทั้งสามคนเปลี่ยนเป็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที สีหน้าของหยิงเทียนฉางเริ่มแสดงอาการไม่พอใจ เขารู้ว่าการทำธุรกิจในครั้งนี้ไม่ง่ายเลยแต่เขาเองก็ไม่ยอมแพ้ ฉินโจ้วนั้นขูดเืขูดเนื้อมากเกินไปก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า "คุณฉินหวังพวกเรานั้นมาด้วยความตั้งใจจริง วัตถุดิบพวกนี้อย่างน้อยราคาตลาดก็ควรจะอยู่ที่280,000 เหรียญทอง เนื่องจากเราทำธุรกิจกัน ดังนั้นทุกคนก็ควรยึดหลักความยุติธรรม
ฉินโจ้วหยิบถ้วยน้ำชาขึ้นจิบอย่างช้าๆอันที่จริงแล้วเขาเองไม่รู้เื่ชาเลยแม้แต่น้อย ไม่รับรู้ถึงรสชาติเสียด้วยซ้ำในขณะที่เขากำลังแสดงท่าทางเสแสร้งอยู่นั้นหนานกงเสี่ยวที่อยู่ด้านหลังก็แอบยิ้มกับท่าทางของเขาที่เล่นใหญ่เสียเหลือเกินฉินโจ้วเองก็ไม่ได้พูดอะไรต่อหยิงเทียนฉางกับพวกของเขาก็ไม่มีใครเอ่ยอะไรขึ้นเช่นกันก่อนที่จะหยุดความทะเยอทะยานของทั้งสามคนนั้น โดยที่ฉินโจ้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า "ผมเองไม่มีผู้เล่นที่มีทักษะในด้านการปรุงยาสำหรับวัตถุดิบปรุงยาแล้วไม่สามารถเอามาใช้ประโยชน์ได้แต่อย่างใดอย่างไรก็ตามในเมื่อคุณเสนอมาแล้ว ผมก็จะรับเอาไว้ แต่ก็จำเอาไว้ว่านี่ไม่ใช่การแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม เพียงแค่ผมพูดออกไปคำเดียวราคาวัตถุดิบในตลาดจะลดลงทันที" บริษัทที่ปรุงยาของหลั๋วอีอีนั้นยังไม่ได้ถูกเปิดเผยต่อสาธารณชน ดังนั้นแล้วคนทั่วไปจึงยังไม่รู้ว่านี่เป็บริษัทของฉินโจ้ว
คำพูดของฉินโจ้วไม่ได้เป็เพียงการพูดคุยตามปกติแต่นำมาซึ่งการข่มขู่เป็อย่างมากถึงอย่างไรก็ตามสิ่งที่ฉินโจ้วพูดถึงแม้ว่าจะดูใหญ่โตไปบ้างแต่หยิงเทียนฉางและพวกก็ไม่ได้สงสัยในสิ่งที่เขาสามารถทำได้แม้แต่น้อย กว่าจะมาเป็อย่างปัจจุบันนี้ได้ก็เพราะฉินหวังกรุ๊ปนั้นมีความแข็งแกร่งนั่นเอง
ฉินโจ้วใช้ทั้งไม้อ่อนและไม้แข็งทั้งสามคนยังคงไม่มีข้อเสนอแนะใดๆ ก่อนจะก้มหน้าปรึกษากันชั่วครู่จากนั้นหยิงเทียนฉางก็หยิบไข่มุกสีดำเม็ดหนึ่งออกมา และพูดกับฉินโจ้วว่า “เราหวังว่าไข่มุกสีดำนี้จะแทนเหรียญทองจำนวน100,000 เหรียญได้”
ไข่มุกวารีดำ: สมบัติที่มีค่าและหายาก เพิ่มความสามารถในการกลั้นหายใจระหว่างที่อยู่ในน้ำและสร้างรัศมีรอบตัวเพื่อป้องกันตัว โดยสามารถลดพลังโจมตีลง 10-90%ไม่มีข้อจำกัดอาชีพ ใช้ได้ในระหว่างที่อยู่ในน้ำเท่านั้น เมื่อปริมาณน้ำยิ่งมากผลกระทบของมันก็จะยิ่งรุนแรงมากยิ่งขึ้น
ฉินโจ้วเหลือบไปมองทำท่าจะโยนไข่มุกกลับคืนไปเขาทำราวกับว่าไข่มุกนั้นเป็ซี่โครงไก่ต้มที่ไร้รสชาติและไม่มีคนสนใจถ้าคุณต้องจัดการกับมอนสเตอร์ที่อยู่ในน้ำ ไข่มุกเม็ดนี้เปรียบได้กับสมบัติล้ำค่าแต่ถ้าชีวิตนี้ไม่ได้ไปสถานที่ที่มีน้ำ ไข่มุกนี้ก็ไม่ต่างจากหินแตกริมข้างทางมันไม่มีประโยชน์เลยแม้แต่น้อย สำหรับคุณค่าของมันนั้นไม่ง่ายเลยที่จะประเมินค่าเพราะถ้าใครบางคนชอบ 1.5 แสนเหรียญทองนี้ ก็สามารถจ่ายได้อย่างเต็มใจแต่ถ้าพบกับคนที่ไม่้ามัน ต่อให้หนึ่งเหรียญทองก็ยังคงมากเกินไป
แต่ในขณะที่กำลังจะปล่อยไข่มุกนั้นไปในใจฉินโจ้วก็พลันเต้นรัวทันใดนั้นเขาก็นึกถึงแผนที่ขุมทรัพย์ที่ได้มาจากตั๊กแตนตำข้าวดูเหมือนว่าสมบัตินั้นจะอยู่กลางทะเล ถ้าเขา้าไปที่ทะเลเขาควรมีไข่มุกนี้ไปด้วย ก็จะทำให้เขามีโอกาสรอดมากยิ่งขึ้น ซึ่งในทะเลนั้นเต็มไปด้วยสัตว์ร้ายและสามารถพบกับอันตรายที่ไม่คาดฝันได้ทุกเมื่อ
"ไข่มุกนี้เป็ไข่มุกที่ดีแต่มันก็มีราคาไม่ถึง 100,000 เหรียญทอง เอาอย่างนี้ผมชอบไข่มุกเม็ดนี้แต่ถ้าคุณเพิ่มผลึกเวทอีกสัก 2,000 ชิ้น การทำธุรกิจครั้งนี้ก็เป็อันตกลง"น้ำเสียงของฉินโจ้วพร้อมที่จะตกลงทันทีอย่างไม่มีข้อสงสัย
"มันเป็สมบัติที่ค่อนข้างหายากถ้าใช้มันถูกที่ถูกเวลา มันจะมีค่าอย่างยิ่ง ดังนั้นมันควรจะมีมูลค่ามากกว่า100,000 เหรียญทอง" หยิงเทียนฉางเองก็เริ่มรู้สึกวิตกกังวลฉินโจ้วดูเหมือนคนที่ตะกละตะกลามเป็อย่างมาก กินได้ไม่รู้จักพอ ทั้งโลภมากและไร้ยางอายสิ้นดี
"ถ้าคุณพูดถึงอย่างนั้นแล้วล่ะก็ก็ไม่เป็ไร ถ้ามันมีมูลค่าสูงดังที่ว่าไว้ ผมก็ไม่รังเกียจถ้าคุณจะหาใครสักคนที่เหมาะสมที่้าซื้อไข่มุกนี้ในราคาที่สูงกว่า 100,000เหรียญทอง" ฉินโจ้วพูดไปแล้วว่าเขาชอบไข่มุกนี้แต่ท่าทางและน้ำเสียงของเขากับใบหน้าที่แสดงออกมาให้เห็นนั้นราวกับว่าเขา้าหรือไม่ก็ได้ทำให้คนทั้งสามรู้สึกเหมือนว่า เขายินดีที่จะแลกเปลี่ยนอย่างแน่นอนโดยไม่รู้ว่าสิ่งนี้จะดีหรือไม่ นี่ทำให้รองหัวหน้ากิลด์สมาคมโลกรู้สึกร้อนรนว่าการเจรจาธุรกิจครั้งนี้อาจจะล้มเหลว
ฉินโจ้วนั้นไม่เข้าใจเื่การแลกเปลี่ยนซื้อขายแต่เขารู้ถึงความแข็งแกร่งของตนเองดี และค่อนข้างมีความมั่นใจในความคิดของตนเองสูง
"ผลึกเวท2,000 ชิ้นนั้นมันมากเกินไป เราไม่สามารถให้ได้ เต็มที่ได้มากสุด ผลึกเวท 1,000ชิ้น" หยิงเทียนฉางขอต่อรอง
ฉินโจ้วส่ายหน้าก่อนจะพูดว่า"ผลึกเวท 1,900 ชิ้น" เขารู้ว่ามีผลึกเวทอยู่ไม่มากนักถึงแม้ว่ากิลด์สมาคมโลกจะรู้จักในนามกิลด์แรกของโลก แต่พวกเขาเองก็มีผลึกเวทไม่มากที่ฉินโจ้วเสนอผลึกเวทจำนวน 2,000 ชิ้นนั้น ในความเป็จริงแล้วเขา้าให้อีกฝ่ายนั้นต่อรอง
ด้วยความพยายามของหยิงเทียนฉางในที่สุดกิลด์สมาคมโลกก็จ่าย 700,000 เหรียญทอง กับวัตถุดิบต่างๆ อีก 19.5ล้านชิ้น ไข่มุกวารีดำ ผลึกเวทระดับต่ำ 1,500 ชิ้น และไข่สัตว์เลี้ยงระดับ C ก่อนที่จะนำอุปกรณ์ตามรายการสินค้ากลับออกไป
เมื่อพวกเขาทั้งสามเดินจากไปพร้อมกับรอยยิ้มถึงไม่รู้แน่ชัดว่าพวกเขานั้นยิ้มอย่างจริงใจหรือเสแสร้งก็ตามแต่ในเวลานี้ฉินโจ้วรู้สึกมีความสุขเป็อย่างมาก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้