เป็ดังที่เซียวเจวี๋ยกล่าว ระหว่างชิงอีกับเขาไม่มีอะไรที่ต้องปิดบังกันมานานแล้ว เื่ที่ควรและไม่ควรทำก็ถูกนางบังคับให้ทำไปแล้วเช่นกัน
ท้ายที่สุดแล้วคำพูดที่บอกกับนางไปนั้นออกจะมุทะลุเกินไป หากสตรีในห้องหอคนอื่นมาได้ยินเื่บัดสีบัดเถลิงเช่นนี้คงถ่มน้ำลายใส่หน้าไปแล้วกระมัง
ทว่า ชิงอีกลับไม่หน้าแดงหรือใจเต้นสักนิด นางจ้องเขานิ่งประดุจเขาไท่ซานและถามในเื่ที่ยังไม่ได้ถามก่อนหน้านี้ “ท่านมาที่นี่เพื่อตามสืบน้ำมันตะเกียงใช่หรือไม่?”
เซียวเจวี๋ยส่งเสียงอืมแล้วสาวเท้าไปที่โต๊ะก่อนจะทรุดตัวลงนั่ง จากนั้นจึงพูดเปิดอก “หลังจากที่ฝ่าาทรงพระประชวร น้ำมันตะเกียงที่ขุนนางส่งไปที่วังเฉิงเทียนนั้นเป็เครื่องบรรณาการจากศาลาพุทธของวัดตงหวา”
เดิมทีชิงอีคิดว่าเขาคงใช้เวลาพอสมควรกว่าจะตรวจสอบได้ ไม่คิดว่าจะทำได้รวดเร็วถึงเพียงนี้
“แต่องค์หญิงใหญ่เองก็จับพลัดจับผลูไปพบว่าน้ำมันตะเกียงแปลกไป แถมยังจัดการคนชั่วที่ก่อเื่วุ่นวายได้อีก ช่างเป็ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เสียจริง”
มุมปากของชิงอยกขึ้นพลางแสร้งทำเป็ไม่รู้ความนัยของถ้อยคำของเขา ด้วยการหยิบชาที่เขาเพิ่งจะรินใส่ถ้วยมาดื่มแล้วถามว่า “เซ่อเจิ้งอ๋องเตรียมรางวัลให้ข้าแล้วใช่หรือไม่?”
เซียวเจวี๋ยเพ่งพินิจนางที่กำลังจิบชา ริมฝีปากสีชาดจรดลงบนขอบถ้วยเคลือบสีขาวด้วยท่วงท่าอ่อนช้อยงดงามประดุจดอกเหมย สลัดคราบความหยิ่งผยองจนมีเพียงแค่ความสดใสและมีชีวิตชีวา
ทว่า เหตุใดพอเป็นาง ความหยิ่งยโสและกวนๆ นั้นกลับดูไม่ขัดตากันนะ?
รอยยิ้มในดวงตาของเขาค่อยๆ เลือนหายไปพร้อมกับหัวข้อสนทนาที่แปรเปลี่ยน “ถ้วยน้ำชานี้ข้าเพิ่งใช้มันไป”
ชิงอีที่กำลังดื่มชาชะงักพลันแสดงออกชัดถึงความรังเกียจ ถ้วยชาถูกวางลงบนโต๊ะอีกครั้งและจ้องเขาพลางเลิกคิ้วสูง ผู้ชายคนนี้จงใจเป็แน่ ไม่แปลกใจเลยที่เมื่อครู่ถึงได้ตั้งใจรินชาขนาดนั้น
ใบหน้าหล่อเหลาของเซียวเจวี๋ยเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม แต่ดวงตาคู่คมที่จดจ้องมายังนางกลับสร้างความสับสนว่าอะไรคือเจตนารมณ์ที่แท้จริง
ชิงอีจงใจหยิบกาน้ำชามารินใส่ถ้วยที่เพิ่งใช้เฉกเช่นเดียวกับที่เขาทำ แล้วค่อยผลักถ้วยน้ำชาไปตรงหน้าเขา “ทำมาไม่ทำกลับ เสียมารยาท”
เซียวเจวี๋ยหยิบถ้วยน้ำชาขึ้นมาเล่นชั่วขณะหนึ่ง โดยไม่ละสายตาออกจากนางราวกับไม่ใช่เื่แปลกอะไรที่จะทำเช่นนี้ “ขอบพระทัยองค์หญิงสำหรับรางวัล”
ถ้วยชาถูกนำขึ้นมาจรดที่ริมฝีปากบริเวณขอบถ้วยซึ่งเป็ตำแหน่งเดียวกับรอยแดงที่มาจากริมฝีปากอวบอิ่มของหญิงสาวพอดี เซียวเจวี๋ยทำเป็มองไม่เห็นแล้วทาบปากลงไปตรงนั้นเพื่อดื่มชา
ฮึ ชิงอียิ้มเยาะอยู่ในใจ
“ชาช่างรสดีจริงๆ” เซียวเจวี๋ยวางถ้วยน้ำชาลงและเมื่อสิ้นประโยค เขาก็ฟุ่บลงไปบนโต๊ะทันใด
“ชิ” ชิงอีย่นหน้าพร้อมลุกขึ้นยืน จากนั้นก็เดินไปเขี่ยเท้าทั้งสองของเขา “แค่นี้ก็สลบแล้วหรือ?”
เ้าแมวอ้วนกระโจนลงจากคานและหมอบตัวลงบนโต๊ะเพื่อเล่นกับกวานของเซียวเจวี๋ย “ชายผู้นี้ มันอย่างไรกันแน่? ภาพลวงตาของท่านใช้ไม่ได้ผลกับเขา พลังหยินในสำนักนี้ก็ทำอะไรเขาไม่ได้เช่นกัน ทว่าพอเป็ยาสลบของโลกมนุษย์กลับได้ผลดีเกินคาด”
ชิงอีพัดมือเบาๆ ผงฝุ่นบางส่วนที่อยู่ใต้แสงเทียนก็ปลิวออกมา
นี่คือสิ่งที่นางค้นพบที่ตัวของวั่งจีตัวปลอมในขณะที่ชิวอวี่และคนอื่นๆ กำลังหายาแก้พิษ เดิมทีนางคิดจะใช้เพื่อความบันเทิงแต่ตอนนี้มันกลับมีประโยชน์
ชิงอีเท้าคางมองร่างที่สลบไสลของเซียวเจวี๋ยก่อนจะลุกไปที่ประตู “เรียกชิวอวี่มา”
หลังจากนั้นไม่นาน เสียงของชิวอวี่ก็ดังขึ้นมาจากข้างนอก
“องค์หญิงมีพระราชดำรัสสั่งอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ”
“เข้ามา”
ชิวอวี่ผลักประตูเข้าไปและตกตะลึงเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายในห้อง
“ปิดประตู”
เขารีบปิดประตูและปรี่เข้าไปหาชิงอี พอมองไปยังเซ่อเจิ้งอ๋องซึ่งฟุ่บที่โต๊ะก็แสดงสีหน้าฉงน
“องค์หญิง เซ่อเจิ้งอ๋อง...”
“ถอดเสื้อผ้าเขาออก ถอดออกให้หมด”
พอได้ยินแบบนั้นสีหน้าของชิวอวี่ก็เปลี่ยนและไม่มั่นใจว่าหูของตนมีปัญหาหรือไม่
“ยืนทำซากอะไร เร็วเข้า!” ชิงอีเร่ง
ชิวอวี่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เหตุการณ์ในสองคืนทำให้ภาพลักษณ์ของชิงอีในใจเขานั้นน่าเกรงขามและสูงส่งมากขึ้น เมื่อนางออกคำสั่งเขาก็เชื่อฟังโดยไม่รู้ตัว ตอนนี้ก็ไม่กล้าที่จะปฏิเสธเช่นกัน “องค์หญิงทรงหลบไปก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
ชิงอีเดินเอื่อยๆ ไปหลังม่าน
เมื่อเห็นว่านางหลบออกไปแล้ว ชิวอวี่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่เมื่อหันมาเผชิญหน้ากับเซียวเจวี๋ยที่กำลังหลับอยู่ เขาก็มีสีหน้าขมขื่น
เซ่อเจิ้งอ๋องโปรดประทานอภัยให้กระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเพียงทำตามพระราชดำรัสสั่งเท่านั้น
ชิวอวี่กัดฟัน หลับตาและเหยียดมือออกไป
หลังจากนั้นไม่นาน ชิงอีเริ่มหมดความอดทนที่จะรอ แต่แล้วเสียงเลื่อนลอยของชิวอวี่ก็ดังขึ้น “องค์หญิง กระหม่อมถอดฉลองพระองค์ของเซ่อเจิ้งอ๋องหมดแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“บนตัวเขามีอะไรแปลกๆ บ้างไหม?”
มีอะไรแปลกๆ? หลังจากที่ชิวอวี่ได้ยินคำพูด ความคิดของเขาก็เปลี่ยนไป หรือองค์หญิงจะกังวลว่าเซ่อเจิ้งอ๋องเองก็เป็คนชั่วปลอมตัวมาเหมือนกันถึงได้สั่งให้เขาเข้ามาค้น?
เป็ไปได้!
ชิวอวี่รีบสลัดความคิดและเริ่มตรวจสอบอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเพ่งพินิจไปที่ใบหน้าของเซียวเจวี๋ย เขาก็รู้สึกหงุดหงิดโดยไร้สาเหตุอยู่หลายครั้ง
โอ๊ะ ิัจริงนี่นา เป็เขาจริงๆ
“องค์หญิง กระหม่อมไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ เลยพ่ะย่ะค่ะ”
ชิงอีขมวดคิ้ว แม้จะสั่งให้คนตรวจสอบแล้วแต่นางยังไม่สบายใจอยู่ดี จึงหันกลับมายังนอกม่าน ชิวอวี่ลุกพรวดมาบังเซ่อเจิ้งอ๋องที่กำลังเปลือยเปล่าอยู่ข้างหลังเขาด้วยความใ
พระเ้าช่วย! นี่องค์หญิงทรงจะทำอะไรกัน!
ชายหนุ่มอย่างเขาถึงกับแก้มร้อนผ่าว
โชคดีที่ชิงอีเพียงแค่ปรายตาและดิ่งไปที่เสื้อผ้าของเซียวเจวี๋ย กล้ามเนื้อของชายคนนี้น่าดูตรงไหนกัน ในเมื่อตอนอยู่บนเรือนางก็เคยเห็นมาแล้ว ใครจะไปพิศวาสกัน?
ชิวอวี่เหงื่อโซมกายประหนึ่งเปียกฝนและคล้ายว่ากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ หากเื่ในวันนี้ถูกเปิดเผยออกไปไม่ใช่แค่ชื่อเสียงขององค์หญิงใหญ่ที่จะปกป้องไม่ได้เท่านั้น แต่เขาเองก็ต้องจบชีวิตอย่างแน่นอน ยิ่งถ้าเซ่อเจิ้งอ๋องรู้ละก็คงเป็คนแรกที่จะเด็ดหัวเขาแน่ๆ!
ชิงอีค้นสิ่งของที่ติดตัวของเซียวเจวี๋ยแล้วก็อดถามไม่ได้ว่า “ของของเขาทั้งหมดอยู่ที่นี่ใช่หรือไม่?”
“พ่ะย่ะค่ะ”
แปลก แปลกจริงๆ
ชิงอียืนขึ้นแววตาทอประกายลึกล้ำ ไม่มีของวิเศษติดตัวหรือว่ามันจะซุกซ่อนอยู่ในร่างกายของเขา?
ชิวอวี่ที่เห็นดวงตาของชิงอีเหม่อลอยอีกครั้งก็เช็ดเหงื่อของตนและลุกขึ้น จากนั้นจึงรีบพูดว่า “องค์หญิง กระหม่อมตรวจสอบหมดแล้ว เซ่อเจิ้งอ๋องผู้นี้คือตัวจริงพ่ะย่ะค่ะ!”
ชิงอีเหลือบมองเขาอย่างเย้ยหยัน นี่เขาคิดอะไรโง่ๆ อยู่กันนะ?
“เอาล่ะ เ้ากลับไปเถอะ” ชิงอีเดินกลับไปหลังม่านและนั่งครุ่นคิด ดูเหมือนว่าปัญหาจะอยู่ที่ตัวของหนุ่มน้อยผู้นี้
ชิวอวี่ตัวแข็งทื่อไม่กล้าเคลื่อนไหวใดๆ
ชิงอีหลุดออกจากภวังค์อดหันไปมองเขาไม่ได้ “ทำไมเ้ายังไม่ไปอีก?”
ชิวอวี่จ้องเซ่อเจิ้งอ๋องที่เปลือยเปล่า แล้วรู้สึกว่ามีเครื่องปะาหัวสุนัขพากคออยู่ตลอดเวลา เขากลืนน้ำลาย “เช่นนั้น...กระหม่อมสวมฉลองพระองค์ให้เซ่อเจิ้งอ๋องก่อนจะดีกว่าไหมพ่ะย่ะค่ะ?”
เป็ไปไม่ได้ที่จะให้ชิงอีทำเื่แบบนี้
ทว่า ไม่คาดว่าชิงอีจะโบกมือและเอ่ยเสียงเบาว่า “ไม่ต้อง ปล่อยไว้แบบนี้แหละ อีกเดี๋ยวข้ายังใช้ต่อ”
ชิวอวี่ขนลุกทันที
ยัง ใช้ ต่อ?!
องค์หญิงของกระหม่อม ท่าน ท่านทรงจะทำอะไรอีก?!
เมื่อออกมาจากห้อง ชิวอวี่ก็รีบปิดประตูโดยรู้สึกว่าหลังของเขาเปียกโชกไปหมดแล้ว การต่อสู้กับปีศาจสองคืนติดกันยังไม่ทำให้ใจสั่นเพราะความช็อกถึงเพียงนี้เลย
หลิงเฟิงเห็นชิวอวี่ใบหน้าซีดเซียวก็ถามด้วยความสงสัยว่า “หัวหน้าองครักษ์ชิวเป็อะไรหรือไม่? องค์หญิงทำให้เ้าลำบากใจอีกแล้วหรือ”
ชิวอวี่มองเขาด้วยความลังเล แต่ก็ไม่กล้าที่จะพูดออกไป
“ข้าสบายดี องค์หญิงก็ทรงเกษมสำราญเช่นกัน”
หลังจากคืนนี้... เดาว่าเซ่อเจิ้งอ๋องคงแย่แน่ๆ...