แรงปะทะที่สะท้านฟ้าะเืดิน ทำให้จ่าฝูงของหมาป่าอสูรคลั่งจันทร์และหมาป่าอสูรอีกหลายสิบตัว รวมถึงก้อนหินใหญ่ที่ถูกแรงปราณกระบี่กลายเป็ผงธุลีในทันที
เมื่อสังหารสัตว์อสูรที่อยู่ตรงหน้าจนหมดแล้ว คมกระบี่ที่เกิดจากปราณกระบี่ขนาดใหญ่จึงฟาดฟันไปทีู่เาด้านหลังอย่างต่อเนื่อง จนูเาเ่าั้ค่อยๆ สลายไป
ูเาหลายลูกเหลือเพียงพื้นที่โล่งเตียน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพลังของหนึ่งกระบี่์พิโรธนั้นรุนแรงเพียงใด
“ครืด”
พลังปราณกระบี่ที่เหลืออยู่บนกระบี่หยวนจุนอีกเล็กน้อยยังคงสั่น มันเฉือนหยวนจุนั้แ่ฝ่ามือไปจนถึงต้นแขนจนเกิดรอยแผลหลายแห่ง
เขาเหลือบมองแผลเ่าั้แวบหนึ่ง เมื่อเห็นว่าไม่เป็อะไรจึงกวัดแกว่งกระบี่ไปทางหานโหรวและคนอื่นๆ ปราณกระบี่กลายเป็ลำแสงพุ่งออกไปโดยที่พวกเขายังไม่ทันตั้งตัว
เมื่อเหล่านักยุทธ์ได้ยินเสียงโอดครวญของสัตว์อสูรที่อยู่ด้านหลัง พวกเขาจึงวิ่งตามหยวนจุนด้วยความใทันที โดยไม่สนใจว่าเหตุใดนักยุทธ์ระดับดาราขั้นหกอย่างเขาถึงมีวิชายุทธ์ที่ทรงพลังถึงเพียงนี้
เคราะห์ดีที่ระหว่างทางพวกเขาแทบไม่เจอสิ่งใดขัดขวางเลย อย่างมากก็แค่สัตว์อสูรระดับสองเพียงไม่กี่ตัว
เมื่อออกมาจากป่าทึบได้แล้ว กลุ่มคนทั้งหมดที่อยู่กับหยวนจุนจึงโห่ร้องด้วยความดีใจทันที
หากพวกเขาพบกับสัตว์อสูรระดับสามอีกครั้ง คราวนี้คงได้ไปเจอกับยมบาลจริงๆ
“ขอบคุณมาก!”
เมื่อเห็นชุดคลุมยุทธ์ที่เปื้อนเืของหยวนจุน พวกเขาจึงคำนับอย่างสุภาพด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยการยกย่องชื่นชม
แค่ได้เห็นพลังที่หยวนจุนแสดงออกมา พวกเขาก็รู้สึกชื่นชมกันมากแล้ว เมื่อหยวนจุนบุกเข้าไปในฝูงสัตว์เพื่อช่วยพวกเขาออกมา เช่นนี้จะทำให้พวกเขาจะชื่นชมมากเพียงใด
“ไม่ทราบว่าสหายจะเข้าร่วมการคัดเลือกของโรงเรียนยุทธ์ทั้งสี่แห่งด้วยหรือไม่? หากไม่รังเกียจ มาร่วมเดินทางกับเราก็ได้นะ?”
แม้จะเห็นท่าทีเชื้อเชิญอย่างจริงใจของพวกเขา แต่หยวนจุนก็ส่ายหน้าเบาๆ แทนการปฏิเสธน้ำใจออกไป
ในเมื่อหยวนจุนไม่้าเดินทางไปกับพวกเขา ทุกคนจึงไม่ฝืนบังคับ ซึ่งหลังจากที่ร่ำลากันแล้ว พวกเขาก็มุ่งหน้ากันไปคนละทิศละทาง
หยวนจุนยืนนิ่งๆ อยู่พักหนึ่ง จากนั้นจึงหันหน้าไปมองหานโหรวแล้วกล่าวว่า “เ้าไม่ต้องตามข้ามา”
แม้หยวนจุนจะกล่าวออกไปเช่นนั้น แต่มันก็มิได้เป็ไปอย่างที่เขา้าเลยแม้แต่น้อย เพราะทุกครั้งที่ก้าวเท้าออกไป หานโหรวก็จะคอยติดตามเขาอย่างใกล้ชิด
“ดูจากสภาพมอมแมมของเ้าแล้ว เ้าคงมิได้ไปร่วมการคัดเลือกของโรงเรียนยุทธ์ทั้งสี่แห่งแน่นอน! หรือว่าเ้าเป็คนบ้านนอกจริงๆ?”
เมื่อหานโหรวเอ่ยวาจาเสียดสีเช่นนั้นออกมา นางไม่รอให้หยวนจุนเอ่ยปากไล่ก็ถอยออกมาแล้วก้าวหนึ่ง
หยวนจุนเม้มปาก ในใจยอมรับว่าที่หานโหรวกล่าวมานั้นไม่ผิดเลย เขาไม่มีเป้าหมาย ไม่รู้สิ่งใดเกี่ยวกับโรงเรียนยุทธ์ในจักรวรรดิชิงหยางเลยแม้แต่น้อย
เมื่อเห็นท่าทีของหยวนจุน หานโหรวจึงเบนสายตาแล้วกล่าวว่า “ข้าค่อนข้างคุ้นเคยกับจักรวรรดิชิงหยาง ่นี้ข้าออกมาเที่ยวข้างนอกบ่อยๆ หากเ้าไว้ใจข้า ข้าสามารถช่วยเ้าหาโรงเรียนยุทธ์ที่เหมาะสมกับเ้าได้”
หยวนจุนพยักหน้าเบาๆ เป็สัญญาณบอกว่าเขาตกลงรับคำขอของหานโหรวที่้าเดินทางไปกับเขา
ระหว่างที่เดินอยู่ในเมืองหลวงชั้นใน ทั้งสองพบร้านน้ำชาจึงเข้าไปนั่งพัก ไม่นานหยวนจุนก็ถามคำถามขึ้นโดยที่ไม่รอให้หานโหรวได้ผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า
“เ้าช่วยเล่าเื่โรงเรียนยุทธ์ขนาดใหญ่ทั้งสี่แห่งให้ข้าฟังอย่างละเอียดได้หรือไม่?”
ท่าทีที่เ็าของหานโหรวเปลี่ยนเป็กระตือรือร้น นางกล่าวกับหยวนจุนอย่างจริงจังด้วยความตื่นเต้นว่า “โรงเรียนยุทธ์ขนาดใหญ่ทั้งสี่แห่งของจักรวรรดิชิงหยาง ได้แก่โรงเรียนยุทธ์ฮั่นซิง โรงเรียนยุทธ์ลั่วเหอ โรงเรียนยุทธ์เสวียนจี และโรงเรียนยุทธ์จูเสีย!”
“ทุกๆ สองปี โรงเรียนยุทธ์ทั้งสี่แห่งจะมีการแข่งขันครั้งใหญ่ระหว่างโรงเรียน โดยมีผลแพ้ชนะสลับกัน คือ ลั่วเหอและฮั่นซิงจะสลับกันครองอันดับสุดท้าย ในขณะที่เสวียนจีและจูเสียจะสลับกันครองอันดับหนึ่ง!”
“โรงเรียนยุทธ์เสวียนจีครองอันดับสองติดต่อกันหลายปี ชื่อเสียงจึงมิได้โด่งดังเท่าเมื่อก่อน ต่างจากโรงเรียนยุทธ์จูเสียที่มีการรับศิษย์เพิ่มขึ้นทุกปี”
นางขยับปากเบาๆ จากนั้นจึงหัวเราะคิกคักแล้วกล่าวว่า “ตามความคิดข้า ในเมื่อเ้ามีพลังคู่จิตยุทธ์ ทั้งพยังยุทธ์ก็ยังเหนือกว่าผู้อื่น เหตุใดไม่เข้าร่วมการคัดเลือกของโรงเรียนยุทธจูเสียล่ะ ไม่แน่ว่าเ้าอาจข้ามขั้นศิษย์ฝ่ายนอก แล้วเป็ศิษย์ฝ่ายในโดยตรงก็ได้นะ”
โรงเรียนยุทธ์นั้นเหมือนกับสำนัก เพราะมีการแบ่งศิษย์ออกเป็ฝ่ายในกับฝ่ายนอก นักยุทธ์ทั่วไปต้องได้รับการคัดเลือกเข้าเป็ศิษย์ฝ่ายนอกก่อน เมื่อผ่านขั้นตอนจึงจะมีโอกาสประลองเพื่อเข้าเป็ศิษย์ฝ่ายใน
หากชนะการประลอง นักยุทธ์จะได้เข้าไปฝึกฝนในกลุ่มศิษย์ฝ่ายใน โดยมิต้องบ่มเพาะพลังยุทธ์จนแข็งแกร่งขึ้นหนึ่งระดับ
สำนักิเจี้ยนก็ใช้วิธีนี้ในการคัดเลือกศิษย์ฝ่ายนอกเข้าสู่การเป็ศิษย์ฝ่ายใน นอกจากเขาที่เป็ลูกหลานของประมุขและวั่นเฮ่าซิงที่เป็หลานของผู้าุโที่สามารถเข้าได้โดยตรงแล้ว นักยุทธ์ที่เหลือต้องเผชิญความยากลำบากและใช้ความสามารถของตนเองเพื่อที่จะก้าวเข้าไปเป็ศิษย์ฝ่ายใน
หยวนจุนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาใช้มือลูบคางสองสามครั้งแล้วกล่าวว่า “โรงเรียนยุทธ์จูเสีย...เข้าโรงเรียนยุทธ์เสวียนจีน่าจะตรงตามความตั้งใจเดิมมากกว่า”
เมื่อได้ยินสิ่งที่หยวนจุนพึมพำ หานโหรวจึงใช้มือเรียวตบโต๊ะแล้วลุกขึ้น ใบหน้านางแสดงความไม่พอใจออกมาแล้วกล่าวว่า “ไม่ได้ อัจฉริยะอย่างเ้า หากอยู่ในโรงเรียนยุทธ์เสวียนจีก็เสียดายความสามารถที่มีสิ!”
“เหตุใดแม่นางหานจึงต้องตื่นเต้นถึงเพียงนั้น? หากเ้าคิดว่าโรงเรียนจูเสียดีกว่า เช่นนั้นเ้าก็เข้าร่วมเลยสิ นักยุทธ์ระดับวงแหวนเล็กขั้นเจ็ดอย่างเ้า การเข้าเป็ศิษย์ฝ่ายในคงมิใช่ปัญหาใช่หรือไม่?”
เมื่อหานโหรวใจเย็นลง นางจึงนั่งลงด้วยรอยยิ้มแล้วกล่าวว่า “ชื่อเสียงของโรงเรียนยุทธ์เสวียนจีไม่ค่อยโดดเด่น นั่นจึงถือว่าไม่เป็ผลดี ต่างจากโรงเรียนยุทธ์จูเสียที่มีวิชายุทธ์และสิ่งเสริมการบ่มเพาะมากมาย นี่จึงถือว่าเป็โอกาสที่หาได้ยาก”
“หึ อย่าคิดว่าข้ากำลังเกลี้ยกล่อมเ้าให้ไปโรงเรียนยุทธ์จูเสียล่ะ หากเ้าไม่ไปก็ดี ข้าจะได้มีโอกาสมากขึ้น”
หานโหรวแสดงสีหน้าเ็าออกมาอีกครั้ง แม้สายตาจะเบนไปทางอื่น แต่นางก็ยังคงเหลือบมองท่าทีของหยวนจุนอยู่
“ในเมื่อเป็เช่นนี้...ข้าจะลองไปคัดเลือกที่โรงเรียนจูเสียก็ได้”
เมื่อเห็นเขาตัดสินใจแน่วแน่แล้ว หานโหรวจึงถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อเป็เช่นนี้ เราก็เดินทางไปด้วยกันเถอะ หากเกิดปัญหาระหว่างทางจะได้ช่วยเหลือกันได้”
“ไม่ดีกว่า แค่แม่นางหานไม่ทำให้ข้าวุ่นวาย เช่นนั้นก็ถือว่าช่วยเหลือแล้ว”
เมื่อกล่าวประโยคนี้จบ หยวนจุนก็เดินจากไปทันที
หานโหรวที่ถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังในโรงน้ำชารีบลุกขึ้น นางกระทืบเท้าด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะรีบเดินตามร่างที่อยู่ด้านหน้านางทันที
หยวนจุนที่จนปัญญากับหานโหรวที่คอยตามติดเขาอย่างเหนียวแน่นจึงปล่อยไป หลังจากเดินทางมาครึ่งวัน คนทั้งสองที่อยู่ในสภาพเหนื่อยล้าก็มายืนอยู่ตรงหน้าประตูโรงเรียนยุทธ์จูเสียที่มีชื่อเสียงเลื่องลือ
หยวนจุนเงยหน้าขึ้นมอง เขารู้สึกว่าภายนอกของโรงเรียนยุทธ์แห่งนี้นั้นไม่เลวเลย แม้จะเล็กกว่าสำนักที่เขาฝึกฝนในชาติที่แล้วอยู่บ้าง แต่ก็ยังถือว่าใหญ่โตโอ่อ่า
“โอ้โห ใหญ่มากเลย ใหญ่กว่าราช...”
หานโหรวแสดงแววตาใออกมาครู่หนึ่ง จากนั้นจึงกวาดตามองโรงเรียนยุทธ์จูเสียที่ไร้ขอบเขตด้วยสีหน้าตกตะลึง
ทันใดนั้นหยวนจุนและหานโหรวก็ได้ยินเสียงดังออกมาจากด้านในของโรงเรียนยุทธ์จูเสีย เมื่อพวกเขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงรีบเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้