ซ่งอวี้ชะงัก แล้วพูดต่อ "ข้าอยากจะถามคำถามซุนหลานฮวาที่นี่สองสามคำถาม ได้หรือไม่เ้าคะ?"
เฉินซิ่วไฉพยักหน้า ถือว่าเห็นด้วย "ซ่งอวี้เองก็เข้ามาเถอะ"
ซุนหลานฮวาคือสตรีคนแรกที่เข้ามาในศาลบรรพชนในรอบเกือบสิบปี ซ่งอวี้คือคนที่สอง เกือบจะทุกสายตา เวลานี้จับจ้องไปที่ซ่งอวี้
นางถอนหายใจแ่เบา เงยหน้าขึ้นเผชิญกับทุกสายตา แล้วเดินเข้าไปในศาลบรรพชน
ในยุคสมัยปัจจุบัน ซ่งอวี้เคยไปท่องเที่ยวในศาลบรรพชนที่มีชื่อเสียง แต่ว่าภายในศาลบรรพชนมีร่องรอยของอารยธรรมปัจจุบันชัดเจนยิ่งนัก อารยธรรมในประวัติศาสตร์จางหายไปตามกาลเวลา กลายเป็แหล่งท่องเที่ยวอย่างแท้จริง ทว่าศาลบรรพชนที่อยู่ตรงหน้า แม้เพียงแค่มอง ก็ทำให้คนอดไม่ได้ที่จะหยุดหายใจ กลัวว่าจะรบกวนบรรพบุรุษที่อยู่ด้านใน
ซ่งอวี้เดินไปตรงหน้าหลานฮวา แล้วเอ่ยถาม "หลานฮวา เหตุใดเ้าจึงต้องทำลายความบริสุทธิ์ของข้าด้วย?"
ซ่งอวี้ย่อตัวลง มองตาซุนหลานฮวาด้วยแววตานิ่งสงบ "หรือว่า ข้าเคยทำผิดต่อเ้า?"
ซุนหลานฮวามองซ่งอวี้ เห็นสภาพของตนเองสะท้อนในดวงตาของซ่งอวี้ น้ำตานองหน้า เครื่องประทินโฉมเปรอะเปื้อน ขาวเป็ดวงๆ เหลืองเป็ดวงๆ ราวกับหมูรอเชือด นี่คือนางหรือ? ตอนนี้นางอัปลักษณ์ถึงเพียงนี้?
ทว่าเมื่อมองไปทางซ่งอวี้ที่แต่งกายเรียบง่าย ดวงหน้าไร้เครื่องประทินโฉมใดๆ แต่กลับทำให้คนรู้สึกว่านางมีพลังที่ทำให้คนนิ่งสงบ เพียงมองนางเช่นนี้ก็รู้สึกคล้ายกับว่าแช่ตัวอยู่ในบ่อน้ำพุร้อน สบายและผ่อนคลายยิ่งนัก
ไม่จำเป็ต้องเปรียบเทียบ ต่างกันราวปุยเมฆกับดินโคลน แค่ว่า นางเคยคิดว่าตนคือปุยเมฆ ซ่งอวี้คือดินโคลน แต่ความเป็จริง นางต่างหากที่เป็ดินโคลน
"หรือว่าข้าพูดผิดเช่นนั้นหรือ? เ้าคือหญิงแพศยาที่เที่ยวยั่วยวนบุรุษั้แ่แรกแล้ว!” จู่ๆ ซุนหลานฮวาก็ลุกขึ้น แล้วพูดด้วยความร้ายกาจ "เริ่มจากยั่วยวนหวังกุ้ย หลอกเขาให้นำข้าวสารมาให้เ้า หลังจากนั้นเ้าเห็นว่าคุณชายหลี่หล่อเหลาและพูดง่าย จึงยั่วยวนให้คุณชายหลี่แต่งงานกับเ้า! ซ่งอวี้ ข้าไม่ได้พูดผิด เ้าคือหญิงชั้นต่ำ!"
ซ่งอวี้ยืนตัวตรง มองหลานซุนฮวาด้วยแววตาเยือกเย็น "ต่อหน้าผู้าุโ เ้ายังกล้าป้ายสีข้าอีกหรือ?"
ซุนหลานฮวาไม่อาจทนต่อสายตาของซ่งอวี้ได้ อยากจะพุ่งตัวไปทำร้ายนาง ทว่าหลี่เฉิงที่ยืนอยู่ข้างๆ กลับลงมือกะทันหัน เขาเตะไปที่ท้องของซุนหลานฮวา จนนางล้มลงบนพื้น
"เ้าทำอะไร!” ซุนเถี่ยจู้ตวาดหลี่เฉิง แล้วรีบวิ่งไปป้องซุนหลานฮวา
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหัน แม้แต่บรรดาผู้าุโก็คาดไม่ถึง
หลี่เฉิงป้องซ่งอวี้เอาไว้ด้านหลัง เสียงของเขาเยือกเย็นราวกับน้ำแข็งที่เพิ่งออกมาจากถ้ำน้ำแข็ง "ซ่งอวี้เป็ภรรยาของข้า ข้าไม่ยอมให้ผู้ใดทำร้ายนางต่อหน้าข้าเด็ดขาด"
หากไม่ใช่เพราะเขาไหวตัวเร็ว สตรีที่สมควรตายคนนี้คงจะพุ่งตัวไปหาซ่งอวี้แล้ว เพียงแค่เขาคิดว่า ซ่งอวี้ถูกผู้คนรังแกต่อหน้าตน เปลวไฟแห่งความขุ่นเคืองก็เผาไหม้ทันที โมโหจนแทบอยากจะสังหารซุนหลานฮวา
ซ่งอวี้ดึงแขนเสื้อของหลี่เฉิงเบาๆ ตอนที่เขาหันกลับไปมอง นางส่ายหน้าบอก "ช่างเถอะ"
นางเห็นอย่างชัดเจน หลี่เฉิงฟาดเท้าออกไปอย่างไร้ซึ่งความปราณี เตะเต็มแรง กระทั่งตอนนี้ ซุนหลานฮวายังคงนอนอยู่บนพื้น
"เ้าคิดอย่างไรข้าไม่สนใจ ข้าเพียงอยากถามเ้า เ้ามีหลักฐานหรือไม่?" ซ่งอวี้เดินอ้อมหลี่เฉิง เดินไปใกล้ซุนหลานฮวา
ซุนเถี่ยจู้รีบลุกขึ้นแล้วขวางหน้าซ่งอวี้ ซ่งอวี้จึงหยุดลง มองไปที่ซุนหลานฮวาแล้วหัวเราะเยือกเย็น โดยมีซุนเถี่ยจู้กั้นกลาง
ซุนหลานฮวาขดตัวอยู่บนพื้นด้วยความเ็ป นางถึงขั้นพูดไม่ออก
ซุนเถี่ยจู้กัดฟันกรอดแล้วมองไปที่ซ่งอวี้ "หลานฮวาถูกพวกเ้าทำร้ายจนตกอยู่ในสภาพนี้แล้ว เ้าจะให้นางตอบคำถามได้อย่างไร? พวกเ้าตั้งใจ เห็นหลานฮวาของข้าพูดเื่สกปรกโสมมของพวกเ้า จึงกระทำกับนางเช่นนี้!”
ซ่งอวี้เลิกคิ้วขึ้น แล้วพูดเสียงดัง "แม้แต่จักรพรรดิตัดสินคดี ยังต้องให้ความสำคัญกับพยานหลักฐาน ในเมื่อเ้าเป็คนพูดเื่เหล่านี้ เช่นนั้นการที่ข้าถามหาหลักฐานกับเ้า ก็เป็เื่ที่สมควร"
"ถ้อยคำนี้ ข้าไม่ได้แค่พูดกับซุนหลานฮวา แต่ข้าอยากจะบอกชาวบ้านทุกคน พวกท่านอยากจะนินทาว่าร้ายใดๆ ตามอำเภอใจ ข้าไม่ยุ่งเกี่ยว แต่ขอเพียงข้าได้ยิน เช่นนั้นโปรดนำหลักฐานออกมา มิเช่นนั้นจะถือเป็การป้ายสี! ข้าศรัทธาท่านผู้าุโ และเชื่อมั่นในกฎบรรพชน หวังว่าทุกท่านจะคืนความบริสุทธิ์ให้ข้า"
คำพูดของนางรู้รุกและรู้รับ ทั้งยังบอกความคิดของนางอย่างตรงไปตรงมา ขอเพียงพูดจาเหลวไหลปั้นน้ำเป็ตัว เพื่อทำลายความบริสุทธิ์ของนาง เช่นนั้นก็ลงโทษตามกฎบรรพชน โดยไม่ไว้หน้าใคร
แต่ว่า...
"นางแพศยาเ้าจะบีบให้พวกเราตายหรืออย่างไร? ผู้าุโ ข้าไม่ยอม! เพียงแค่คำพูดล้อเล่นของเด็กๆ เท่านั้น ไม่ได้ทำความผิดร้ายแรง เหตุใดต้องลงโทษตามกฎบรรพชนด้วย!” เมื่อชุ่ยจวี๋ได้ยินซ่งอวี้พูดถึงกฎบรรพชน สีหน้าของนางก็ซีดขาว รีบโต้เถียงเสียงดัง
ซ่งอวี้หัวเราะเยือกเย็น ไม่ยอมถอย และโต้กลับ "เช่นนั้นในสายตาของเ้า ความผิดใดคือความผิดร้ายแรง? ต้องรอให้ข้าถูกคำนินทาบีบต้อนจนหมดหนทาง ทำได้เพียงใช้ผ้าแพรขาวผูกคอตายก่อนใช่หรือไม่ จึงจะถือว่าเป็ความผิดมหันต์?"
นางไม่รู้จริงๆ ว่าตระกูลซุนจะหน้าด้านและไร้ยางอายเช่นนี้ พูดเื่ที่บีบให้คนฆ่าตัวตายได้อย่างง่ายดายเช่นนี้
"สตรีมีชีวิตที่ยากลำบากั้แ่โบราณ หวังว่าผู้าุโทุกท่านจะคืนความยุติธรรมให้ข้า ซ่งอวี้ขอขอบคุณ" ซ่งอวี้ไม่ได้สนใจพวกคนที่สติปัญญามีปัญหาอีก นางยกสิทธิ์ในการตัดสินใจให้กับผู้าุโ
ควรจะขอบคุณการร่วมมือของซุนหลานฮวา เพราะถึงอย่างไรหากนางไม่สติแตกแล้วกรีดร้องขึ้นมากะทันหัน และหากไม่มีบิดามารดาของนางที่หวงลูกสาว เกรงว่าเื่ใหญ่เช่นนี้ คงจะจบลงอย่างง่ายดาย
เดิมทีข้อกำหนดของคำนินทาค่อนข้างคลุมเครือ หากซุนหลานฮวายืนยันหนักแน่นว่าตนเพียงพูดเรื่อยเปื่อย ทั้งยังได้ยินมาจากคนอื่น เช่นนั้นแม้ผู้ใหญ่บ้านอยากจะลงโทษนางสถานหนัก ก็ไม่มีเหตุผลในการลงโทษได้
เวลานี้ช่างดียิ่งนัก พวกเขาไม่จำเป็ต้องเปลืองแรง ซุนหลานฮวาสติแตกเมื่อครู่ พูดความในใจออกมาทั้งหมด บรรดาผู้าุโมีตาชั่งในใจ ย่อมรู้ว่าควรจะตัดสินอย่างไร
ซุนหลานฮวาในเวลานี้อาการดีขึ้นเล็กน้อย นางตะเกียกตะกายลุกขึ้นจากพื้น สีหน้าของนางยังคงซีดขาว
"ข้าไม่ผิด! เ้าคือหญิงแพศยาที่ไร้ยางอาย คือหญิงแพศยา! อาซ้อต้าฮวาเคยบอกข้ามานานแล้ว เ้ามักจะเดินวนไปมาที่หน้าประตูบ้านของนาง เพื่อรอให้สามีของอาซ้อต้าฮวามองเห็นเ้า สงสารเ้า หลังจากนั้นก็เอาข้าวสารมาให้เ้า! อีกทั้งอาซ้อต้าฮวาก็เคยเห็นกับตาตนเอง ไม่ว่าจะปฏิเสธอย่างไรก็ไร้ประโยชน์"
เฉินต้าฮวาที่ยืนท่ามกลางฝูงชนตกตะลึง ไม่เข้าใจว่าตนที่ยืนดูเื่สนุกอยู่ดีๆ เหตุใดจึงเข้าไปข้องเกี่ยวกับเื่นี้ได้
เมื่อนางเห็นผู้าุโและผู้ใหญ่บ้านมองมาที่นาง นางก็รีบปฏิเสธทันที "ข้าไม่เคยพูด! ซุนหลานฮวาเ้าอย่าเอาข้าไปเกี่ยวข้อง ข้าไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเื่นี้แม้แต่น้อย ข้าเพียงมาดูเื่ครึกครื้นเท่านั้น" ขณะพูด เฉินต้าฮวาถอยหลัง อยากจะซ่อนเรือนร่างที่ใหญ่โตของนาง
ซุนหลานฮวาได้ยินเช่นนั้นจึงถ่มน้ำลาย แล้วพูดเสียงเหี้ยม "เฉินต้าฮวา! เ้าบอกว่าเ้าไม่เคยพูด เช่นนั้นเ้ากล้าสาบานในศาลบรรพชนหรือไม่? สาบานต่อหน้าบรรพชนว่าเ้าไม่เคยพูด?"
ซุนหลานฮวาคุกเข่า แล้วกล่าวคำสาบาน "ข้าซุนหลานฮวาขอสาบาน ทั้งหมดที่ข้าพูดเมื่อครู่ เฉินต้าฮวาเป็คนเล่าให้ข้าฟัง หากข้าโกหก เช่นนั้นขอให้ข้ามีฝีบนศีรษะ มีหนองขึ้นบนเท้า ไม่อาจตบแต่งออกเรือนชั่วชีวิต!"
เวลานี้เฉินต้าฮวากระวนกระวายยิ่งนัก คำสาบานพูดง่ายเช่นนี้เชียวหรือ? โดยเฉพาะพูดต่อหน้าป้ายบรรพบุรุษ แม้นางจะใจกล้าเพียงใด ก็ไม่กล้าพูดพร่ำเพรื่อ กลัวว่าหากพูดคำใดผิดไป จะถูกบรรพบุรุษจดจำเอาไว้ แล้วได้รับบาปกรรม