เหล่าคณาจารย์าุโบนศาลาขึ้นฟ้าเป็อันต้องพิจารณาไปพร้อมๆ กัน
เ้าสำนักในวันนี้มีบางอย่างไม่เหมือนปกติ ในคำพูดยังมีความหมายแฝงเร้น บอกได้ชัดว่ากำลังเอ่ยเตือน
เมื่อหยุดพักหนึ่ง เ้าสำนักก็ว่าต่อ “จากวันนี้เป็ต้นไป เซี่ยโหวอู่มิใช่ศิษย์ของสำนักกวางขาว ไม่อนุญาตให้เข้าสำนักกวางขาวอีกไม่ว่าเมื่อไร ฉินอู๋ซวงต้องถูกกักตัวในหอพิจารณ์สามเดือน เ่ิูแม้จะทำร้ายสหายร่วมรบ และพูดวาจาไม่เคารพต่อผู้าุโ แต่เพราะได้ชัยในการแข่งขันใหญ่รอบนี้ ด้วยคุณงามความดีของเขา ทั้งทรงค่าและพลาดพลั้งเท่าเทียมกัน ดังนั้นห้ามมีการตามรังควาน...”
เสียงจ้อกแจ้กดังแว่วมา
ใครก็นึกไม่ถึงทั้งนั้น ว่าการตัดสินโทษของเ้าสำนักจะออกมาเป็เช่นนี้
เ้าสำนักที่แต่ก่อนสนับสนุนความยุติธรรมเท่าเทียมยิ่งกว่าใดทั้งหมด บัดนี้กลับชักธงชัดเจนว่าจะอยู่ฝ่ายเ่ิู
“การแข่งขันใหญ่รอบที่ห้าซึ่งคละหัวกะทิต่อจากนี้ ให้ผู้าุโจัวอวิ๋นคอยอำนวยการเถิด ข้ามีธุระ ต้องไปก่อนแล้ว” เ้าสำนักเอ่ยจบก็หันกายเดินออกจากศาลาขึ้นฟ้า
รูปกายชราของเขาห่างหายไปไกลลิบในพริบตา
ในศาลาขึ้นฟ้าเกิดเป็ความเงียบงันชั่วอึดใจ
หมู่ชนที่หลงเหลือเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรเช่นกัน
ตามที่นัดกันไว้กับสำนักหงส์ฟ้านั้น เมื่อจบสิ้นการประลองของศิษย์ปีหนึ่ง ปีสอง ปีสามและปีสี่เรียบร้อยแล้ว ก็จะยังมีการแข่งขันใหญ่อีกครั้งหนึ่งตบท้าย ให้คนที่สำนักทั้งสองเลือกว่ามีความพิเศษและยอดเยี่ยมที่สุดออกมาห้าคน เข้าสู่การแข่งรอบสุดท้าย...ตามทฤษฎีสากลก็ว่า เหตุที่จะจัดการแข่งรอบที่ห้าขึ้นมาได้ก็เพื่อป้องกันกรณีที่แข่งเสมอกันสี่รอบไว้ก่อนนั่นเอง
การแข่งขันใหญ่สองสำนักคราวนี้ เมื่อมองผลการแข่งแล้วเหมือนจะไม่ต้องเปิดรอบที่ห้า
ทว่าเพราะความปรารถนาของคนที่ได้พบสิ่งอัศจรรย์และรับรางวัลมาจากสมรภูมิหุบเขาปัดป้อง กลับยังหวังว่าจะได้ดำเนินการแข่งรอบที่ห้าต่อไป แม้จะถูกพวกหงส์ฟ้าตะลุยจนล้มกลิ้ง แต่อย่างน้อยก็ยังกอบโกยรางวัลจากสมรภูมิได้ในเวลาที่แน่นอนและย่อมเยาขนาดนี้ ไม่เอาก็แปลก
เ่ิูแสดงออกในการแข่งก่อนหน้านี้ได้เยี่ยมยุทธ์ยิ่งนัก
ว่ากันตามเหตุผลแล้ว จักมีโอกาสได้เข้าสมรภูมินี้ต่อแน่นอน
ทว่าเ่ิูกลับไม่อยากกลับไปอีกแล้ว
สิ่งที่เขาสมควรจะได้ บัดนี้ก็ได้มาจนครบ
ว่ากันตามจริง เขาผิดหวังต่อสำนักกวางขาวเหลือเกิน แล้วก็ไม่อยากจะเกลือกกลั้วกับศึกระหว่างสองสำนักนี่อีกต่อไป โดยเฉพาะกับการแข่งรอบสุดท้าย เ่ิูมองว่าการกระทำของศิษย์สำนักหงส์ฟ้ายังสมควรชื่นชมยกย่องมากกว่าเซี่ยโหวอู่กับฉินอู๋ซวงหลายเท่า
เ่ิูเกิดอยากล่าถอย เขาหันหลังเดินจากไปเชื่องช้า
สายตาของเขากวาดมองยังฝูงชน พลันนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ ตระหนกเป็อย่างยิ่งเมื่อเห็นว่าขาดไปคนหนึ่ง
“เสี่ยวจวินล่ะ?” เขามองซ่งชิงหลัว
ก่อนหน้านี้ที่หวังเยี่ยนลงมือ จู่โจมให้่เี่ิสลบไปอย่างเงียบๆ จากนั้นก็พาจากไป มีเพียงคนส่วนน้อยสองสามคนเท่านั้นที่มองทัน เ่ิูถูกการโจมตีของอาจารย์ชั้นสูงคนนั้นดึงความสนใจจนไม่ได้มองไปทางอื่นเลย
ซ่งชิงหลัวลดเสียงกระซิบข้างหูเ่ิู
ใบหน้าของเด็กหนุ่มพลันเผยแววฉงนนัก
นี่มันเื่อะไรกัน?
ทำไมหวังเยี่ยนต้องลงมือให้เด็กน้อยสลบด้วย?
เ่ิูััได้ถึงบางสิ่งบางอย่างลับๆ หรือว่านี่จะข้องเกี่ยวกับพลังงานสีแดงชาดที่กะเิออกมาจากร่างเล็กในครั้งนั้น?
เขาจำศึกสุดท้ายในสมรภูมิหุบเขาปัดป้องได้ เด็กน้อยถูกเซี่ยโหวอู่หักหลัง ในแรงกระตุ้นหนักหน่วงนั้นทำให้ะเิพลังงานแกร่งกล้าพาให้คนสั่นสะท้านได้ออกมา ตอนที่เ่ิูมองเห็นภาพนั้นผ่านผู้พิทักษ์ทะลุปรุโปร่ง เขาเองก็ตระหนกไม่น้อยไปกว่ากัน ทว่าตอนนั้นเขาถูกความหน้าด้านของเซี่ยโหวอู่ทำให้โกรธจนไฟลุก ลืมเลือนจะคิดเื่อื่นไปในสิ้นเชิง
ตอนนี้พอมาคิดละเอียดๆ อีกที เ่ิูก็เป็ห่วงนางจับใจ
ทว่าในเมื่อหวังเยี่ยนลงมือเอง เห็นทีสถานการณ์น่าจะหนักหนาเกินทนกระมัง เ่ิูเคารพนับถือหัวหน้าหมวดปีหนึ่งผู้นี้ยิ่ง ในสายตาของาามารเย่ คนที่ควรค่าแก่การเชื่อใจและนับถือในสำนักกวางขาวมีไม่มากเอาเสียเลย และนางก็เป็หนึ่งในนั้น
“ทุกท่าน พวกเรามาปรึกษาหารือกันเถิด ว่าจะเลือกใครเป็ตัวแทนศึกสุดท้าย”
ประธานาุโแห่งสำนักกวางขาวจัวอวิ๋นเปิดปากเอ่ย ท่านผู้นี้คือผู้าุโผมขาวหน้าแดง สีหน้าแดงชุ่มชื้น ปกติแล้วจะหาเวลาออกมาปรากฏตัวต่อที่สาธารณะยากมาก ทว่าเคยเป็เสาหลักในภาระงานใหญ่ของสำนักมานักต่อนัก มีชื่อเสียงและบารมียิ่งนัก ไม่เช่นนั้นท่านเ้าสำนักคงไม่ให้จัวอวิ๋นมาเป็แม่แรงจัดการเื่ราวต่างๆ หรอก
ฉับพลันก็มีผู้เสนอชื่อตัวแทนศิษย์นานาขึ้นมา
จัวอวิ๋นยิ้มพลางมองเ่ิู เขาถามด้วยเสียงเมตตายิ่ง “ชิงหยู ก่อนหน้านี้เ้าทำได้เยี่ยมยอด มีคุณสมบัติเข้าไปในสมรภูมิหุบเขาปัดป้องอีกครั้งอย่างหมดจด เ้าจักเต็มใจเข้าสู้ศึกเพื่อสำนักเป็รอบสุดท้ายไหม?”
เ่ิูส่ายหน้า
จัวอวิ๋นราวกับว่าอ่านความคิดเด็กหนุ่มออกมานานแล้ว เขาถึงมิได้ตื่นใใด เพียงแต่พยักหน้าแล้วกำชับ “ก็ดี เ้าเด็กคนนี้รู้จักถ่อมตัวไม่ยอมรับตำแหน่ง อยากให้ศิษย์คนอื่นๆ มีโอกาสได้แสดงฝีมือบ้าง เป็เด็กดีอะไรอย่างนี้ ในเมื่อเป็เช่นนี้ เ้าก็กลับไปพักผ่อนเถิด”
ในคำพูดนั้นบ่งชัดว่าช่วยปลดเปลื้องเ่ิู
ดูๆ ไปแล้วประธานาุโท่านนี้คงชื่นชมเ่ิูมากเช่นเดียวกัน
ทว่าสิ่งที่ผู้าุโจัวอวิ๋นเอ่ยก็ใช่ว่าจะผิด เ่ิูเหนื่อยไม่ใช่น้อยเลยจริงแท้ เขา้าพักผ่อนเสียบ้าง นอนหลับสักตื่น อีกทั้งยังเป็ห่วงเื่ของเด็กน้อยยิ่งนัก เขาตั้งใจไว้มั่นคงว่าจะต้องไปถามสภาพการณ์กับหวังเยี่ยนเสีย ดังนั้นเมื่อฟังคำชายชราแล้ว เด็กหนุ่มก็พยักหน้าแล้วหันหลังจะเดินจากไป
ตอนนั้นเอง...
“แฮ่กๆ...บ๊อกๆ!”
เสียงประหลาดดังขึ้นจากในอ้อมอกเ่ิู
หัวใหญ่มีขนปุกปุยแหวกอกโผล่ออกมา ดวงตากลมโตดำสนิทมองรอบด้านอย่างสงสัย จากนั้นก็พุ่งออกมาจากอกเ่ิูอย่างมีชีวิตชีวา แล้วะโไปยืนอยู่บนไหล่ ลูบไล้หัวกับใบหูเขาอย่างสนิทสนม
สายตาของฝูงชนมองตรงไปยังเ้าตัวเล็กนั่นเป็ตาเดียว
ลูกหมาน่ารักสีขาว?
เ่ิูพาเ้าสัตว์ตัวเล็กนี่ติดตัวมาด้วยจริงน่ะหรือ?
มีบางคนอดใจไม่หัวเราะออกมาไม่ไหว ใครจะนึกเล่าว่าาามารเย่ บุรุษผู้เข่นฆ่าเด็ดขาดไร้ปรานี จะเลี้ยงสัตว์เลี้ยงน่ารักน่าชังนี้ไว้ตัวหนึ่งเต็มๆ หรือว่าใจเขาจะมีมุมอ่อนโยนกันหนอ?
และคนอีกจำพวกหนึ่งก็ตาเป็ประกายราวกับคิดอะไรได้
เพลิงโทสะในใจเ่ิูค่อยๆ ลาหาย เมื่อมองเห็นหัวโตจอมบื้อและน่ารักสุดขีด หลังความใบางเบาก็เข้าใจได้ในทันที
ว่ากันโดยทั่วไปแล้ว สัตว์ทั้งหลายในสมรภูมิหุบเขาปัดป้องนั้นไม่มีทางนำออกมาได้ เมื่อาจบสิ้น ผู้เข้าร่วมจะถูกระบบอันแข็งแกร่งส่งออกมาจากสมรภูมิ นอกจากรางวัลอักขระที่ได้มาและผลพลอยได้อื่นๆ เช่นโลหิตอสูรเปลวเพลิงรวมทั้งเืพลังแล้ว สิ่งมีชีวิตในนั้นไม่มีทางนำออกมาได้เลย
ก่อนหน้านั้นที่เ่ิูพาหัวโตมาก็นึกว่าจะเก็บไว้ด้วยได้ตอนรบในศึกเท่านั้น ไม่มีทางนำหัวโตออกมาจากสมรภูมิหุบเขาปัดป้องได้จริงๆ ทว่าพอมาดูตอนนี้ เห็นมันคลอเคลียใบหูเขาอย่างมีความสุข เ่ิูก็รู้ว่าตนได้พาหัวโตออกมาจากสมรภูมิเสียแล้ว
นับเป็สัตว์ตัวแรกในประวัติศาสตร์ที่ถูกพาออกมาจากสมรภูมิหุบเขาปัดป้อง!
“ไม่นึกเลยนะว่าจะพาเ้าตัวเล็กนี่ออกมาจริงๆ” เ่ิูเองก็ััได้ถึงสายตาคนรอบข้าง ทิ่มแทงทะลุหลังเขาด้วยความแปลกใจ ตกตะลึง ละโมบและตาเป็มัน เขาเพียงคลี่ยิ้มแล้วยัดเ้าหมากลับไปที่เก่าอย่างไร้สีหน้าหรือสุ้มเสียงใด
“บ๊อกๆ...แฮ่กๆ!”
หนุ่มน้อยแสดงทีไม่พอใจอย่างมาก มันประท้วงเสียงดัง
มันเกร็งชูหัวออกมาข้างนอก แลบลิ้นนุ่มเล็ก เอาใจเ่ิูชนิดระวังตัวแจไปด้วย กวาดตามองรอบด้านด้วยท่าทีน่าเอ็นดูน่ามหัศจรรย์ไปด้วย
“หมาน้อยๆ น่ารักเหลือเกิน” เี๋เี่าแย้มยิ้ม
สตรีนางนี้ราวกับว่าปะชุนความสัมพันธ์ระหว่างตนกับเ่ิู นางยิ้มอย่างจริงใจและเสริมอย่างสบายอารมณ์ว่า “น่ารักจริงเลยนะ ศิษย์น้องเย่ นี่สัตว์ที่เ้าเลี้ยงจริงๆ หรือ? ข้าจำได้ว่าก่อนหน้าที่เ้าจะเข้าสมรภูมิหุบเขาปัดป้องนี้ไป ไม่เห็นจะพาหมาน้อยๆ ไปด้วยเลยนี่นา...” เอ่ยถึงตรงนี้ เี๋เี่าราวมีแผนการ นางถามเคลือบความใ “อ๊ะ หรือว่าหมาน้อยตัวนี้จะถูกเ้าพาออกมาจากสมรภูมิกัน? ไม่ได้สิ เหมือนว่าข้าจะไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยนะว่ามีใครพาสัตว์ออกมาจากสมรภูมิได้ หมาน้อยตัวนี้ต้องอัศจรรย์แน่ ไม่น่าเป็สัตว์วิเศษหรือสัตว์เซียนอะไรหรอกมัง?”
ประโยคนี้ทำให้ใจนับดวงไม่ถ้วน เต้นระทึกในบัดดล
วินาทีนั้นถึงจะเป็พวกอืดอาดยืดยาด เพียงได้มองเ้าหัวโตทีเดียวแต่กลบไม่คิดอะไร เป็ต้องเข้าใจถึงความไม่ธรรมดาของหมามึนตัวนี้อย่างแน่นอน
เี๋เี่าเอ่ยจบก็นิ่งพักหนึ่ง นางมองเ่ิูจากนั้นก็จับปากตัวเอง ราวกับนึกอะไรออกอีกอย่าง นางรีบบอก ทั้งสีหน้าเก้อและเสียใจ “ขอโทษๆๆ น้องชิงหยู ข้าไม่ได้...ข้าไม่ควรปากมากเลย ข้าไม่ได้ตั้งใจนะ...”
เ่ิูยิ้ม
“ไม่เป็ไร” เขาชำเลืองมองเี๋เี่าแล้วตอบด้วยรอยยิ้ม
เี๋เี่าใจชื้นถนัดตา
ทว่าเมื่อฟังเขาพูดต่อ “อ้อใช่ กรุณาอย่าเรียกข้าว่าน้องชิงหยูด้วย หากข้าจำไม่ผิด ก่อนหน้านี้ที่เ้าเดินตามตูดข้าต้อยๆ เ้าก็เรียกข้าว่าพี่ชิงหยูตลอด...แน่นอนว่า สิ่งที่ข้าอยากจะชี้ให้เห็นชัดๆ ก็คือ ที่ข้าพูดว่าไม่เป็ไรนี่ มิใช่เพราะการแสดงชั้นเลวไม่ได้เื่ของเ้าหลอกข้าสำเร็จหรอกนะ แล้วก็ไม่ใช่เพราะเ้าคอยมาตัดสินคำขอโทษอันมีค่าของข้าในทุกๆครั้ง แต่เป็เพราะ ข้าคิดว่าการมาจู้จี้จุกจิกกับผู้หญิงที่วางแผนการระรานเจาะทะลวงชาวบ้านเขาไปทั่วแล้วคิดว่าตัวเองวิเศษวิโสนัก ช่างเป็เื่ที่แสนจะน่าเบื่อ น่าเบื่อของน่าเบื่อ”
เี๋เี่าหน้าซีด
เ่ิูยังเอ่ยต่อ “เ้าพูดไม่ผิดหรอก เ้าตัวน้อยนี่ข้าได้มาจากในสมรภูมิหุบเขาปัดป้องจริง แล้วก็ได้มาจากถ้ำัเขตพงไพรด้วย น่าพิศวงจริงๆ เลยนะ เ้าพูดมิมีผิดเลย มันมีสิทธิ์เป็สัตว์วิเศษสูงมาก อื้ม บางทีอาจจะเป็สัตว์เซียนที่หาได้ยากยิ่งกว่าอีกก็ได้...ข้าก็ไม่นึกเลยเหมือนกันนะ ว่าจะพาเ้านี่ออกมาจากสมรภูมิได้แบบไม่คาดฝัน เป็ไงเล่า โชคของข้าดีจริงๆ ใช่ไหมเล่า?”
แววตาของคนมากมายที่ล้อมรอบพลันร้อนระอุ
เ่ิูยอมรับหมดเปลือกในพลันขนาดนี้ทำให้หัวโตจอมบื้อกลายเป็สูงส่งและลึกลับนักในสายตาคนรอบด้าน ราวกับว่าเป็สัตว์วิเศษตัวหนึ่งจริงๆ เช่นนั้นก็เป็สมบัติล้ำค่าที่ฟ้าประทานลงมาเลยล่ะสิ ไม่ว่าจะเป็พลังอำนาจหน้าไหน ขอเพียงได้เ้าหมาหัวโตนี่มาเท่านั้น ตำแหน่งก็จะสูงลิบลิ่ว อิทธิพลก็จะเพิ่มตามในพริบตา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้