หานโม่เดินเข้าไปได้เพียงไม่กี่ก้าวก็ได้ยินเสียงกรีดร้องด้วยความเ็ปดังอยู่ภายในสวนจากนั้นก็เงียบลง ก่อนที่หานโม่จะทันได้คาดเดาว่าเกิดอะไรขึ้นนางก็ได้ยินเสียงะโพร้อมกับเสียงฝีเท้ามากมายดังมาจากเบื้องหน้า
“รีบไปจับนางคนน่าตายนั่นมา อย่าให้นางหนีไปได้!”
มีใครบางคนะโสั่งการด้วยเสียงอันดัง
หลังจากนั้นก็มีเสียงฝีเท้าจำนวนหนึ่งวิ่งออกไป
หานโม่ขมวดคิ้วแน่น พลางเดินตรงไปข้างหน้าครู่หนึ่งก็พบเข้ากับหญิงสาวที่ทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยเืวิ่งโซซัดโซเซมา
เพราะสติสัมปชัญญะของบ่าวรับใช้หญิงคนนั้นเหลือไม่ค่อยมากแล้ว กระทั่งวิ่งเข้ามาจวนจะถึงตัวหานโม่นางถึงได้เห็นว่ามีคนผู้หนึ่งยืนอยู่ตรงหน้า
ดวงตาของหญิงสาวเป็ประกายด้วยความดีใจจนแทบจะล้นออกมา
“คุณหนูเจ็ด!”
จิตใจที่แสนมืดมนของหญิงสาวพลันรู้สึกราวกับว่ามีแสงสว่างสาดส่องลงมา
เื่ราวที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงตระกูลก่อนหน้านี้แพร่กระจายไปทั่วทั้งตระกูลหานเรียบร้อยแล้ว บ่าวรับใช้พากันเล่าว่าคุณหนูเจ็ดท่านนี้เป็ผู้ที่จัดการได้ยากท่านหนึ่ง แม้แต่ฮูหยินใหญ่ก็ยังไม่สามารถทำอะไรนางได้
และนั่นทำให้หญิงสาวรู้ได้ทันทีว่าตัวเองพบทางรอดแล้ว
ร่างกายของนางนั้นเดิมทีก็ถูกพละกำลังอันไร้ขีดจำกัดอัดเข้ามาจนใกล้จะแตกสลาย นางจึงรีบตรงเข้าไปหาหานโม่และเอ่ยขอร้องด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง "คุณหนูเจ็ด คุณหนูเจ็ด ช่วยข้าด้วยเ้าค่ะ!"
ตอนที่หานโม่เห็นหญิงสาวก็รู้ได้ทันทีว่านางคือหัวขโมยผู้นั้น บนร่างกายของนางไม่มีส่วนไหนเลยที่จะสะอาดสะอ้าน ฉับพลันแววตาของหานโม่ก็เย็นะเืขึ้นมาทันที
ในงานเลี้ยงตระกูลก่อนหน้านี้ เว่ยซื่อพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะดึงนางมาเป็พวก แต่นางไม่ได้ตกลง เพราะหานโม่รับรู้ได้ว่าเว่ยซื่อไม่ใช่ผู้ที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นอ่อนโยนตามที่มองเห็นจากภายนอก และก็เป็ไปตามคาดคิดไม่ถึงเลยว่านางจะใช้วิธีการโหดร้ายเช่นนี้จัดการกับบ่าวรับใช้ในการปกครองของตน ช่างโเี้อำมหิตและไร้ความปรานีอย่างยิ่ง
หานโม่มองดูหญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้าอย่างเ็า กระทั่งตอนที่หญิงสาวล้มลงเพราะความเหนื่อยล้าและความเ็ปจากาแ หานโม่ก็ไม่แม้แต่จะขยับเขยื้อน นางทำเพียงแค่มองไปที่หญิงสาวแล้วเอ่ยถามเสียงเย็นว่า "เหตุใดเ้าถึงได้กลายเป็เช่นนี้?"
น้ำเสียงอันแสนเย็นะเืของหานโม่ทำให้หญิงสาวรู้สึกราวกับจะถูกแช่แข็ง แต่เพราะคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของนางเป็ความหวังสุดท้ายที่จะช่วยชีวิตนางได้ ดังนั้นไม่ว่าหานโม่จะมีท่าทีเ็าเพียงใด นางก็เพียงเอ่ยออกไปตามตรงว่า "บ่าวล่วงรู้ความลับของฮูหยินรองเ้าค่ะ นางกลัวบ่าวจะเอาไปบอกคนอื่น ดังนั้นจึงใส่ร้ายว่าบ่าวขโมยของ...”
ก่อนที่หญิงสาวจะทันได้เอ่ยจบ เสียงฝีเท้าหลายคู่ดังขึ้นมาจากอีกฝั่งของทางเดิน
ดวงตาของหานโม่เป็ประกาย นางพาหญิงสาวไปซ่อนตัวในมุมๆ หนึ่งอย่างรวดเร็ว
บริเวณนี้มีพุ่มไม้ปกคลุมอยู่ทุกอย่างหนาแน่นทุกทิศทาง ทำให้ไม่อาจหาเจอได้โดยง่าย
หานโม่วางหญิงสาวลงและถามต่อ "เ้าไปรู้สิ่งใดมา?"
เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวผู้นี้ไม่ใช่ผู้ที่มีแผนการอะไร นางยังไม่เอ่ยถึงเงื่อนไขใดๆ กับหานโม่เลย นางเพียงแค่บอกเล่าเื่ราวในสิ่งที่นางได้เห็นมาเมื่อคืนนี้แก่หานโม่ดั่งเทเม็ดถั่วออกมาจากกระบอกไม้ไผ่ [1]
ไม่รู้ว่าหญิงสาวผู้นี้โชคดีหรือโชคไม่ดีกันแน่ เพราะสิ่งที่นางเห็นเมื่อคืนนี้โตวโตวก็เห็นด้วยเช่นกัน
โตวโตวสามารถล่าถอยกลับออกมาได้ทันท่วงที แต่หญิงสาวผู้นี้ในตอนที่กำลังจะหลบหนีออกมานั้นไม่ทันระวังจึงบังเอิญไปชนของบางอย่างจนทำให้เกิดเสียง จึงถูกพบเข้า
ดังนั้นเว่ยซื่อจึงได้สร้างปัญหาั้แ่เช้าตรู่เช่นนี้
ร่างกายของหญิงสาวย่ำแย่มากจากการเสียเื ไหนจะความหวาดกลัวและตื่นตระหนกกับสิ่งที่พบเจอมาอีก ทำให้หลังจากที่นางเล่าจบก็หมดสติไปในทันที
หานโม่เม้มริมฝีปากแน่น ตัวนางในตอนนี้หากออกไปจากที่ซ่อนคนเดียวคงไม่เกิดปัญหา ถึงแม้ว่าคนของฮูหยินรองจะมาพบนางเข้า พวกเขาก็คงจะไม่กล้าทำอะไรนาง แต่นางไม่แน่ใจว่าจะปลอดภัยหากพาหญิงสาวไปด้วย
หานโม่ลังเลเล็กน้อย
ที่ผ่านมาหานโม่มักจะกระทำสิ่งต่างๆ ด้วยความรอบคอบเสมอ นี่เป็ชีวิตที่บริสุทธิ์ไร้มลทินชีวิตหนึ่ง แม้ว่าในภายภาคหน้านางอาจจะกลายเป็อาวุธที่สามารถใช้ต่อกรกับเว่ยซื่อได้ นางจึงต้องคิดอย่างรอบคอบว่าหากช่วยหญิงสาวผู้นี้ให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของเว่ยซื่อได้ นี่ไม่เพียงแต่จะสร้างปัญหาเท่านั้น แต่ยังอันตรายมากอีกด้วย
ชายชู้ของเว่ยซื่อคือผู้ใดหานโม่ก็ยังไม่รู้ แม้ว่านางจะมีความสามารถในการเอาตัวรอด แต่ความแข็งแกร่งของนางยังไม่เพียงพอที่จะขึ้นไปอยู่เหนือผู้คนทั้งแผ่นดินได้
แต่......
ดวงตาของหานโม่จับจ้องไปที่หญิงสาวอย่างครุ่นคิด
เป็ความจริงที่เว่ยซื่อไม่ใช่เป้าหมายหลักที่หานโม่ต้องจัดการ หากต้องลงมือจริงๆ แล้ววิธีการที่อ้อมค้อมอย่างการยืมมือผู้อื่นเพื่อทำร้ายอีกฝ่ายนั้นไม่ใช่สิ่งที่หานโม่เลือกใช้แน่ ดังนั้นแล้วหญิงสาวผู้นี้จะมีหรือไม่มีก็ได้
เมื่อคิดได้ถึงจุดนี้ หานโม่ก็หันหลังกลับเพื่อที่จะเดินจากไป
แต่เพียงนางก้าวไปได้แค่ก้าวเดียวก็ได้ยินเสียงตวาดดังขึ้นอยู่ไม่ไกล......
“พวกเ้าทำอะไรกันอยู่? แขกสำคัญกำลังจะมาถึงแล้ว พวกเ้าชักช้าอืดอาดเช่นนี้อยากให้ผู้อื่นคิดว่าบ่าวรับใช้ของตระกูลหานไม่ได้รับการอบรมเช่นนั้นหรือ?”
เสียงพูดนั้นดังราวฟ้าร้อง ขนาดหญิงสาวที่นอนอยู่บนพื้นก็ยังได้ยิน ร่างกายของนางสั่นสะท้านไปทั้งตัวแล้วเพ้อไม่ได้ศัพท์ออกมาสองสามคำ จากนั้นจึงหมดสติไปอีกครั้ง
ในเวลานี้เองมีเสียงพูดคุยดังขึ้นมาจากที่ไกลๆ คนพวกนั้นต่างพูดเกี่ยวกับเื่ที่เกิดขึ้นภายในเรือนของเว่ยซื่อด้วยเสียงอันดัง "ก็แค่หญิงรับใช้นางหนึ่ง ไม่ใช่ว่าตอนนี้นางถูกทุบตีจนใกล้ตายแล้วหรอกหรือ? รอจนแขกกลับไปก่อนแล้วค่อยมาตามหาก็ไม่สาย นางจะสามารถกางปีกบินออกไปจากที่นี่ได้หรือยังไงกัน?"
แขกผู้นั้นคงจะมีความสำคัญต่อตระกูลหานเป็อย่างมาก หลังจากคนผู้นั้นกล่าวจบก็ไม่มีผู้ใดกล้าโต้แย้ง ไม่นานเสียงฝีเท้ารอบข้างก็เงียบไป
หานโม่หันหน้ากลับมามองหญิงสาวที่นอนหมดสติอยู่บนพื้น พลางถอนหายใจและเอ่ยว่า "ดูเหมือนว่าวันนี้์อยากให้ข้าเป็คนดีสินะ"
หลังจากพูดจบหานโม่ก็โน้มตัวลง ลงมือถอดเสื้อผ้าที่เปื้อนเืของหญิงสาวทิ้งไป แล้วหยิบเสื้อผ้าสะอาดชุดหนึ่งออกมาจากแหวนโค่งเจียนเพื่อเปลี่ยนให้นาง จากนั้นจึงแบกหญิงสาวเอาไว้บนหลังคอยหลบซ่อนตัวจากพวกบ่าวรับใช้ จนกลับมาถึงเรือนเหอเซียงได้ในที่สุด
เป็เพราะตอนที่หานโม่ย้ายเข้ามานางเคยกำชับบ่าวรับใช้ในเรือนเอาไว้ว่า ในยามปกตินางไม่้าให้ผู้ใดมาคอยปรนนิบัติดูแลนอกจากเสี่ยวเยว่ ดังนั้นภายในเรือนเวลานี้จึงมีเสี่ยวเยว่เฝ้าอยู่แค่คนเดียวเท่านั้น
เสี่ยวเยว่อยู่ด้านในเรือนกำลังตระเตรียมเสื้อผ้าให้แก่หานโม่อยู่ เมื่อเห็นหานโม่เดินเข้ามาโดยที่มีคนผู้หนึ่งอยู่บนหลัง นางก็ลุกขึ้นยืนด้วยความใทันที "คุณหนู นี่คือผู้ใดหรือเ้าคะ? เกิดเื่อะไรขึ้นเ้าคะ?"
ดวงตาของหานโม่เป็ประกายขึ้นเมื่อเห็นว่าเสี่ยวเยว่กำลังให้ความสนใจกับหญิงสาวที่อยู่บนหลัง นางวางหญิงสาวลงในส่วนของเรือนรับรองแล้วหันไปพูดกับเสี่ยวเยว่ว่า "หญิงผู้นี้ก่อเื่ขึ้นจนถูกฮูหยินรองสั่งทุบตีจนเกือบตาย ตอนที่ข้าเดินผ่านไปก็เห็นว่านางน่าสงสารจึงช่วยมา เสี่ยวเยว่ เ้าไปหาบ่าวรับใช้ที่ไว้ใจได้มาให้ข้าคนหนึ่งแล้วพาบ่าวผู้นี้ออกจากเรือนไปเสีย ร่างกายของนางเต็มไปด้วยาแเช่นนี้คงต้องไปหาหมอเพื่อตรวจดูเสียหน่อย"
ในขณะที่พูดหานโม่ก็หยิบถุงเงินออกมาส่งให้เสี่ยวเยว่หนึ่งถุง
เสี่ยวเยว่รู้ว่าคุณหนูของนางมีแผนการบางอย่าง ดังนั้นจึงไม่เอ่ยสิ่งใดมากทำเพียงรับถุงเงินมาจากมือของหานโม่แล้วออกไปทำตามคำสั่ง
หานโม่รอจนกระทั่งเสี่ยวเยว่เดินจากไปแล้วจึงนั่งลงภายในห้อง นางปลุกโตวโตวที่กำลังหลับอยู่ให้ตื่นขึ้น
โตวโตวที่กำลังนอนอยู่สะลึมสะลือตื่นขึ้นมาและพบว่าเป็หานโม่ที่ปลุก มันจ้องมองหานโม่ด้วยดวงตาสีเหลืองที่ปรือด้วยความมึนงงเล็กน้อยและถามหานโม่ว่า "นายท่าน มีสิ่งใดหรือขอรับ?"
หานโม่มองไปที่โตวโตว นางเอ่ยถามด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่จริงจังขึ้น "โตวโตว เมื่อคืนนี้ตอนที่เ้าไล่ตามคนผู้นั้นไป เ้าถูกจับได้หรือไม่?"
---------------------------------------------------------------
เชิงอรรถ
[1] เทเม็ดถั่วออกมาจากกระบอกไม้ไผ่ หมายถึง พูดตรงๆและชัดเจน
