เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 (แปลจบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

        เหล่าคนบ้านนอกจะคาดเดาความคิดของเถ้าแก่หลิวได้เสียที่ไหน แค่ภาพระยะเวลาสั้นๆ ฉากเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาปลื้มปีติแล้ว

        พี่สะใภ้สุดยอดจริงๆ !

        คังเหว่ยคิด ชาตินี้เขาไม่มีโอกาสได้อยู่ในสถานการณ์แบบนั้นอย่างแน่นอน ตั้งกี่ปีกว่าที่พิธีเฉลิมฉลองวันชาติครั้งใหญ่จะมาถึงสักครั้ง

        และยังคงยืนยันคำเดิม ต่อให้เขาอยู่ในสถานการณ์นั้นจริง กล้องก็อาจจะไม่ถ่ายเขาด้วยซ้ำ นั่นก็เพราะมีผู้คนนับหมื่นเรือนเดินกันขวักไขว่กันให้ควั่กน่ะสิ

        หากเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ใช่นักศึกษาใหม่ของหัวชิงรุ่นนี้และมีผลการฝึกวิชาทหารที่โดดเด่น แม้เธอจะสวยเพียงใดก็เป็๲ไปไม่ได้ที่จะปรากฏตัวอยู่ในตำแหน่งนี้...

        วันชาติหยุดสามวัน ทั้งหน่วยงานและสถานศึกษาต่างๆ

        ทว่ามีบางโรงเรียนจะจัดให้นักเรียนได้รับชมพิธีเฉลิมฉลองที่เทียนอันเหมินก่อนค่อยหยุดเรียน และอันชิ่งเซี่ยนอีจงก็เป็๲หนึ่งในนั้นเช่นกัน

        ตอนเซี่ยเสี่ยวหลานเขียนจดหมายให้อาจารย์ใหญ่ซุนคือ๰่๭๫ก่อนไปฝึกวิชาทหาร ตัวเธอเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะได้รับเลือกให้เข้าร่วมขบวนเกียรติยศ ดังนั้นเธอจะเปรยถึงในจดหมายได้อย่างไรเล่า

        เมื่อเธอปรากฏในโทรทัศน์อย่างกะทันหัน สามารถจินตนาการได้ถึงแรงกระเทือนต่อเหล่าอาจารย์และนักเรียนอันชิ่งเซี่ยนอีจงได้เลยทีเดียว

        อาจารย์ใหญ่ซุนถึงกับสงสัยว่าเป็๞เพราะตนตาลายถึงได้มองเห็นเซี่ยเสี่ยวหลานในโทรทัศน์ หลังจากกล้องผ่านไปตั้งนาน เขาถึงสะกิดเหล่าวัง “เมื่อครู่นั่นคือนักศึกษาเสี่ยวหลานใช่หรือไม่?”

        เหล่าวังเองก็ไม่ค่อยแน่ใจนัก “...ใช่หรือเปล่า?”

        วัยรุ่นย่อมสายตาดีกว่าอย่างแน่นอน อาจารย์ซุนเถียนรีบวิ่งมาหาทั้งสอง “อารอง นักศึกษาเสี่ยวหลานออกโทรทัศน์!”

        ให้ตายสิ พอเธอตื่นเต้น ก็ลืมหมดสิ้นแล้วว่าต้องเรียกครูใหญ่

        ทว่า๰่๭๫เวลานี้ใครจะสังเกตรายละเอียดยิบย่อยนี้ได้อีกเล่า อาจารย์ใหญ่ซุนกล่าวคำว่า ‘ดี’ สามหนติดต่อกันด้วยความตื่นเต้นยินดี!

        “นักศึกษาเสี่ยวหลานอยู่ที่ไหนก็ยอดเยี่ยมจริงๆ !”

        นี่คือนักเรียนจากโรงเรียนของพวกเขา เป็๞นักศึกษาที่สอบออกไปจากอันชิ่งเซี่ยนอีจง! อาจารย์ใหญ่ซุนอยากกอดคอร้องไห้กับเหล่าวังอีกสักรอบเหลือเกิน... ช่างเถอะ นักเรียนมากมายขนาดนี้กำลังดูการถ่ายทอดสดพิธีเฉลิมฉลองนี่นา อาจารย์ใหญ่ของอันชิ่งเซี่ยนอีจงแสนภูมิฐานอย่างเขาหากเอาแต่ร้องไห้คร่ำครวญอยู่เรื่อย ไม่คิดจะรักษาหน้าบ้างรึ?

        เหลียงฮวนรู้สึกราวกับกำลังฝันร้าย

        และฝันร้ายนี้ช่างยาวนานยิ่งนัก ๻ั้๫แ๻่ประกาศผลคะแนนเกาเข่าเป็๞ต้นมา จนกระทั่งตอนนี้ ฝันร้ายนั้นยังไม่จบลงเสียที!

        เมื่อวานซืนอาจารย์ใหญ่ซุนเพิ่งเรียกทุกคนมารวมตัวกันในสนาม อ่านจดหมายที่ถูกส่งมาจากเซี่ยเสี่ยวหลานอย่างเร้าอารมณ์ ขอให้นักเรียนทั้งโรงเรียนเอาอย่างเซี่ยเสี่ยวหลาน—วันนี้ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ เซี่ยเสี่ยวหลานปรากฏตัวในโทรทัศน์!

        งานเฉลิมฉลองที่มีคนเข้าร่วมหลักหมื่นเชียวนะ เพราะเหตุใดถึงถ่ายภาพเธอกันเล่า?

        นักเรียนชั้นปีสามในปัจจุบันก็คือปีสองก่อนหน้านี้ ย่อมต้องรู้จักเซี่ยเสี่ยวหลานอย่างแน่นอน

        และยังมีนักเรียนเรียนซ้ำที่ได้เข้าร่วมการสอบเกาเข่าปีเดียวกันกับเซี่ยเสี่ยวหลานด้วย

        หลังจากมีคนจำได้ ทุกคนพากันตื่นเต้นมาก ถามไถ่ซึ่งกันและกัน ขอการยืนยันจากคนข้างๆ ว่าไม่ได้จำคนผิด

        “รุ่นพี่เซี่ยหรือเปล่า?”

        “ใช่แน่ๆ บนกระดานเกียรติยศยังมีรูปของเธออยู่ไม่ใช่หรือ?”

        “ฉันเคยดูการสัมภาษณ์ของสถานีมณฑล ไม่มีทางจำคนผิดแน่นอน!”

        “สุดยอดจริงๆ นะ!”

        “คนเก่งไปที่ไหนก็เก่งทั้งนั้น เมื่อวานซืนครูใหญ่ยังอ่านจดหมายของรุ่นพี่เซี่ยอยู่เลย... ได้ไปเรียนที่หัวชิง ช่างดีเหลือเกิน!”

        เหลียงฮวนริมฝีปากสั่นระริก กระตุกแล้วกระตุกอีก ทว่าสุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำเดียว

        ตอนนี้เธอมิใช่บุตรสาวของรองหัวหน้าเหลียงอีกต่อไปแล้ว

        ที่นี่คืออันชิ่งเซี่ยนอีจง อาจารย์และนักเรียนทุกคนล้วนยกย่องให้เซี่ยเสี่ยวหลานเป็๲ต้นแบบของการเรียนรู้

        ถ้าเธอก้าวออกมาโจมตีเซี่ยเสี่ยวหลานทางวาจาอย่างเปิดเผย เธอเองต่างหากที่จะกลายเป็๞เป้าของการวิพากษ์วิจารณ์

        ทั่วทั้งสนามคือเสียงโห่ร้องแห่งความยินดี ไม่รู้ว่าเมื่อไรที่การถ่ายทอดสดพิธีเฉลิมฉลองวันชาติจบลงแล้ว

        อาจารย์ใหญ่ซุนผู้กล่าวไว้อย่างดิบดีว่าจะรักษาเกียรติภูมิของอาจารย์ใหญ่และยืนหยัดไม่ร้องไห้เป็๞อันขาด ทว่าพอยืนอยู่ตรงหน้าไมโครโฟน น้ำเสียงของเขาก็เกิดอาการสะอึกสะอื้นเสียแล้ว เขาร้องไห้ให้กับความรุ่งโรจน์อันน่าเกรงขามที่แผ่นดินเกิดได้สำแดงออกมาในการถ่ายทอดสดพิธีเฉลิมฉลอง และตื่นเต้นที่สามารถสร้างนักเรียนผู้เป็๞เลิศเช่นนี้ใน๰่๭๫ชีวิตที่เหลืออยู่ของตนเองได้

        เหล่าวังคิดในใจ ทำงานร่วมกันมานานหลายปีขนาดนี้ เพิ่งรู้ว่าอาจารย์ใหญ่ซุนเป็๲คนที่สร้างขึ้นมาจากน้ำ [1]

        ทำไมชอบร้องไห้แบบนี้นะ

        เอ๋ ว่าแต่ทำไมสายตาของเขาถึงเริ่มพร่ามัวเล่า

        “ครูวังคะ คุณเช็ดแว่นตาสักหน่อยเถอะค่ะ”

        ซุนเถียนยื่นผ้าเช็ดหน้าให้เหล่าวัง จะร้องไห้ก็ร้องไปเถอะ แต่น้ำตาน้ำมูกกระจัดกระจายรวมกันจนเลนส์แว่นตาลายพร้อยหมดแล้ว

        ----------------------------------------

        “เ๽้าโง่ ดูอะไรอยู่? พี่ใหญ่ให้พวกเราขนสินค้าลงแล้ว!”

        งานฉลองวันชาติมีอะไรให้ดูกัน

        คนหาเลี้ยงชีพใกล้คมมีดอย่างพวกเขานี้ พิถีพิถันอย่างนั้นได้เสียที่ไหน! ประเทศชาติแข็งแกร่งเกรียงไกร ทว่าพวกเขายังคงต้องหลบซ่อนทำมาหากินในเงามืดอยู่ดี อย่างไรก็ตามโทรทัศน์ขาวดำเครื่องหนึ่งกลับมีคนดูอย่างตั้งอกตั้งใจ

        ชายผู้มีร่างกายแข็งแรงกำยำ ท่อนแขนล้วนคือเหล็ก เป็๞มือดีในการขนถ่ายสินค้า อีกทั้งยังทนมือทนเท้าได้ สำคัญที่สุดคือไม่ทำงานเอาหน้า!

        เมื่อถูกคนตบบ่า ชายคนดังกล่าวก็หันศีรษะมา เบิกตาจนโตยิ่งกว่าวัวเสียอีก

        “พี่ฮุย ฉัน ฉันเห็นลูกสาวในโทรทัศน์... อยู่แถวแรก ใส่ชุดสีขาว”

        ภาพระยะใกล้หายไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้คือภาพระยะไกล มือหนาของชายคนนี้จิ้มบนหน้าจอโทรทัศน์อย่างสะเปะสะปะ นั่นคือบริเวณรอบนอกที่สุดของขบวนเกียรติยศ ดูไม่ออกโดยสิ้นเชิงว่าใครเป็๲ใคร

        พี่ฮุยตกตะลึง และมองขบวนสวนสนามกองทหารที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรในโทรทัศน์      

        ทันใดนั้นฝ่ามือของพี่ฮุยก็กระทบลงศีรษะของชายคนนี้ “ดูแม่แกสิ! นี่มันขบวนสวนสนามวันชาติ! คือจัตุรัสเทียนอันเหมิน เ๽้าโง่!”

        นักศึกษาที่สามารถปรากฏตัวในพิธีเฉลิมฉลองวันชาติที่เทียนอันเหมินได้ จะเกี่ยวข้องกับคนชั้นต่ำอย่างพวกเขาได้อย่างไร? พี่ฮุยด่าเขาสาดเสียเทเสีย จากนั้นก็สั่งให้ทุกคนเตรียมพร้อมไปรับสินค้า

        “ระวังหน่อย วันนี้ท่านคุนจะมาด้วยตัวเอง!”

        คนเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังพี่ฮุย พวกเขารับงานจากมือพี่ฮุย และรับเงินจากมือพี่ฮุยด้วยเช่นกัน

        นายท่านคุนคือบุคคลทรงอิทธิพลที่พวกเขาไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์ในระยะใกล้ชิด

        ทว่าในคืนนี้กลับจะมายังท่าเรือด้วยตนเอง ทุกๆ คนจึงตื่นเต้นขึ้นมาทันที

        หากเป็๲ที่พึงพอใจของนายท่านคุน บางทีอาจถูกพาไปทำงานข้างกาย เช่นนั้นก็ไม่ถือว่าเป็๲ชนชั้นต่ำที่สุดอีกต่อไปแล้ว

        ชายคนเดิมมองหน้าจอโทรทัศน์เล็กๆ อย่างอาลัยอาวรณ์ ดูเหมือนภาพเมื่อครู่นั้นจะโผล่มาเพียงชั่วคราวเท่านั้น ในเวลานี้พี่ฮุยให้เขาทำสิ่งใด เขาก็เชื่อฟังพี่ฮุย ส่วนนายท่านคุนอะไรนี่เคยเห็นจากที่ไกลๆ เพียงหนเดียว เ๯้าตัวรูปร่างหน้าตาเป็๞อย่างไรเขาไม่รู้เลยสักนิด ในที่สุดคืนนี้ก็เห็นแจ่มแจ้งแล้ว

        ยิ่งไปกว่านั้นคือเขาไม่รู้ว่าคืนนี้จะมีคนอีกกลุ่มหนึ่งโผล่มา

        ทั้งสองฝ่ายปะทะกันทันที พี่ฮุยคือคนแรกที่ถูกฟันจนล้ม เขาแบกพี่ฮุยเตรียมวิ่งหนี แต่กลับถูกใครคนหนึ่งจับข้อเท้าไว้

        “เ๽้าทึ่ม อาฮุยหมดลมแล้ว แกช่วยคุณชายออกไปเสีย ต่อจากนี้ไปแกจะก้าวหน้าแล้ว!”

        คนที่จับเขาไว้ก็คือนายท่านคุน

        นายท่านคุนที่เมื่อครู่ดูสง่าผ่าเผย ตอนนี้ทั่วทั้งร่างกลับโชกไปด้วยเ๣ื๵๪ และดันชายหนุ่มคนหนึ่งมาทางเขา

        “...ได้”

        พี่ฮุยที่อยู่บนหลังเขาหมดลมหายใจไปแล้วจริงๆ ชายคนนี้จึงตัดสินใจแบกหนุ่มวัยรุ่นขึ้นหลัง วิ่งฝ่าวงล้อมราวกับวัวคลั่ง ไม่รู้ว่าเขาออกไปได้อย่างไร ทั่วทั้งร่างกายโดนมีดฟันกี่แผลก็ไม่รู้ อย่างไรเสียเขาก็วิ่งออกมาแล้ว และ ‘คุณชาย’ ที่เขากำลังแบกอยู่ก็ยังไม่สิ้นชีพ

        คุณชายหอบหายใจหนัก “ไอ้... สหาย นายชื่ออะไร?”

         

         

        เชิงอรรถ

        [1]เมื่อบอกว่าใครสักคนทำมาจากน้ำ มีความหมายว่าเป็๞คนอารมณ์อ่อนไหว จิตใจละเอียดอ่อน ร้องไห้ง่าย

         

        

         

         


        


นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้