กลางอากาศ เทพปีกเงินสงบนิ่งไม่ไหวติง เปลวไฟสีเงินสาดแสงรายล้อมเขาไว้ แลดูดุจเทพอันสูงส่ง
เขาสวมชุดสีเงินแวววาว สะท้อนแสงจากเส้นผมและปีกสีเงินของเขา โดดเด่นเหนือผู้คน คล้ายๆ กับเทพเ้าแลมองลงมายังแดนดิน
บนพื้นดิน ซากสัตว์ประหลาดขาดเป็สองท่อน เืไหลนองเป็บริเวณกว้าง ก้อนหิน ต้นไม้ ใบหญ้า พื้นดินล้วนอาบด้วยสีแดงสด เป็ภาพอันน่าสยดสยอง
สัตว์ประหลาดตัวยาวสิบกว่าเมตร หนังหนาฟันแทงไม่เข้า ไม่เกรงกลัวอาวุธปืน ทลายต้นไม้ใบหญ้าราบเป็หน้ากลอง สังหารมนุษย์พิเศษไปหลายสิบคน หากสุดท้ายกลับถูกฆ่าตายอยู่ตรงนี้
เหตุการณ์พลิกผันอย่างสิ้นเชิง คนจำนวนไม่น้อยต่างอกสั่นขวัญแขวน เทพปีกเงินช่างน่าเกรงขาม ห้าวหาญเกินใครจริงๆ
“โฮก!”
บนพื้นดินยังเหลือสัตว์ประหลาดอีกตัว เสียงร้องของมันปานเสียงฟ้าร้อง มันแสยะเขี้ยว แหงนมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ตาแดงดั่งสายเื เสียงร้องโหยหวนคร่ำครวญ
ผู้คนต่างอุดหู สีหน้าแสดงความเ็ปเป็อย่างยิ่ง คลื่นเสียงของสัตว์ประหลาดตัวนี้มีพลังทำลายล้างสูงส่ง
สามารถเห็นได้ว่า ต้นไม้ใบหญ้าที่รายล้อมต่างฉีกขาด กรวดทรายถูกพัดปลิว ยามที่มันร้องคำราม ฝุ่นควันคละคลุ้งท่วมฟ้า
มันออกท่าออกทาง ้าที่จะทะยานสู่ท้องฟ้า พุ่งเข้าแก้แค้นให้คู่ของมัน
เทพปีกเงินล่องลอยอยู่กลางอากาศ ไร้สรรพสำเนียง ดวงตาสีเงินเป็ประกาย เขากวาดตามองเบื้องล่างด้วยสีหน้าเรียบเฉย สุขุมนุ่มลึก
เสียงฟุ่บดังขึ้น สัตว์ประหลาดร่างยาวสิบกว่าเมตรเคลื่อนไหว รวดเร็วและเฉียบคม ดุจสายฟ้าสีเขียว เพียงพริบตาเดียวก็พุ่งไปร่วมสิบเมตร
แต่ว่า มันไม่ได้ทะยานขึ้นไปกลางอากาศ แต่กลับพุ่งเข้าหาต้นไม้ต้นเล็กที่อยู่ไม่ห่างออกไป มันคิดจะเขมือบลูกสนสีม่วงทองลูกนั้น
ถึงแม้ว่าดวงตาแดงฉานจะเต็มไปด้วยแววเคียดแค้น หากมันยังคงควบคุมสัญชาตญาณสัตว์ป่าเอาไว้ เลือกที่จะพุ่งเข้าไปแย่งลูกไม้วิเศษก่อน ขอแค่กลืนลงไป พลังของมันก็จะเพิ่มพูนมหาศาล
เมื่อนั้น มันก็จะสามารถหลุดพ้นออกจากเทือกเขาไท่หังซาน ทะยานไปทั่วดินแดนแถบเหนือ แล้วเริ่มสร้างอาณาจักรของมันในป่าลึกลับ
ส่วนคู่แค้นน่ะ แค่พลังความสามารถเพิ่มพูนก็กำจัดได้สิ้นซากแล้ว
เื่นี้เกินความคาดหมายของผู้คน ดวงตาแดงฉานทั้งคู่ของสัตว์ประหลาดกลับไร้ซึ่งวี่แววว่าจะโจมตี แปลกประหลาดอย่างยิ่ง
มันเคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่ง พื้นดินแตกแยกเพราะย่างก้าวอันหนักแน่น ทุกครั้งที่มันก้าวะโ ระยะห่างร่วมสิบเมตร แผ่นดินไหวเยือก
“เร็ว ขวางมันไว้!” เสียงผู้คนร้องะโ
ให้ตายก็ปล่อยให้ลูกสนสีม่วงทองเข้าไปอยู่ในปากไอ้สัตว์ประหลาดนี่ไม่ได้
ตึง!
เหมือนกับกลองขนาดใหญ่ที่แขวนอยู่กลางอากาศ เสียงดังสนั่นสะท้านะเืปานฟ้าร้องไปทั่วสารทิศ
จากนั้น ผู้คนกลับเห็นว่าสัตว์ประหลาดถูกผลักลอยออกไปด้วยพลังมหาศาล มันกระแทกเข้ากับูเาที่อยู่ห่างออกไป ต้นไม้เก่าแก่หักสะบั้น ดินทรายกระจัดกระจาย
เกิดอะไรขึ้น? ผู้คนต่างตกตะลึง งุนงงอย่างยิ่ง
ที่ตรงนั้นมีคนผู้หนึ่งปรากฏกายขึ้น ยืนอยู่ไม่ห่างจากต้นไม้พิสดารเท่าไหร่ เป็คนผู้นั้นที่ฟาดสัตว์ประหลาดกระเด็นออกไป ภาพที่เห็นชวนให้ผู้คนแตกตื่น ความเงียบบังเกิดขึ้นทันใด
เขาสวมชุดสำหรับฝึกกังฟู เป็ชุดหลวมๆ ร่างทั้งร่างแลดูแข็งแรง ไม่มีกล้ามเนื้อส่วนเกินสักนิด ท่าทางทรงพลังอย่างยิ่ง!
เพียงแค่มองก็ให้ความรู้สึกว่า เขาต้องมีพลังอันน่าตื่นตาตื่นใจอย่างแน่นอน
คนผู้นี้พิเศษอย่างยิ่ง หน้าตาไม่ถึงกับหล่อเหลา หากท่วงท่าโดดเด่น คลับคล้ายพุทธะผู้สงบสำรวม หากซุ่มซ่อนไว้ด้วยพลังอันน่าเกรงขาม
เขาตัดผมสั้น ิัใสออกเหลือง คล้ายๆ บุษราคัม ทั้งยังเปล่งประกายเรืองรอง ย่อมไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน
ร่างกายของเขาล่ำสัน ให้ความรู้สึกแข็งแกร่งของบุรุษเพศ ตาทั้งคู่เป็ประกายแวววาว
“เขาคือ...เทพวัชระ!”
มีคนร้องเสียงหลงคาดเดาตัวตนของเขาวุ่นวาย
สี่สุดยอดมนุษย์พิเศษ พวกเขามีพลังมหาศาลกันถึงเพียงไหนนะ?
ก่อนหน้านี้ ใครที่มีตาล้วนเห็นได้ชัดเจนว่า สัตว์ประหลาดตัวยาวสิบกว่าเมตรแผลงฤทธิ์ บดขยี้ตลอดทาง แม้แต่มนุษย์พิเศษที่ขยายร่างเป็มนุษย์ต้นไม้ั์สูงสิบกว่าเมตรยังถูกมันฆ่าอย่างง่ายดาย
ตอนนี้ มนุษย์เพียงคนเดียวกลับตบมันกระเด็น หากกล่าวกันในแง่ของพละกำลังเพียงอย่างเดียวแล้วล่ะก็ น่ากลัวกว่าสัตว์ประหลาดนั่นเสียอีก
เ้าสัตว์ประหลาดตะกายพลิกตัวทันควัน ดวงตาเต็มไปด้วยเพลิงโทสะ อีกเพียงนิดเดียวเท่านั้น มันก็ได้กินลูกสนนั่นแล้ว ดันมีคนมาขัดลาภปากเสียได้
พร้อมกันนั้น ดวงตาทั้งคู่ของมันฉายแววหวาดกลัว เมื่อครู่คนผู้นั้นใช้เพียงหมัดลุ่นๆ ก็ชกมันคว่ำแล้ว สิ่งนี้สร้างความกังวลให้มันหน่อยๆ
พรึ่บ!
สัตว์ประหลาดยังเลือกที่จะโจมตี ลูกสนใกล้สุกงอมแล้ว ห่างอีกแค่คืบเท่านั้น จะปล่อยมือง่ายๆ ได้อย่างไร?
ที่จริง เทพวัชระก็ลงมือแล้ว แถมยังรวดเร็วกว่ามันเสียอีก ชั่วระยะห่างสิบเมตรเท่านั้น เพียงเขาสืบเท้าก็เหมือนกับย่นระยะอันห่างไกลให้หดสั้น แค่พริบตาก็ถึงตัว
“ตึง!”
ครั้งนี้ เขาใช้เงาหมัดวัชระ ด้วยพละกำลังมหาศาล เหวี่ยงเข้าใส่ปากอันใหญ่โตของสัตว์ประหลาด จนเขี้ยวฟันหักร่วงกราว เืกระจายกบปาก
สัตว์ประหลาดกระเด็นไปอีกครั้งร่วงกระแทกกับพื้นไกลออกไป พลังขนาดนี้มันต้านทานไม่ไหว
สัตว์ประหลาดที่แรกเริ่มกราดเกรี้ยวไร้เทียมทาน สุดท้ายกลับชนเข้ากับคนที่แกร่งกว่า เพียงใช้แรงที่เหนือกว่าเท่านั้น ก็กดข่มมันจนอยู่หมัด
บนพื้นคือเขี้ยวที่หลุดร่วง ล้วนมีความยาวหนึ่งฟุต คมขาวราวกับหิมะ หากอาบด้วยเืสีแดงเข้มอันน่าสะพรึงกลัว
“เขาคือเทพวัชระนี่เอง ช่างห้าวหาญ พละกำลังน่ากลัวอย่างยิ่ง!”
“เทพวัชระมาแล้ว อย่างนี้ต้องเจอกับเทพปีกเงินสักหน่อย วันนี้พวกเรามาไม่เสียเที่ยวแล้ว!”
คนจำนวนมากต่างก็ตื่นเต้นยินดี
เมื่อครู่ยังวิตกกังวลกันเื่ความร้ายกาจของสัตว์ประหลาดอยู่เลย แต่ตอนนี้หาได้คำนึงถึงแต่อย่างใด มีเทพวัชระอยู่ตรงนี้แล้ว ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน
กลางอากาศ เทพปีกเงินเริ่มเคลื่อนไหว แสงสีเงินพร่างพรายร่อนลงยังยอดเขาแห่งหนึ่งที่ห่างออกไปไม่ไกล
ตรงนั้นมีผู้คนหลายคน ล้วนเป็บุคคลสำคัญของเทียนเสินเซิงอู้!
หลินนั่วอียืนอยู่บนยอดเขา ร่างสูงโปร่ง เยือกเย็น งดงาม ผมยาวสลวยถึงบั้นเอว ใบหน้านวลละอองไม่สามารถอ่านอะไรได้ เธอนิ่งอย่างยิ่ง
เทพปีกเงินลอยลงสู่พื้นดิน หญิงสาวลุกขึ้นยืนเคียงข้าง
เมื่อผู้คนเห็นเข้าล้วนเผยสีหน้าประหลาดใจ
เมื่อตอนที่หลินนั่วอีถูกถ่ายรูปด้านข้าง ผู้คนต่างก็รู้สึกว่าเธองดงามอย่างยิ่ง จับเธอเป็คู่จิ้นกับเทพปีกเงิน เื่นี้กลายเป็หัวข้อถกเถียงร้อนแรง ยามนี้ผู้ที่ได้เห็นกับตาตัวเองต่างรู้สึกว่าหญิงสาวงดงามกว่ารูปถ่ายนั้นหลายเท่า ชวนให้พิศวงยิ่งขึ้น
บนเขายังมีชายหนุ่มอีกคนหนึ่ง ท่วงท่าโดดเด่น ใบหน้าคมคาย เดินมาหยุดอยู่อีกข้างของหลินนั่วอี ออกคำสั่งจัดการนู่นนี่ไม่หยุดปาก
“มู่?”
ฉู่เฟิงมองไปทางนั้น ค่อยๆ จำพวกเขาได้ทีละคน
เขาเคยเห็นรูปของมู่ อีกทั้งยังรู้ด้วยว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับสวีหวั่นชิงนั้นไม่ธรรมดาเลย ด้วยเหตุนี้จึงจดจำได้อย่างแม่นยำ
“โครม!”
กลางลาน สัตว์ประหลาดถูกเทพวัชระอัดเสียจนไม่อาจเผ่นหนีไปได้ มันกระแทกเข้ากับต้นไม้เก่าแก่ต้นแล้วต้นเล่าจนอลหม่านวุ่นวาย
คนไม่น้อยสังเกตว่า เทพวัชระเหมือนกับกำลังอุ่นเครื่องมากกว่าที่จะเร่งมือเผด็จศึก
ผู้คนต่างก็รู้ว่า คู่แข่งของเขาก็คือเทพปีกเงิน หาได้ใส่ใจสัตว์ประหลาดตัวนั้นแต่อย่างใด ตอนนี้ก็แค่ยืดแข้งยืดขาเท่านั้น
สัตว์ประหลาดโมโหขึ้นมาแล้ว มันอ้าปากกว้างพ่นเปลวไฟสีดำ กลิ่นซัลเฟอร์รุนแรง มันทุ่มสุดตัว
เห็นได้ชัดว่า เทพวัชระนั้นไม่้าเปลืองแรงกับมันเท่าไหร่ เสียงฟึ่บดังขึ้น กลางหลังพลันปรากฏดาบยาวขาวสว่างราวกับหิมะเล่มหนึ่ง สืบเท้าเพียงก้าวเดียวก็พุ่งไปร่วมสิบเมตร ทะยานถึงเบื้องหน้า
ปุ!
แสงดาบสะบัดลง ขาวสว่างราวกับแม่น้ำสีเงิน สว่างวาบขึ้นกลางหุบเขา หัวอันมหึมาปลิวกระเด็นพร้อมเกล็ดเืปลิวกระจาย
ดาบเดียวเท่านั้น เทพวัชระก็สังหารสัตว์ประหลาดไปเสียแล้ว ก่อนหน้านี้ก็แค่อุ่นเครื่องเท่านั้น!
“เร็ว ถ่ายเก็บไว้หรือเปล่า? นี่เป็ข้อมูลอันล้ำค่าเลยนะเนี่ย ไม่ใช้เอฟเฟกต์ มันจะกลายเป็ซีรีส์ฟอร์มั์ระดับตำนาน!”
ในเวลาอันน่าตื่นเต้นเช่นนี้ กลับมีคนร้องเร่งโวยวาย
ผู้คนอึ้งไปชั่วครู่ จากนั้นก็เห็นโจวอี่เทียน คนที่เป็ผู้กำกับนั่นแหละ กำลังพาพรรคพวกแบกอุปกรณ์ถ่ายทำ เก็บบันทึกภาพจากทุกมุม
“เทพปีกเงิน เทพวัชระ ในซีรีส์ฟอร์มั์ของพวกเรา คือวีรบุรุษผู้ไร้เทียมทาน” โจวอี่เทียนยังตื่นเต้นไม่หยุด
แต่ไม่มีใครสนใจเขา ทั้งยังไม่มีใครเฝ้าดูอีกด้วย
ทุกคนล้วนถูกพลังอันน่ากลัวของเทพวัชระสะกด ดาบพุทธะปรากฏ ใครจะกล้าต่อกร?
“เทพวัชระ ทางนี้!”
บนยอดเขา เทพปีกเงินเอ่ยปาก ปีกทั้งคู่สะบัด แสงสีเงินสว่างไสวเรืองรอง เขาบินไปทางหนึ่ง กวาดตามองมนุษย์พิเศษตลอดเส้นทาง
เขาสูงส่ง สำหรับมนุษย์พิเศษคนอื่นๆ แล้ว เรียกได้ว่าแทบจะไม่ต่างจากเทพยดาเลย!
เทพวัชระเงยหน้าขึ้น เหมือนกับว่ารู้อยู่ก่อนแล้วว่าระหว่างพวกเขาต้องเกิดการปะทะกันอย่างแน่นอน บนพื้นดินเขาสืบเท้าก้าวด้วยความเร็วสูง พริบตาก็ทิ้งระยะห่างไกล
ผู้ชมตะลึงไปตามๆ กัน นี่คือเดินบนพื้นดินงั้นหรือ? รวดเร็วไปไหมนั่น ขนาดนกยังบินได้ไม่เร็วเท่าเลย
โครม!
ห่างออกไป ท่ามกลางขุนเขากว้างใหญ่ไพศาล เทพปีกเงินและเทพวัชระต่างเผชิญหน้า ศึกชี้ชะตาครั้งใหญ่กำลังจะเริ่มขึ้น!
“บุก ลูกไม้นั่นต้องเป็ของพวกเราเทียนเสินเซิงอู้เท่านั้น!” มู่เอ่ยปาก ออกคำสั่ง
พร้อมกับสัญญาณมือจากเขา มนุษย์พิเศษจำนวนมากต่างก็ออกตัว ทยอยกันมุ่งไปทางต้นไม้ต้นเล็กนั้น เพื่อยึดเอาชัยภูมิที่ได้เปรียบ ณ เวลานี้ ลูกไม้พร้อมจะสุกงอมได้ทุกเมื่อ
ในตอนนั้นเอง ผู้คนก็ได้เห็นปากกระบอกปืนดำทะมึนหลายกระบอกปรากฏอยู่บนยอดเขา สร้างความแตกตื่นให้ผู้คนอย่างมาก
ในตอนนั้นเอง ก็ได้ยินเสียงดังสนั่นมาแต่ไกล เฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธหลายลำแลดูคล้ายอสุรกายเหล็ก บินมาอย่างรวดเร็วแล้วลอยลำอยู่เหนือยอดเขา
ผู้ชมต่างหน้าเปลี่ยนสี อาวุธที่เฮลิคอปเตอร์นั้น ต่อให้ยิงมั่วๆ ลงมายังสามารถถล่มพื้นที่ตรงนี้ได้อย่างราบคาบ
“โจวเฉวียน นายรีบหนีไปก่อน!!”
บนยอดเขา ฉู่เฟิงพูดเสียงต่ำเบา น้ำเสียงเคร่งเครียดเป็อย่างมาก แทบจะเป็การออกคำสั่ง เขาให้โจวเฉวียนรีบออกไปจากที่นี่ทันทีด้วยสังหณ์ถึงความผิดปรกติ
สัญญาณอันตรายอย่างหนึ่งผุดขึ้นในใจของเขา
โจวเฉวียนสำเหนียกได้ถึงความร้ายแรง ไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบพุ่งตัวลงจากเขาแล้วใส่เกียร์หมาโกยอ้าว พริบตาเดียวก็ห่างไปร่วมร้อยเมตรแล้ว
ฉู่เฟิงหัวใจกระตุก อวัยวะทุกส่วนทั่วร่างรู้สึกได้ถึงความเ็ป สัญชาตญาณกำลังร้องเตือนเขา เช่นที่เคยเป็ก่อนหน้านี้เมื่อมีคนเล็งอาวุธใส่เขา
“คิดท้าทายเทียนเสินเซิงอู้ของฉัน ...ตาย!”
ห่างออกไป มู่เอ่ยอย่างเ็า ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความเืเย็น เขาโบกมือเป็สัญญาณ
ปังปังปัง...
วินาทีนั้น กระบอกปืนะเิเสียงดัง ประกายไฟรุนแรงพุ่งตรงไปยังตำแหน่งของฉู่เฟิงที่อยู่บนยอดเขาเตี้ย ะุปืนทลายกำแพงเสียง ทั้งหมดเทรัวๆ ไปที่ยอดเขา
ฉู่เฟิงออกตัวล่วงหน้า ดุจสัตว์ร้ายทะยานจากเขา กลิ้งไปอีกด้านหลบห่าะุทั้งหมด
หวงหนิวโมโหปรี๊ด มันเคลื่อนตัวว่องไว พุ่งตัวตามไปหลบอยู่ด้านข้างของูเา
กลางดวงตาของฉู่เฟิงสาดประกายเย็นเยียบ เขาไม่อยากลงมือต่อเทียนเสินเซิงอู้ เพราะหลินนั่วอีอยู่ทางนี้ แต่ตอนนี้กลับมีคนคิดสังหารเขา เขาจำต้องตัดสินใจ
ฉู่เฟิงปรากฏตัว ยกปืนในมือที่เขาพกมาขึ้นอย่างเืเย็นและไร้ความปรานี เขาสาดะุสังหารไปทุกทิศทาง
ปัง!ปัง!ปัง!...
เพียงแค่พริบตา เขาเหนี่ยวไกรัวๆ ปลิดชีพยอดฝีมือหกคนที่มารุมเล่นงานเขาเมื่อครู่ ะุหนึ่งนัดต่อหนึ่งคน แม่นยำ โเี้
ทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หลายคนยังไม่ทันได้ตอบโต้อะไรก็จบชีวิตไปเรียบร้อยแล้ว
“์ หนิวเสินหวังหลบะุพ้นด้วย จากนั้นยังโต้กลับ เก็บมือดีของเทียนเสินเซิงอู้ไปตั้งหกคน!”
“ปฏิกิริยาตอบโต้ของเขาไวขั้นไหนกันเนี่ย? หลบพ้นห่าะุนั่นได้ยังไงกัน?!”
คนทั้งกลุ่มไม่กล้าเชื่อในสิ่งที่ตาตัวเองเห็น
มู่มีสีหน้าตะลึง นาทีนี้ เขาประหลาดใจเป็อย่างมาก รู้ได้ทันทีว่าคนผู้นี้ไม่ง่ายเลย ทั้งยังสามารถหลบห่าะุที่ระดมสังหารพ้นอีกด้วย
หลินนั่วอีหันมามองเขา
“ผมเห็นคนของคุณอาหลินเยี่ยอวี่ถูกเขาหยาม เลยคิดจะใช้จังหวะนี้กำจัดเขาซะ ไม่คิดเลยว่าเขาจะร้ายกาจขนาดนี้ ผมผิดเอง” มู่สารภาพ
เพียงไม่กี่คำเท่านั้น เรียบง่าย และตรงไปตรงมา เพื่อที่จะบอกหลินนั่วอีว่าเขาลงมือเพื่ออาของเธอ
ปัง!
บนยอดเขา ฉู่เฟิงยกปืนขึ้นอีกครั้ง ยิงะุหนึ่งนัดออกไป
“หือ?!” มู่พลันหน้าเปลี่ยนสี เขาไม่ใช่คนธรรมดา มีสัญชาตญาณอันน่ากลัว เสียงฟึ่บดังขึ้นแล้วเงียบลงเมื่อห่างออกไป
ะุหนึ่งนัด พุ่งเฉียดตัวเขาไป
“คนคนนี้ไม่ง่ายแฮะ!” ฉู่เฟิงประหลาดใจ เขาเพิ่งเจอคนที่เหมือนกับเขาเป็ครั้งแรก คนที่สามารถหลบะุพ้น
แต่ว่า เทพวัชระและเทพปีกเงินก็ยังคงน่ากลัวกว่า ด้วยไม่เกรงกลัวอาวุธปืนั้แ่แรก
“ฆ่ามันซะ!” ดวงตาของมู่เย็นเยียบ มองไปทางยอดเขาลูกเล็กนั่น เขาโบกมือออกคำสั่งสังหาร
กระบอกปืนที่เรียงรายบนยอดเขาเปลี่ยนทิศเล็งไปยังยอดเขาที่ฉู่เฟิงอยู่
พร้อมกันนั้น เฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธที่ลอยอยู่กลางอากาศ ก็หันไปทางตำแหน่งของฉู่เฟิงเช่นกัน
“มู่ นายคิดจะฆ่าฉันเรอะ? ดีเลย จะได้ชำระหนี้แค้นครั้งก่อนในวันนี้เสียเลย!” กลางั์ตาของฉู่เฟิง ผุดแววสังหารสาดประกายแวววาว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้