หลงเทียนอวี้และหลินจงอวี้ยืนอยู่ด้านหน้ากระโจมสายตาจ้องมองพวกหญิงสาวที่กำลังเข้าๆ ออกๆ กระโจม
เวลาเพียงไม่นานภายในกระโจมเกิดเสียงร้องดังลั่น
“เหตุใดถึงเป็แบบนี้!”
“พี่สาว ฮือๆ พี่สาวที่น่าสงสารของข้า”
ยังดีที่ไร้ซึ่งสุ้มเสียงของหลินเมิ้งหยาชายทั้งสองสบตากัน พยายามสะกดกั้นความร้อนใจ
หลังจากผ่าน่เวลาเร่งด่วนไปแล้วหลินเมิ้งหยาเดินออกจากกระโจม ใบหน้าแข็งทื่อ
“เป็อย่างไรบ้างพี่สาวเหตุใดสีหน้าท่าน?”
หลินจงอวี้พุ่งตัวเข้าไปก่อนเป็คนแรกมือเล็กกระตุกแขนเสื้อของหลินเมิ้งหยา เอ่ยถามอย่างระมัดระวัง
“ข้าไม่เป็ไรเพียงแค่....เพียงแค่คิดไม่ถึงเลยว่าไอ้พวกสารเลวนั่นจะทำเช่นนั้นกับพี่เยว่ถิงพวกมันทำเื่เลวร้ายมาก”
ในโลกยุคปัจจุบันนางที่เป็นักศึกษาแพทย์เคยเห็นความเป็ความตายมาอย่างมากมาย
แต่นางที่ได้เห็นร่างกายส่วนล่างของเยว่ถิงแล้วถึงกับชะงักงัน
คนสารเลวพวกนั้น แค่ข่มขืนไม่พอแต่ยัง....
พี่เยว่ถิงผู้น่าสงสารนางพยายามอดทนอดกลั้นมาตลอด หากมิใช่เพราะาแได้รับาเ็จนติดเชื้อบางทีนางก็อาจจะอดทนต่อไป
หลินเมิ้งหยาโกรธจนตัวสั่นเทิ้ม หากมิใช่เพราะป๋ายจีฉุดรั้งร่างของนางเอาไว้เกรงว่านางคงไปฆ่าคนเ่าั้แล้ว
“พี่สาวอย่าปล่อยให้ความโกรธทำร้ายร่างกายของท่านเลย ข้าจะสั่งให้คนไปฆ่าพวกมันเอง”
หลินจงอวี้มองพี่สาวของตนเองด้วยความสงสารมือเล็กกุมมือของพี่สาวแน่น ก่อนจะคลายออกเล็กน้อย
เมื่อได้เห็นมือสีขาวกำแน่นจนกลายเป็สีแดงหัวใจของหลินจงอวี้เ็ปเหลือเกิน
“พวกมันตายไปแล้ว”
หลงเทียนอวี้หยุดยืนตรงหน้าหลินเมิ้งหยาแววตาเ็าดุจน้ำแข็ง
คนกลุ่มนั้นถูกเขาจัดการไปนานแล้วพอมาลองคิดดู บางทีเขาอาจปล่อยให้คนเ่าั้ตายง่ายเกินไป
เพลิงพิโรธฉายชัดในดวงตาของหลินเมิ้งหยาร่างบอบบางเปี่ยมไปด้วยความเกลียดชัง
“ใช่แล้ว พวกมันตายไปแล้วแต่ตัวการยังมีชีวิตอยู่ อีกทั้งยังใช้ชีวิตอยู่อย่างสุขสบายเสียด้วย”
น้ำเสียงเจือไว้ซึ่งความเ็าสายตาเ็าของหลินเมิ้งหยาพุ่งไปทางกระโจมของไท่จื่อซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกล
โชคดีที่กระโจมรอบๆ บริเวณถูกย้ายไปแล้ว
อีกทั้งกระโจมซึ่งอยู่รอบๆกระโจมของนางล้วนเป็กระโจมคนสนิทของหลงเทียนอวี้ แม้หลินเมิ้งหยาจะพูดอะไรไปพวกเขาก็มิได้หันมาให้ความสนใจ
“ใจเย็นก่อนเถิดพวกเราจะต้องแก้แค้นให้เยว่ถิงอย่างแน่นอน”
หลงเทียนอวี้ยืนขวางหน้าหลินเมิ้งหยาเขากลัวว่านางจะกระโจนออกไปทำเื่ไม่เหมาะไม่ควรตอนนี้
“วางใจเถิด ข้ารู้ดี”
นางสะกดกลั้นความโกรธและเ็าเอาไว้ในหัวใจ
หากทำอะไรไปตอนนี้รังแต่จะเสียเื่ยิ่งไปกว่านั้น นางจะคิดบัญชีทั้งเก่าและใหม่ในคราวเดียว
นาง...จะเดินหมากครั้งใหญ่
ไม่ไกล อยู่ๆเสียงร้องโวยวายดังขึ้น
สายตาของทั้งสามถูกเสียงนั้นดึงดูดไปในทันทีครู่ต่อมา องครักษ์วิ่งหน้าตั้งเข้ามาหาพวกเขา
“ทูลท่านอ๋องและพระชายาองค์ชายรองแห่งซีฟานถูกฆ่าตายในกระโจมพ่ะย่ะค่ะ!”
“อะไรนะ!?”
หลงเทียนอวี้และหลินเมิ้งหยาสบตากันสมองประมวลผลอย่างรวดเร็ว
เหตุใดเขาจึงตายง่ายดายเช่นนี้?
“ข้ารู้แล้ว เ้าออกไปก่อน”
หลงเทียนอวี้เอ่ยกับองครักษ์พาหลินเมิ้งหยาและหลินจงอวี้เดินมาที่กระโจมของหลงชิงหาน
คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะกำลังโอบกอดสาวงามและเล่นสนุกกันอยู่เมื่อเห็นทั้งสามเดินเข้ามา สีหน้าพลันคล้ำลง
“พี่สาม พี่สะใภ้แล้วก็เ้าขวดน้ำมันนั่นด้วย นี่มันกระโจมของข้านะ!”
สาวงามที่เสื้อผ้ากำลังหลุดลุ่ยไม่เรียบร้อยรีบซุกตัวเข้าหาอ้อมกอดของหลงชิงหานแต่ถึงแม้เขาจะเอ่ยเช่นนี้ ทว่ามือกลับตบบ่าของสาวงามเพื่อให้นางกลับออกไปก่อน
“ชิ ไอ้คนเ้าชู้ประตูดิน”
หลินจงอวี้ไม่เคยชอบองค์ชายจอมกำมะลอผู้นี้เป็ทุนเดิมดังนั้นจึงเอ่ยจิกกัดเขาออกมาโดยไร้ซึ่งความเกรงใจ
ใบหน้าของหลงชิงหานเคร่งขรึมลงไปดีจริง แม้แต่เ้าเด็กน้อยที่เดินตามพี่สะใภ้สามต้อย ๆก็มองไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาแล้ว
“เพื่อเห็นแก่หน้าพี่สะใภ้สามข้าจะไม่เอาเื่เ้า พูดมาเถิด ตกลงเกิดเื่อะไรขึ้นกันแน่?”
หลงชิงหานโบกมือ มิได้แสดงท่าทีอึดอัดเพราะเพิ่งถูกขัดความสุขเลยแม้แต่น้อย
ราวกับว่าเขาชินชากับการโดนสายตาดูถูกจ้องมองแล้ว
คิ้วของหลงเทียนอวี้ขมวดเข้าหากัน
“หูลู่หนานตายแล้วเพิ่งเกิดเื่เมื่อครู่นี้”
“อะไรนะ? เป็ไปได้อย่างไร! เมื่อเช้าข้ายังส่งคนไปแอบฟังหมอหลวงเองว่าอาการของเขาดีขึ้นแล้วแล้วเหตุใดตอนนี้จึงตายไปแล้วเล่า?”
หลงชิงหานลุกขึ้นจากตั่งท่าทางไม่เหมือนเชื้อพระวงศ์เลยแม้แต่น้อย
“ถึงอย่างนั้นตอนนี้เขาก็ตายไปแล้วเกรงว่าฮ่องเต้ิจะต้องเอาเื่ถึงที่สุดอย่างแน่นอน”
คิ้วของหลินเมิ้งหยาขมวดเข้าหากันแน่นวิเคราะห์อย่างใจเย็น
ตอนนี้นางอยากรู้สถานการณ์ในเวลานี้หากหูลู่หนานตายเพราะทนพิษาแไม่ไหวก็คงไม่เป็ไร
แต่ถ้าหากถูกฆ่าตายในกระโจมแล้วละก็คราวนี้สายตาของทุกคนคงพุ่งเป้ามาที่นางอีกครั้ง
“ท่านอ๋อง เราคงเก็บนักฆ่าของเถาฮวาอู๋เอาไว้ไม่ได้แล้ว”
ครุ่นคิดหลินเมิ้งหยารีบเอ่ยตัดสินใจ
ตอนแรกยังคิดอยากปล่อยสายเบ็ดเอาไว้ก่อนทว่าตอนนี้คงต้องล้มเลิกความคิดนั้นเสียแล้ว
“ได้ข้าจะแสร้งทำเหมือนว่าพวกนางถูกฆ่าตายระหว่างหลบหนี เ้าต้องระวังตัวด้วย”
หลงเทียนอวี้เดินออกไปนอกกระโจมตอนนี้เขาหวังเพียงว่าแผนการจะสำเร็จ
คิ้วของหลินเมิ้งหยายิ่งขมวดเข้าหากันแน่นตกลงใครเป็คนส่งคนไปฆ่าหูลู่หนาน?
เสียงร้องโหวกเหวกโวยวายยังดังขึ้นอย่างต่อเนื่องการตายของหูลู่หนานสร้างความหวาดผวาให้กับทุกคน
ตอนนี้ยังจับตัวคนร้ายไม่ได้แม้จะมีคนบอกว่าเป็ฝีมือของชายาอวี้ที่ทำขึ้นเพื่อแก้แค้นก็ตาม
แต่นั่นก็เป็เพียงการคาดเดาเท่านั้นหากเป็คนนอกทำแล้วล่ะก็ เช่นนั้นหัวของพวกเขาคงหลุดออกจากบ่า
หลินเมิ้งหยาสวมใส่เสื้อคลุมสีดำ
เสื้อคลุมตัวยาวบังร่างของนางจนมิดเคลื่อนไหวภายใต้ความมืด หากไม่สังเกตให้ดีจะไม่มีทางมองเห็นเลยแม้แต่น้อย
“ตามข้ามา”
ภายในความมืด อยู่ๆแขนสองข้าเข้ามาจับข้อมือของหลินเมิ้งหยาเอาไว้
เ้าของมือทั้งสองข้างรีบพาหลินเมิ้งหยาผลุบหายไปในความมืดไม่นานร่างของทั้งคู่ก็หายไป
ศพของหูลู่หนานถูกตั้งไว้ที่กลางเขา
ตามธรรมเนียมของซีฟานหากมีคนตายจะต้องทำการเผาศพ
ดังนั้นไท่จื่อจึงรับสั่งให้หาพื้นที่ว่างบริเวณกลางเขาเพื่อทำพิธีเอ่ยคำอำลาหูลู่หนานเป็ครั้งสุดท้าย
ฮ่องเต้ิและหูเทียนเป่ยรวมถึงองค์หญิงิเยว่ล้วนเดินทางมาที่กลางเขา
ไม่นานร่างของหลินเมิ้งหยาและหลงเทียนอวี้ปรากฏขึ้นในบริเวณนั้น
“พวกเ้ามาแล้วหรือ”
อยู่ๆร่างสูงยาวพลันปรากฏขวางหน้าทั้งสองเอาไว้
อาศัยแสงจันทร์จ้องมองก่อนจะรู้ว่าเขาคือหูเทียนเป่ย
“ข้าเป็คนขอความช่วยเหลือจากอาเป่ยเองไม่เป็ไรหรอก อย่าได้ใไป”
หลงเทียนอวี้ตบบ่าของหลินเมิ้งหยาเพื่อทำให้ร่างกายซึ่งกำลังแข็งทื่อของนางผ่อนคลายลง
“ใช่ข้าพูดกับเสด็จพ่อเรียบร้อยแล้ว ท่านเอ่ยว่าจะให้โอกาสพวกท่านหนึ่งคนเข้าไปพบ”
ทั้งที่น้องชายของตนเองตายแล้วทว่าหูเทียนเป่ยกลับไร้ซึ่งความเสียใจ
ยังคงส่งยิ้มเป็ปกติมาให้ไร้ร่องรอยของความเ็ป
“ได้ ขอบพระทัยเพคะ”
หลินเมิ้งหยาพยักหน้าลงทั้งสองเดินตามหลังหูเทียนเป่ยเข้าไปยังตำแหน่งตรงกลางซึ่งเป็กระโจมของฮ่องเต้ิ
“เสด็จพ่อเอ่ยว่าจะพบพวกท่านเพียงคนเดียวเท่านั้นใครจะเข้าไป?”
หลงเทียนอวี้ไม่อยากปล่อยให้หลินเมิ้งหยาเจอเข้ากับอันตรายใดๆ หากฮ่องเต้ิโกรธเกรี้ยวขึ้นมาและทำร้ายนางจะทำอย่างไร?
“หม่อมฉันไปเอง”
แต่คิดไม่ถึงเลยว่านางจะชิงก้าวออกไปก่อน
“ชายาอวี้ใจกล้ายิ่งนักเช่นนั้นเชิญ”
หูเทียนเป่ยคิดไม่ถึงเลยว่าหญิงสาวร่างเล็กผู้นี้จะใจกล้าเยี่ยงชายชาตรี
แววตาเผยให้เห็นร่องรอยของความชื่นชมมือผายออกเชื้อเชิญ
ร่างเล็กบอบบางในชุดสีดำเยื้องย่างเข้าไปในกระโจมของฮ่องเต้ิดวงตาของหลงเทียนอวี้เผยให้เห็นความกังวล
“ไม่เป็ไรหรอกข้าว่าชายาของท่านมิใช่คนธรรมดาทั่วไป ไปเถิด ไปดื่มเหล้าที่กระโจมของข้ากันจะได้ทำให้ร่างกายอบอุ่น”
หูเทียนเป่ยหัวเราะแล้วพาหลงเทียนอวี้ออกไปขณะเดียวกัน ร่างของหลินเมิ้งหยาพลันหายเข้าไปในกระโจม
เพียงแหวกผ้าม่านออกกลิ่นเหล้าพวยพุ่งเข้ามาเตะจมูก
คิดไม่ถึงเลยว่าหลังจากลูกชายของตนเองตายไปแล้วฮ่องเต้ิจะยังมีกะจิตกะใจดื่มเหล้า
หลินเมิ้งหยายิ่งมั่นใจในทฤษฎีของตนเอง
กระโจมของฮ่องเต้ิหาได้มีหญิงสาวคอยปรนนิบัติไม่จะมีก็แต่เหล่าชายหนุ่มร่างกำยำเท่านั้น
หนังเสือขนาดใหญ่ถูกวางพาดบนโต๊ะตัวยาว
ฮ่องเต้ิสวมใส่ชุดสีดำนั่งอยู่บนเก้าอี้ มือที่ถือเหล้ายกแก้วขึ้นกระดก
“เอ๋? เหตุใดจึงเป็หญิงสาวร่างเล็กเช่นเ้าเล่า?ฟู่จวินของเ้าอยู่ที่ใด?”
ประหลาดใจเล็กน้อยเหตุใดจึงเป็หลินเมิ้งหยาจึงมาหาพบเขา
สายตาที่กำลังจ้องมองทางหลินเมิ้งหยาเผยให้เห็นร่องรอยของการดูถูก
“คิดไม่ถึงเลยว่าผู้ชายของต้าจิ้นจะไร้ซึ่งความกล้าเสียดายคำชมของอาเป่ยเสียจริง”
หลินเมิ้งหยากลับกระตุกยิ้มก่อนจะถอดผ้าคลุมสีดำออก
นั่งลงยังตำแหน่งของแขกมือเล็กจับขวดเหล้ายกขึ้นดื่ม “อึก อึก”
“เหล้าชั้นเลิศ”
ใช้แขนเสื้อเช็ดมุมปากของตนเองใบหน้าเรียวเล็กรูปไข่กลายเป็สีแดง
ฮ่องเต้ิคิดไม่ถึงเลยว่าหญิงสาวร่างเล็กบอบบางจะกล้าหาญชาญชัยเช่นนี้
นางครุ่นคิด นึกถึงชาติกำเนิดถือขวดเหล้าพลางหัวเราะเสียงดังลั่น
“ไม่แปลกใจเลยที่เ้าเป็ลูกสาวของมู่จือพ่อเป็เสือ ลูกจึงไม่ใช่หมา เ้าเหมือนกับพี่ชายของเ้ามาก”
หลินเมิ้งหยาหยักยิ้มดีใจก่อนจะยกขวดเหล้าพลางเอ่ย
“ท่านพ่อเองก็เคยพูดเอาไว้ว่าบนโลกใบนี้หากเขาเป็วีรบุรุษ ท่านเองก็เป็จอมวายร้าย!”
