“เสียมารยาท! ข้าต้องมานั่งรอเ้ากินอาหารเช่นนี้ทุกวัน พ่อเ้า น้องสาวของเ้า ต้องมานั่งรอเ้าเช่นนี้ทุกวัน เมื่อใดจะปรับปรุงตัว ทำตัวเช่นนี้ยังมีหน้ามาขอร้องให้ส่งตัวเ้าไปงานคัดเลือกชายาอ๋อง ใบหน้าเ้าสวยสดงดงามน่ะใช่! แต่กิริยาและความเอาแต่ใจของเ้า เช่นนี้รู้ไปถึงไหนก็อับอายไปถึงนั่น!” หยางฮูหยินเอ่ยตำหนิด้วยความหน่ายใจ
“เช่นนั้น งานคัดเลือกชายาอ๋องข้าไม่ไปแล้วก็ได้ ให้น้องรองไปคนเดียวเถอะ” คำพูดของซิ่วหนิงทำให้ทุกคนชะงักนิ่ง หันมองหน้ากันด้วยความแปลกใจอย่างถึงที่สุด
“พี่ใหญ่ พี่พูดว่าอะไรนะ” ซิ่วหนานทวนคำไม่แน่ใจ ก่อนซิ่วหนิงจะเดินเข้ามาหาบิดา จับแขนเขาเบา ๆ แล้วพูดต่อ
“ใคร ๆ ต่างก็รู้ว่าชินอ๋องกับน้องรองมีใจต่อกัน หากข้าไปร่วมพิธีคัดเลือกด้วย อย่างมากข้าก็เป็ได้แค่ชายารอง มาคิดดูแล้ว ข้ามิสู้หาคุณชายสักคน ที่ยังไม่มีเมียไม่ดีกว่าเหรอ จะได้ไม่ต้องเป็รองผู้ใด” บิดาและมารดาหันมองหน้ากันครู่หนึ่ง
“เมื่อวานเ้ายกเหตุผลต่าง ๆ นานา บอกว่าทำเพื่อสกุลหยางบ้าง ทำเพื่อจะได้เข้าไปดูแลน้องบ้าง ทำเพื่อไม่ให้มีผู้ใดกล้าเหิมเกริมกับสกุลของเรา เหตุผลของเ้ายากจะมีใครเอ่ยห้าม มาวันนี้เ้าคิดจะไม่ไป ก็หาเหตุมาเอ่ยอ้างอีก ทำตัวไม่มีหลักการเช่นนี้ผู้ใดจะเชื่อถือ!” หยางฮูหยินเอ่ยตำหนิด้วยความหนักใจ
“เอาล่ะ ๆ ไม่ไปก็ไม่ไป ข้าไม่ว่า เพื่อนฝูงข้าก็พอจะมีอยู่บ้าง แล้วข้าจะแนะนำให้เ้าอีกทีแล้วกัน มากินข้าวกันเถอะ” หยางชุนดึงมือธิดาเข้ามาร่วมวงด้วยความเมตตา ทว่าสายตาแปลกใจของซิ่วหนานแอบมองนาง ด้วยความแปลกใจ ปกติแล้วพี่สาวของนางไม่ใช่คนเช่นนี้....
“เหตุใดพี่ซิ่วหนิงจึงเปลี่ยนใจ นางไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่าย ๆ อยากได้สิ่งใดก็ต้องเป็ดั่งใจเสมอ” ซิ่วหนานขบคิดในใจอย่างเงียบ ๆ พลางคีบอาหารใส่ปากช้า ๆ
ภายในตำหนักโหวซื่อ ร่างของฮองเฮาที่สวมชุดสีเหลืองอร่ามนั่งจิบชาอยู่พร้อมนางกำนัลจำนวนหนึ่งดูแลอย่างดี ก่อนเสียงของคนดูแลตำหนักจะเอ่ยขึ้น
“ทูลฮองเฮา ใต้เท้าซุนมู่โหยวมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ฮองเฮารีบวางมือจากชา แล้วเลื่อนสายตามองทุกคน
“พวกเ้าทั้งหมดออกไป ข้ามีเื่จะคุยกับน้องชายของข้าตามลำพัง” สิ้นรับสั่ง นางกำนัลทั้งหมดที่อยู่บริเวณนั้นก็พากันเดินออกไป ก่อนสองเท้าของซุนมู่โหยวจะเดินเข้ามาแล้วน้อมกายเคารพ
“ไม่ต้องมากพิธี” ฮองเฮารีบเดินเข้าไปหาน้องชายทันทีด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก
“พิธีคัดเลือกชายาชินอ๋องเสร็จสิ้นแล้วใช่หรือไม่”
“ทูลพระชายา ตอนนี้คัดเลือกชายาเสร็จสิ้นแล้วพ่ะย่ะค่ะ เป็ไปตามคาด ชินอ๋องทรงเลือกคุณหนูรองสกุลหยาง”
“คนเดียวเหรอ?” ฮองเฮาเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“คนเดียวพ่ะย่ะค่ะ”
“น่าแปลกนัก ก็ไหนใคร ๆ ต่างก็บอกว่าสองพี่น้องสกุลหยางไม่ค่อยถูกกันเท่าใด วีรกรรมของคุณหนูใหญ่ ใช่ว่าข้าจะไม่เคยได้ยิน ความร้ายกาจของนางเป็ที่เลื่องลือในวังหลวง ทั้งหยิ่งทะนง ทั้งมักใหญ่ใฝ่สูงปานนั้น เป็ไปได้อย่างไรที่นางยอมให้น้องสาวขึ้นเป็ชายาของชินอ๋อง โดยที่นางไม่คิดแก่งแย่งชิงดี” มู่โหยวถอนหายใจเล็กน้อย
“ผิดคาดอยู่เหมือนกัน เดิมทีกระหม่อมคิดว่าคนอย่างใต้เท้าหยาง ไม่มีทางห้ามปรามบุตรสาวคนโตได้ แต่เหตุใดเื่ราวจึงเป็เช่นนี้ อุตส่าห์คิดวิธีรับมือไว้ตั้งมากมาย ดูแล้วเื่ของชินอ๋องคงไม่น่าห่วงเท่าใด” ฮองเฮาได้ยินดังนั้นจึงส่ายศีรษะเล็กน้อย
“เ้าอย่าได้วางใจ จริงอยู่ที่หยางซิ่วหนิงไม่ได้มาคัดเลือกด้วย พวกเราจึงไม่ต้องระวังเล่ห์เหลี่ยมของนาง แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังไว้ใจชินอ๋องไม่ได้อยู่ดี เขาเป็คนฉลาดหลักแหลม คิดสิ่งใดย่อมมีแผนการเสมอ หากก้าวผิดแม้เพียงก้าวเดียวเขาจะต้องสงสัย มู่โหยว!”
“พ่ะย่ะค่ะ”
“ตอนนี้ตำแหน่งของเ้า คืออัครมหาเสนาบดี เป็ถึงขุนนางขั้นหนึ่ง ถือเป็หัวหน้าเหล่าขุนนางทั้งหมด อำนาจที่เ้าถือไม่ได้เป็รองผู้ใด จงใช้อำนาจนี้ผูกมิตรกับขุนนางต่าง ๆ ไว้ให้มาก ในภายหน้าเราอาจจะต้องใช้งานพวกเขา” ซุนมู่โหยว ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“เหตุใดจึงรีบร้อนเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ”
“เ้าก็รู้ว่าฮ่องเต้ไม่มีทายาท หมอหลวงเปรย ๆ กับข้าว่าฮ่องเต้อาจเป็หมัน หากเป็เช่นนั้นจริง บัลลังก์นี้ข้าไม่้าให้เป็ของผู้ใด นอกจากเ้า!” มู่โหยวชะงักแล้วเงยหน้าขึ้นสบตาฮองเฮาอย่างมีความหวัง เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่ทั้งดีใจและหวาดหวั่นในเวลาเดียวกัน
“แต่ถึงอย่างนั้นชินอ๋อง ก็มีฐานะเป็อนุชาของฮ่องเต้ที่สืบเชื้อสายมา แม้จะเกิดจากพระสนมแต่ตามฐานะในตอนนี้ ทุกคนในวังล้วนรู้ดี ว่าฮ่องเต้องค์ต่อไปต้องเป็เขา เช่นนี้ไม่เป็การก่อฏเหรอพ่ะย่ะค่ะ”
“หึ! ก่อฏงั้นเหรอ ข้าไม่มีทางให้เหล่าขุนนางมองเ้าเช่นนั้นหรอก ชินอ๋องต่างหากที่คิดจะก่อฏ” มู่โหยวขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ฮองเฮาทรงคิดจะทำการอันใด?”
“เ้าทำตามที่ข้าบอก หากมีสิ่งใดคืบหน้า ข้าจะเรียกเ้ามาพบอีกที”
“พ่ะย่ะค่ะ” มู่โหยวน้อมรับคำสั่ง แล้วเบี่ยงตัวเดินจากไป
ฐานะของหยางซิ่วหนาน ได้ถูกยกขึ้นเป็ชายาของชินอ๋องผู้มากด้วยบารมี เขาที่อยู่ในชุดสีแดงเดินเข้ามาในห้องหอด้วยท่าทีราบเรียบ ผิวกายขาวละเอียด รูปร่างสูงสง่า ใบหน้าหล่อเหลาราวกับรูปปั้น ทำเอาหยางซิ่วหนานต้องรีบก้มหน้าหลบ ก่อนเขาจะทอดสายตามองอีกฝ่ายอย่างเงียบ ๆ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้