นี่เป็บริเวณห้องบรรทมไว้สำหรับบุคคลที่มีฐานะสูงศักดิ์ในแผ่นดิน ดูใหญ่โตโอ่อ่าหรูหราประดับประดาไปด้วยอัญมณีหลากสีสันส่องประกายแวววาวระยิบระยับ
ภายในห้องโถงเวลานี้กลับมีผู้เล่นอยู่มากหน้าหลายตาทั้งชายและหญิง มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ พวกเขาต่างก็กำลังหัวเราะอยู่หัวเราะเสียงดังดูราวกับคนบ้า หัวเราะร่าจนตัวโยนไปมา จนกระทั่งน้ำตาไหลในมือกอบกำไว้ด้วยบรรดาเหรียญทองและอัญมณีมากมาย แม้กระทั่งเหรียญทองม่วงก็ยังมี
แต่ละคนต่างก็ยิ้มแย้มหัวเราะร่ากันอย่างมีความสุขแต่ดูจะมีความสุขกันมากเกินไปหรือเปล่า บริเวณกำแพงมีช่องรูปสี่เหลี่ยมยาวเป็แถวในแต่ละช่องนั้นบรรจุไว้ด้วยสมบัติล้ำค่าอยู่เรียงรายส่องประกายแสงวูบวาบจนน่าดึงดูด บนพื้นก็ยังมีกล่องลักษณะคล้ายกันนับสิบกล่องเปิดอ้าวางเรียงรายอยู่เป็กล่องที่บรรจุเหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง อัญมณี พวกไข่มุก หินโมราและอื่นๆ อีกมากมาย ผู้คนต่างจ้องมองด้วยความตื่นตาตื่นใจ
แต่ละกล่องล้วนถูกเปิดออกจนหมดสิ้น เหรียญทองมากมายหลากหลายชนิดร่วงหล่นกระจายอยู่เต็มพื้นซึ่งเวลานี้ผู้เล่นทั้งหลายต่างก็ไม่มีใครใส่ใจพวกเขาต่างพยายามกอบโกยฉกฉวยอัญมณีต่างๆ พยายามโอบเอาไว้ในอ้อมอกแต่มันก็ร่วงหล่นลงบนพื้นอีก ซึ่งพวกเขาต่างก็ไม่แสดงอาการท้อถอยออกมาให้เห็นในสายตาของพวกเขาเวลานี้มีเพียงทรัพย์สมบัติเท่านั้น สายตาจ้องเขม็งดูราวกับคนบ้าก็ไม่ปาน
บริเวณกองอัญมณีมากมายเ่าั้ มีศพของผู้เล่นนอนอยู่จำนวนหนึ่งบนร่างกายปราศจากรอยแผลใดๆ มีเพียงสีหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีความสุขจนน่าประหลาดคล้ายกับมีความพึงพอใจอย่างที่สุด ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
"มันคือยาพิษที่สูญหายไปนานแล้ว ''ผงสุดชื่นมื่น''เสี่ยวหลัวลี่สามารถบ่งบอกได้เพียงแค่เห็น ถึงแม้ว่าอายุของเธอจะไม่มากเท่าไรแต่ความรู้นั้นไม่ได้น้อยเลยสักนิด
ฉินโจ้วถึงกับสูดหายใจเข้าลึกๆเขาเองก็เคยได้ยินชื่อของ ''ผงสุดชื่นมื่น'' มาบ้าง คนที่ได้รับพิษชนิดนี้ก็จะหัวเราะไปเรื่อยๆ ราวกับได้พบเจอเื่ที่ทำให้มีความสุขมากจนดูไม่ต่างจากคนบ้าในที่สุดก็จะสูญเสียเรี่ยวแรงไปเรื่อยๆ จนตาย ไม่มีรอยแผลใดๆ ปรากฏขึ้นบนร่างกายมีเพียงสีหน้าท่าทางที่แสดงให้เห็นว่ามีความพึงพอใจเป็อย่างมาก
มันเป็พิษที่ค่อนข้างอันตรายมาก และดูเหมือนว่าจะไม่มีวิธีรักษาอีกด้วยเมื่อรู้ว่ามีพิษอยู่ในบริเวณห้องโถง ทั้งคู่จึงเริ่มระมัดระวังตัวมากขึ้น และไม่กล้าจับต้องสิ่งอื่นใดที่อยู่ในนี้
ในเวลานั้นมีเสียงฝีเท้าดังมาจากภายนอกประตู มีกลุ่มผู้เล่นจำนวนหนึ่งวิ่งเข้ามาเงาร่างวูบไหว น่าจะมีไม่ต่ำกว่ายี่สิบคน ทุกคนล้วนสวมใส่อุปกรณ์ครบชุด
เพียงแค่คนกลุ่มนี้ชำเลืองมองเห็นกองอัญมณีในห้องโถงแค่แว่บแรกสีหน้าก็เต็มไปด้วยความสุข ชายสองคนรีบพุ่งตรงเข้าไปก่อนจะเตะชายสองคนที่กำลังนั่งหัวเราะอยู่ออกไปให้พ้นทาง และตะครุบคว้าเอาเหรียญทองเ่าั้ขึ้นมา
"อย่าแตะต้องเหรียญทองพวกนั้น"ชายวัยกลางคนที่เดินเข้ามาเป็คนสุดท้าย ท่าทางดูพิเศษกว่าคนอื่นเมื่อเขาได้เห็นสภาพในห้องโถง สีหน้าก็ดูเปลี่ยนไป ก่อนจะรีบส่งเสียงเตือนขึ้นทันทีแต่ดูเหมือนว่าเขาจะช้าไปก้าวหนึ่ง
ใน่เวลาที่ชายสองคนนั้นััถูกเหรียญทองฉินโจ้วรู้ได้ทันทีว่าพลังชีวิตของเขาทั้งคู่หายไปครึ่งหนึ่งในชั่วพริบตาจากนั้นสีหน้าของเขาก็กลายเป็ตื่นเต้นดีใจ และยิ้มกว้างขึ้นอย่างมีความสุขดวงตาหมองคล้ำวูบลงในบางครั้ง แต่การเปลี่ยนแปลงนี้กลับรวดเร็วยิ่งนักทำให้ผู้คนทั่วไปไม่ทันได้ััถึงซึ่งดูเหมือนทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน
ผู้เล่นที่กำลังวิ่งตามมาทีหลังถึงกับตกตะลึง พวกเขาต่างก็ใกลัวมือที่กำลังััเหรียญทองก็ราวกับถูกไฟช็อตหลายคนรีบะโถอยหลังกลับไปที่ประตูทันที ท่าทางหวาดกลัวยิ่งนัก
"สมบัติพวกนี้ถูกอาบยาพิษเอาไว้ พวกเราไม่สามารถจับต้องได้ไม่อย่างนั้นก็ต้องหัวเราะจนตายเหมือนพวกคนเ่าั้"ชายวัยกลางคนเริ่มอธิบายให้ฟัง ราวกับ้ายืนยันคำพูดของเขาเสียงหัวเราะของผู้เล่นสองคนก่อนหน้าจู่ๆ ก็หยุดลง มีแต่เสียงอึกอักในลำคอก่อนที่ร่างกายจะอ่อนยวบไหลลงไปกองกับพื้น โดยไม่ได้ส่งเสียงอื่นใดขึ้นมาอีก
"ถ้าอย่างนั้น ''เสี่ยวกั่ว''กับ ''อาสือ'' พวกเขาก็..."หนึ่งในกลุ่มเอ่ยถามขึ้นอย่างวิตกกังวล ชายวัยกลางคนได้แต่ส่ายหน้าก่อนจะพูดขึ้นว่า"หมดหนทางที่จะช่วยชีวิตพวกเขา คงต้องโทษที่พวกเขาโลภเกินไปการฉกฉวยสิ่งของจากอาณาจักรโบราณโหลวหลานไม่ใช่เื่ง่ายดายเลย"
"หัวหน้า นี่คือยาพิษชนิดไหนกันทำไมถึงได้รุนแรงเช่นนี้" ผู้เล่นอีกคนถามขึ้นด้วยความสงสัย
ทันใดนั้นชายวัยกลางคนก็เหลือบไปเห็นฉินโจ้วที่ยืนอยู่ด้านข้างกับสาวน้อยอีกคนหนึ่งสีหน้าปรากฏความสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย จึงส่งเสียงเอ่ยถามขึ้น " ''แบล็กแมมบา'' กลุ่มล่าสมบัติัดินผู้ต่ำต้อยในทะเลทรายไม่ทราบว่าจะให้เรียกผู้กล้าน้อยทั้งสองว่าอย่างไร?"
ทั้งสองคนต่างหันมองหน้ากัน ก่อนที่ฉินโจ้วจะเป็คนตอบว่า"ผู้น้อยมิกล้ารับ พวกเรามาจากกลุ่มล่าสมบัติหงส์ั''
"สมแล้วที่เป็ผู้กล้าั้แ่เยาว์วัย"แบล็กแมมบาหัวเราะขึ้น เห็นได้ชัดว่ารู้สึกไม่เชื่อ แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมาก่อนจะถามขึ้นว่า "ทั้งสองคนมาถึงก่อนไม่ทราบว่าคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเื่นี้"
''ผงสุดชื่นมื่น'' ฉินโจ้วยิ้มกล่าวอย่างเรียบๆท่าทางดูลึกลับยากจะคาดเดา
ดวงตาของแบล็กแมมบาจ้องเขม็ง สีหน้าดูเคร่งขรึม และพูดว่า"เดิมที ผมเองก็ยังสงสัยอยู่บ้าง อันที่จริงแล้ว ''ผงสุดชื่นมื่น''สูญหายไปหลายปีแล้ว เวลานี้จึงได้ข้อสรุปแน่ชัดแล้วไม่ทราบว่าผู้กล้าน้อยพอจะมีวิธีแก้ไขบ้างหรือไม่?"
"ตามความเห็นแล้ว" ฉินโจ้วได้แต่ส่ายหน้าและไม่ได้เอ่ยอะไรขึ้นมาเพราะเขาเองก็ไม่รู้ แต่ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ เหตุใดจึงต้องบอกออกมาด้วยเล่า?
"ผมเองก็ไม่รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับ ''ผงสุดชื่นมื่น'' นี้ แต่ถึงอย่างไรในเมื่อเข้ามาถึงูเาสมบัติแล้วก็เป็ธรรมดาที่ไม่อาจกลับไปมือเปล่าได้ มั่นใจได้ว่าคงต้องมีวิธีบางอย่างแน่นอนเพียงแต่ในตอนนี้อาจจะยังคิดไม่ออก ถึงแม้ว่าผู้กล้าน้อยจะมาถึงก่อนแต่พวกเราทุกคนก็จนปัญญา ถ้าว่ากันตามกฎของทะเลทราย ทุกคนสามารถใช้วิธีของใครของมันใครสามารถหยิบสมบัติไปได้ก็เป็ของคนคนนั้นไป คิดเห็นเป็เช่นไร?" แบล็กแมมบาเอ่ยถามขึ้น
ที่นี่ไม่ใช่เขตทุ่งหญ้าที่ราบภาคกลาง ดังนั้นกฎที่ทุกคนสามารถมีสิทธิ์ในส่วนแบ่งไม่อาจใช้กับที่แห่งนี้ได้ข้อเสนอของแบล็กแมมบาเองก็ดูยุติธรรมดี ซึ่ง ฉินโจ้วก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปฏิเสธจึงตอบตกลงทันที
"ระวังถูกหลอกล่ะ"เสี่ยวหลัวลี่กระซิบเตือน ฉินโจ้วพยักหน้ารับรู้เพื่อบอกให้รู้ว่าเขาเองก็เข้าใจเื่นี้ดี
"มีหนทางไหม?" เสี่ยวหลัวลี่ถาม
"พวกชาวูเาก็มักจะมีวิธีที่ฉลาดล้ำเฉพาะตัว"ฉินโจ้วจึงได้หยิบถุงมือออกมาจากแหวนมิติก่อนจะสวมใส่เอาไว้ จากนั้นก็เดินตรงไปบริเวณกึ่งกลางอย่างเปิดเผยเวลานี้พวกผู้เล่นที่ได้รับพิษจากผงสุดชื่นมื่นก็ตายไปหมดแล้วเหลืออีกราวสิบคนที่กำลังยิ้มเยาะอย่างมีความสุขอยู่ฉินโจ้วก้มตัวลงหยิบเหรียญทองม่วงขึ้นมา ก่อนจะโยนมันเข้าไปในแหวนมิติ
แบล็กแมมบากำลังคิดหาทางอยู่เช่นกัน จึงมองดูว่าฉินโจ้วจะทำอย่างไรกับสมบัติเ่าั้ เมื่อเขาเห็นว่าฉินโจ้วได้ใช้ถุงมือหยิบจับสมบัติได้อย่างปลอดภัยทันใดนั้นเขาก็รู้ได้ทันทีว่า ถ้าแตะต้องสมบัติพวกนั้นก็จะถูกพิษ แต่ถ้าไม่ได้แตะต้องสมบัติเ่าั้โดยตรงก็จะปลอดภัยเขาก็ไม่ได้คิดถึงวิธีที่ง่ายดายเช่นนี้มาก่อน เวลาเป็เงินเป็ทองเมื่อเห็นฉินโจ้วกำลังหยิบอุปกรณ์ระดับทองคำขาวขึ้นมา เขาก็ไม่อาจสงบใจได้อีกต่อไปรีบะโสั่งลูกน้องของเขาทันที "หาอะไรมาพันมือตัวเองเอาไว้แล้วรีบหยิบของขึ้นมาเร็ว"
ในความเป็จริงแล้วเขาเองก็ไม่จำเป็ต้องรอคำสั่งเสียด้วยซ้ำพวกเขาก็ไม่ใช่คนโง่ เมื่อเห็นฉินโจ้วทำให้ดูเป็ตัวอย่างแล้วเขาก็รู้แล้วว่าควรจะต้องทำอย่างไร พวกเขาจึงรีบหาผ้าขนหนูมาส่วนคนที่ไม่มีผ้าก็เริ่มฉีกทึ้งเสื้อผ้าของตนเอง
หลังจากคนกว่ายี่สิบคนหุ้มมือของตนเองเป็อย่างดีเรียบร้อยแล้วก็รีบกระโจนไปเบื้องหน้าทันทีทันใด ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่สามารถอดทนรอได้อีกแม้แต่เพียงเสี้ยววินาทีถ้าเกิดว่าทุกคนล้วนไม่ได้เหมือนกันหมด อย่างมากพวกเขาก็แค่รู้สึกเสียใจมากหน่อยแต่นี่กลับเห็นผู้อื่นเก็บสมบัติขึ้นมาได้ ราวกับตัวเขาเองนั้นเสียเปรียบอย่างไรอย่างนั้นเวลานี้บางคนก็เริ่มก้มเก็บสิ่งของที่ตกหล่นอยู่ที่พื้นมีหลายคนที่ตรงไปยังกล่องขนาดใหญ่เ่าั้
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เมื่อแบล็กแมมบาได้เห็นเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าก็เกิดลางสังหรณ์แปลกๆ ขึ้นในใจ ถ้า ''ผงสุดชื่นมื่น'' นั้นสามารถแก้ทางได้ง่ายปานนี้ มันจะยังคงมีชื่อเสียงในด้านความรุนแรงจนถูกเล่าลือสืบกันมาได้อย่างไรกันทันใดนั้นเองเขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นทันที แต่ทว่าฉินโจ้วก็ไม่ได้มีท่าทางแปลกประหลาดให้เห็นเลยสักนิดหรือที่จริงอาจเป็เพราะเราวิตกกังวลมากเกินไป แต่จากประสบการณ์หลายปีที่ผ่านมาของเขานั้นบอกว่าอันตรายกำลังจะมา ระหว่างที่กำลังเกิดความลังเลอยู่นั้นลูกน้องของเขาได้ตรงไปที่กล่อง และใช้ทั้งสองมือยกมันขึ้นมา โอบกอดทรัพย์สมบัติที่มีอยู่มากมายเอาไว้ในวงแขนอย่างแแ่เกือบจะเป็เวลาเดียวกันที่กล้ามเนื้อบนใบหน้าเริ่มเปลี่ยนไป มุมปากยิ้มยกขึ้นแน่นอนว่าเป็การเตรียมตัวที่จะหัวเราะนั่นเองเวลานี้แบล็กแมมบารู้สึกหนาวสะท้านไปทั่วร่างราวกับอยู่ในถ้ำในแข็งใน่ฤดูหนาวก็ไม่ปานก่อนจะรีบะโขึ้นว่า "อย่าแตะต้องสมบัติพวกนั้น รีบกลับมาเร็วเข้า"
มีผู้เล่นเพียงแค่ห้าคนเท่านั้นหลังจากที่ได้ยินเสียงคำสั่งนี้ก็ถึงกับชะงักในขณะที่คนที่เหลือนั้นเริ่มมีสีหน้าท่าทางที่เปลี่ยนไป ดวงตาแข็งทื่อตามมาด้วยเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขเหลือล้นดังออกมาจนตัวโยน
ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ...
เสียงหัวเราะดังลั่นสั่นะเืไปทั่วทั้งห้องโถงราวกับเสียงลั่นกลองผู้เล่นทั้งห้าต่างตื่นตระหนกหวาดกลัวจนลนลานราวกับกระต่ายะโถอยหลังกลับอย่างรวดเร็ว พวกเขารู้สึกราวกับเหมือนได้ไปเดินเที่ยวรอบนรกมาอย่างไรอย่างนั้น
"ทำไมถึงได้เป็เช่นนี้ไปได้?" แบล็กแมมบาจ้องมองไปที่ฉินโจ้ว ด้วยความแปลกใจ
ฉินโจ้วไม่ได้ให้ความสนใจกับคำถามของเขามากนักก่อนจะรีบนำสิ่งของมีค่าที่สุดในห้องโถงใส่ลงในแหวนมิติอย่างรวดเร็วถึงแม้ว่าอาณาจักรโบราณโหลวหลานนั้นจะเป็อาณาจักรที่ไม่ใหญ่โตแต่ก็มีของดีอยู่ที่นี่มากมายไม่น้อย ฉินโจ้วไม่ยอมเสียเวลามองเหรียญทองเลยแม้แต่น้อยถ้าสิ่งของนั้นมีค่าต่ำกว่าหนึ่งร้อยเหรียญทองแล้ว ฉินโจ้วยิ่งรู้สึกเกียจคร้านเกินกว่าจะหยิบด้วยซ้ำทันใดนั้นเขาได้ยินเสียงฝีเท้าจำนวนมากจากทั่วทุกสารทิศกำลังตรงมายังสถานที่แห่งนี้ยิ่งมีคนมากเท่าไร ก็ยิ่งวุ่นวายสับสนมากขึ้นเท่านั้น และความวุ่นวายก็ไม่ดีต่อเขาเลยสักนิดเพราะว่าเขานั้นมีแค่ตัวคนเดียว ต่อให้นับรวมเสี่ยวหลัวลี่แล้วก็ตามก็ยังมีกันแค่สองคนเท่านั้น จะให้ไปแข่งสู้รบตบมือกับคนอื่นที่เหลือได้อย่างไร
"ใครกล้ารังแกเด็กพวกนั้นจะต้องมาเจอกับทัณฑ์์"
ทักษะเปลวเพลิงะเิมากกว่าสิบลูก รวมกลุ่มพุ่งตรงเข้ามาหาช่างเป็ภาพที่ยิ่งใหญ่ตระการตาโดยแท้และนี่ก็เป็ครั้งแรกที่มีโอกาสได้พบกับผู้เล่น ''เฉิงเหมี่ยนเหมี่ยน''เวทป้องกันถูกสร้างขึ้นมาทนอยู่ได้ไม่กี่วินาที ก็แตกออกเป็เสี่ยงๆจนกลายเป็ะเิครั้งใหญ่ ทุกอย่างดำมืดลงในทันทีผู้เล่นคนหนึ่งที่กำลังหัวเราะอย่างสนุกสนานก็ได้สูญหายไปเสี่ยวหลัวลี่ฉวยโอกาสวิ่งลอดช่องว่างที่มีออกมา ก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับทั้งสี่คนด้วยสีหน้าบูดบึ้ง
"แบล็กแมมบา มาทำแบบนี้้าอะไรกันแน่?"ฉินโจ้วเงยหน้าขึ้นมองทันใด สายตามีประกายสายฟ้าลั่นเปรี๊ยะในขณะที่จ้องมองไปยังแบล็กแมมบาด้วยสายตาที่ไม่ไว้ใจ
"มอบสิ่งที่นายได้ออกมาแล้วแบ่งกันคนละครึ่งหรือไม่นายกับเด็กสาวตัวน้อยนั้นจะต้องตายอยู่ที่นี่" แบล็กแมมบาเผยให้เห็นรอยยิ้มที่เหี้ยมเกรียมก่อนจะเลิกการเสแสร้งแกล้งทำ เปิดเผยสันดานที่แท้จริงของงูเห่าออกมาในมือถือสิ่งของที่คล้ายกับไข่มุกทรงกลมอยู่สองลูก ที่แผ่พลังงานชั่วร้ายออกมาอย่างรุนแรงมาก
ฉินโจ้วและเสี่ยวหลัวลี่ต่างก็ใไม่แพ้กัน ดูเหมือนว่าคราวนี้จะไม่ง่ายดายเสียแล้วจากที่เห็นไข่มุกสองลูกดังกล่าวสามารถสร้างผลกระทบให้กับเขาได้อย่างแน่นอนในขณะที่กำลังจะตอบไปนั้น ก็มีชายผู้หนึ่งเดินเข้ามาทางประตูพอดี และเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า
"แบล็กแมมบาไม่ได้เจอนายมาหลายวัน ดูท่าความจำนายจะสั้นลงนะจำไม่ได้หรือที่ฉันบอกว่า อย่ารังแกพวกเด็กๆ อีกน่ะ"
ทันทีที่พูดจบ ชายร่างใหญ่ที่แข็งแกร่งราวกับกอริลลาเดินเข้ามาพร้อมกับลูกน้องอีกราวสามสิบคนที่เดินตามหลังมาเมื่อเข้ามาถึงด้านใน ก็ทำให้มีผู้คนอยู่จำนวนมากมายในนี้ห้องโถงขนาดใหญ่ก็ดูแคบลงไปถนัดตา ชายคนดังกล่าวมีคิ้วสีดำเข้ม ราวกับเพิ่งใช้แปรงทาสีมาทาเขาแสยะยิ้มเผยให้เห็นฟันสีเหลืองซี่ใหญ่ และพูดขึ้นว่า"ผมหวังว่าผมจะมาไม่สายไปนะ เื่การแบ่งของผมชอบมากเลยทีเดียว"
"แมวดำ"แบล็กแมมบาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ยังไม่ทันได้พูดต่อ ก็มีเสียงโหวกเหวกดังขึ้นมาจากทางทิศใต้กำแพงที่หนาและหนักมากจู่ๆ ก็มีร่องรอยปริออกจนเป็ช่องขนาดใหญ่ อิฐหินปลิวกระจัดกระจายผู้เล่นได้ขี่ตัวลิ่นพุ่งเข้ามา จากนั้นมีกลุ่มผู้คนและม้าจำนวนไม่น้อยตามหลังมาอีก
ผู้เล่นที่ขี่ลิ่นอยู่สวมใส่อุปกรณ์ระดับเงินทั้งร่างส่องประกายแสงวับวาวยิ่งนัก หลังจากที่เข้ามาถึงแล้วก็กวาดตามองโดยรอบก่อนจะหยุดและจ้องมองไปยังแบล็กแมมบา และแมวดำที่มีรูปร่างเหมือนกอริลลานั่น และพูดขึ้นว่า" ไงล่ะ... แมวดำ ก่อนหน้านี้ก็รับทรัพย์ไปไม่น้อยนี่ น่าจะรู้จักพอบ้างนะนายคิดจะไม่เหลือแม้แต่น้ำซุปให้พวกเรากลุ่ม ''จินกังจ้วน'' เลยหรืออย่างไรกัน
"เ้า ''ยาฆ่าแมลงพิษร้ายแรง''(เฉียงลี่ชาฉงจี้)" สีหน้าของแบล็กแมมบาถึงกับวิตกกังวลขึ้นมาทันทีสายตาจับจ้องไปยังผู้เล่นที่สวมชุดสีเงิน แล้วก็สบถออกมาสองสามคำอย่างโกรธเกรี้ยวความเกลียดชังแสดงให้เห็นอยู่ทั่วใบหน้า
เวลานี้ทั้งสามฝ่ายต่างก็เผชิญหน้ากันเพื่อสมบัติในห้องโถงหลักในไม่ช้าบรรยากาศก็เริ่มตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ฉินโจ้วก็ไม่ได้เคลื่อนไหวแต่อย่างใดเพียงแค่ขยับเขยื้อนออกไปด้านข้างเล็กน้อยซึ่งอยู่ห่างจากเสี่ยวหลัวลี่ไม่เกินสามก้าวเผื่อถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจะได้คอยช่วยเหลือได้ทัน
าครั้งใหญ่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้