บทที่ 105 ตำรวจหลินเลี้ยงข้าว
“ทำไมถึงกินได้เหล้าเยอะขนาดนี้?”
เซียวอี้เหม่ยที่ได้กลิ่นเหล้าจากตัวเย่จื่อเฉิน จึงได้ชงชาแบบเข้มให้กับเขา
เย่จื่อเฉินที่นั่งอยู่บนโซฟาเอียงคอไปมา แล้วตอบกลับ
“เพื่อนเพิ่งออกจากโรงพยาบาล ก็เลยไปฉลองด้วยกัน”
ในขณะที่พูด เขาก็เห็นเอกสารที่กองอยู่บนโต๊ะทำงานของเซียวอี้เหม่ย จึงขมวดคิ้วถาม
“ยุ่งอยู่เหรอ?”
“ใช่แล้ว ตอนนี้ร้านของไป๋ต้าไห่อยู่ภายใต้ชื่อเธอแล้วใช่ไหมล่ะ ทรัพย์สินอะไรต่างๆ ในร้านเธอก็ไม่ได้สนใจมันเลยในฐานะที่เป็เ้าของร้าน แต่เธอกลับนิ่งนอนใจจะให้ฉันไม่สนใจได้เหรอ?”
ััถึงความไม่พอใจในน้ำเสียงของเซียวอี้เหม่ย เย่จื่อเฉินจับมือเล็กของเธอเอาไว้พร้อมกับเม้มปากยิ้ม
“เหนื่อยแย่เลย”
“เธอรู้ด้วยเหรอว่าฉันลำบาก?” เซียวอี้เหม่ยมองค้อนเย่จื่อเฉิน จากนั้นเธอจึงเดินไปนั่งลงข้างเขา แล้วขมวดคิ้วพูด “แต่ว่าตอนที่ฉันตรวจดูรายละเอียดทรัพย์สินของไป๋ต้าไห่ ฉันรู้สึกว่ามันมีบางอย่างที่ไม่ค่อยปกติ แต่ก็ไม่รู้ว่าตรงไหนที่มันผิดปกติ”
เื่นี้ทำให้เย่จื่อเฉินรู้สึกแปลกใจอยู่เล็กน้อย
“ไม่ต้องสนใจหรอก ทางฝั่งของไป๋ต้าไห่ต้องมีกับดักรอเราอยู่แน่นอน เราแค่รอให้มันหลุดออกมาเองก็พอแล้ว”
“เธอแน่ใจเหรอ?” เซียวอี้เหม่ยถามด้วยสีหน้าเป็กังวล “ด้านการเงินมันไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ เลยนะ ถ้าปล่อยให้มันเละเทะ ต่อไปมันจะยุ่งยากมาก”
“งั้นเหรอ?”
ด้านการทำธุรกิจนั้น เย่จื่อเฉินไม่เข้าใจอะไรเลย เขาคิดไปคิดมาก่อนจะหยิบเอาโทรศัพท์ออกมาโทรหาเซียวไห่
‘เสี่ยวเย่ ทำไมถึงได้มีเวลาโทรมาหาฉันล่ะ พูดมาเลย มีเื่อะไร’
เสียงร่าเริงในสายทำให้เย่จื่อเฉินอดหน้าแดงไม่ได้ เวลามีเื่อะไรก็โทรหาเซียวไห่ เขาก็รู้สึกเกรงใจอยู่บ้างเหมือนกัน
“พี่ไห่ ที่ผมโทรมาหาพี่เพราะมีเื่จะรบกวนหน่อย”
‘ว่ามา’
“ก่อนหน้านี้ผมได้หุ้นมาจากร้านจิวเวลรี่ของไป๋ต้าไห่มาห้าสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์ แต่ผมคิดว่าทางฝั่งเขาเหมือนจะมีกับดักรอเล่นงานผมอยู่ ผมอยากให้พี่ช่วยเช็คดูให้หน่อย”
‘ไป๋ต้าไห่เหรอ? ได้ เื่นี้เดี๋ยวฉันจัดการเอง’
“รบกวนพี่ไห่ด้วยนะครับ”
‘เกรงใจเกินไปแล้ว’
เมื่อวางสายแล้ว เย่จื่อเฉินจึงเก็บโทรศัพท์ แล้วส่งสายตาบอกให้เซียวอี้เหม่ยสบายใจ ก่อนจะพูดขึ้น
“จัดการได้แล้ว ถ้าเป็พี่ไห่ต้องได้รู้เื่อะไรแน่นอน”
“เด็กอย่างเธอรู้จักคนอยู่ไม่น้อยเลยนี่” เซียวอี้เหม่ยยิ้มออกมา เย่จื่อเฉินเผยรอยยิ้มร้ายออกมาทันที “ผมเด็กเหรอ?”
“หรือไม่เด็กล่ะ?”
เซียวอี้เหม่ยเองก็ทำหน้าล้อเลียน
“หึหึ ดูท่าว่าจะไม่เจอกันนานไปหน่อย คุณก็เลยลืมไปแล้ว งั้นผมก็ต้องทำให้จำได้”
สิ้นเสียง เย่จื่อเฉินก็อุ้มเซียวอี้เหม่ยขึ้นก่อนจะกดลงกับโต๊ะทำงาน ท่ามกลางเสียงร้องอุทานของเซียวอี้เหม่ย
“อย่า ที่นี่มันบริษัทนะ”
“บริษัทแล้วไง ก็เพราะเป็ที่บริษัทนี่แหละถึงยิ่งตื่นเต้น แล้วอีกอย่างถ้าคุณไม่สั่งพวกเขาใครจะกล้าเข้ามา?”
เม้มปากยิ้ม ก่อนที่ริมฝีปากหนาของเย่จื่อเฉินจะกดจูบลงมา
ในตอนที่ออกมาจากบริษัทของเซียวอี้เหม่ยก็ตกดึกแล้ว ทางด้านของไป๋ต้าไห่ก็มีเซียวไห่คอยตรวจสอบ เขาก็ไม่มีอะไรที่จะต้องห่วงอีก
เย่จื่อเฉินเดินทอดน่องไปตามถนน มองดูวิวข้างทางอย่างเหม่อลอย
ทันใดนั้น โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงก็ดังขึ้นมา
“ฮัลโหล”
‘เย่จื่อเฉินใช่ไหม ฉันหลินซีเยว่นะ’
...
ร้านอาหารประจำถิ่นตะวันออกเฉียงเหนือเล็กๆ แห่งหนึ่ง เย่จื่อเฉินกับหลินซีเยว่นั่งอยู่ในห้องเล็กๆ
“คุณตำรวจหลินครับ ดูคุณไม่ค่อยปกติเท่าไรนะ”
เย่จื่อเฉินที่นั่งอยู่บนเก้าอี้กวาดสายตามองหลินซีเยว่
เสื้อเชิ้ตขาว กางเกงยีนสีน้ำเงิน ที่คอสวมสร้อยสีเงิน ปล่อยผมยาวประบ่า แถมยังแต่งหน้าอ่อนๆ อีก
นี่เป็ครั้งแรกที่เขาเห็นตำรวจหลินในลุคนี้ หลังจากที่รู้จักกับเธอมานาน
“ไม่สวยเหรอ?”
หลินซีเยว่กัดริมฝีปากเล็กน้อย เย่จื่อเฉินส่ายหน้า และชื่นชมอย่างจริงใจ
“สวยครับ แต่ผมแค่รู้สึกแปลกๆ”
“มีอะไรแปลกเหรอ”
“ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของเราสองคน…” เย่จื่อเฉินไม่ได้พูดต่อจนจบ ก่อนจะส่ายหน้าแล้วพูดขึ้น “ผมแค่รู้สึกว่าที่คุณชวนผมมากินข้าว แถมยังแต่งตัวแบบนี้มันแปลกไปหน่อย”
หลินซีเยว่มองค้อนเย่จื่อเฉินทันที ก่อนจะพูดขึ้น
“ชวนมากินข้าวแล้วยังจะคิดมากอีก ฉันก็แค่อยากขอบคุณนายที่วันนั้นนายช่วยชีวิตฉันไว้”
“ผมไม่คิดมากแน่นอน แต่ว่าแค่ผมช่วยชีวิตคุณไว้ครั้งเดียว คุณก็เลยเลือกตอบแทนผมที่นี่เหรอ?”
เย่จื่อเฉินเบ้ปาก ผู้หญิงคนนี้งกชะมัด
“ฉันเป็แค่พนักงานรัฐ จะไปมีเงินอะไรเยอะแยะขนาดนั้น”
หลินซีเยว่ขบกัดริมฝีปากพูดอย่างอึดอัดใจ เย่จื่อเฉินมองเธอเล็กน้อย
“...”
“สายตาแบบนี้คืออะไร?”
“...”
“สรุปว่านายจะพูดอะไร!”
“...”
“สรุปว่านายจะพูดไหม!”
หลินซีเยว่ตบโต๊ะ ลูกค้าคนอื่นในร้านต่างหันมามองทางพวกเขา
หลินซีเยว่หน้าแดงก่ำ ขบกัดริมฝีปากต่อว่าเสียงแ่
“นายจะพูดไหม ทำแบบนี้หมายความว่าไง?”
“หมดคำพูดไง ไม่เข้าใจเหรอ?” เย่จื่อเฉินส่งสายตาเหนื่อยใจให้เธอ หลินซีเยว่โมโหขึ้นมาทันที “ทำไมนายถึงหมดคำพูด”
“...”
“ได้ ฉันยอมรับ ว่าที่เลี้ยงข้าวนายที่นี่ ราคามันอาจจะถูกไปหน่อย”
“ไม่หน่อยเลยนะ”
“ได้ สถานที่ที่ฉันเลือกราคามันถูกเกินไป” หลินซีเยว่กัดฟันพูดเสียงห้วน “แต่ฉันก็ช่วยนายไว้ครั้งหนึ่งเหมือนกัน ถ้าวันนั้นฉันไม่รีบไป...”
“ฮ่าฮ่า”
“นายหัวเราะอะไรอีก!”
หลินซีเยว่แทบจะเป็บ้ากับการกระทำของเย่จื่อเฉิน ทำไมแต่ก่อนเธอถึงไม่เห็นนะว่าเขาเป็คนแบบนี้
เย่จื่อเฉินเหลือบมองหลินซีเยว่ที่ใกล้จะคลั่ง ก่อนจะหยิบตะเกียบขึ้นคีบหมูน้ำแดงขึ้นมาหนึ่งชิ้น
“อันดับแรก วันนั้นคุณไม่ได้มาทันเวลา แต่เป็ผู้การหลิวสั่งให้คุณมา”
“...”
“ที่จริง ถ้าไม่ใช่เพราะแฟนคุณ คุณคิดว่าผมจะอยู่ในสภาพนั้นไหม?”
“...”
ครั้งนี้กลายเป็หลินซีเยว่ที่หมดคำพูด เพราะมันเป็จริงอย่างที่เย่จื่อเฉินพูด เธอไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้
โดยเฉพาะการที่จ้าวจื่อิสั่งให้หลิวเฉียงลงมือกับเขา
“ขอโทษ”
หลินซีเยว่ก้มหัวลงต่ำ ในหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
เมื่อได้ยินน้ำเสียงโรยราของอีกฝ่าย เย่จื่อเฉินจึงถอนหายใจ แล้วพูดขึ้น
“พอแล้ว ไม่ต้องขอโทษแล้ว ไม่ใช่ความผิดของคุณที่มีแฟนจิตใจคับแคบแบบนั้น ถ้าจะโทษก็โทษที่ชาตินี้คุณทำกรรม”
“เย่จื่อเฉิน…”
“หืม?”
“ฉันอยากตบนายชะมัด”
ได้ยินนี้คำนี้ เย่จื่อเฉินถึงกับหัวเราะออกมาทันที
“คนอยากตบผมมีเยอะแล้ว คุณยังจะตบผมอีกหรือไง”
อาหารเย็นมื้อนี้จบลงแบบมีปากเสียงกันไปมา เย่จื่อเฉินกับหลินซีเยว่ก็ออกมาจากร้านพร้อมกัน
เมื่อยืนอยู่นอกร้านอาหาร เย่จื่อเฉินก็เลิกคิ้วถาม
“คุณตำรวจหลิน มีอะไรจะสั่งอีกไหมครับ?”
“ไปๆ รีบไปเลย”
อาหารมื้อนี้ ปอดของหลินซีเยว่แทบะเิเพราะเย่จื่อเฉิน
เมื่อเห็นท่าทางตีโพยตีพายของอีกฝ่าย เย่จื่อเฉินก็กระตุกยิ้มมุมปาก แล้วขยิบตาพูดขึ้น
“งั้นก็บ๊ายบายนะครับ กลับไปคืนนี้อย่าไปนอนฝันถึงผมล่ะ ไม่งั้นคุณได้ตกหลุมรักผมแน่นอน”
“ไปเลย!”
เห็นแบบนั้น ถ้าเขายังไม่วิ่งได้โดนต่อยแน่
เย่จื่อเฉินย่นคอ ก่อนจะรีบวิ่งออกไปทันที
จนกระทั่งร่างของเย่จื่อเฉินหายไปจากสายตา…
พรูดดด!
หลินซีเยว่ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความขุ่นมัว หลุดขำออกมาทันที
ยิ้มนั้น งดงามราวกับดอกไม้ไฟ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้