เย่เฟิงเห็นท่าทางกระวนกระวายของเธอ จึงนั่งลงอีกครั้งพลางยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “ยังมีเื่อะไรอีกเหรอ”
หลินซือฉิงแอบบ่นเย่เฟิงในใจเป็ร้อยรอบ ถ้าเป็คนอื่นมีโอกาสได้นั่งคุยกับเธอแล้วล่ะก็ ต้องรีบเร่งมาอย่างเบิกบานเลยทีเดียว แต่เย่เฟิงคนนี้ไม่ยอมแม้แต่จะคุย ตั้งท่าลุกจากไปลูกเดียว
“เมื่อคืนอาเหลยปกป้องพวกหว่านเอ๋อร์ไม่ได้ พี่อยากขอโทษ…”
หลินซือฉิงค่อนข้างกังวลขณะพูด
“ไม่เป็ไรหรอกครับ ตอนนี้เขาไม่เป็อะไรแล้ว” เย่เฟิงส่ายหน้า “ไอ้พวกบ้าสำนักอิ่นเซียน ได้ยินว่ามันมีกันหลายคนและลอบโจมตีหรือครับ?”
“หกคน เป็พวกยอดฝีมือที่มีระดับวรยุทธ์ประมาณสี่สิบปีทั้งนั้น ตอนนี้ถูกจับอยู่กับอาเหลย รอเธอกลับมาจัดการ” หลินซือฉิงตอบ “อย่าว่าพี่แล้วกันที่ไม่เตือนนาย”
เย่เฟิงหัวเราะเล็กน้อย “ตอนนี้พวกระดับสูงของสำนักอิ่นเซียนก็ตายกันหมดแล้วและพวกเขาก็ออกมาไม่ได้ จะทำยังไงกับพวกตัวบัดซบที่เหลือก็ให้อาเหลยจัดการไปเลยแล้วกัน”
เมื่อหลินซือฉิงได้ยินเช่นนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
จากข่าวลือในยุทธจักร เย่เฟิงแค่คนเดียวก็จัดการสำนักอิ่นเซียนได้ทั้งหมดเลยอย่างนั้นหรือ?
เธอได้ยินชายหนุ่มพูดเช่นนั้นแต่ก็ไม่รู้ความคิดของเขา ได้แต่ตอบทันที “เธอวางใจได้ พวกนั้นกล้าโจมตีบนถนนที่มีคนมากมายเช่นนี้ พวกเขาทั้งหมดต้องถูกตัดสินปะาชีวิตตามกฎหมายพิเศษ ไม่มีทางหนีรอดแล้ว”
“งั้นก็ดีแล้วครับ”
เย่เฟิงพยักหน้ารับ เขาไม่อยากจัดการเองสักเท่าไร ในเมื่อหน่วย NSA จัดการได้ มันก็สะดวกสบายมากขึ้น
“ได้ยินมาว่าหน่วย NSA จับตัวหลงโม่หรานเอาไว้เหรอ?”
เย่เฟิงพลันนึกขึ้นได้ว่าได้ยินข่าวลือตอนอยู่บนถนนจึงถามขึ้นมา
“ใช่แล้ว ตอนนี้ยังสอบสวนอยู่”
หลินซือฉิงพยักหน้า
“หรือว่าเกี่ยวกับเื่แถบทะเลตะวันออก?” เย่เฟิงครุ่นคิดขณะยิ้ม มองใบหน้างดงามของหลินซือฉิง “หรือว่าพี่้าคำแนะนำ ให้พวกเขาปล่อยหลงโม่หรานไปไม่ได้เหรอ? พ่อตาคนนี้ของผมน่าสงสารพอแล้ว ที่แถบทะเลตะวันออกก็ไม่ได้อะไรไปสักอย่าง แถมยังเสียแขนไปข้างหนึ่งด้วย ถึงจะสอบสวนไปก็ไม่ได้อะไรไปหรอก”
ปัจจุบันหลงโมหรานก็คือซูเฟยหยิ่งที่ใช้วิชาหยินเสินแปลงกาย เป็ธรรมดาที่เย่เฟิง้าให้ปล่อยตัวเขาออกมา
“เื่นี้พี่จะลองดู”
หลินซือฉิงคิดว่าเื่นี้ยุ่งยากเล็กน้อย เื่ที่เกี่ยวข้องกับหน่วย NSA เธอเป็เพียงคนนอกเท่านั้น เหลยิฟังคำสั่งของเธอเพียงเพราะหลินเต๋อเทียน ปัจจุบันเขาไม่มีอำนาจจัดการกับหลงโม่หราน มีเพียงคำสั่งของหลินเต๋อเทียนเท่านั้น ถึงมันจะยุ่งยาก แต่เย่เฟิงขอมาแล้ว หลินซือฉิงก็จะพยายามทำทุกอย่าง ั้แ่เมื่อไรไม่รู้ที่เธอเริ่มห่วงใยผู้ชายคนนี้
“อ๊ะ จริงสิเสี่ยวเย่” หลินซือฉิงพลันจำบางอย่างได้ก็หน้าแดงขึ้นมา “เมื่อวานนี้ คุณปู่โทรมา”
เธอคุยอะไรกับคุณปู่กันแน่? เย่เฟิงนึกถึงชายชราหลินหงชวน ดูเหมือนว่าตระกูลเขาและตระกูลถังจะเป็พวกเดียวกัน?
ชายหนุ่มได้ยินดังนั้นก็ถามออกไป “พี่คุยอะไรกัน?”
“ท่านบอกว่าให้พวกเราแต่งงานกันเร็วๆ”
คำพูดของหลินซือฉิงน่าใ แต่พูดจบเธอก็ดูสงบนิ่ง เนื่องจากตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะไม่ทำตามแน่นอน
“ผมมีแฟนอยู่แล้ว คุณปู่ของพี่จะให้พี่แต่งงานกับผม มันไม่โหดร้ายไปหน่อยเหรอ?”
เย่เฟิงรู้สึกขบขัน
“ใครจะรู้ว่าท่านคิดอะไรอยู่” หลินซือฉิงก็สงสัยเหมือนกัน “อาจเพราะเื่ซิวเหวิน ทำให้เขาคิดถึงหลานชาย อาจเพราะท่านชื่นชอบนายมากก็ได้”
เย่เฟิงถึงกับชะงัก หรือลูกคนที่สามงี่เง่าของตระกูลหลินทำให้หลินหงชวน้ายกเย่เฟิงมาแทนที่? นี่มันความคิดประเภทไหนกัน!
“เสี่ยวเย่ นายลองคุยกับปู่ของนายดูและทำให้เขาไม่จับคู่พวกเรา หลานสะใภ้ของท่านก็มีมากอยู่แล้ว ยังไม่พออีกเหรอ?” หลินซือฉิงมองเย่เฟิงอย่างคาดหวัง “ความสุขของพี่สาวคนนี้ขึ้นอยู่กับนายแล้ว”
“ในสายตาปู่ ผมคิดว่ามีมากแค่ไหนก็ไม่พอสำหรับเขาหรอก”
เย่เฟิงหรี่ตา ถ้าหลินซือฉิงต้องแต่งงานกับเขา ความสุขก็ขึ้นอยู่ที่ตัวเขาอยู่ดี
“พี่สาวจัดการฝั่งของพี่แล้วกัน ปู่ของผม ผมจะจัดการเอง”
หลินซือฉิงทรมานกับการหมั้นหมายของชายชราทั้งสอง และ้าจัดการมันให้เร็วที่สุด
พูดถึงเย่เฟิงแล้ว เธอคิดว่าเป็เพื่อนกันน่าจะดีกว่า เขาถือเป็เพื่อนที่ดีคนหนึ่ง หากต้องแต่งงานกับเย่เฟิง เขาไม่อายุน้อยและเด็กเกินไปหรือ? นอกจากนี้ชายหนุ่มยังมีภรรยาสาวสวยมากมาย เธอไม่อยากเข้าร่วมด้วยเลย
พวกเขาพูดคุยกันอีกสักพักในร้านกาแฟ ขณะจะกลับบ้านก็สองทุ่มแล้ว
แม้สำนักอิ่นเซียนจะถูกทำลายแล้ว แต่การคุ้มครองภายในวิลล่าชิงเฟิงของหน่วย NSA ที่นำโดยเหลยิก็ยังคงเข้มงวด ดูเหมือนเพราะความผิดพลาดในคืนนั้นเล่นงานเหลยิอย่างหนักจนทำให้เขายืนกรานคุ้มครองอย่างเข้มงวดเพื่อไม่ให้เกิดเื่อีก
เย่เฟิงก็ไม่คิดจะร้องขอให้พวกเขาจากไป มีคนคุ้มครองให้ฟรีๆ ช่างเกินเหตุผลของคนธรรมดามากไปแล้ว
…………
ขณะเดียวกัน ในสวนของคฤหาสน์ตระกูลหลิน คนสองสามคนกำลังหารือกันอยู่
หลินจื้อชิงผู้เป็รองผู้อำนวยการสำนักงานการคลังของเยี่ยนจิงกำลังพูดคุยกับหลินเหรินเทียน
“โอ้ ไม่รู้ว่าทำไมน้องสาวคนเล็กเวลานี้ถึงได้ไร้เดียงสานัก เย่เฟิงทำลายงานแสดงสินค้าไป แต่เธอกลับร้องขอให้เขามาคุ้มครองที่งานแสดงอีก ไม่ใช่ว่าจงใจสร้างปัญหาเหรอ?” หลินจื้อชิงพูดอย่างขมขื่น
ในฐานะรองผู้อำนวยการสำนักการคลังของเมืองเยี่ยนจิง พวกเครื่องประดับในงานแสดงจะต้องมาถึง เนื่องจากมันเป็เื่เกี่ยวกับภาษีของเมืองเยี่ยนจริงและเป็เื่ใหญ่มาก แต่เพราะไม่มีการลงทุนกับไดมอนด์กรุ๊ป เกรงว่างานแสดงสินค้าจะต้องลดราคาขายลงอย่างมาก ถ้าไม่สามารถเรียกทุนคืนได้ล่ะก็ สถานะภายในตระกูลหลินของหลินซือฉิงจะต้องเสื่อมเสียย่อยยับแน่นอน
การเลือกผิดพลาดไม่นับเป็อะไรสำหรับตระกูลหลิน แต่ถ้าสูญเสียเงิน มันจะเกิดความเคลือบแคลงในความสามารถของหลินซือฉิง ถึงตอนนั้นงานในตระกูลมากมายก็จะไม่อนุญาตให้เธอเข้าร่วมแล้ว
“เฮอะ ฉันคิดว่าหลงเสน่ห์เ้าเด็กนั่นไปแล้วมั้ง” หลินเหรินเทียนสูบซิการ์พลางดันแว่นตาสีทองบนหน้าขึ้นแล้วแค่นเสียงเบาๆ “ไม่ว่ายังไงงานแสดงสินค้าก็คงพังพินาศแล้ว วันเวลาอันรุ่งเรืองของเธอก็จะจบสิ้นเช่นกัน”
“ฉันคิดไม่ออกเลย แต่ก่อนน้องสาวไม่ได้เป็คนแบบนี้” หลินจื้อชิงขมวดคิ้ว สีหน้าเคร่งขรึม “ตอนนี้หลายบริษัทรู้แล้วว่างานด้านรักษาความปลอดภัยในงานแสดงสินค้ามีเด็กหนุ่มรับผิดชอบ พวกเขาต่างไม่กล้าลงทุนด้วยแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นถ้าเกิดปัญหาขึ้นอาจต้องสูญเสียหนัก”
“เด็กหนุ่มมีความสามารถเพียงน้อยนิดแต่ยังมาดูแลงานแสดงสินค้าใหญ่ขนาดนี้ เขาจะดูแลไหวหรือ?” หลินเหรินเทียนแค่นเสียง “พวกเราไม่จำเป็ต้องกังวล เมื่อถึงเวลานั้นเื่ตลกจะต้องจบลง”
ไม่คาดคิดว่าหลินซือฉิงที่สงบมั่นคงจะประมาทในงานแสดงสินค้าครั้งนี้ ทำให้หลายคนในตระกูลหลินต่างงุนงง อย่างไรก็ตามอำนาจจัดการงานแสดงสินค้าอยู่กับหลินซือฉิงทั้งหมด พวกเขาจึงไม่มีสิทธิ์ตั้งคำถาม จึงรอดูหลินซือฉิงโดนหัวเราะเยาะ
การสูญเสียครั้งนี้ไม่ใช่การสูญเสียของพวกเขา!
เมื่อเื่น่าเศร้าตกเป็ของหลินซือฉิง พวกเขาเหล่าตระกูลสาขาก็จะได้รับผลประโยชน์มากมายจากส่วนที่หลินซือฉิงทำเสียหาย
งานแสดงสินค้ากำลังจะเริ่มขึ้นและตระกูลหลินก็รุ่มร้อน แต่เวลานี้หลินซือฉิงมีความมั่นใจอย่างยิ่ง คนอื่นไม่รู้เลยว่าเธอเพิ่งได้รับเพชรจักรพรรดิมา และไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งของเย่เฟิง การรักษาความปลอดภัยในงานมันยิ่งกว่าคำว่าน่าพอใจเสียอีก!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้