ใบหูคือหนึ่งในส่วนที่อ่อนไหวที่สุดของร่างกายไม่ว่าชายหรือหญิง กั่วกัวคงไม่มีทางรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำเป็การกระทำที่อันตรายขนาดไหน ััที่มาจากเด็กผู้หญิงแม้ว่าจะแ่เบา แต่กลับเหมือนมีไฟฟ้าแพร่กระจายไปทั่วทุกส่วนของร่างกายทำให้ร่างของเขาเริ่มสั่นสะท้านขึ้นมาเล็กน้อย
“เอาล่ะๆ ไม่เจ็บแล้ว” เย่เทียนเซี่ยพูดประโยคนี้ออกไปอย่างยากลำบาก ความรู้สึกบางอย่างบอกกับเขาว่าการกระทำของกั่งกัวมีความเป็ไปได้ที่จะทำให้เขาสูญเสียการควบคุม
กั่วกัวเงยหน้าขึ้นกระพริบตาปริบๆ จากนั้นเธอก็ยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจ “อั๊ยหยา ไม่เจ็บแล้วจริงๆเหรอเ้าคะ? วะฮ่าๆๆๆ กั่วกัวนี่ฉลาดที่สุดเลย ฉลาดสุดๆไปเลย นายท่านไม่เจ็บแล้วสินะเ้าคะ......... ว๊าว! ถ้าต่อไปนายท่านเจ็บอีกล่ะก็ กั่วกัวที่น่ารักและเชื่อฟังที่สุดของนายท่านจะทำให้นายท่านหายเจ็บเองนะเ้าคะ”
ในใจของเย่เทียนเซี่ยเต้นตุบตับ......... ในที่สุดยัยตัวจิ๋วที่ปกติแล้วไม่รู้อะไรทั้งสิ้นก็เริ่มเรียนรู้ที่จะดูแลเ้านายแล้ว
“งั้น........นายท่าน........” กั่วกัวลอยไปลอยมาจนมาหยุดอยู่ตรงหน้าเย่เทียนเซี่ย ดวงตาวิบวับเหมือนคริสตัลจ้องมองมาที่เขาอย่างน่าสงสาร จากนั้นก็ใช้ท่าทางน่าสงสารรายงานจุดประสงค์ที่แท้จริงอันน่ารักน่าชังของเธอออกมา “วันนี้กั่วกัวอยากกินพุดดิ้งผลไม้ แล้วก็น้ำมะนาวที่พี่สาวเฟยเฟยทำ......... กั่วกัวเชื่อฟังขนาดนี้ นายท่านจะต้องรับปากกั่วกัวแน่ ใช่ไหมเ้าคะ......”
“............รู้แล้ว เดี๋ยวสักพักจะให้เฟยเฟยทำให้กิน” เย่เทียนเซี่ยตอบกลับไปแข็งๆ ความรู้สึกที่เพิ่งเกิดขึ้นมาเมื่อกี้หายวับไปจนเกลี้ยง เขาไม่มีทางจะไม่ตอบรับแน่นอนอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นอีกแป๊บเขาคงจะถูกน้ำตาอันล้ำค่าของกั่วกัวและเสียงร้องไห้อันน่าสงสารท่วมตายแน่นอน
“ว๊าว! นายท่านดีที่สุดเลยเ้าค่ะ! กั่วกัวชอบนายท่านที่สุดเลย! ฮ่าๆๆๆ.......”
กั่วกัวตื่นเต้นดีใจจนะโโลดเต้นหมุนตัวไปมาท่ามกลางความว่างเปล่าแล้วกรีดร้องออกมาอย่างมีความสุข เธอเหมือนกับเด็กผู้หญิงจำนวนมากที่ยังไม่เติบโต และตอนที่เธอน่ารักมากที่สุดก็คือตอนที่เธอกำลังกินนั่นเอง
เย่เทียนเซี่ยก็เบนสายตาไปยังโลงศพสีทองที่นอนนิ่งไม่ขยับเขยื้อยอยู่ใจกลางห้อง
โลงศพสีทองทั้งสิบสองโลงถูกเปิดออกจนหมดแล้ว สมาชิกกลุ่มทหารรับจ้างเทพ์ทั้งสิบสองก็ถูกเขาจัดการไปจนหมดแล้วเช่นกัน แต่เขาคุยกับกั่วกัวอยู่พักใหญ่กลับไม่มีเสียงอะไรหรือความเคลื่อนไหวใดๆดังขึ้นมาเลย และก็ยังไม่มีเสียงแจ้งเตือนออกมาด้วย เดิมทีเขาคิดว่าโลงศพสีทองนั้นอาจจะเปิดออกหลังจากเขาเอาชนะสมาชิกกลุ่มทหารรับจ้างเทพ์ทั้งสิบสองคนได้แล้ว จากนั้นศัตรูตัวใหม่ก็จะปรากฏตัวออกมาในท้ายที่สุด........ และเย่เทียนเซี่ยเชื่อไปแล้วเก้าในสิบส่วนว่าคนๆนี้จะต้องเป็หัวหน้าของกลุ่มทหารรับจ้างเทพ์ผู้ซึ่งถูกขนานนามว่า....... าาทหารรับจ้างอย่างแน่นอน
หรือว่าภารกิจนี้จะสำเร็จไปแล้ว เป้าหมายของภารกิจ..........โบราณวัตถุของาาทหารรับจ้างก็คือสิ่งที่อยู่ในโลงศพสีทองนั่นอย่างนั้นเหรอ? แล้วเขาจะต้องเปิดโลงนั่นด้วยตัวเองงั้นเหรอ
เย่เทียนเซี่ยครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะดื่มน้ำยาเพื่อฟื้นฟูพลังชีวิตของตัวเองให้เต็มหลอดอย่างช้าๆ ขณะเดียวกันนั้นเวลาคูลดาวน์ของพายุหมุนัเจ็ดชั้นฟ้าก็เหลือศูนย์พอดี จากนั้นเขาก็ค่อยๆก้าวเข้าไปหาโลงศพสีทอง
เมื่อปลายเท้าของเขาอยู่ห่างจากโลงศพสีทองได้ห้าก้าวโลงศพสีทองก็ถูกเปิดออกอย่างกะทันหันทำให้เท้าของเย่เทียนเซี่ยชะงักอยู่ตรงนั้น
ร่างสีทองร่างหนึ่งลุกขึ้นยืนจากโลงสีทองช้าๆ ในเวลาเดียวกันนั้นพลังอำนาจที่ทำให้เย่เทียนเซี่ยแทบหายใจไม่ออกก็พุ่งเข้ามาเต็มหน้าของเขา
ใบหน้าขาวซีดนั้นไม่สามารถปกปิดแววตาแห่งความตายอันเด็ดเดี่ยวที่อยู่บนใบหน้าของเขาได้และมันยังไม่สามารถปิดบังประกายแข็งกร้าวราวกับมีดในดวงตาของมันได้เช่นเดียวกัน มือขวาของมันถือดาบสีทอง มือซ้ายถือโล่สีทอง เขาคือชายผู้เป็เหมือนกับาา!
เริ่นจ่านฉิง : บอสขุนนางเลเวล 20
พลังชีวิต : 19,500
ในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่เขาคือหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างเทพ์ผู้ซึ่งเป็วีรบุรุษของโลกและถูกขนานนามว่า “าาทหารรับจ้าง” เพราะมีอดีตที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังตอนที่อายุได้ 27 ปีจึงถูกเรียกว่า “จ่านฉิง” และได้ก่อตั้งกลุ่มทหารรับจ้างเทพ์ขึ้นมา ท่ามกลางกลุ่มทหารรับจ้างเทพ์เขาไม่ใช่คนที่มีพลังที่แข็งแกร่งที่สุด แต่กลับสนับสนุนและนำพากลุ่มทหารรับจ้างเทพ์ไปยังจุดสุดยอดของแกนกลางจิติญญาด้วยแรงกดดัน เสน่ห์ ความเป็ผู้นำ และสติปัญญาของเขา ความจงรักภักดีและความกล้าหาญทำให้สมาชิกกลุ่มทหารรับจ้างเทพ์ติดตามเขาไปจนตัวตาย และไม่มีวันจากไป ในาผนึกปีศาจเมื่อร้อยปีก่อน เขาและสมาชิกกลุ่มทหารรับจ้างเทพ์ทั้งหมดต่อสู้จนตัวตาย ปัจจุบันถูกไอปีศาจที่มาจากหอคอยแห่งโชคชะตาสิงสู่ จึงทำให้สติรับรู้กลายเป็ปีศาจ ร่างที่ตายไปแล้วได้รับความสามารถบางส่วนของเขาในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่
พร์
ร่างิญญา : ด้วยร่างแห่งความตายทำให้การโจมตีด้วยพลังแห่งความตายทั้งหมดไร้ผล
ทักษะ : พุ่งตัด , เขี้ยวัสะบั้น , ตัดจันทรา , พายุหมุนัแตกหัก , พายุสะบั้นจันทรา
ทักษะลับ
เกียรติแห่งาาทหารรับจ้าง : ทักษะพิเศษ ไม่ทราบเงื่อนไขในการแสดงผล ไม่ทราบผลของทักษะ
จุดอ่อน : หวาดกลัวแสงสว่างและทักษะสายชีวิตทั้งหมด
เมื่อคุณสมบัติของชายในเกราะสีทองปรากฏขึ้นในสมองก็ทำให้เย่เทียนเซี่ยอึ้งไป หลังจากบอสขุนนางเลเวล 20 ทั้งสองตัวก็คือศัตรูคนสุดท้ายที่ยากจะต่อกรได้ ด้วยระดับความแข็งแกร่งของศัตรูทั้งสองก่อนหน้านี้ ครั้งนี้เขาน่าจะได้เผชิญหน้ากับบอสขุนนางเลเวล 30 สิถึงจะไม่ทำให้เขาอึ้ง
แต่ร่างของหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างเทพ์ที่อยู่ในชุดเกราะสีทองอันสูงส่งนั้นกลับเป็แค่บอสขุนนางเลเวล 20 เท่านั้น......... แล้วยังมีตัวเดียวอีก
และสิ่งที่ทำให้เย่เทียนเซี่ยใที่สุดก็คือข้อมูลทักษะลับที่ดวงตาัของเขาได้รับ............. ไม่ทราบเงื่อนไขในการแสดงผล ไม่ทราบผลของทักษะ นี่เป็ครั้งแรกที่เขาพบกับสถานการณ์เช่นนี้ ด้วยดวงตาัไม่มีทางที่เขาจะไม่ได้รับแจ้งข้อมูลโดยละเอียดของทักษะนั้นๆ........ หากเป็เช่นนี้ก็สามารถจินตนาการได้ว่านี่จะต้องเป็ทักษะที่แข็งแกร่งหรืออาจจะพิเศษมากแน่ๆ
ขณะเดียวกันสิ่งที่ทำให้เยเทียนเซี่ยต้องระวังอย่างมากก็คือ........... ร่างที่เขากำลังเผชิญอยู่ตรงหน้าเป็บอสขุนนางเลเวล 20 ชัดๆ แต่ทำไมแรงกดดับที่มาจากตัวมันถึงได้หนักหน่วงยิ่งกว่าแรงกดดันจากบอกขุนนางเลเวล 20 ก่อนหน้านี้นัก มันไม่ได้เป็เพียงแค่แรงกดดันที่มาจากฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น แต่ยังมีบางอย่างที่บอกกับเย่เทียนเซี่ยว่าระดับความน่ากลัวของศัตรูตรงหน้านั้นจะต้องมากมายมหาศาลแน่นอน......... อีกทั้งยังต้องมากกว่าิญญาวาจาสิทธิ์และิญญาสงบนิ่งรวมกันซะอีก
ดวงตาที่ปลดปล่อยประกายคมกริบหันมามองเย่เทียนเซี่ย เมื่อเย่เทียนเซี่ยเตรียมจะปลดปล่อยการโจมตีออกไป ทันใดนั้นร่างตรงหน้าก็พุ่งเขามาใกล้เขาอย่างรวดเร็วราวกับพายุ.......... แล้วาาทหารรับจ้างที่ปลดปล่อยทักษะ “พุ่งตัด” ออกมารวดเร็วราวกับสายฟ้าก็สามารถพุ่งเข้ามาตรงหน้าของเย่เทียนเซี่ยที่อยู่ไกลออกมาในระยะห้าก้าวได้ในตอนนั้นเอง
ดาบสีทองเล่มโตขยายใหญ่ขึ้นในม่านตาของเย่เทียนเซี่ย แล้วร่างของเย่เทียนเซี่ยก็มีปฏิกิริยาตอบสนองทันที เขารีบถอยหลังออกไปอย่างรวดเร็วขณะเดียวกันก็สะบัดห้วงเวลาแห่งโชคชะตาออกไปด้านหน้าอย่างหนักหน่วง........
ปลายดาบสีทองเกือบจะตัดผ่านเสื้อผ้าด้านหน้าของเย่เทียนเซี่ยได้ แต่ทักษะัสะบั้นที่เย่เทียนเซี่ยปลดปล่อยออกไปทีหลังกลับปะทะเข้ากับร่างของาาทหารรับจ้างอย่างหนักหน่วง........... ดาบมือเดียวย่อมเบากว่าดาบสองมือและสั้นกว่าดาบสองมืออยู่นิดหน่อยจึงทำให้ระยะโจมตีของมันด้อยกว่าดาบสองมือ ความยาวของดาบสีทองที่อยู่ในมือาาทหารรับจ้างจึงไม่มากไปกว่าห้วงเวลาแห่งโชคชะตาที่อยู่ในมือของเย่เทียนเซี่ย ก้าวเล็กๆหนึ่งก้าวที่เย่เทียนเซี่ยถอยออกมาราวกับได้ทำการคำนวณความยาวแขนและความยาวของดาบสีทองในมือของาาทหารรับจ้างอย่างแม่นยำแล้วภายในระยะเวลาสั้นๆตอนที่มันพุ่งเข้าใส่และโจมตีออกมา ก้าวที่เย่เทียนเซี่ยถอยออกไปนั้นพอดิบพอดีจนทำให้การโจมตีของาาทหารรับจ้างพลาดเป้าและการโจมตีของตัวเขาเองก็ปะทะเข้ากับเป้าหมายอย่างหนักหน่วง
-1200!
แม้ว่าาาทหารรับจ้างจะยกเกราะและดาบขึ้นมาพร้อมกัน แต่ไม่ว่าพลังชีวิตหรือพลังป้องกันของเขาก็ล้วนด้อยกว่าิญญาสงบนิ่งอยู่ดี เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่สายป้องกัน และการโจมตีอันหนักหน่วงครั้งแล้วครั้งเล่าก็พิสูจน์ชัดแล้วว่าเขาเป็สายโจมตี
ใบหน้าของาาทหารรับจ้างไม่มีความเปลี่ยนแปลง เท้าของเขายังคงก้าวไปด้านหน้าและยังคงกำดาบมือเดียวในมือแน่น จากนั้นก็ง้างดาบขึ้นเตรียมจะใช้ “ตัดจันทรา” โจมตีมาที่หัวของเย่เทียนเซี่ย ดาบสีทองในมือฟาดลงมาจาก้าประกายแสงสีทองส่องสว่างบนตัวดาบพร้อมกับแรงกดดันมหาศาลที่สามารถผ่าูเาได้ทั้งลูกที่พุ่งเข้ามา เพียงแค่แรงกดดับมหาศาลนั่นอย่างเดียวเย่เทียนเซี่ยก็รู้แล้วว่าพลังของทักษะนี้จะต้องไม่น้อยอย่างแน่นอน ดวงตาของเขาจ้องมองไปยังทิศทางที่ใบดาบนั้นวาดไป มันคือเวลาที่เขาจะรวบรวมสมาธิของเขา ดาบสีทองที่อยู่ในสายตาของเขาราวกับเคลื่อนไหวช้าลง ร่างของเย่เทียนเซี่ยเคลื่อนไหวไปอย่างธรรมชาติทำให้ขณะที่คมดาบฟาดลงมาที่ร่างของเขาห้วงเวลาแห่งโชคชะตาก็ถูกยกขึ้นมาในทันที..........
เปรี้ยง!!
ทักษะตัดจันทราที่ถูกปลดปล่อยออกมาปะทะเข้ากับพื้นดินอย่างแรง พลังทำลายล้างที่แข็งแกร่งทำให้เศษดินแตกกระจายออกไปเป็วงเล็กๆ และในเวลาเดียวกันนั้นทักษะัสะบั้นของเย่เทียนเซี่ยก็ปะทะเข้ากับหน้าอกของเขาอย่างจัง พลังทำลายล้างที่นำมาทำให้าาทหารรับจ้างสั่นสะท้านอย่างรุนแรงและถอยหลงไปถึงสามก้าวติดๆก่อนจะหยุดลง
และระหว่างที่าาทหารรับจ้างกำลังถอยหลังไป เย่เทียนเซี่ยก็ะโขึ้นไป้าแล้วใช้ทักษะัสะบั้นฟาดลงไปบนร่างของาาทหารรับจ้างที่เพิ่งจะหยุดลงอย่างรุนแรง ทำให้ร่างของาาทหารรับจ้างกระเด็นออกไปอีกครั้ง........... หนึ่งครั้ง สองครั้ง สามครั้ง สี่ครั้ง........... โจมตีด้านหน้า โจมตีแบบเฉียง โจมตีแบบยั่วยุ โจมตีแบบตัดขวาง........ สถานการณ์ในตอนนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของเย่เทียนเซี่ยแล้ว ัสะบั้นของเขายังคงปะทะเข้ากับร่างของาาทหารรับจ้างอย่างต่อเนื่อง แรงกระแทบที่ตามมาทำให้ร่างของาาทหารรับจ้างต้องถอยไปทีละก้าวๆจนไม่มีโอกาสจะได้ปลดปล่อยการโจมตีออกมาอีก...........
-1210,-1213,-1205,-1986,-1200,-1201,-1220,-1204,-1211……
ทุกครั้งที่ปลดปล่อยัสะบั้นออกไป เท้าของเย่เทียนเซี่ยก็จะก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เมื่อัสะบั้นครั้งที่เก้าปะทะเข้ากับร่างของาาทหารรับจ้างในที่สุดการโจมตีอันหนักหน่วงก็ทำให้าาทหารรับจ้างสั่นสะท้านรุนแรงแล้วทรุดลงบนพื้น และทำให้พลังชีวิตของเขาลดลงไปเกินกว่าครึ่งภายใต้การโจมตีอย่างต่อเนื่อง
ถือโอกาสที่อีกฝ่ายอ่อนแอเอาชีวิตอีกฝ่ายซะ............เย่เทียนเซี่ยรีบก้าวไปตรงหน้าของาาทหารรับจ้างอย่างรวดเร็วแล้วยกห้วงเวลาแห่งโชคชะตาขึ้นสูง ภายในระยะเวลาสั้นๆนั้นเขาสามารถทำให้พลังชีวิตของาาทหารรับจ้างลดลงไปถึงครึ่งหนึ่ง แต่มันกลับไม่ได้ทำให้เขาดูถูกหรือผ่อนคลายความระมัดระวังลงไปเลยแม้แต่นิดเดียว เขาไม่เคยไม่เชื่อความรู้สึกของตัวเองมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว าาทหารรับจ้างสีทองคนนี้สร้างแรงกดดันให้เขาอย่างหนักหน่วง และที่มาเพียงอย่างเดียวของมันก็อาจจะเป็........เกียรติแห่งาาทหารรับจ้างก็เป็ได้ และทักษะลับที่จะต้องมีผลอันแข็งแกร่งและพิเศษเช่นนี้อาจจะแสดงผลเมื่อพลังชีวิตของเขาลดลงไปถึงจุดใดจุดหนึ่งหรือเมื่อเขาตกอยู่ในสถานะโกรธเกรี้ยวและสิ้นหวัง
แม้ว่าเย่เทียนเซี่ยจะสนใจผลของทักษะนี้ แต่เขาก็ไม่บ้ามากพอที่จะทดลองพลังและผลของมันอย่างจงใจหรอกนะ และคนที่ฉลาดจริงๆก็ต้องเลือกที่จะพยายามไม่ให้เขาได้มีโอกาสได้ปลดปล่อยทักษะนั้นออกมา
ดังนั้น...........
“หัวใจผู้กล้า!”
แสงสีเงินสว่างวาบขึ้นมาบนหน้ากากผู้กล้าที่อยู่บนหน้าผากของเขา และห้วงเวลาแห่งโชคชะตาในมือของเย่เทียนเซี่ยก็ฟาดลงไปอย่างรุนแรง............
“พายุหมุนัเจ็ดชั้นฟ้า!!”
สายลมอันบ้าคลั่งที่มากับพลังัหมุนวนอย่างรุนแรงนำพาให้ห้วงเวลาแห่งโชคชะตาฟาดฟันออกเป็วงกลมสีดำเจ็ดสาย การโจมตีอันบ้าคลั่งทั้งหมดพุ่งไปทางร่างของาาทหารรับจ้างที่เพิ่งจะยืนขึ้นมา.........
1215,-1996,-1204,-1201,-1210,-1204,-1221!
พายุหมุนัอันงดงาม การโจมตีอันงดงามและตัวเลขความเสียหายอันงดงาม ภายใต้ใบมีดพายุหมุนัร่างของาาทหารรับจ้างก็ถูกพัดกระเด็นออกไปไกลแล้วตกลงบนพื้นอย่างแรงพร้อมกับพลังชีวิตที่หายไปจนเกลี้ยง ร่างที่ถือดาบและโล่สีทองไว้แน่นหมดลมหายใจลงไปอีกครั้ง
หลังจากฟื้นคืนจากสถานะมึนงงเนื่องการปลดปล่อยทักษะ “พายุหมุนัเจ็ดชั้นฟ้า” แล้วเย่เทียนเซี่ยก็มองไปทางร่างสีทองของาาทหารรับจ้าง.......... หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างเทพ์ าาทหารรับจ้างผู้โด่งดังถูกเย่เทียนเซี่ยจัดการได้อย่างง่ายดายภายในเวลาสิบกว่าวินาที และระหว่างนั้นาาทหารรับจ้างผู้แข็งแกร่งได้ลงมือเพียงสองครั้งเท่านั้น จากนั้นเขาก็ไม่มีโอกาสปลดปล่อยพลังที่แท้จริงของตัวเองออกมาได้อีก.......... เพราะเย่เทียนซี่ยไม่ให้เวลาและโอกาสเขาทำอย่างนั้น
โลงศพทั้งสิบสามถูกเปิดออกหมดแล้ว ศัตรูคนสุดท้ายก็ถูกจัดการลงไปเรียบร้อย ภารกิจเดินมาถึงจุดนี้แล้วก็น่าจะจบลงได้สักที
แต่ว่าพอมองร่างของาาทหารรับจ้าง คิ้วที่ขมวดกันแน่นของเย่เทียนเซี่ยกลับไม่คลายออกเลยแม้แต่น้อย าาทหารรับจ้างตายไปภายใต้น้ำมือของเขา หลอดเืของเขาก็ว่างเปล่า............. แต่ความรู้สึกกดดันที่มาจากตัวของเขากลับไม่ได้หายไป
ไม่เพียงไม่หายไป แต่มันดูเหมือนจะเข้มข้นขึ้นอีกด้วย.......... มันคือความรู้สึกอันตรายที่กำลังใกล้เข้ามา!
ทันใดนั้นการเปลี่ยนแปลงอย่างแปลกประหลาดก็เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน บนศพที่นิ่งงันของาาทหารรับจ้างปรากฏแสงสีทองที่ดูอบอุ่นขึ้นมาดวงหนึ่ง และในขณะที่แสงสีทองกำลังส่องสว่างอยู่นั้น พื้นที่อันมืดมิดโดยรอบก็พลันสว่างสดใสขึ้นมาทันที.............. ในเวลาเดียวกันนั้นแสงสีเงินสิบสองดวงก็สว่างขึ้นมาพร้อมกันท่ามกลางความว่างเปล่า
แสงสีเงินเ่าั้มาจากศพของสมาชิกกลุ่มทหารรับจ้างเทพ์ทั้งหมด
ท่ามกลางแสงสว่างสีเงินและสีทองนั้น าาทหารรับจ้างที่ล้มลมบนพื้นและผู้ใต้บังคับบัญชาอีก 12 คนของเขาที่ตายไปแล้วก็ค่อยๆลุกขึ้นมา...........