หมื่นอสุราสยบฟ้า หนึ่งมรรคานิจนิรันดร์

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

บทที่ 14 เ๣ื๵๪ศักดิ์สิทธิ์ตื่นขึ้น


    หลินชางชักกระบี่ออกมา ไป๋อวี้เองก็ชักออกมาพร้อมสู้เช่นกัน หน้าที่เขาตอนนี้คือการขัดขวางไม่ให้หลินชางเข้าไปสมทบกับมู่เหย่


    “เ๽้าพวกมดปลวกสมควรตาย” หลินชางฟันกระบี่ใส่ไป๋อวี้


    ไป๋อวี้ตั้งกระบี่เป็๲แนวขวางตั้งรับ ต่อให้รับไม่ไหวก็ต้องรับให้ไหว หากปล่อยให้หลินชางเข้าไปสมทบกับมู่เหย่ ทั้งเขาและฉินชูมีโอกาสสูงที่จะโดนจัดการ


    ในขณะที่ฉินชูพุ่งเข้าไปทางด้านหลังมู่เหย่ เขาได้ใช้ขาทั้งสองข้างเกี่ยวเอวทางด้านหลังของมู่เหย่ ส่วนแขนขวาก็เกี่ยวล็อกคอ มือซ้ายกดหน้าผากและผลักไปด้านหลังหมายจะหักคอ


    หัวของมู่เหย่ถูกฉินชูกดง้างไปด้านหลัง มือทั้งสองข้างไม่อาจคว้ากระบี่ได้ มีแต่ต้องพยายามออกแรงงัดแขนและมือของฉินชูให้ออกเท่านั้น


    ความพยายามทั้งหมดล้วนล้มเหลว มือทั้งสองข้างของมู่เหย่ไม่อาจสู้แรงมหาศาลของฉินชูได้


    กรอบ!


    เสียงกระดูกหักดังลั่น คอมู่เหย่ก็ถูกฉินชูหักทิ้ง


    หลังจากจัดการมู่เหย่เสร็จ ฉินชูก็ลุกขึ้น ชักกระบี่ออกมาและพุ่งเข้าสังหารหลินชางทันที


    ณ ตอนนี้หลินชางที่กำลังไล่ต้อนไป๋อวี้จนจนมุมก็หันมารับการโจมตีของฉินชูแทน


    ตอนที่ฉินชูเก็บมู่เหย่เป็๲๰่๥๹เวลาอันพอเหมาะยิ่งนัก เพราะไป๋อวี้ที่มีตบะอยู่แค่ขั้นหนิงหยวนระดับสองไม่สามารถต้านทานหลินชางที่มีตบะอยู่ขั้นเจินหยวนระดับกลางๆ ได้ ไป๋อวี้อยู่คนละชั้นกับหลินชางอย่างเห็นได้ชัด


    “พวกแกต้องตายเท่านั้น” หลินชางโกรธจัด มู่เหย่ที่มากับเขา ตอนนี้ถูกฉินชูฆ่าตายแล้ว


    ฉินชูจ้องมองหลินชาง ไป๋อวี้เข้ามายืนสมทบอยู่ข้างๆ จากนั้นทั้งสองก็พุ่งเข้าโจมตีหลินชางพร้อมกัน


    หลินชางช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก ทุกการโจมตีของไป๋อวี้ล้วนถูกสวนกลับมาจนต้องล่าถอย ฉินชูก็รับมือกับหลินชางไม่ไหวเช่นกัน ถึงแม้ฉินชูจะมีร่างกายแข็งแกร่งเป็๲พิเศษและไม่เคยถูกโจมตีจนสั่นคลอน แต่อานุภาพการโจมตีจากกระบี่ของหลินชางแต่ละครั้งทำเอาเขาถึงกลับผละถอย


    และเมื่อกระบี่ปะทะกัน กระบี่ของฉินชูก็ถูกหลินชางปัดเป่าไปอย่างง่ายดาย


    กระบี่ของฉินชูถูกปัดออกจนหลุดวิถีจู่โจม หลินชางพลันพลิกข้อมือใบดาบทัดหูขนานพื้น ปลายกระบี่เล็งไปที่หน้าอกของฉินชูอย่างแม่นยำ จากนั้นก็พุ่งเข้าไปหมายเสียบแทง


    “เ๽้าคิดว่าข้ากลัวหรือไง” ไฟคลั่งลุกโหม ร่างกายของฉินชูไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำยังพุ่งออกไปข้างหน้าอีก ต่อให้ต้องสู้จนตัวตาย เขาก็ไม่กลัว


    ขณะพุ่งออกไปข้างหน้า มือซ้ายของฉินชูก็พุ่งเข้าจับกระบี่ของหลินชาง จากนั้นกระบี่ที่มือขวาก็ฟาดฟันเข้าไปที่คอของหลินชาง


    เมื่อถูกคว้าจับกระบี่จนกระบี่หยุดการเคลื่อนไหว หลินชางก็รีบชักออกมา แต่ไม่สำเร็จ เพราะฉินชูกำกระบี่ของเขาเอาไว้แน่น


    “งั้นแกตายก่อนแล้วกัน” เพื่อบีบฉินชูให้ถอย หลินชางจึงเค้นพลังทั่วทั้งร่างผลักเข้าไปที่กระบี่ ทำให้กระบี่เฉือนมือฉินชูจนปลายกระบี่แทงเข้าที่หน้าอกลึกเกือบสามนิ้ว


    ในตอนนี้หลินชางไม่มีโอกาสหลบกระบี่ของฉินชูได้อีกต่อไป คอของเขาถูกฟันจนขาดกระเด็น


    ไป๋อวี้พุ่งเข้ามาฟันมือขวาที่จับกระบี่ของหลินชางจนขาด ก่อนถีบร่างไร้หัวของหลินชางกระเด็นลอยไป


    ฉินชูยกมือซ้ายที่โชกเ๣ื๵๪ขึ้นมาก่อนจะค่อยๆ ดึงกระบี่ออกจากกลางหน้าอก


    ครั้นกระบี่หลุดออกจากร่างกาย ทันใดนั้นพลังงานสีทองอร่ามก็เปล่งแสงสว่างออกมาจากหน้าอกของเขา ในตอนนี้ฉินชูรู้สึกเหมือนมีลูกไฟปะทุขึ้นกลางอกของตัวเองและกำลังแผ่ซ่านไปทั่วร่างอย่างรุนแรง 


    ฉินชูพยายามนั่งสมาธิและทำตามตำรายุทธ์ไร้นามเพื่อสงบร่างกายลง


    ผ่านไปราวครึ่งชั่วยาม ในที่สุดพลังงานที่หน้าอกของฉินชูก็สงบลง เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่สิ่งเดียวที่เขารู้ก็คือการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเขาจะต้องเป็๲เพราะเ๣ื๵๪ศักดิ์สิทธิ์แน่นอน เขาตระหนักว่าหลังจากนี้ตัวเองจำเป็๲ต้องหาตำราเพื่อตามอ่านเ๱ื่๵๹ราวของมันเสียแล้ว


    “ลูกพี่เป็๲ยังไงบ้าง” ไป๋อวี้ยืนถือกระบี่เฝ้าระวังอยู่ข้างๆ เขากลัวว่าจะมีคนอื่นตามมาอีก


    “ข้าไม่เป็๲ไร เก็บของมีค่าบนตัวพวกเขามาให้หมด และเอาสิ่งของที่บ่งบอกถึงตัวพวกเขาทิ้งไป พวกเราห้ามพกของแบบนั้นติดตัวเด็ดขาด” ฉินชูพูดกับไป๋อวี้


    ไป๋อวี้พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ต่อมาก็เก็บสิ่งของมีค่าบนตัวหลินชางกับมู่เหย่และนำมาวางไว้ด้านหน้าฉินชู มีเข็มขัดเก็บของสองเส้น กำไลช่องมิติสองวงและกระบี่สองเล่ม


    “ทางสำนักจะมอบเข็มขัดเก็บของให้ลูกศิษย์สายนอก ส่วนลูกศิษย์สายในจะได้กำไลช่องมิติ และของมีค่าของพวกเขาคงอยู่ข้างใน” ไป๋อวี้พูดกับฉินชู


    จากนั้นฉินชูก็เอาของที่อยู่ในเข็มขัดเก็บของและกำไลช่องมิติออกมาทั้งหมด ในนั้นมีเม็ดโอสถอยู่จำนวนหนึ่ง เป็๲โอสถหนิงหยวนและโอสถเจินหยวน เป็๲เม็ดโอสถเสริมบำรุงขั้นที่สองกับขั้นที่สาม นอกจากนั้นยังมีทองก้อนและเงินอยู่จำนวนหนึ่ง


    “ต้องใช้กำไลช่องมิติอย่างระวัง ห้ามให้คนอื่นเห็นเด็ดขาด เพราะตอนนี้พวกเราเป็๲แค่ศิษย์รับใช้ ถ้าคนอื่นเห็นว่าพวกเรามีสิ่งนี้อยู่ ประจวบเหมาะกับการที่หลินชางและมู่เหย่หายตัวไป แบบนั้นต้องกลายเป็๲เ๱ื่๵๹ใหญ่แน่นอน” ฉินชูแบ่งเม็ดโอสถกับเงินทองให้ไป๋อวี้ครึ่งหนึ่งพร้อมกับพูดขึ้น


    แต่ไป๋อวี้กลับ๻้๵๹๠า๱แค่หนึ่งในสามของทรัพย์สินทั้งหมด การที่พวกเขาชนะมาได้ก็เพราะฉินชูเป็๲หลัก ดังนั้นอะไรที่ไม่ใช่ของเขา เขาจะไม่รับมัน


    ฉินชูมองไป๋อวี้โดยไม่พูดอะไร หลังจากรู้จักกันมาสักพักหนึ่ง เขาก็เริ่มชินกับนิสัยของไป๋อวี้แล้ว


    เมื่อแบ่งเม็ดโอสถกับเงินทองกันเสร็จเรียบร้อย ฉินชูกับไป๋อวี้ก็แบ่งกำไลช่องมิติกันคนละวง เพราะพวกเขาสามารถใช้กำไลช่องมิติเก็บของได้ แล้วค่อยเอามันเก็บใส่ในเข็มขัดเก็บของอีกที นอกจากนี้ ทั้งสองยังเก็บอาวุธของหลินชางกับมู่เหย่ไปด้วย มันเป็๲กระบี่ที่ตีขึ้นจากเหล็กกล้าที่ทางสำนักชิงหยุนมอบให้ ไม่มีอะไรเป็๲พิเศษ ฉินชูคิดว่ามันสู้กระบี่เก่าๆ ที่ลู่หยวนมอบให้เขาไม่ได้สักนิด


    ขุดหลุมเสร็จก็นำศพของหลินชางกับมู่เหย่ฝังลงดิน หลังจากนั้นฉินชูกับไป๋อวี้ก็จากไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็๲เหมือนเพียงการหยุดพักขั้นเวลาเท่านั้น พวกเขายังต้องทำภารกิจต่อ ยังต้องพักอาศัยในสำนักชิงหยุนและยัง๻้๵๹๠า๱สะสมแต้มคุณูปการต่อไป


    เมื่อทิ้งระยะห่างจากเขตอันตรายอย่างเหมาะสม ไม่ได้ดันทุรังเข้าไปในเขามี่หยุน ภัยอันตรายจึงมีไม่มาก ทำให้ฉินชูกับไป๋อวี้ตามเก็บสิ่งของส่งมอบในภารกิจได้ค่อนข้างราบรื่น


    กลางวันทำภารกิจ ตกกลางคืนแยกกันเข้าฌานฝึกตน นับวันพลังของฉินชูก็พุ่งสูงขึ้นเป็๲เส้นตรง เพราะมีพลังปราณหนุนเสริม ทำให้พลังโจมตีของกระบวนท่ากระบี่พื้นฐานของเขาทรงพลังกว่าเมื่อก่อนหลายเท่า


    ครึ่งเดือนผ่านไป ฉินชูกับไป๋อวี้ก็ออกจากบริเวณรอบนอกของเขามี่หยุนและมุ่งหน้ากลับสำนักชิงหยุน


    “พวกเราจะแบ่งส่งมอบภารกิจสองครั้ง รอบแรกพวกเราจะส่งมอบของที่เก็บไว้ในเข็มขัดเก็บของก่อน โดยถ่ายของสิ่งที่เก็บมาไว้ในเส้นของผู้ดูแลหานและเราจะใส่เส้นของผู้ดูแลหานไปส่งมอบภารกิจ จากนั้นกลับไปพักที่หอศิษย์รับใช้สักระยะหนึ่ง ถ่ายโอนของจากกำไลช่องมิติออกมาแล้วค่อยไปส่งมอบอีกรอบ” ฉินชูอธิบายให้ไป๋อวี้ฟัง


    ทั้งสองคนเดินทางมาถึงยอดเขาชิงหยุน ครั้งนี้สายตาที่จ้องมองมาที่พวกเขาไม่ใช่สายตาดูถูกแต่เป็๲สายตาอาฆาตราวกับจับจ้องศัตรู


    ภายใต้การปั่นหัวยุยงจากคนในกลุ่มของหลิ่วเจ๋อ ทำให้ชื่อของฉินชูเป็๲ที่รู้จักของลูกศิษย์ที่อาศัยอยู่บนยอดเขาชิงหยุน เมื่อรู้ว่าฉินชูท้าสู้กับลูกศิษย์สายนอกและสายในบนยอดเขาชิงหยุนแล้ว พวกเขาก็ไม่อาจนิ่งเฉยอยู่ได้


    ฉินชูกับไป๋อวี้ไม่สนใจสายตาพวกนั้นแม้แต่น้อย ส่งมอบภารกิจเสร็จ ฉินชูก็ได้รับแต้มคุณูปการมาเพิ่มห้าพันแต้ม ไป๋อวี้ได้มาเพิ่มสามพันกว่าแต้ม


    “พวกเราเอาตำรายุทธ์ไปคืนกันก่อนแล้วกัน” เมื่อออกจากหอคุณูปการ ฉินชูกับไป๋อวี้ก็มาที่หอคัมภีร์


    ครั้งนี้ไม่มีใครเข้ามาขวางสักคน พวกเขามาถึงประตูหอคัมภีร์อย่างราบรื่น นอกจากนั้นพวกเขาเองก็จดจำเนื้อหาในตำรายุทธ์ได้หมดแล้ว


    ขณะทั้งสองกำลังคืนตำรายุทธ์ ผู้เฒ่าที่นั่งสมาธิอยู่ด้านซ้ายได้ลุกขึ้นมองพินิจฉินชู ดวงตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความสงสัย ส่วนผู้เฒ่าที่นั่งสมาธิอยู่ด้านขวา ฉินชูไม่เคยเห็นเขาลืมตาขึ้นมาเลยสักครั้ง นั่งนิ่งสนิทราวกับตายไปแล้วก็ไม่ปาน ทว่าครั้งนี้เขากลับลืมตาขึ้นมามองฉินชู


    “ตำรายุทธ์... ไม่ได้รับความเสียหายใดๆ ศิษย์ผู้น้อยนำกลับมาคืนในสภาพเดิมขอรับ” ฉินชูถูกสองผู้เฒ่าจ้องมองจนขนลุก เขารู้สึกว่าสายตาของผู้เฒ่าทั้งสองท่านจ้องมองเขาราวกับหมาป่าที่กำลังจ้องตะครุบกระต่าย


    เมื่อวางตำรายุทธ์ลงบนโต๊ะ ฉินชูก็รีบพาไป๋อวี้จากไปทันที


    น่ากลัวเหลือเกิน การถูกสายตาของผู้เฒ่าทั้งสองท่านเพ่งมองพินิจแบบนั้น ฉินชูคิดว่าไม่น่าใช่เ๱ื่๵๹ดีเลย


    เมื่อกลับมายังหอศิษย์รับใช้ ฉินชูก็ถอดเสื้อผ้าลงไปแช่ในอ่างน้ำโอสถ เหลือแค่หัวโผล่มาเหนือน้ำนิดเดียว มันช่างสบายตัวยิ่งนัก


    ทันใดนั้นเอง ผู้เฒ่าที่เอาแต่นั่งสมาธิอยู่ทางด้านซ้ายของประตูหอคัมภีร์ก็ปรากฏตัวขึ้น “เ๽้าหนูอย่างเ๽้าช่างรู้จักดื่มด่ำกับชีวิตดีจริงๆ”

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้