ูเี่อันหลับไปจริงๆ แต่หลับไม่ลึกนัก ผ่านไปไม่นานเธอก็รู้สึกว่ารถได้จอดลงจึงลืมตาขึ้นมา พวกเธอกลับมาถึงบ้านแล้ว และลุงสวีกำลังยืนถือรองเท้าคู่หนึ่งรออยู่ด้านนอกรถ
เมื่อเธอเปิดประตูรถออก ลุงสวีรีบวางรองเท้าลงที่พื้น
“คุณผู้หญิงไม่เป็ไรใช่ไหมครับ อ๋อใช่ คุณชายซูกำลังรออยู่ด้านในครับ”
“พี่ชายหนูมาเหรอคะ” เธอยิ้มอย่างดีใจ “หนูสบายดีค่ะ!” เธอรีบใส่รองเท้าแล้ววิ่งเข้าไปในบ้าน โดยไม่สนใจคนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างลู่เป๋าเหยียนแม้แต่น้อย
ลุงสวีถอนหายใจอย่างรู้สึกเศร้าแทนเขา
“ท่าทางในใจคุณผู้หญิง ความสำคัญของคุณยังสู้คุณชายซูไม่ได้นะครับ”
ลู่เป๋าเหยียนลงจากรถมาด้วยสีหน้าเ็า เมื่อเทียบกับูเี่อันแล้ว รายนั้นลงมาด้วยสีหน้าดีใจสุดฤทธิ์
“พี่คะ!” เมื่อูเี่อันเห็นพี่ชายตนก็รีบพุ่งเข้าหา เธอวิ่งเข้าไปกอดเขาในทันที “พี่มาได้ไงคะเนี่ย”
“คุณผังโทรศัพท์มาบอกว่าเราโดนลักพาตัวไป แล้วพี่จะไม่มาหาได้ยังไง” ซูอี้เฉิงมองสำรวจูเี่อันอย่างละเอียด “เจ็บตรงไหนหรือเปล่า สองพี่น้องนั่นทำอะไรเราหรือเปล่า”
“วางใจเถอะค่ะ หนูไม่เป็ไร” ูเี่อันหมุนตัวหนึ่งรอบให้ซูอี้เฉิงดู “สองคนนั้นไม่ได้น่ากลัวสักนิดค่ะ ถ้าเปรียบเป็เสือ ก็แค่เสือกระดาษ!”
ซูอี้เฉิงยิ้มพลางส่ายหน้า “เราทำอะไรพวกเขาไปบ้างเนี่ย”
“ก็แค่มัดพวกเขาไว้เอง...” ูเี่อันพูดอย่างเสียดาย “เพราะใส่กระโปรงเลยทำอะไรได้ไม่ค่อยสะดวก ไม่งั้นหนูจะต่อยสักหมัด”
“เื่ต่อยคนให้พี่จัดการเถอะ เราไม่ต้องยุ่งเลย” ซูอี้เฉิงลูบผมน้องสาวตัวน้อย “นี่ก็ดึกแล้ว รีบขึ้นไปอาบน้ำนอนเถอะ”
แต่ไหนแต่ไรูเี่อันเป็คนที่เชื่อฟังพี่ชายที่สุด จึงรีบขึ้นไปข้างบนอย่างไม่อิดออด ซูอี้เฉิงเห็นเธอขึ้นไปแล้ว ใบหน้าอันอ่อนโยนเมื่อครู่เริ่มแปรเปลี่ยนเป็สีหน้าเคร่งเครียด
ตอนนั้นเอง ลู่เป๋าเหยียนได้เดินเข้ามาพอดี ซูอี้เฉิงจึงพูดว่า “เป๋าเหยียน มาคุยกันหน่อย”
ผู้ชายสองคนนี้คือชายในอุดมคติของผู้หญิงทั้งเมือง ไม่ว่าจะเป็หน้าตาหรือความสามารถที่ไม่เป็รองใคร วิธีการทำงานก็มีจุดคล้ายกันอยู่มาก ลู่เป๋าเหยียนเดาได้ทันทีว่าซูอี้เฉิงจะพูดอะไรจึงตอบกลับไปว่า
“ครั้งนี้เป็อุบัติเหตุ ฉันสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเื่แบบนี้อีก”
ลู่เป๋าเหยียนเป็คนไม่ให้สัญญากับใครง่ายๆ แต่ถ้าสัญญาแล้วเขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อรักษามันไว้ ซูอี้เฉิงรู้ดีจึงยิ้มกลับไป
“ฉันจะเชื่อนายอีกครั้งแล้วกัน ยังมีอีกเื่ ข่าววันพรุ่งนี้นายกับฉันคงไม่มีใครอยากเห็นข่าวที่จะส่งผลเสียกับเจี่ยนอันใช่ไหม”
“นายไม่จำเป็ต้องเตือน” ลู่เป๋าเหยียนใช้สายตาคมดั่งเหยี่ยวของเขามองกลับไป “ฉันรู้ดีว่าต้องทำยังไง”
ซูอี้เฉิงยิ้มอย่างพอใจ “นี่ก็ดึกแล้ว ฉันไม่รบกวนนายแล้วดีกว่า ไว้เจอกัน”
เพราะเป็คนกันเอง ทำให้ลู่เป๋าเหยียนไม่ต้องเดินไปส่งซูอี้เฉิงอย่างมีพิธีรีตองอะไร เขาเดินขึ้นไปที่ห้องหนังสือในทันที แล้วจึงโทรศัพท์หาเสิ่นเยว่ชวน
“เื่ในวันนี้ไม่ใช่เื่เล็กๆ ทุกคนน่าจะรู้กันหมดแล้ว ฉันได้รับโทรศัพท์จากพวกสื่อไม่น้อยเลย” เสิ่นเยว่ชวนถาม “ควรตอบไปว่าอะไรดีล่ะ”
เมื่อลู่เป๋าเหยียนถ่ายทอดคำสั่งออกไป เสิ่นเยว่ชวนก็รู้ในทันทีว่าจะปกป้องูเี่อันได้อย่างไร
“วางใจเถอะ ฉันจะจัดการให้ดีที่สุด” เสิ่นเยว่ชวนนิ่งไปสักพักแล้วจึงพูดว่า “เอ่อ เหมือนว่ารั่วซี...กำลังหานายอยู่นะ เธอดูร้อนใจมากทีเดียว นายจะโทรกลับหาเธอหรือเปล่า”
เมื่อพูดถึงหานรั่วซี ลู่เป๋าเหยียนก็นึกเื่สำคัญได้อีกเื่ “การกระทำของเส้าิเหรินที่จะลักพาตัวทั้งหานรั่วซีและูเี่อันดูไม่ปกติ ไปสืบมาให้ฉันด้วย”
“นั่นสินะ” เสิ่นเยว่ชวนเข้าใจในทันที “เื่การแต่งงานของพวกนายถึงมีข่าวออกไปแล้ว แต่มีแค่คนที่ไปเข้าร่วมงานเท่านั้นถึงรู้ว่าคนที่นายแต่งงานด้วยคือเจี่ยนอัน เป็ไปไม่ได้ที่สองพี่น้องตระกูลเส้าจะรู้ข่าวเร็วขนาดนั้น ความหมายของนายคือ มีคนบงการให้สองคนนั้นทำเื่นี้ หรือว่าจะเป็...หานรั่วซี?”
“ไม่น่าใช่เธอ” ลู่เป๋าเหยียนกล่าว “ไปสืบเื่เฉินเสวียนเสวียน”
เสิ่นเยว่ชวนพยักหน้าตอบรับอยู่อีกฟากของโทรศัพท์
“ดูจากการกระทำของเฉินเสวียนเสวียนแล้ว ก็น่าจะเป็ไปได้ที่เธอจะทำเื่พวกนี้ ดีไม่ดีหานรั่วซีอาจจะไม่รู้เื่เลยด้วยซ้ำ วางใจได้เลย เคสเล็กๆ แบบนี้ พรุ่งนี้ฉันจะให้คำตอบนายแน่นอน”
ไม่ต้องใช้เวลาทั้งคืน แป๊บเดียวเสิ่นเยว่ชวนก็เค้นเอาคำตอบมาจากเส้าิจงได้ คนที่บงการเื่นี้ที่แท้ก็คือเฉินเสวียนเสวียนอย่างที่พวกเขาคาดการณ์ไว้
ทางด้านเฉินเสวียนเสวียน เธอรู้สึกว่าแผนการนี้ช่างยอดเยี่ยม
“ทำแบบนี้ไม่เพียงแต่จะทำใหู้เี่อันรู้ว่า การจะเป็คุณนายลู่มันไม่ง่ายอย่างเดียวนะ แต่ยังพิสูจน์ให้เห็นอีกว่า ในใจลู่เป๋าเหยียนแล้ว เธอต่างหากคือคนที่สำคัญที่สุด” เฉินเสวียนเสวียนยิ้มคิกคักพร้อมจับมือหานรั่วซี
“พาดหัวข่าววันพรุ่งนี้คงเป็ ‘ลู่เป๋าเหยียนเลือกปกป้องหานรั่วซี นาทีวิกฤตพิสูจน์รักแท้!’ ”
“เสวียนเสวียน เธอดูถูกูเี่อันเกินไปแล้ว” หานรั่วซีพูด “เธอลืมไปแล้วเหรอว่า ูเี่อันมีพี่ชายที่เก่งไม่แพ้ลู่เป๋าเหยียนอยู่อีกคน พาดหัวข่าววันพรุ่งนี้ หนังสือพิมพ์ฉบับไหนจะกล้าทำใหู้เี่อันเสียชื่ออย่างนั้น”
คำพูดของหานรั่วซีดูมีเหตุผล “แต่พวกเราก็ไม่ได้ขาดทุนนี่ ในตอนนั้นคนที่ลู่เป๋าเหยียนเลือกก็คือเธอ! เื่นี้ทำให้รู้ว่าเธอสำคัญกว่าูเี่อันเป็ไหนๆ เธอควรจะดีใจไม่ใช่เหรอ”
หานรั่วซีทำได้แค่ยิ้มบาง
ในตอนนั้นคนอื่นอาจจะไม่สังเกตเห็น แต่เธอเห็นมือของูเี่อันขยับเล็กน้อย แถมเห็นได้ชัดว่าลู่เป๋าเหยียนก็สังเกตเห็นเหมือนกัน พอคิดเชื่อมโยงกับการที่เธอทำงานในสถานีตำรวจ เดาได้ไม่ยากว่านั่นคงเป็สัญญาณมือลับอะไรสักอย่าง
การที่ลู่เป๋าเหยียนเลือกจะช่วยเธอในยามคับขัน เป็เพียงแค่ละครตบตา
ถ้าเธอสำคัญจริง ทำไมลู่เป๋าเหยียนไม่อยู่เป็เพื่อนเธอต่อ นี่เขาไม่แม้แต่หันมามองเธอสักนิดก็รีบตามูเี่อันออกไป จนถึงตอนนี้เขาไม่แม้แต่จะโทรมาถามเธอว่า เธอยังกลัวอยู่หรือเปล่า เธอเป็อะไรไหม
ลู่เป๋าเหยียนปกป้องเธอก็จริง แต่เขาออกไปช่วยูเี่อันโดยไม่คิดชีวิต
แล้วแบบนี้ ใครกันแน่ที่สำคัญ?
“เอาเถอะ เธอเลิกรอโทรศัพท์จากลู่เป๋าเหยียนได้แล้ว!” เฉินเสวียนเสวียนผลักหานรั่วซีเบาๆ
“เธอรอเขาั้แ่เธอเริ่มชอบเขา รอเขาหันมาสนใจเธอ รอเขาช่วยดันให้เธอดัง รอเขาชอบเธอ รอเขาสารภาพรักกับเธอ ที่พูดมาเธอรอจนได้มันมาทั้งหมดแล้ว แล้วหลังจากนั้นเป็ยังไง เขาไปแต่งงานกับคนอื่น! ฉันว่าเธอควรจะเป็ฝ่ายรุกซะบ้าง ทิ้งมาดราชินีของตัวเองซะ แล้วเริ่มจากการโทรหาเบอร์ส่วนตัวเขาไปเลยเป็อย่างแรก!” พูดจบเฉินเสวียนเสวียนก็ยัดมือถือใส่มือหานรั่วซี
หานรั่วซียอมรับว่าแต่ก่อนต้องโทษที่เธอมั่นใจในตัวเองเกินไป เธอคิดมาตลอดว่า ในโลกนี้มีเพียงเธอเท่านั้นที่คู่ควรกับลู่เป๋าเหยียน เธอจึงไม่เคยเข้าหาเขาก่อน เธอแค่พยายามสร้างข่าวของเขากับเธอ ให้คนทั้งโลกรู้ว่าพวกเธอเป็คู่รักกัน ทำแบบนี้ผู้หญิงคนอื่นก็จะถอยออกไปเอง
แต่เธอนึกไม่ถึงเลยว่า ในโลกนี้จะมีผู้หญิงอย่างูเี่อัน ที่อยู่ๆ ก็กลายมาเป็ภรรยาของลู่เป๋าเหยียน จนตอนนี้เธอเริ่มกลัวขึ้นมา คิดแล้วเธอจึงกดมือถือโทรไปหาลู่เป๋าเหยียน