กระทั่งกลับถึงจวน สามพ่อลูกสกุลเฉินยังไม่กล้าเชื่อในสิ่งที่พวกเขาได้ยินมา
ทว่ายังคงแจ้งข่าวภายในข้ามคืน ให้คนหนุ่มแข็งแรงทั้งหมู่บ้านเดินทางขึ้นเขาในยามเหม่าของวันพรุ่ง โดยนัดรวมตัวกันที่ลานตากข้าวภายในหมู่บ้าน
......
หลังจากส่งพวกผู้ใหญ่บ้านเฉินกลับไป มารดาสกุลต้วนทอดมองเคอโยวหรานด้วยความปวดใจพลางเอ่ยว่า “ดูเถิด แม่ช่างสะเพร่านัก ลืมทำเสื้อนวมบุฝ้ายให้เ้าสักตัวเสียแล้ว
เ้าสวมเสื้อของซานหลางแล้วดูค่อนข้างใหญ่เกินไปจริงๆ วันพรุ่งคงต้องทนใส่อีกสักวัน แม่จะพาพี่สะใภ้ทั้งสองของเ้าเร่งตัดให้เ้าสักชุด”
หัวใจของเคอโยวหรานถึงกับกระตุก ลอบคิดในใจว่า : ไม่เอา วันนี้สวมเสื้อของซานหลางก็เพื่ออำพรางรูปร่างที่เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน หากท่านตัดชุดให้ข้า เช่นนั้นคงมิอาจปิดบังเื่ที่รูปร่างเปลี่ยนไปได้แล้วกระมัง?
แต่ภายนอกกลับเอ่ยด้วยสีหน้าเหนียมอายว่า “ขอบพระคุณท่านแม่ที่เอาใจใส่ ทว่าให้ข้าเป็คนเย็บชุดของข้ากับซานหลางเองเถิดเ้าค่ะ พี่สะใภ้ทั้งสองยังต้องตัดเย็บเสื้อผ้าให้พี่ใหญ่กับพี่รอง คงไม่รบกวนท่านแม่กับพี่สะใภ้ทั้งสองแล้วเ้าค่ะ”
มารดาสกุลต้วนยกยิ้มปลื้มใจ “เอาเถิด เช่นนั้นก็เก็บผ้าและรีบกลับห้องไปพักผ่อนสักหน่อย แม่ยังรออุ้มหลานในเร็ววัน
กล่าวไปแล้วเ้าก็ผอมเกินไปอยู่บ้าง ระยะนี้จำต้องบำรุงให้ดีจึงจะให้กำเนิดบุตรง่าย”
เคอโยวหรานแทบจะหงายหลัง อ้าปากหาวพลางลากต้วนเหลยถิงจากไปราวกับ้าหลบหนีมารดาสกุลต้วน
ให้ตายเถิด คนโบราณนอกจากมีลูกก็ไม่มีเื่อื่นให้ทำแล้วหรืออย่างไร?
ร่างกายเล็กๆ นี้ของนางเพิ่งจะอายุสิบหกถึงสิบเจ็ดปี ไม่เหมาะกับการมีบุตรอย่างแท้จริง
อีกประการหนึ่ง บุรุษที่นี่มีสามภรรยาสี่อนุ ตนเป็หญิงใหญ่ขึ้นคานที่เติบโตมาในระบอบสามีภรรยาเดียว มิอาจยอมรับการที่ต้องแบ่งปันบุรุษคนเดียวกันกับสตรีอื่นได้จริงๆ
ทั้งยังมิได้เตรียมพร้อมจะเข้าหอกับต้วนเหลยถิงเลยแม้แต่นิด จะไปมีลูกได้อย่างไร?
เคอโยวหรานคิดใคร่ครวญพลางกลับเข้าห้องพร้อมกับต้วนเหลยถิง ก่อนที่หนึ่งเสียงปิดประตูดัง “ปัง” จะดึงสติของนางให้กลับมาทันใด
ยามเห็นเตียงที่มีเพียงหลังเดียว หัวใจของนางก็ถึงกับสั่นไหวขึ้นมาเสียแล้ว
เมื่อนึกถึงเื่ที่เกิดขึ้นระหว่างนางกับต้วนเหลยถิงภายในถ้ำลึกลับ ดวงหน้าเล็กพลันถูกย้อมด้วยสีแดงจนกลายเป็มะเขือเทศ
ครั้นคิดว่าคืนนี้คนทั้งสองต้องนอนบนเตียงหลังเดียวกัน รวมถึงสีหน้าสงบนิ่งของต้วนเหลยถิงยามมารดาสกุลต้วนเอ่ยถึงเื่มีบุตรเมื่อครู่
เคอโยวหรานจึงเอ่ยเสียงอ่อนว่า “ซานหลาง ท่านเข้านอนก่อนเถิด ข้าจะไปนำผ้ามาตัดเย็บชุดที่ต้องใส่ในวันพรุ่ง”
กล่าวจบก็หันหลังหมายจะวิ่งหนีไป
ต้วนเหลยถิงพลันเอื้อมมือคว้าคอเสื้อของนางเอาไว้แล้วดึงตัวคนให้กลับมา ตามด้วยพลิกฝ่ามือดันนางลงบนบานประตู
ชายหนุ่มก้มหน้าลงมองเคอโยวหราน เอ่ยอย่างเอ้อระเหยว่า “เ้ากลัวข้าหรือ?”
เมื่ออยู่ต่อหน้าบุรุษแข็งแรงกำยำผู้นี้ เคอโยวหรานเป็เพียงสตรีอ่อนแอคนหนึ่ง
หากเขา้าข่มเหงตน เช่นนั้นนางคงไม่มีโอกาสแม้แต่จะต่อต้าน ทั้งยังไม่มีเหตุผลอื่นใดให้อ้างอีกด้วย
ถึงอย่างไรต้วนเหลยถิงกับนางก็เป็สามีภรรยากันตามกฎหมาย สามี้าร่วมหอกับภรรยานับเป็เื่ปกติมิใช่หรือ?
เคอโยวหรานไม่อยากยัดเยียดแิเื่สามีภรรยาเดียวให้ต้วนเหลยถิง ของบางอย่างถูกสลักไว้ในกระดูกมาั้แ่ยังเด็ก มิใช่สิ่งที่วาจาเพียงไม่กี่ประโยคของนางจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้
ยิ่งไปกว่านั้น แม้จะเป็โลกเดิมของนาง บุรุษก็ยังคงมีเมียน้อยกันมิใช่หรือ?
หากบุรุษผู้หนึ่งแยแสสตรีคนหนึ่ง สตรีผู้นั้นไม่จำเป็ต้องเอ่ยสิ่งใด บุรุษก็ยังจะรักมั่นเพียงหนึ่งเดียว
ทว่าหากบุรุษไม่แยแสสตรี เช่นนั้นต่อให้สตรีผู้นั้นพร่ำเอ่ยทุกวันก็ไร้ประโยชน์
ครั้นเห็นเคอโยวหรานไม่เอ่ยสิ่งใด สายตาเหม่อลอย ความคิดล่องลอยไปยังขอบฟ้าไกล
สีหน้าของต้วนเหลยถิงพลันฉายแววอึมครึม จัดการประกบปิดริมฝีปากแดงระเรื่อที่ได้ชิมคราหนึ่งเป็อันต้องติดใจ ทั้งยังแทรกจุมพิตลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิมตามระดับอารมณ์ของตน
มือใหญ่ปลดเสื้อคลุมตัวใหญ่ของเคอโยวหรานอย่างคล่องแคล่วก่อนจะสอดมือเข้าไปข้างใน
ััเย็นเยียบบนกายทำเอาเคอโยวหรานสะดุ้งโหยง ไม่รู้ว่าเอาเรี่ยวแรงมาจากที่ใด นางพลันผลักต้วนเหลยถิงออกห่างอย่างกะทันหัน
หญิงสาวดึงเสื้อมาคลุมตามเดิมให้เรียบร้อย หอบหายใจหนักพลางลนลานเอ่ยว่า “ขะ...ข้า...ข้ายังไม่พร้อม”
กล่าวจบก็เปิดประตูวิ่งออกไปโดยไม่แม้แต่จะหันหลังกลับ
ต้วนเหลยถิงหวนนึกถึงความนุ่มละมุนภายในมือเมื่อครู่แล้วขมวดคิ้วด้วยความคับข้องใจอยู่บ้าง
ตนใจร้อนเกินไปเช่นนั้นหรือ? แต่พวกเราเป็สามีภรรยากันแล้วนี่นา!
พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ใหญ่และพี่รองกับพี่สะใภ้รองยังไม่เคยเห็นหน้ากันก่อนแต่งงานเลยด้วยซ้ำ แต่กลับได้ร่วมหอกันั้แ่คืนแรก!
ตามหลักแล้วควรร่วมหอกันในคืนวันแต่งงาน เช้าวันถัดมายามยกน้ำชา ท่านแม่ยังต้องตรวจดูผ้าแดง
ก่อนหน้านี้ภายในจวนมีเื่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ทุกคนจึงพอจะเข้าใจได้
แต่หากวันนี้ยังไม่ร่วมหอ มิเท่ากับเป็การเผยจุดอ่อน ทำให้โยวหรานถูกผู้อื่นถือสาหาความหรอกหรือ?
สุดท้ายหากเื่นี้แพร่งพรายออกไป เคอโยวหรานจะยังมีหน้าพบผู้คนได้อย่างไร?
ต้วนเหลยถิงหยิบชุดสำหรับผลัดเปลี่ยนเดินไปทางห้องอาบน้ำด้วยความกังวลใจ...
เคอโยวหรานถือผ้าเข้าไปในห้องครัว จัดการลงกลอนประตู ก่อเตาไฟแล้วป้อนนมลูกหมาป่า
นางนำจักรเย็บผ้าและจักรเย็บตะเข็บออกมาจากเขตอุปกรณ์เย็บปักถักร้อย โชคดีที่สิ่งของภายในซูเปอร์มาร์เก็ตไม่ต้องใช้ไฟฟ้า มิเช่นนั้นตนคงมิอาจใช้การได้
ทั้งยังต้องขอบคุณที่เมื่อก่อนตนเคยทำงานในโรงงานทอผ้าเป็เวลาสามสี่ปีเพื่อชิงทุนและค่าครองชีพ ยามนี้จึงได้นำมาใช้ประโยชน์พอดี
หลังจากใส่ด้ายและเพิ่งจะนั่งลงเหยียบจักรเย็บผ้า เสียง “ตักๆ” พลันดังชัดเจนเป็พิเศษในค่ำคืนอันเงียบสงัดเช่นนี้
เคอโยวหรานสะดุ้งโหยง รีบหยุดชะงักในทันใด พลันเปลี่ยนความคิดและเก็บผ้ากับจักรเย็บผ้ากลับเข้าไปในมิติวิเศษ
ขณะมองลูกหมาป่าที่กำลังหลับสนิทสลับกับมองเปลงเพลิงในเตาที่พลิ้วไหวอย่างหมดอาลัยตายอยาก นางก็คิดในใจว่า
หากสามารถเข้าไปในมิติได้ก็คงดี คืนนี้จะได้ตัดเย็บเสื้อผ้าอยู่ในนั้นจนเสร็จ ไม่ต้องเป็กังวลว่าคนในเรือนจะมาเห็นนางใช้จักรเย็บผ้าหรือไม่
หากให้นางเย็บทีละเข็มตอนนี้ อย่าว่าแต่รอยเย็บไม่ประณีต เกรงว่านางอาจไม่มีแม้กระทั่งความอดทนในการทำเช่นนั้น
เห็นทีวันพรุ่งคงต้องกลับถ้ำไปเย็บเสื้อผ้าเสียแล้ว ฉวยโอกาสพาลูกหมาป่าไปให้บิดาของพวกมันได้เห็นหน้าสักหน่อย
ขณะกำลังใคร่ครวญ ไม่รู้ว่าต้วนเหลยถิงทำเยี่ยงไร กลอนที่ลงเอาไว้เสียดิบดีจึงถูกเปิดออกอย่างฉับพลัน
ร่างสูงใหญ่โน้มกายลงดับไฟในเตา จัดการอุ้มเคอโยวหรานและถือตะกร้าลูกหมาป่าขึ้นมาด้วยท่าทางผ่อนคลายยิ่งนัก จากนั้นสาวเท้ากลับห้องอย่างว่องไวราวกับดาวตก
เคอโยวหรานโอบรอบลำคอของบุรุษเอาไว้โดยสัญชาตญาณ หัวใจแทบจะกระโจนออกมาจากลำคอ ลอบคิดว่า
จบกัน จบสิ้นแล้ว ครานี้มิอาจรักษาร่างกายเอาไว้ได้ เห็นทีคงต้องมอบกายของตนให้บุรุษผู้นี้เสียแล้ว
ช่างเถิด ไม่ว่าช้าหรือเร็วก็ต้องร่วมหลับนอนกันอยู่ดี อย่างน้อยก็ยังมีหน้าตาอันหล่อเหลาของบุรุษผู้นี้ หากภายหน้าเขารับอนุ ตนค่อยเก็บข้าวของจากไปเป็พอ
ขณะกำลังคิดเื่เหลวไหล เคอโยวหรานพลันถูกถอดเสื้อตัวนอกออก สวมเพียงเสื้อทับในก่อนจะถูกยัดเข้าไปในผ้าห่ม
ต้วนเหลยถิงยังช่วยนางเช็ดล้างร่องรอยการแปลงโฉมบนใบหน้าจนสะอาดหมดจด
ร่างกายของเคอโยวหรานแข็งทื่อพลางปิดเปลือกตา กระทั่งลมหายใจก็ยังติดขัด
ทันใดนั้นพลันมีความอบอุ่นของร่างกำยำเพิ่มเข้ามาในผ้าห่ม ท่อนแขนยาวโอบเคอโยวหรานสู่อ้อมอก ตามด้วยข้างใบหูมีเสียงอ่อนโยนของบุรุษดังขึ้น
“วางใจเถิด ก่อนที่เ้าจะพร้อม ข้าจะไม่แตะต้องเ้า ผ่อนคลายสักหน่อย เข้านอนเถิด”
หลังสิ้นคำ บรรยากาศก็เงียบสงัดเป็เวลานาน จากนั้นมีเสียงลมหายใจดังสม่ำเสมอของบุรุษดังขึ้น
ยามนี้เคอโยวหรานจึงผ่อนคลายร่างกายลง นางลืมดวงตากลมโตขึ้น น่าเสียดายที่ภายในห้องมืดสนิท เห็นสิ่งใดไม่ชัดเลยสักนิด
ความง่วงงุนค่อยๆ เข้าจู่โจม นางอิงแอบอยู่ในอ้อมแขนแกร่งของบุรุษก่อนจะหลับผล็อยไป
ต้วนเหลยถิงลืมตาขึ้น กระชับกอดร่างอรชรอ้อนแอ้นของสตรีในอ้อมอก หลังประทับจูบลงบนเส้นผมของนางก็ถอนหายใจเอ่ยอย่างจนปัญญา “ช่างเป็จอมยั่วสวาทที่รู้จักทรมานผู้คนเสียจริง!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้