"ทำความเคารพแด่องค์จักรพรรดิ ขอให้พระองค์ทรงมีอายุยืนนาน"
"มากันครบแล้วสินะ"
"พะยะค่ะ ข้าจะมารอฟังแผนการจากพระองค์ว่าจะทำอย่างไรต่อไป" สวิตบอกด้วยใบหน้าเรียบเฉย เพราะการถูกเรียกด้วยมาทั้งองค์รัชทายาทและองค์จักรพรรดิแบบนี้ คงจะหนีไม่พ้นเื่ของเด็กคนนั้นอย่างแน่นอน
"พะยะค่ะ มีเื่อะไรให้หม่อมฉันรับใช้" มาร์แชลถามตามมารยาทเพราะเขาคิดว่านาทีนี้ไม่น่าที่จะไม่มีใครรู้เื่ข่าวการลอบทำร้ายลูกครึ่งัเทพผู้เป็บุตรบุญธรรมของตระกูลริคที่เป็เชื้อพระวงศ์ของกษัตริย์ และมีการออกตามหาตัวคนร้ายกันให้วุ่นวายอยู่ขณะนี้
จักรพรรดิกางแผนทั้งหมดออกมาให้ทั้งสองคนรับรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นนับจากนี้ แผนทั้งหมดสมบูรณ์แบบมากจนทั้งคู่ใ ถึงจะรู้มาตลอดว่าจักรพรรดิคือตำแหน่งที่มีความรู้ความสามารถแต่ก็ไม่คิดว่าจะเฉียบขาดถึงขนาดนี้ หากอยู่ฝ่ายตรงข้ามอาจจะเพลี่ยงพล้ำก็เป็ได้
"พวกเ้าเข้าใจแผนนี้ของข้าแล้วใช่ไหม จงทำตามขั้นตอนซะ! อย่าให้พลาดแม้แต่ก้าวเดียว"
"พะยะค่ะ จักรพรรดิ"
มาร์แชลอดหลับอดนอนรีบเดินทางมาเมืองหลวงเพื่อมาเตรียมรับมือกับศึกที่จะเกิดขึ้นกลางวังหลวง และมันก็ไม่ได้ผิดจากที่เขาคาดเดานัก เพราะว่าจักรพรรดิเรียกให้ไปคุยสานต่อแผนการในการจับพวกหวังจะดื่มเือย่างผิดกฎหมายและการตามล่าเืักับเทพด้วย ไม่ได้เจอไวท์นานมากจนไม่รู้ว่าป่านนี้เป็ยังไงบ้าง ล่าสุดที่ได้ข่าวคือสลบระหว่างสู้รบด้วย
สวิตหัวเราะในลำคออย่างรู้ทันจักรพรรดิ คิดจะทำแบบเดียวกับเมื่อร้อยปีก่อนหรือไงกัน แบบนี้มันเหมือนล้อมดักจับชัดๆ ถ้าพวกมันไม่โง่ก็น่าจะฉลาดไม่พอที่จะทันเกมขององค์จักรพรรดิ ปรับรูปแบบแผนการรบออกไปนิดหน่อยแบบนี้ หวังว่าคงไม่มีใครที่เป็ไส้ศึกไปบอกเสียก่อน ไม่งั้นคงจับได้ไม่ทั้งหมดอย่างแน่นอน
"ไวท์ / เ้า" ทั้งสองเอ่ยทักพร้อมกันทันทีที่เห็นร่างสูงโปร่งกำลังนั่งเขียนเอกสารอะไรบางอย่างอยู่บนโต๊ะในสวนของพระราชวังหลวง
"ครับ คุณบลัฟเฟอร์ คุณสวิต" ใบหน้าของเทรเลอร์หุบยิ้มลงทันทีที่อีกฝ่ายเรียกขุนนางอีกคนด้วยชื่อแต่กลับเรียกเขาด้วยนามสกุล และแน่นอนว่าฝ่ายที่ถูกเรียกด้วยชื่อก็ยิ้มอย่างพอใจแล้วเดินเข้าไปหาอย่างอารมณ์ดี
"ทำไมเ้าเรียกหมอนั่นด้วยชื่อ แต่กลับเรียกข้าด้วยนามสกุล หมายความว่ายังไงกัน" สวิตพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจทันทีที่การเรียกของคนอายุน้อยกว่าแตกต่างแบบนี้ ใครจะอยากยอมแพ้เ้าบ้านี่กันล่ะ ไม่มีทางซะหรอก
"ถ้าคุณสวิตยังไม่เลิกโวยวาย...แนะนำให้กลับไปที่พักตัวเองนะครับ ผมกำลังฝึกอ่านภาษาของจักรวรรดิอยู่ ทำแบบนี้มันรบกวนสมาธิ" เสียงทุ้มนุ่มบอกพลางนั่งเขียนต่อไปโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองเลยแม้แต่น้อย
"ไวท์ทำอะไรอยู่เลย มีอะไรที่ข้าพอจะช่วยได้ไหม" มาร์แชลถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น เพราะว่ามันก็นานมากแล้วที่จะได้เห็นตำราฝึกหัดการฝึกเขียนภาษาจักรวรรดิ เหมือนได้กลับมาอยู่ในวัยเด็กอีกครั้ง
"ไม่เป็ไรครับ กำลังฝึกเขียนส่วนนี้ส่งให้เฟลิกซ์ตรวจครับ"
"มีข้ารับใช้คอยช่วยสอนก็ดีเหมือนกันนะ ข้าเองก็เคยมีความรู้สึกแบบนั้นเหมือนกันแต่มันนานมากแล้ว เห็นเ้าในตอนนี้รู้สึกเหมือนเห็นตัวเองในวัยเด็ก" มาร์แชลพูดแล้วพลางนึกถึง่เวลานั้นก็สนุกสนานไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว
"นี่พวกเ้าสองคนกล้าเมินข้าเหรอ ข้าเป็ถึงเชื้อพระวงศ์แห่งสวิต พวกเ้าไม่มีสิทธิทำแบบนี้" สวิตเริ่มโมโหกับการกระทำของทั้งคู่
"คุณพูดถึงสิทธิงั้นเหรอครับ" มือขาววางอุปกรณ์การเรียนลงแล้วจ้องหน้าอีกคนด้วยแววตาเอาเื่
"ข้าชื่อริค ไวท์ เป็บุตรบุญธรรมขององค์จักรพรรดินีแห่งตระกูลริคผู้เป็เชื้อพระวงศ์และยังมีตำแหน่งการปกครองวังหลังในขณะนี้ เป็ลูกครึ่งเทพัที่สามารถทำให้เ้าตายตอนนี้ก็ยังได้" ทุกคำพูดที่ออกมาจากปากของเด็กคนนี้คือความน่ากลัว น่าเกรงขาม ไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าสิ่งที่เห็นตรงหน้าคือเหมือนกำลังถูกกดให้อยู่ต่ำกว่า
"ทีนี้รู้แล้วใช่ไหมว่าใครมีสิทธิมากกว่ากัน ก่อนที่เ้าจะพูดจาอะไรก็หัดระวังปากเอาไว้บ้าง"
"และอย่าลืมว่าที่นี่คือวังหลวง การกระทำเช่นนี้คงรู้ดีสินะว่าจะถูกลงโทษเช่นไร"
"อย่ามาปากดีกับข้าให้มันมากนัก สวิต เทรเลอร์" คำพูดสุดท้ายนั้นคือน้ำเสียงเฉียบขาด เด็ดขาด และแข็งแกร่ง ลูกไฟในดวงตาและรังสีแห่งเทพปรากฏออกมาให้เป็ที่ประจักษ์ว่าใครกันแน่ที่ควรจะหวาดกลัว ถ้าไม่อยากจะเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่ก็อย่าได้พูดแบบนี้อีก สวิตถึงกับสะอึกจนพูดไม่ออกเพราะไม่คิดว่าจะเจอปฏิกิริยาตอบโต้แบบนี้ ไม่เคยรู้สึกสั่นกลัวมาก่อนในชีวิต
"ไม่อยากจะรังแกคนไม่มีทางสู้ ไสหัวไปซะ ก่อนที่ข้าจะหมดความอดทนกับเ้าแล้วเผลอเผาจนตัวไหม้" ไวท์ยื่นคำขาดแล้วยกมือขาวขึ้นมาร่ายคาถาบางอย่างจนปรากฎลูกไฟขนาดใหญ่พอที่จะเผาอีกฝ่ายได้อย่างที่พูดจริงๆ
"ไวท์ เ้าใจเย็นก่อน อย่าเพิ่งเผาเ้าชายสวิตเลย" มาร์แชลพยายามห้ามปรามคนตรงหน้าไม่ให้ทำอะไรเกินกว่าเหตุ ไม่อยากจะเชื่อว่าจะต้องมาอยู่ในสถานการณ์ที่น่ากลัวเช่นนี้ เหมือนไปเหยียบอะไรเข้าสักอย่างถึงได้เดือดร้อนกันแบบนี้
"ไม่ต้องห่วงไปหรอก คุณชายมาร์แชล ข้าก็แค่ขู่ แต่ก็ตั้งใจจะทำจริงถ้ายังปากดีไม่เลิก" ไวท์บอกพลางแสยะยิ้มร้ายออกมา เพราะว่าถ้าอีกคนไม่ยอมเลิกลาคงต้องได้ทำอะไรบางอย่างเพื่อให้หุบปากนั่นลง
"มันจะเป็การดีกับเ้านะสวิต ถ้าจะยอมขอโทษไวท์" มาร์แชลเสนอทางออกให้ก่อนที่จะมีอันตรายกันไปมากกว่านี้
"ข้าต้องขอโทษเ้าเด็กที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าเนี่ยนะ สำคัญตัวเกินไปหรือ..."
ตูม!
สวิตพูดยังไม่ทันจบลูกไฟขนาดใหญ่ก็ไปโดนข้างตัวจนเกิดหลุมขนาดใหญ่ขึ้นมาทันที มือขาวกำลังยกมืออีกข้างเพื่อหวังจะฟาดใส่อีกครั้งแต่ก็สร้างเงื่อนไขหนึ่งขึ้นมาก่อนจะทำแบบนั้น
"ถ้าเ้ายังไม่เลิกพูดจาดูถูกข้าอีก ลูกไฟอันนี้มันไม่มีทางพลาดแน่นอน มันจะเผาเ้าทั้งเป็เลยล่ะ สวิต เทรเลอร์" ไวท์ขู่ขึ้นมาอีกครั้งและแน่นอนว่าทำจริงอย่างที่พูดแน่นอน
เสียงะเิดังกล่าวทำให้คีย์ที่ทำงานอยู่นั้นรีบวิ่งตามเสียงไปด้วยสัญชาติญาณของแวมไพร์สายเืบริสุทธิ์ เหตุการณ์ที่เห็นตรงหน้าคือจะเกิดการต่อสู้กันจึงรีบบินลงมาห้ามปรามในทันทีก่อนที่จะเป็เื่ใหญ่
หมับ!
"ใจเย็นๆ นะไวท์ ไม่โกรธนะ" คีย์มากอดร่างสูงโปร่งเพื่อหวังให้อาการนี้สงบลงแต่โดยดี ไม่รู้ว่าอะไรถึงทำให้เกิดเื่แบบนี้ขึ้นแต่จะต้องทำให้คนในอ้อมกอดอารมณ์เย็นลงกว่านี้ ไม่งั้นสวนแห่งนี้ได้พังทลายลงแน่
"ครับ ปล่อยกอด" ไวท์ใที่จู่ๆ ก็ถูกกอดกะทันหัน ใบหน้าหวานแดงระเรื่อขึ้นด้วยความเขินอายทันทีเพราะถูกดึงให้ลงมานั่งตักเพื่อถามว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ รวมถึงซักถามสวิตกับมาร์แชลด้วย เพราะปกติแล้วเด็กคนนี้ไม่เคยเป็แบบนี้ มันจะต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลอย่างแน่นอน
"เป็แบบนี้นี่เอง ตอนนี้ใจเย็นลงแล้วหรือยัง" คีย์กระซิบถามข้างใบหูขาวพลางลูบกลุ่มผมนิ่มให้วางใจว่าจะไม่มีอะไรให้ต้องกังวลใจถ้าอยู่กับเขา
"ใจเย็นลงแล้วครับ ขอนั่งเก้าอี้แทนได้ไหมครับ" เสียงทุ้มนุ่มถามด้วยน้ำเสียงที่เบาแต่ก็พอที่จะได้ยินเพราะอยู่ใกล้กัน
"ได้สิ" ไวท์ขยับตัวลงนั่งข้างๆ แทนการนั่งตัก
"ขอพระราชทานอภัยแก่องค์รัชทายาท หม่อมฉันไม่คิดว่าจะเกิดเื่เช่นนี้ขึ้น" มาร์แชลรีบขอโทษทันทีเพราะไม่รู้มาก่อนว่าถ้าไวท์โมโหแล้วจะเป็แบบนี้ ไม่คิดว่าจะอันตรายถึงขนาดนี้
"เ้าไม่จำเป็ต้องขอโทษหรอก เ้าต่างหากที่สมควรจะขอโทษ สวิต เทรเลอร์"
"เ้ารู้ไหมว่าถ้าเื่นี้รู้ถึงหูฝ่ายตรงข้ามมันจะเกิดอะไรขึ้นกับจักรวรรดิ มัวแต่หยิ่งจองหองในยศศักดิ์ของตนจนลืมเื่บ้านเมืองจนหมดสิ้นแล้วหรือ ช่างไม่สมกับเป็ลูกขุนนางมาก่อนเลย คิดจะเล่นอะไรก็ให้มันรู้จักบ้าง หากข้ามาห้ามไม่ทันรู้หรือไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับที่นี่ เด็กคนนี้สามารถฆ่าเ้าตายได้ รู้หรือไม่! สวิต เทรเลอร์!!! " รัชทายาทเพิ่มระดับน้ำเสียงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้รับรู้ว่าตนนั้นโกรธมากแค่ไหน หากเื่นี้รู้ถึงผู้ไม่หวังดีเข้า...พวกมันจะต้องหาทางกระตุ้นให้กระรอกน้อยทำลายแวมไพร์ทั้งหมดแน่นอน
"ขอพระราชทานอภัยแก่องค์รัชทายาท หม่อมฉันไม่ได้ตระหนักถึงสิ่งนั้นจริงๆ พะยะค่ะ" สวิตขอโทษจากใจจริงเพราะมัวแต่คิดจะแหย่เด็กคนนี้เล่นจนลืมเื่ต่างๆ ที่ควรจะพึงระลึกไว้เสมอ ขาดคุณสมบัติในการเป็ผู้ปกครองเมืองจนสิ้น
"เ้าควรจะขอโทษไวท์ที่พูดจาไม่สมกับเป็ผู้ใหญ่"
"ข้าขอโทษ จะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก"
"ครับ ผมให้อภัย"
"ข้าจะทำหนังสือลดยศของเ้าจากดยุคให้กลายเป็ลอร์ดแทนในเื่การทำงาน ส่วนตำแหน่งแต่ดั่งเดิมเมื่อตอนเ้าเกิดนั้นไม่เกี่ยวข้องกัน และเหตุผลในการถูกลดยศลงนั้นคิดว่าคงไม่ต้องบอกว่าเพราะอะไรนะ" คีย์บอกพลางปรายตามองด้วยความเอือมระอา โตซะเปล่าแต่ไม่มีหัวคิดมันใช้ได้ที่ไหนกัน
"พะยะค่ะ หม่อมฉันน้อมรับคำตัดสินจากรัชทายาท" สวิตสำนึกผิดจากสิ่งที่ตนได้กระทำไปทั้งหมดด้วยความคึกคะนอง อายุมากกว่าตั้งหลายเท่าแต่ก็ยังคิดไม่ได้ สมควรแล้วที่จะถูกลงโทษแบบนี้
"พี่คีย์ครับ โทษนี้เบาลงกว่านี้ไม่ได้เหรอครับ" ไวท์ถามด้วยความสงสัยเพราะสงสารอีกฝ่ายที่ถูกลดตำแหน่งในหน้าที่การงานลง
"นี่คือโทษที่เบาที่สุดแล้วกระรอกน้อย เพราะว่าโทษอื่นคือการจับขังคุกและถอดยศการทำงานออกทั้งหมดและต้องเริ่มต้นใหม่"
"โทษนี้คือโทษสถานเบาที่สุดแล้วล่ะไวท์ รัชทายาทพูดถูกแล้ว เ้าชายสวิตสมควรได้รับบทเรียนจากการกระทำในครั้งนี้" มาร์แชลเห็นด้วยเพราะเื่นี้มันเกี่ยวข้องกับจักรวรรดิโดยตรง พลังของเด็กคนนี้ยังไม่ตื่นดีนักแต่ยังทำลายอาณาเขตได้เป็วงกว้างขนาดนี้ หากอายุมากกว่านี้จะต้องสามารถล้างเผ่าพันธ์ุได้อย่างแน่นอน
"แยกย้ายกลับไปที่พักของพวกเ้าได้แล้ว ข้าจะไปรายงานเื่นี้กับจักรพรรดิ"
ไวท์ คีย์ มาร์แชล สวิต ต่างคนต่างเดินคนละทางเพื่อกลับที่พักของตนเองและโชคดีที่ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์นี้มากเท่าที่ควรนัก จึงสรุปว่าเป็เพียงการซ้อมต่อสู้เท่านั้นในสายตาคนนอก ไม่ได้หมายจะเอาชีวิต เื่ราวที่แท้จริงมีเพียงองค์จักรพรรดิเท่านั้นที่รับรู้และเห็นด้วยกับการตัดสินโทษของรัชทายาท ภายในสามชั่วโมงต่อมามีเอกสารด่วนในการสั่งลดชั้นยศของสวิต เทรเลอร์ บุตรชายคนโตของตระกูลสวิตจากดยุคเป็ลอร์ด และย้ายตำแหน่งการทำงานให้ลดลงมาหนึ่งขั้น จากการไม่ระมัดระวังในการอยู่พระราชวังหลวงจนก่อเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายในครั้งนี้ เอกสารเร่งด่วนนี้ถูกส่งโดยม้าบินกระจายไปทั่วจักรวรรดิ เพื่อไม่ให้เป็เยี่ยงอย่างเวลาถวายตัวรับราชการงานบ้านเมืองในวังหลัง จะไม่มีใครการไร้มารยาทเช่นนี้อีก
