บทที่ 6
“ไม่อร่อยเหรอ?”
“อะ อร่อยครับ”
ที่รักรีบตักหมูกรอบชิ้นโตใส่ปากหลังจากตอบหมื่นฟ้า พอคนถามเห็นว่าเขาเลิกจ้องถ้วยซอสมะเขือเทศแล้วก็กลับไปให้ความสนใจกับข้าวต้มถ้วยใหญ่ของตัวเองเหมือนเดิม ซอสมะเขือเทศถ้วยนี้ไม่ได้พิเศษกว่าที่อื่น รสชาติของมันก็เหมือนกันเกือบทุกยี่ห้อ และซอสมะเขือเทศของร้านหมื่นฟ้าก็รสชาติเดียวกับขวดสีแดงที่ตั้งอยู่ในครัวบ้านเขา
ทั้งสี รส และกลิ่นไม่แตกต่างเลยจริง ๆ แต่สิ่งที่ทำให้เขาไม่อาจละสายตาจากมันได้เพราะหมื่นฟ้าเป็คนสั่งมันมา ที่รักนึกย้อนไปถึงตอนที่หมื่นฟ้าสั่งอาหารให้เขา เ้าตัวเป็คนกำชับให้พนักงานเอาซอสมะเขือเทศถ้วยนี้มาด้วย ตอนนั้นเขาไม่ได้สนใจเพราะมัวแต่เป็กังวลกลัวหมื่นฟ้าไม่พอใจที่เขายิ้มให้พนักงาน
แต่พอมาคิด ๆ ดูแล้ว…มันดูบังเอิญจัง
บนโลกนี้คงจะมีหลายล้านคนที่ชอบกินไข่เจียวกับซอสมะเขือเทศ ซึ่งเขาก็เป็หนึ่งในนั้น มันคงไม่ใช่เื่แปลกที่หมื่นฟ้าจะสั่งมันมา เพราะมีคนจำนวนไม่น้อยที่ชอบกินแบบนี้ และผู้คนมากมายที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตหมื่นฟ้าอาจจะชอบกินไข่เจียวกับซอสมะเขือเทศจนเกิดเป็ภาพชินตา หมื่นฟ้าถึงได้สั่งสองสิ่งนี้มาคู่กันเสมอ
หมื่นฟ้าคงเคยเห็นใคร ๆ กินไข่เจียวกับซอสมะเขือเทศเป็ประจำละมั้ง…
ที่รักกำลังใช้ช้อนตัดแบ่งไข่เจียวเป็ชิ้นพอดีคำ แต่มีช้อนของใครบางคนที่มีซอสมะเขือเทศติดอยู่ที่ปลายนิด ๆ แตะลงที่ไข่เจียวของเขา เ้าของจานกะเพราหมูกรอบขมวดคิ้วเล็กน้อย สาเหตุไม่ได้มาจากที่จานอาหารของตัวเองโดนรุกล้ำ แต่เป็เพราะเขานึกบางอย่างขึ้นมาได้อีกแล้ว
‘เอาไข่เจียวด้วยไหมครับ? ‘
ไข่เจียวนี้หมื่นฟ้าก็เป็คนเสนอ…
กะเพราหมูกรอบไข่เจียวเท่านั้นที่เป็เมนูโปรดของเขา
จะเป็ไข่ดาวก็ได้ แต่มันจะถูกตัดออกจากเมนูโปรดทันที
“น้ำมันไม่เยิ้มไปใช่ไหม?”
และถ้าให้โปรดจริง ๆ น้ำมันต้องไม่เยิ้ม
“มะ ไม่ครับ พอดีหมดทุกอย่าง” พอดีมากเกินไปจนคิดว่าไม่ใช่เื่บังเอิญที่หมื่นฟ้าจะรู้เยอะขนาดนี้
“กินข้าวเสร็จเอาไอติมไหม? ดอมบอกพี่ฟ้าว่ารักชอบกินไอติม”
ที่แท้เมนูโปรดของเขารั่วมาจากพี่ดอมนี่เอง…คิดเข้าข้างตัวเองไปไกลเลยว่าหมื่นฟ้าแอบไปสืบเื่ของเขามา สงสัย่นี้เขาจะเข้าข่ายโรคหลงตัวเองอย่างที่พี่เบบว่าจริง ๆ
“เอาครับ พี่ฟ้าเลี้ยงใช่ไหมล่ะ?”
“ให้ถือกระเป๋าตังค์พี่ฟ้าไว้เลย”
ที่รักยิ้มกว้าง ดวงตาเรียวรีเล็กหยีจนแทบมองไม่เห็นั์ตาสีดำ พวงแก้มสีแดงระเรื่อในเวลานี้รวมตัวกันเป็ก้อนกลมเพราะเ้าตัวยิ้มกว้างกว่าเดิม “เป็คำว่าเลี้ยงสไตล์พี่ฟ้าสินะ”
หมื่นฟ้าพยักหน้า ก่อนเอ่ย “เอารสช็อกโกแลตนะ”
คนโดนถามพยักหน้ารับหงึกหงักพลางคิดว่าพี่ดอมเป็คนที่ละเอียดมาก ๆ กำชับยันกระทั่งไอติมรสโปรด “สองลูกเลยนะพี่ฟ้า”
“พอเหรอ?”
“ไม่พอเดี๋ยวขอใหม่”
“ถ้าพี่ฟ้าไม่ให้แล้วล่ะ?”
“ก็จะทำแบบนี้…” พูดจบมือเรียวทั้งสองข้างก็ถูกยื่นไปข้างหน้า ที่รักแบมือเหมือนเด็กที่กำลังขอขนมจากผู้ใหญ่ แล้วเขาก็ส่งยิ้มกว้าง ๆ ที่ใครหลายคนมักจะแพ้เวลาได้เห็นให้หมื่นฟ้า
ที่รักไม่คิดว่านิสัยขี้อ้อนของตัวเองที่ชอบใช้กับคนในครอบครัวและเพื่อน ๆ ในกลุ่มจะย้อนกลับมาทำให้ตัวเองใจเต้นได้ เหตุที่มันทำให้ใจสั่นก็เพราะหมื่นฟ้านั่นแหละ เ้าตัวกัดริมฝีปากคล้ายคนกำลังหมั่นเขี้ยวก่อนจะเอื้อมมือมาตีที่มือเขาเบา ๆ
“อ้อนไปทั่ว…”
และเสียงของหมื่นฟ้าก็ดังทุ้มอยู่ในใจตลอดเลย
ที่รักรีบชักมือกลับทันทีที่ได้สติ ก่อนกระแอมกระไอแก้เขินอาย จะทำอะไรตอนนี้ก็ดูเก้อเขินจนไม่เป็ธรรมชาติ เขากวาดสายตามองทั่วไปหมดจนมาหยุดอยู่ที่ไข่เจียวที่เปื้อนซอสสีแดงเพราะหมื่นฟ้าเอามาป้ายไว้
เฮ้อ ~ หลบไม่พ้นจริง ๆ สินะ หมื่นฟ้าอยู่ทุกที่เลย ยันกระทั่งไข่เจียวของเขา T_____T
“รัก เดี๋ยวพี่ฟ้าต้องออกไปจัดการข้างนอกก่อนนะ ใกล้เวลาเปิดร้านแล้ว”
ที่รักเงยหน้าขึ้นมองหมื่นฟ้า ก่อนจะตอบรับ “คะ ครับ”
“อยู่คนเดียวได้หรือเปล่า?”
“ได้ครับ พี่ฟ้าไปทำงานเถอะ”
“เดี๋ยวพี่ฟ้าให้เด็กในร้านเอาไอติมมาให้นะครับ”
“ครับ”
คนตัวสูงลุกขึ้นยืนก่อนจะหยิบโทรศัพท์และกระเป๋าสตางค์ใส่กระเป๋าหลังกางเกง และไม่ลืมหยิบซองบุหรี่สีขาวติดมือไปด้วย ที่รักนั่งมองอีกฝ่ายจัดการตัวเองพลางคิดว่าหมื่นฟ้าเป็คนที่ดูโตเกินวัยมาก ๆ และคงมีระเบียบวินัยกับความรับผิดชอบพอสมควร ถึงเวลาเ้าตัวก็พร้อมจะทำหน้าที่โดยไม่บ่ายเบี่ยง ทั้งที่หมื่นฟ้าสามารถให้ผู้จัดการหรือคนอื่นทำงานแทนได้ เพียงแค่สั่งงานไว้แล้วหนีไปพักผ่อนสบาย ๆ ยังทำได้เลย แต่คนตรงหน้าเขาไม่ทำเช่นนั้น
หมื่นฟ้ายิ้มแบบนั้นให้เขาอีกครั้ง
ยิ้มที่เหมือนแสงแดดยามเช้านั่นแหละ
แล้วหมื่นฟ้าก็เดินไปที่ประตู
“…”
และเขาก็บ้าพอ…
“พี่ฟ้าครับ”
บ้าพอที่จะพูดบางอย่าง
“ครับ?”
ที่รักหลุดยิ้มออกมาพอเห็นหมื่นฟ้าทำหน้าสงสัย เวลาอีกคนแสดงสีหน้าอื่นนอกจากนิ่งเฉยไร้ความรู้สึก ที่รักอยากจะถ่ายรูปเก็บไว้อวดคนอื่นจริง ๆ
แต่ใคร ๆ คงมองว่าหล่อเหมือนเดิมนั่นแหละ
แต่สำหรับที่รักแล้ว…เวลาทำหน้าแบบนี้
“สู้ ๆ นะครับพี่ฟ้า เหมือนเสียงทะเลที่ดัง ซู่ ~ ซู่ ~”
หมื่นฟ้าน่ารักชะมัดเลย :)
“หึ ๆ ”
และน่ารักเป็บ้าเวลาหลุดหัวเราะ
ถึงแค่หัวเราะเบา ๆ ในลำคอ ไม่ได้หัวเราะร่าอย่างที่เขาชอบทำ แต่นั่นทำให้ที่รักรู้สึกดีที่สุดแล้ว เขาเป็แค่ลูกหมาอ้วนของคนในครอบครัวและแก้มย้อยของเพื่อน ๆ แต่สามารถทำให้หมื่นฟ้าของใคร ๆ หัวเราะได้แบบนี้
เจ๋งใช่ปะล่ะ?
ใช่…เจ๋งสุด ๆ ไปเลย
ทว่าความคิดชื่นชมตัวเองภายในใจพลันหยุดลงเมื่อคนที่ได้รับกำลังใจไปอย่างเปี่ยมล้นเปลี่ยนเป้าหมายจากประตูบานใหญ่เป็เขาแทน
ที่รักกะพริบตาปริบ ๆ เงยหน้ามองคนตัวสูงที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า และการสบตากันในองศานี้ทำให้ดวงตาคู่นั้นของหมื่นฟ้ากลายเป็เชื้อเพลิงชั้นดีที่สามารถจุดติดกองเพลิงบนแก้มกลม ๆ ของเขา ความร้อนจากแก้มก้อนแพร่กระจายไปทั่วทั้งร่างกายภายในเวลาไม่กี่วินาที
และเพราะหมื่นฟ้าเป็เชื้อเพลิง ไม่มีทางที่จะช่วยเขาได้
มีแต่แผดเผาให้ละลายตายไปกับดวงตาคู่นั้น
“พะ พี่ฟ้า…ไม่ไปทะ..ทำงานแล้วเหรอครับ?”
“ทำ…”
แล้วใบหน้าที่เคยบอกว่าน่ารักชะมัด
“…”
“แต่แวะมาขอกำลังใจเพิ่ม…”
ก็โน้มลงมาหากัน…
“สะ สู้ ๆ นะครับพี่ฟ้า…”
“ครับ…”
แล้วจมูกโด่ง ๆ ก็เกือบัักับหัวเน่า ๆ
“…”
“ถ้าพี่ฟ้าเป็ลมจนไปทำงานไม่ได้ คงต้องโทษหัวเน่า ๆ ของเด็กดื้อ…”
ถ้ามีใครบางคนถามว่าหมื่นฟ้าเป็คนยังไง ที่รักจะไม่ลังเลและรีบตอบกลับไปว่าหมื่นฟ้าเป็คนนิสัยไม่ดี เพราะเ้าตัวชอบแกล้งให้เขารู้สึกปั่นป่วน ชอบทำให้เขาเขินจนสติหลุด แล้วก็จากไปโดยไม่รับผิดชอบอะไรเหมือนตอนนี้
ประตูกระจกบานใหญ่ถูกปิดโดยคนตัวสูงที่เกือบเป็ฆาตกร สายตาและการกระทำของหมื่นฟ้าเมื่อกี้นี้สามารถฆ่าเขาให้ตายได้เลย แต่หมื่นฟ้าคงกลัวติดคุกแล้วไม่มีคนดูแลร้าน เ้าตัวถึงได้ไว้ชีวิตเขา
T_________T โเี้ที่สุดก็หมื่นฟ้าของใคร ๆ นี่แหละ
#กี่หมื่นฟ้า
คนตัวเล็กที่นั่งอยู่ในห้องเรือนกระจกคนเดียวในเวลานี้เริ่มเหงาขึ้นมาบ้างแล้ว ที่รักเอาหน้าแนบไปกับโต๊ะไม้สีน้ำตาลเข้มที่พนักงานเข้ามาเก็บจานอาหารและทำความสะอาดแล้ว โทรศัพท์เครื่องสีดำที่วางอยู่ตรงหน้าถูกมือเรียวหมุนเล่นจนเหมือนเข็มทิศ มันไม่มีประโยชน์อีกต่อไปเพราะคนที่เขาอยากจะคุยด้วยดันติดธุระส่วนตัวทุกคน พันลี้กำลังอยู่ในงานวันเกิดเพื่อนสมัยมัธยมหลังจากเอาของไปให้ป้า ไทป์พาหม่าม้าไปหาหมอ ส่วนจอยมีเดตกับหนุ่มวิศวะ รวมถึงพี่ทั้งสองคนที่รีบตัดสายเขาทิ้งเพราะต้องจัดการกับน้องหมาก่อน จะออกไปเดินเล่นเพ่นพ่านคงไม่เหมาะ ที่รักไม่ใช่พวกติดโซเชียลสักเท่าไหร่ เล่นโทรศัพท์ได้แป๊บเดียวก็รู้สึกเบื่อ
เพราะแบบนี้เขาถึงได้ถอนหายใจแก้เซ็งเป็รอบที่ร้อย มือเรียวกดปุ่มล็อกหน้าจอเพื่อดูเวลาอีกครั้ง แล้วที่รักก็ถอนหายใจออกมาอีกรอบพอรู้ว่าอีกสิบห้านาทีจะสองทุ่ม แต่พี่สาวยังมาไม่ถึงเลย แถมบอกว่ารถติดมาก ๆ ด้วย
และั้แ่หมื่นฟ้าออกไปทำงานข้างนอก เ้าของร้านคนขยันก็ไม่แวะเข้ามาหาเขาอีกเลย เ้าตัวเดินผ่านไปผ่านมาอยู่หลายครั้ง ที่รักยอมรับว่าชะเง้อคอมองหมื่นฟ้าตลอดเวลา และก็แอบส่งยิ้มให้ตอนที่คนตัวสูงยืนหันหลังอยู่ไกล ๆ
ก็ทั้งร้านรู้จักหมื่นฟ้าคนเดียวนี่…
ไม่รอหมื่นฟ้าแล้วจะรอใครล่ะ
แต่หมื่นฟ้าก็ยุ่ง ๆ ๆ ๆ ๆ จนเหมือนใยแมงมุมเลย ไม่มาหากันสักที : (
แกร๊ก!
และเสียงประตูที่ดังขึ้นก็ทำให้คนที่นั่งฟุบหน้าอยู่กับโต๊ะอย่างเหงาหงอยรีบเงยหน้าด้วยความรวดเร็ว ทว่าคนที่เพิ่งเข้ามาภายในห้องไม่ใช่หมื่นฟ้า และที่รักก็ไม่รู้จักผู้ชายคนนี้ เขาเดาว่าไม่ใช่ลูกค้าแน่ ๆ เพราะอีกฝ่ายเปิดประตูเข้ามาด้วยความมั่นใจ อีกทั้งยังส่งยิ้มอย่างเป็มิตรให้เขาด้วย
“พี่ชื่อเรียวนะ หุ้นส่วนของฟ้า”
“อะ อ๋อ พี่คือพี่เรียวนี่เอง…”
“ใช่ครับ…”
ที่รักตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ตอนนี้เขาไม่ได้ติดใจอะไรพี่เรียวแล้ว หลังจากที่หมื่นฟ้าอธิบายเื่ราวทั้งหมดให้ฟัง การทักทายคนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกด้วยรอยยิ้มคงจะดีที่สุด
“พี่ฟ้าไม่ได้อยู่ในนี้หรอกครับ ออกไปทำงานข้างนอกโน้น…”
เรียวมองริมฝีปากบางที่บุ้ยไปทางเ้าของร้านที่ยืนสูบบุหรี่อยู่ไกล ๆ เขาเผลอหลุดยิ้มออกมาเพราะท่าทางน่าเอ็นดูของเด็กคนนี้ ที่รักไม่ยอมใช้นิ้วชี้ไปที่เพื่อนของเขา แต่กลับบุ้ยปากแทน ทั้งยังขมวดคิ้วเล็กน้อยตอนมองหมื่นฟ้าด้วย
อาการนี้มันยังไงกันนะ..ไอ้ฟ้ากำลังโดนเด็กคนนี้งอนอยู่เหรอ?
“พี่ไม่ได้มาหาไอ้ฟ้าหรอก มาหาเรานั่นแหละ” ว่าพลางนั่งลงตรงข้าม
ผู้ชายไม่ค่อยเหมาะกับคำว่า ตัวเล็ก สักเท่าไหร่ ต่อให้ตัวเล็กยังไงก็ตัวใหญ่กว่าผู้หญิงอยู่ดี เรียวเป็คนหนึ่งที่ นึกภาพผู้ชายที่ถูกเรียกว่า ไอ้ตัวเล็ก ไม่ออก ไม่รู้ว่ารูปร่างเล็ก ๆ ที่ว่ามันผอมบางแค่ไหน หรือเหมือนผู้หญิงเลยหรือเปล่า เพราะโดยส่วนมากคำว่าตัวเล็กมักใช้กับผู้หญิง
แต่พอเห็นที่รักถึงได้เข้าใจว่าผู้ชายที่ตัวเล็ก ๆ เป็แบบนี้ มีรูปร่างเล็กกะทัดรัดน่าพกพา ถ้ากะด้วยสายตาที่รักน่าจะสูงประมาณร้อยเจ็ดสิบนิด ๆ ไม่เกินร้อยเจ็ดสิบสามด้วยซ้ำ แขน ขา และลำตัวเล็กไปหมด รวม ๆ แล้วเป็คนที่มีโครงสร้างทางร่างกายเล็กกว่าผู้ชายทั่วไป แต่ไม่ได้เล็กเท่าผู้หญิง เพียงแค่ใหญ่กว่านิดหน่อยเท่านั้น
แต่สำหรับผู้ชายด้วยกัน…มันก็ตัวเล็กนั่นแหละ
แม้ว่าจะตัวเล็ก แต่มีหนึ่งสิ่งที่ใหญ่เกินตัวมาก ๆ นั่นก็คือแก้มย้อย ๆ ที่ดึงดูดสายตาตลอดเวลา ที่รักเป็คนที่มีรูปหน้าเรียว แต่ดันมีแก้มซะเยอะ
มันเลยทำให้เ้าตัวกลายเป็คนตัวเล็กที่น่าจับฟัดให้แก้มยุบ…
“พี่เรียวมีอะไรกับรักเหรอครับ?”
“พี่อยากจะมาขอโทษที่วันนั้นพูดเื่…”
“รักรู้เื่หมดแล้วครับ พี่ฟ้าเล่าให้รักฟังหมดแล้ว พี่เรียวไม่ต้องคิดมากแล้วนะครับ รักไม่ได้โกรธพี่เรียว”
“ขอบใจนะไอ้ตัวเล็กที่เข้าใจพี่…”
ที่รักยิ้มเจื่อนต้อนรับสรรพนามใหม่ของตัวเอง ลูกหมาอ้วน แก้มย้อย ล่าสุดไอ้ตัวเล็ก ทุกคนมอบแต่อะไรที่น่าเอ็นดูให้เขา บางครั้งที่รักอยากจะได้ชื่อเรียกที่ดูเท่ ๆ บ้าง แบบ ... ที่รักคนหล่อ ที่รักคนเท่ หรือ รัก นิรันดร์คนมีสไตล์
อยากได้แบบนี้บ้าง T____T
แต่ก็…
“ไม่เป็ไรครับ รักเข้าใจ…”
“แล้วเรามานานยัง?”
“ั้แ่เย็นแล้วครับ พี่เอามาทิ้งไว้ แต่อีกไม่นานก็คงมารับแล้ว”
“น่าสงสาร โดนพี่ทิ้งแล้วยังโดนไอ้ฟ้าทิ้งอีก…”
“นั่นสิครับ แล้วอีกไม่นานพี่เรียวก็จะทิ้งรักไปอีกคน”
“รัก…พูดแบบนี้ กลับบ้านกับพี่เลยดีกว่า”
ที่รักหัวเราะจนปากบาน เพราะพี่เรียวพูดด้วยสีหน้าติดตลก แต่คนที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาด้วยใบหน้าเรียบนิ่งทำให้เขารีบหุบปากทันที “พี่ฟ้า…”
“กลับบ้านพ่อมึงอะไอ้เรียว…”
“ไอ้ฟ้า!”
“ใเชี้ยอะไร…”
หมื่นฟ้าเดินไปนั่งข้าง ๆ คนตัวเล็กเพราะในตอนนี้ตำแหน่งเดิมโดนเพื่อนสนิทแย่งไปแล้ว เป็ครั้งแรกในรอบหลายปีที่รู้สึกหงุดหงิดสีหน้าตื่นตระหนกของเรียว
“มึงมาั้แ่เมื่อไหร่? เมื่อกี้กูยังเห็นมึงสูบบุหรี่อยู่เลย…”
“กูจะสูบทั้งวันทั้งคืนเลยหรือไง”
กลิ่นมินต์ที่เจือกับน้ำหอมอ่อน ๆ โชยผ่านจมูกทุกครั้งที่คนข้างกายเคลื่อนขยับ จากที่สังเกตหมื่นฟ้าตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ ที่รักคิดว่าหมื่นฟ้าเป็คนสูบบุหรี่จัดพอสมควร แต่น่าแปลกที่กลิ่นกายของหมื่นฟ้าไม่ได้เต็มไปด้วยกลิ่นของบุหรี่ เขาไม่รู้สึกฉุนจนแสบจมูกเหมือนตอนที่ไทป์เพิ่งสูบบุหรี่เสร็จใหม่ ๆ แล้วมานั่งข้าง ๆ นั่นคงเป็เพราะหมื่นฟ้าฉีดน้ำหอมถึงได้ช่วยเจือจางไปบ้าง
น้ำหอมอะไรไม่รู้…แต่หอมมาก ๆ
เพิ่งได้กลิ่นชัด ๆ ก็ตอนนี้
แต่ถ้าอยู่ใกล้กันมากกว่านี้ก็จะไม่ได้กลิ่น…เพราะตายก่อน
“ก็ไม่ได้ว่าสูบทั้งวันทั้งคืน ~ แต่แค่แปลกใจว่าโผล่มาตอนไหน?”
“มาตอนที่มึงจะชวนรักกลับบ้านไง”
“กูพูดเล่น ใครจะกล้าพาน้องกลับบ้านวะ…”
“ถ้าพากลับก็โดนตีนกูอะ”
“ขนาดเพื่อนรักอย่างกูยังพากลับไม่ได้ แล้วใครจะพากลับได้วะ?”
“กูไง”
ประโยคคำพูดของหมื่นฟ้าสั้น กระชับและชัดเจน ทว่าในความรู้สึกของเรียวนั้นดูคลุมเครือเหลือเกิน คำว่า ‘กูไง’ ของเพื่อนสนิทสามารถตีความได้หลากหลาย แต่ถ้าให้ตีความตามนิสัยของหมื่นฟ้าแล้ว
กูไง คงหมายถึง ของกู มึงอย่ายุ่ง
แต่ถ้าดูจากสายตาของหมื่นฟ้าที่ละออกจากเขาเพื่อหันไปมองคนตัวเล็กแล้ว ประโยคนั้นจึงแปลได้อีกหนึ่งความหมาย
กูไง คงหมายถึง…
“เป็ไงครับ ตอนพี่ฟ้าไม่อยู่รักขอไอติมกับเด็กในร้านเพิ่มไปกี่ลูก?”
กูคนเดียวเท่านั้นที่จะอยู่ในสายตาเขา
“ก็กินไปแค่สองลูกนั่นแหละครับ เดี๋ยวร้านพี่ฟ้าขาดทุนก็มาโทษรักอีก”
และรอยยิ้มของหมื่นฟ้าในตอนนี้ทำให้มันมีความหมายเช่นนั้นจริง ๆ
เรียวนั่งมองเพื่อนสนิทที่มีพฤติกรรมต่างไปจากเดิม ทว่ามันดันเป็ไปในทางที่ดี หมื่นฟ้าดูอ่อนโยน ใส่ใจ และพยายามมากขึ้น และเรียวรู้ดีว่าสิ่งที่เพื่อนกำลังพยายามอยู่นั้นไม่ง่ายเลย
คนพูดน้อยที่พยายามถามก่อน คนหน้านิ่งที่พยายามยิ้มให้กว้างขึ้น คนที่ไม่ค่อยสนใจใคร แต่พยายามแสดงให้รู้ว่าใส่ใจ
ไอ้ฟ้ามันพยายามจะเป็คนที่ดีขึ้นเพื่อเด็กคนนี้สินะ…
เรียวไม่รู้ว่าเพื่อนกำลังคิดหรือรู้สึกอะไรอยู่ แต่เขาอาศัยความเป็เพื่อนสนิทที่รู้นิสัยอีกฝ่ายพอสมควรคาดเดาเอาเองว่าที่รักมีความสำคัญกับเพื่อนพอสมควร แต่เพื่อความมั่นใจมากกว่านี้เรียวเลยอยากลองพิสูจน์อีกสักหน่อย
“ไอ้ฟ้า มึงทิ้งให้น้องนั่งเหงาอยู่คนเดียวในนี้ ถ้ากูไม่บังเอิญมาเห็นแล้วแวะเข้ามานะ ป่านนี้รักก็ยังนั่งเหงาแก้มย้อยติดโต๊ะอยู่อย่างนั้นแหละ”
หมื่นฟ้าขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะจ้องมองเขาก่อนจะหันไปหาคนข้างกายที่ตอนนี้นั่งกะพริบตาปริบ ๆ อยู่ “เหงาจนแก้มย้อยติดโต๊ะเลยเหรอครับ?”
“เหงานิดหน่อยคือเื่จริงครับ แต่แก้มย้อยติดโต๊ะพี่เรียวพูดเกินจริงไปนิดหนึ่ง…”
“อ้าว ก็ตอนพี่เขามาเห็นเราเอาหน้าแนบไปกับโต๊ะ แก้มนี่กองอยู่บนโต๊ะเลย”
“เหงาแค่ไหน เท่าแก้มตัวเองหรือเปล่า?” หมื่นฟ้าถาม
เรียวเม้มริมฝีปากพยายามกลั้นยิ้ม แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยได้ยินประโยคคำถามแบบนี้จากเพื่อนสักเท่าไหร่ แต่มันไม่ได้ทำให้รู้สึกตลกที่เพื่อนพูดจาแบบนั้น เรียวรู้แค่ว่ามันดูอ่อนโยนจนไม่น่าจะหลุดออกมาจากปากหมื่นฟ้า เขาแค่เป็คนฟังไม่ได้โดนถามเอง หัวใจยังพองโตได้ขนาดนี้ เรียวอยากจะรู้ใจของที่รักจริง ๆ ว่ารู้สึกอย่างไรตอนที่โดนหมื่นฟ้าถามด้วยถ้อยคำน่ารัก ๆ
“ถ้าเท่าแก้มมันก็จะเยอะไป ไม่เท่าแก้มหรอกครับ นิดเดียวจริง ๆ ”
และคงเป็เพราะคนตัวเล็กกลัวว่าหมื่นฟ้าจะไม่เชื่อจึงยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาทำท่าประกอบว่าตัวเองรู้สึกเหงาเพียงเล็กน้อยจริง ๆ เรียวหลุดยิ้มออกมาตอนที่เห็นที่รักเอานิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ขยับเข้าใกล้จนเกือบชิดติดกัน ท่าทางประกอบนั้นช่วยย้ำให้รู้ว่า ‘นิดเดียวจริง ๆ นะ’
หมื่นฟ้ายังเป็คนที่ยิ้มยากเหมือนเดิม นั่นเป็เื่ปกติที่เรียวรู้ดี แต่ที่มันไม่ปกติและช่วยการันตีว่าสิ่งที่เขาคิดเป็จริงคือการที่เพื่อนยิ้มได้บ่อยขึ้นเพราะเด็กคนนี้ อย่างเช่นตอนนี้ที่หมื่นฟ้าอมยิ้มน้อย ๆ ขณะมองคนตัวเล็กทำท่าทางน่ารัก ๆ
ในตอนนี้เรียวตระหนักได้ว่าคนที่จะมาเป็เ้าของผืนฟ้าแห่งนี้ไม่จำเป็ว่าจะต้องเป็ผู้หญิง แต่เป็ใครก็ได้ที่สามารถทำให้ท้องฟ้ามืดมิดไร้แสงดาวมีสีสันมากกว่าทุกวัน
ทำให้เกิดรอยยิ้มบนท้องฟ้า
และหวังให้ที่รักเป็คนนั้นจริง ๆ
ที่รักยังคงทำท่านั้นค้างไว้ ไม่ใช่เพราะกลัวว่าหมื่นฟ้าจะไม่เชื่อ แต่เป็เพราะว่าท่าประกอบของเขาสามารถทำให้หมื่นฟ้ายิ้มได้อีกแล้ว เขาไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นตอนไหน อาจจะเป็ตอนที่หมื่นฟ้ายกเวลาที่เหลืออีกสี่สิบห้านาทีให้เขา หรือเมื่อสามวินาทีที่เพิ่งผ่านพ้นมา แต่ไม่ว่าจะเป็ตอนไหนก็ตาม…ที่รักเพิ่งรู้ว่าตัวเองอยากทำให้หมื่นฟ้ายิ้มได้บ่อย ๆ
และที่รักก็ไม่รู้ว่าหมื่นฟ้าจะรู้ตัวบ้างหรือเปล่าว่าตัวเองชอบทำให้เขาใจเต้นแรง อย่างเช่นตอนนี้ที่หมื่นฟ้าคว้ามือข้างนั้นของเขาไปจับไว้ ก่อนจะเอาไปวางไว้ที่หน้าขาของเ้าตัวแล้วเปลี่ยนเป็การกุมมือแทน
“พี่ฟ้าไม่ทิ้งไปไหนแล้ว…” หมื่นฟ้าบอกกับเขาก่อนจะหันไปหาพี่เรียว “มึงออกไปจัดการร้านแทนกูด้วย แล้วถ้าไอ้ทิมมาถามเื่ถือเค้กอีก ก็บอกว่ากูยังยืนยันคำเดิมว่าไม่ทำ และกูก็ขอไม่เข้าไปร่วมงานวันเกิดแฟนเก่ามันด้วย…กูจะอยู่เป็เพื่อนรัก เพราะไม่อยากให้เหงาเยอะเท่าแก้มตัวเอง”
เรียวอมยิ้ม “เออ เดี๋ยวกูจัดการเพื่อนมึงให้เอง มึงอยู่เป็เพื่อนรักไปเถอะ”
ที่รักอยากจะรั้งให้พี่เรียวอยู่ด้วยกันก่อน ตอนนี้เขาไม่อยากอยู่กับหมื่นฟ้าแค่สองคน เขายอมเหงาเยอะเท่าแก้มตัวเองดีกว่าจะต้องนั่งกุมมือเพื่อคลายเหงา แต่พี่เรียวดูรีบร้อนอยากออกข้างนอกเสียเหลือเกิน บางทีพี่เรียวอาจจะรู้สึกกระอักกระอ่วนกับการกระทำของหมื่นฟ้า เ้าตัวถึงได้รีบลุกเดินออกไปโดยไม่หันมามองเขากับหมื่นฟ้าเลย
ตอนนี้ภายในห้องเรือนกระจกเหลือแค่เขากับหมื่นฟ้า ที่รักอยากจะทวงมือของตัวเองคืนมาแต่แค่มองหน้า หมื่นฟ้ายังไม่กล้าเลย เขาแอบลอบมองอีกฝ่ายที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดอะไรบางอย่าง หมื่นฟ้าทำทุกอย่างด้วยมือเดียว
ใช่…ไม่ยอมปล่อยมือกันเลย
“หายเหงายังครับ?”
“ไม่เหงาแล้วครับ พี่ฟ้าปล่อยมือรักได้แล้วครับ”
หมื่นฟ้าหันมาสบตาเขาก่อนจะยิ้มบาง แล้วเ้าตัวก็กลับไปให้ความสนใจกับโทรศัพท์ของตัวเองต่อ สิ่งที่หมื่นฟ้าทำหลังจากนั้นไม่ใช่การคืนอิสระให้เขา แต่ฝ่ามือหนากลับรุกล้ำหนักกว่าเดิมด้วยการเลื่อนนิ้วมาสอดผสานกันไว้ เมื่อหมื่นฟ้ากระชับฝ่ามือให้แนบชิดกันมากขึ้นไออุ่นจากฝ่ามือของอีกฝ่ายถูกส่งผ่านมาถึงร่างกายเขาจนรู้สึกร้อนรุ่มไปหมด
นอกจากร่างกายที่รู้สึกร้อนระอุจนแทบทนไม่ไหว ในท้องของเขาก็กำลังถูกบางสิ่งรบกวน มันคงเป็แมลงที่มีปีกสวย ๆ หลากสีสัน เวลาที่พวกมันสยายปีกโบยบินไปทั่วท้อง ที่รักจะรู้สึกหวิว ๆ ปนวูบโหวง มันเป็ความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้ และที่รักคิดว่าเ้าพวกนี้คงมีจำนวนมากพอจนทำให้เขารู้สึกปั่นป่วนได้ขนาดนี้
ก่อนที่จะเกิดความรู้สึกแปลก ๆ กับตัวเองไปมากกว่านี้ ที่รักจึงตัดสินใจออกแรงดึงมือตัวเองออกจากฝ่ามืออีกฝ่าย ทว่าเขาคงออกแรงน้อยไป หมื่นฟ้าจึงไม่รู้สึกถึงการทวงคืน ทุกอย่างยังคงเดิม…มือของเขายังถูกหมื่นฟ้าไว้
“ขอหลอกจับมืออีกสักพักได้ปะครับ?”
“…” T_________T มีขอหลอกด้วย คนแบบนี้มีด้วยเหรอ ถ้าตอบว่าไม่ให้คงจะใจร้ายกับหมื่นฟ้าเกินไปใช่ไหม
ตอนนี้ต่อให้มีผีเสื้อสักพันฝูงคงไม่ทำให้เขาปั่นป่วนได้เท่าประโยคคำพูดของหมื่นฟ้าเพียงประโยคเดียว ที่รักนั่งนิ่งถามตัวเองซ้ำ ๆ พยายามหาสาเหตุที่ทำให้หมื่นฟ้ามีอิทธิพลต่อความรู้สึกของตัวเอง เขารู้ดีว่าคงไม่ได้คำตอบในเร็ววันนี้ แต่อย่างน้อย ๆ ที่รักก็รู้ว่าหมื่นฟ้าแตกต่างจากคนอื่น
และเสียงสั่นครืดที่ดังมาจากโทรศัพท์เครื่องสีดำก็ทำให้ที่รักหันกลับไปมองหมื่นฟ้าอีกรอบ เขามองโทรศัพท์ของตัวเองที่สั่นแจ้งเตือนสลับกับมือที่โดนขโมยไป แม้ว่าเ้าตัวจะไม่ยอมละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเอง แต่ดูเหมือนว่าหมื่นฟ้าจะเข้าใจในสิ่งที่เขาจะสื่อ หมื่นฟ้าถึงได้พูดบางอย่างออกมา
“ใช่อีกมือรับโทรศัพท์แทนนะครับ พี่ฟ้ายังอยากจับมือข้างนี้อยู่”
“แต่รักไม่ถนัดนี่พี่ฟ้า ปล่อยสักแป๊บไม่ได้เหรอครับ เดี๋ยวคุยเสร็จแล้วรักคืนให้”
นี่มันมือเขานะ T________T ทำไมต้องคืนให้หมื่นฟ้าด้วยเล่า!! แต่ก็ต้องพูดเพื่อให้อีกฝ่ายยอมปล่อยกันก่อน
“…คืนด้วยนะครับ”
โอ๊ย…พี่ฟ้าค้าบบบบ คนหน้ามึน จะมายึดมือคนอื่นไปเป็ของตัวเองได้ไง!
ทันทีที่หมื่นฟ้ายอมปล่อยมือกัน ที่รักก็รีบหยิบโทรศัพท์มารับสาย และชื่อที่ระบุอยู่บนหน้าจอก็ทำให้ที่รักรู้ว่าอีกไม่นานตัวเองจะรอดพ้นจากภาวะหัวใจวาย
“พี่เบบ ถึงไหนแล้ว? ถึงแล้วใช่ไหม?”
(ยังไม่ถึงเลย ฉันว่าจะโทรมาบอกให้แกขอให้ฟ้าไปส่งที่บ้านหน่อย)
“ฮะ!!”
(รถติดมากจริง ๆ รัก ฉันมาทางลัดด้วย มันไม่ผ่านร้านฟ้าอะ ถ้าไปรับคือต้องย้อนกลับไปเยอะเลย ตอนแรกจะย้อนไปรับ แต่รถก็ติดเกิน ไม่งั้นคงถึงบ้านเที่ยงคืนอะ)
“ไม่เอาหรอก รัก…เกรงใจเขา”
(งั้นขอฉันคุยกับฟ้าหน่อย)
“พี่เบบ…” ที่รักเรียกชื่อพี่สาวเสียงอ่อย เพราะพอจะเดาได้ว่าพี่สาวจะต้องช่วยพูดให้แน่ ๆ
(ขอสายฟ้าหน่อยรัก)
ที่รักถอนหายใจก่อนจะส่งโทรศัพท์ให้คนข้างกาย หมื่นฟ้ารับไปคุยอย่างง่ายดายโดยไม่ถามอะไรสักคำ เขาฟังบทสนทนาระหว่างพี่สาวกับหมื่นฟ้าสักครู่ จากนั้นหมื่นฟ้าก็ส่งโทรศัพท์คืนเขา พี่สาววางสายไปเรียบร้อยแล้ว ไม่คิดจะถามความสมัครใจจากเขาสักนิดเลย
“กลับกัน เดี๋ยวพี่ฟ้าไปส่ง”
“จริง ๆ รักกลับเองได้นะครับ”
“พี่ฟ้ารู้ แต่ให้พี่ฟ้าไปส่งดีกว่า”
“พี่เบบบังคับพี่ฟ้าใช่ไหมเนี่ย…ชอบเป็ห่วงจนเกินเหตุตลอดเลย”
“ไม่มีใครบังคับพี่ฟ้าได้หรอก ที่ไปส่งเพราะพี่ฟ้าอยากไปส่ง”
“…”
หมื่นฟ้าลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วส่งมือของตัวเองไปหาอีกฝ่าย “ขอมือคืนด้วยครับ ไม่ได้เอาไปใช้อะไรแล้วนี่…”
หมื่นฟ้าแอบรู้ฉายาลูกหมาอ้วนของเขาหรือเปล่านะ ถึงได้ขอมือเหมือนเขาเป็ลูกหมาเลย และถ้าปฏิเสธไม่ยอมคืนมือให้คนตัวสูง ที่รักคงกลายเป็คนผิดคำพูด เขาจึงจำใจส่งมือของตัวเองให้หมื่นฟ้า
เราสองคนเดินออกมาจากห้องเรือนกระจกเพื่อไปที่ลานจอดรถตามที่หมื่นฟ้าบอก ระหว่างทางมีสายตาหลายคู่จับจ้องมาทางเราสองคน แต่ที่รักไม่รู้ว่ามีกี่คนที่กำลังมองเราอยู่เพราะเขารู้สึกประหม่าจนต้องก้มหน้าเดิน เขาเห็นแต่รองเท้ายี่ห้อ Vans ของอีกฝ่ายที่พยายามจะก้าวสั้น ๆ ทั้งที่สามารถก้าวเดินได้ยาวและเร็วกว่านี้
“เดินระวัง ๆ นะครับ เดี๋ยวพี่ฟ้าจะค่อย ๆ เดิน”
และเสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยทำให้เขาเงยหน้าขึ้นมอง
“คะ ครับ”
ที่รักเพิ่งรู้ถึงเหตุผลที่คนตัวสูงเลือกจะเดินช้า ๆ
หมื่นฟ้าทำไมต้องใส่ใจอะไรมากขนาดนี้ด้วยนะ…
ในตอนนี้ที่รักเปลี่ยนเป้าสายตาเป็แผ่นหลังของคนตัวสูงแทนการก้มหน้ามองพื้น หมื่นฟ้าทำให้เขารู้สึกปลอดภัยมากขึ้น ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไร หมื่นฟ้าจะคอยช่วยเหลือเขาเสมอ
เ้าของร้านตัวสูงพาเขาเดินมาถึงลานจอดรถ หมื่นฟ้ายังคงก้าวเดินอย่างสม่ำเสมอ ไม่เร็วไปและไม่ช้าไป แต่จู่ ๆ คนตัวสูงก็เดินช้าลงจนหยุดนิ่ง ที่รักไม่รู้ว่าอะไรเป็สาเหตุให้หมื่นฟ้าหยุดเดินเพราะเขามองไม่เห็นทางข้างหน้าเนื่องจากเ้าตัวบังมิด มือของเขาที่โดนยึดไว้ในตอนแรกถูกปล่อยให้เป็อิสระ ท่าทีที่เปลี่ยนไปทำให้ที่รักเกิดความสงสัยจึงชะโงกหน้ามองทางข้างหน้า
เขาเห็นผู้หญิงตัวสูงหน้าตาสะสวย สวยจนคิดว่าใครหลาย ๆ คนคงตกหลุมรักได้ง่าย ๆ เพียงแค่ได้เห็นไม่กี่นาที เธอส่งยิ้มให้หมื่นฟ้า คนตัวสูงข้างกายเขายิ้มตอบ แต่เป็รอยยิ้มบางที่ไม่ใช่รอยยิ้มที่คล้ายแสงแดดยามเช้าอย่างที่เขาชอบ
“รักครับ เดี๋ยวพี่ฟ้าขอคุยธุระหน่อย รักไปรอที่รถก่อนเลย”
หมื่นฟ้าว่าพลางส่งกุญแจรถให้เขา ที่รักพยักหน้าและรับกุญแจรถมา เขาพอจะเดาได้ว่าหมื่นฟ้าอยากคุยกับผู้หญิงคนนั้นเป็การส่วนตัวโดยไม่มีคนอื่นอย่างเขาอยู่ด้วย
ที่รักกำลังก้าวเดินออกมาจากตรงนั้นเพื่อตรงไปที่รถเบนซ์สปอร์ตสีดำที่จอดอยู่ไม่ไกล แต่เสียงทุ้มต่ำที่ได้ยินบ่อย ๆ รั้งฝีเท้าเขาไว้ก่อน
“รัก…”
“ครับ?” ที่รักหันมองคนตัวสูง ฝ่ามือหนาถูกส่งมาลูบที่หัวของเขาเบา ๆ ก่อนที่รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าเรียบนิ่ง
รอยยิ้มคล้ายแสงแดดในยามเช้านั่นแหละ…
“แป๊บเดียวนะครับ เดี๋ยวพี่ฟ้าตามไป”
“ครับ”
ที่รักพยักหน้ารับหงึกหงักก่อนจะเดินมาขึ้นรถ เขาเอากุญแจรถวางไว้ที่เบาะคนขับเพื่อรอให้หมื่นฟ้ามาจัดการทุกอย่างเอง ที่รักไม่กล้าแตะต้องรถหรูคันนี้หรอก และเพราะว่าไม่ได้ยุ่งอะไรกับรถคันนี้มากนัก ที่รักจึงกวาดสายตามองไปโดยรอบเพื่อหาจุดพักสายตาที่ดีระหว่างรอหมื่นฟ้า ที่รักไม่ได้อยากแอบดูทั้งสองคนคุยกัน แต่เพราะว่าหมื่นฟ้าและผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ข้างหน้าและไม่ไกลมากนัก มันจึงยากที่เขาจะหลีกเลี่ยงได้
หมื่นฟ้าคุยกับผู้หญิงคนนั้นด้วยท่าทางสนิทสนม ยิ้มหัวเราะเหมือนว่ารู้จักกันเป็อย่างดี แต่ไม่นานหมื่นฟ้าก็โบกมือลากับผู้หญิงคนนั้นแล้วเดินตรงมาที่รถ พอเ้าของรถนั่งประจำตำแหน่งคนขับ เ้าตัวก็เริ่มติดเครื่องยนต์และขับรถออกมาจากร้าน ระหว่างทางเราสองคนสนทนากันผ่านความเงียบ บรรยากาศผิดแปลกไปจากเดิมจนเห็นได้ชัด ที่รักไม่รู้ว่าบรรยากาศและความรู้สึกคลุมเครือนี้มันคืออะไร และครั้งนี้เขาก็ยังไม่สามารถหาคำตอบให้ตัวเองได้อีกเช่นกัน
ทว่าทุกความคิดต้องหยุดลงเมื่อเ้าของรถละมือข้างหนึ่งจากพวงมาลัยแล้วกดเปิดเพลงคลอเบา ๆ ที่รักเดาว่าหมื่นฟ้ากำลังขับไล่ความเงียบ แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้นอีกครั้ง หมื่นฟ้าถือวิสาสะดึงมือเขาไปกุมไว้เหมือนเดิม
“ทุกครั้งที่รักไม่ได้ใช้มือข้างนี้ทำอะไร ช่วยเอามาคืนพี่ฟ้าด้วยนะครับ”
“นี่มันมือของรักนะพี่ฟ้า…”
“ไม่ได้ยกให้พี่ฟ้าแล้วเหรอ? เห็นบอกว่าจะคืน”
“ทำไมพี่ฟ้าชอบจับมือคนอื่นจัง?” ที่รักขมวดคิ้วสงสัย พยายามดึงมือออกแต่ก็โดนรั้งไว้ ก่อนที่หมื่นฟ้าจะผสานนิ้วทั้งห้าของตัวเองให้แนบสนิทกับฝ่ามือเขาอีกครั้ง
“ถ้ารักเป็คนอื่นพี่ฟ้าไม่แตะต้องหรอก”
“…”
“พี่ฟ้าอยากให้เราสนิทกัน รักสนิทกับพี่ฟ้าได้ไหมครับ?”
คำถามของหมื่นฟ้าทำให้ใจเขาสั่นเหมือนเ้าเข้า ที่รักเคยเจอแต่ขอเป็แฟน ขอเป็เพื่อน เขาไม่เคยเจอขอสนิทเลย คนที่จะสนิทกันได้มันเกิดจากการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและเรียนรู้กัน การที่เราจะสนิทกับใครสักคนไม่ใช่เื่ที่จะขอกันได้ เราจะต้องศึกษาและใส่ใจอีกฝ่ายอย่างสม่ำเสมอด้วย
“จะสนิทกันทั้งทีก็ต้องทำให้รู้สึกจริง ๆ สิพี่ฟ้า ไม่ใช่แค่ขออนุญาตแล้วจะทำให้สนิทได้นะ”
“เป็ครั้งแรกเลยที่พี่ฟ้าขอเป็คนสนิทกับคนอื่นก่อน พี่ฟ้าไม่ค่อยรู้วิธีที่จะทำให้สนิทสักเท่าไหร่ มันต้องทำยังบ้างครับ รักช่วยแนะนำพี่ฟ้าหน่อยได้ไหม?”
“โธ่ พี่ฟ้า เื่นี้รักก็ไม่คล่องเลย…” ไม่ค่อยจริง ๆ นะ รู้ตัวอีกทีก็สนิทกันเองไปหมดแล้ว อย่างเพื่อนในกลุ่มก็สนิทกันไปเองโดยไม่ต้องพึ่งวิธีการอย่างที่หมื่นฟ้าถามหา “คงต้องคุยกันเยอะ ๆ อยู่ด้วยกันตลอดหรือเปล่า ตอนรักรู้จักกับลี้่แรก ๆ ก็ไม่สนิทกันนะ แต่พอเรียนด้วยกันทุกวัน มีอะไรก็คุยกันตลอด มันเลยทำให้สนิทกัน จริง ๆ รักไม่รู้หรอกว่าคำว่าสนิทกันของแต่ละคนเป็ยังไง แต่สำหรับรักคือการที่เราต่างไว้ใจกัน พร้อมจะแชร์เื่ราวต่าง ๆ ไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็เื่ที่ทำให้เขาทุกข์หรือสุข และเพราะว่าเราได้แชร์เื่ราวให้กันนั่นแหละ มันจะทำให้เราค่อย ๆ ซึมซับตัวตนของอีกฝ่ายไปโดยไม่รู้ตัว มารู้อีกทีก็รู้ใจกันแล้ว บางคนสนิทกันมากขนาดมองตาก็รู้ใจเลยนะพี่ฟ้า…”
หมื่นฟ้าอมยิ้มเพราะเห็นคนที่ปฏิเสธว่าตัวเองไม่ค่อยคล่องกลับอธิบายได้อย่างคล่องแคล่ว พูดเจื้อยแจ้วปากยื่นมุบมิบจนอยากปล่อยมือเพื่อไปหยิกให้ปากขาด
“งั้นพี่ฟ้าเริ่มแชร์เื่ราวของตัวเองให้รักฟังเลยได้ไหม? อยากสนิทเร็ว ๆ แล้วครับ”
“…” ที่รักจ้องมองคนตัวสูงที่มองถนนข้างหน้าอยู่ ก่อนเอ่ยถามอย่างสงสัย “ทำไมพี่ฟ้าอยากสนิทกับรักครับ?”
“บางทีก็อยากได้คนที่ทำให้เรารู้สึกว่าการกลั้นยิ้มมันเป็เื่ยากเข้ามาอยู่ในชีวิต”
โอ้โฮ…เป็เหตุผลที่ทำให้ตายไปเลย…ไม่รู้จะคุยอะไรต่อเลย สมองตื้อไปหมด
“…”
“พี่ฟ้าไม่รู้จะแชร์เื่อะไรก่อนดี รักอยากรู้เื่อะไร พี่ฟ้าจะเล่าให้ฟัง”
“…” ตอนแรกไม่อยากรู้อะไรเกี่ยวกับหมื่นฟ้าหรอก แต่ภาพที่หมื่นฟ้ายิ้มหัวเราะกับผู้หญิงคนนั้นทำให้เขาอยากรู้ขึ้นมา แต่มันอาจเป็เื่ส่วนตัวจนเกินไป ที่รักจึงเลือกจะส่ายหน้าปฏิเสธอีกฝ่าย “ไม่มีครับ”
“งั้นพี่ฟ้าเล่าเื่ที่คิดว่าเป็สิ่งที่แย่ที่สุดของตัวเองก่อนแล้วกัน เพราะถ้าจะสนิทกัน อย่างน้อย ๆ อีกคนควรจะรู้ว่าเราเคยมีนิสัยไม่ดียังไง มีจุดบกพร่องตรงไหนบ้าง…”
“…”
“แต่ฟังแล้วรักอย่าเกลียดพี่ฟ้านะ…พี่ฟ้าไม่ใช่คนนิสัยไม่ดีคนนั้นแล้ว”
“…”
“รักจะไม่พอใจกับการกระทำของพี่ฟ้าก็ได้ แต่ไม่เกลียดกันได้ไหมครับ?”
“…” ที่รักชั่งใจอยู่สักครู่ หมื่นฟ้าคนในอดีตเลวร้ายขนาดไหนกันถึงได้กังวลขนาดนี้ แต่คนที่ทำผิดแล้วคิดกลับตัวควรจะให้อภัยมากที่สุด ที่รักจึงพยักหน้าตอบรับ และเตรียมใจรับฟังเื่ราวในอดีตของหมื่นฟ้า
“เื่ที่พี่ฟ้าคิดว่าตัวเองแย่ที่สุดคงจะเป็ตอนที่คบกับแฟนเก่า คนที่พี่ฟ้าคุยด้วยเมื่อกี้…”
“…” ว่าแล้ว…มันดูมีบางอย่างระหว่างที่เขาคุยกัน สายตาของผู้หญิงคนนั้นดูมีความสุขมากเวลาได้คุยกับหมื่นฟ้า
“แยมเป็เพื่อนสนิทของพี่ฟ้าตอน ม.4 แล้วพอ ม.5 ก็คบกันเพราะรู้ใจตัวเองว่ารู้สึกกันเกินกว่าเพื่อน เรามาเลิกกันตอนเรียนจบม.6 เพราะพี่ฟ้าเอง พี่ฟ้ารู้ดีว่าอะไรที่พอจะรักษาความสัมพันธ์ของเราไว้ได้ แต่พี่ฟ้าก็ไม่ยอมทำ ในตอนนั้นพี่ฟ้ายังไม่พร้อมจะเปลี่ยนตัวเองเพื่อใคร พูดง่าย ๆ ก็คือรักตัวตนของตัวเองจนกลายเป็คนเห็นแก่ตัวโดยไม่รู้ตัว เราคิดแค่ว่าบางอย่างที่เขาคาดหวังให้เราทำ คาดหวังให้เราเป็มันไม่ใช่นิสัยของเรา ไม่ใช่ตัวตนจริง ๆ ของเรา ถ้าเรารู้สึกไม่สบายใจที่จะทำก็จะไม่ยอมทำ พี่ฟ้าไม่อยากเอาคำว่าตอนนั้นยังเด็กอยู่มาอ้างเลย ตามอายุแล้วคือโตพอที่จะคิดได้บ้างแล้ว แต่ก็ยังเลือกจะเอาความสบายใจของตัวเองเป็หลักอยู่ดี”
“…”
“ปัญหาหลัก ๆ ที่มันสะสมมานานจนทำต้องให้เลิกกันก็เพราะพี่ฟ้าไม่ค่อยแสดงออกให้คนรอบข้างรู้ว่าเรารักเขา เวลาใครถามว่าเป็อะไรกับแยม พี่ฟ้าก็ตอบว่าแฟน แล้วทุกอย่างจะจบแค่นั้น ไม่อธิบายอะไรเพิ่มอีก ซึ่งบางทีแยมอยากให้พี่ฟ้าแสดงออกให้คนอื่นรับรู้บ้างว่าพี่ฟ้ารักแฟนตัวเองนะ แนะนำคนรู้จักไปบ้างว่าแยมเป็แฟน โดยไม่ต้องรอให้ใครถามก่อนว่ามีแฟนหรือเปล่า ตอนนั้นพี่ฟ้าคิดแค่ว่าเรารักเขา แล้วเราก็เป็แฟนกันจริง ๆ คนอื่นจะรับรู้หรือคิดยังไงก็ช่าง อีกอย่างพี่ฟ้าไม่ชอบตอบคำถามในเื่ส่วนตัวแบบนี้ด้วย แต่พอมองย้อนกลับไป บางทีเราก็ควรจะแสดงออกให้มากกว่านี้ ควรจะให้เกียรติเขาให้มากขึ้นในฐานะคนรักของเรา ตลอดมาพี่ฟ้าดูเหมือนไม่รักแยม แต่จริง ๆ พี่ฟ้ารักแยมมาก แต่ด้วยนิสัยส่วนตัว มันเลยทำให้คนอื่นมองอีกแบบ ตอนแยมบอกเลิกพี่ฟ้ารู้สึกว่าตัวชาไปหมด รู้ซึ้งถึงคำว่าสูญเสียจริง ๆ”
“…”
“ตอนแรกพี่ฟ้าก็มีความรู้สึกผิดติดตัวเหมือนกัน ไม่เคยคิดที่จะให้อภัยตัวเองเลย พี่ฟ้าถึงได้เข้าใจรักว่ามันยากแค่ไหนที่จะก้าวข้ามผ่านความรู้สึกนี้ไปได้ แต่ดีที่แยมยังสามารถเป็เพื่อนกับพี่ฟ้าได้ แยมบอกว่าความสัมพันธ์ที่ล้มเหลวในครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากพี่ฟ้าคนเดียว แต่ก็เป็เพราะแยมด้วย ตอนที่เป็เพื่อนกันเราไม่มีความคาดหวังในตัวอีกฝ่าย แต่พอคบกันแล้วมันห้ามไม่ได้ที่จะไม่คาดหวังในตัวคนรัก ห้ามไม่ได้ที่อยากให้เขาเป็แบบนั้นแบบนี้ แยมเลยรู้สึกผิดไม่น้อยเหมือนกันเพราะแยมเป็คนที่รู้จักพี่ฟ้าดี รู้ว่าพี่ฟ้านิสัยเป็ยังไง แต่กลับร้องขอให้พี่ฟ้าทำในสิ่งที่ฝืนใจตัวเอง ตอนนั้นเรานั่งคุยกันด้วยเหตุผล มันเลยทำให้ความรู้สึกผิดที่เรามีต่อกันมันลดน้อยลงไป…แยมบอกว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเราสองคนมีความสุขมากนะ พี่ฟ้าก็เห็นด้วยกับแยม แม้ความสุขที่มีมันจะน้อยกว่าตอนเป็เพื่อนกันก็ตาม แต่ก็ยังถือว่ามีความทรงจำที่ดีร่วมกันอยู่ ไม่ได้ผิดใจหรือทะเลาะกันอย่างเดียว แต่สุดท้ายเราสองคนก็ตัดสินใจว่ากลับไปเป็เพื่อนกันเหมือนเดิม มันคงจะดีกว่า ดีกว่าเราคบกันต่อไปแล้วเผลอทำร้ายความรู้สึกกันไปมากกว่านี้”
“…”
“หลังจากนั้นพี่ฟ้าก็ไม่เคยคบใครอีกเลยเพราะกลัวว่าจะรู้สึกแย่เหมือนตอนที่เลิกกับแยมอีก กลัวความรู้สึกที่มีบางอย่างในชีวิตขาดหายไปกลับมาอีกครั้ง กว่าจะปรับตัวให้สามารถใช้ชีวิตโดยไม่มีเขาในทุก ๆ วัน มันไม่ใช่เื่ง่ายเลย แต่ก็มีหนึ่งสิ่งที่ช่วยเราได้ก็คือเวลา เวลามันช่วยเยียวยาเราได้จริง ๆ และเวลาก็ทำให้พี่ฟ้ากลับไปรู้สึกกับแยมแค่เพื่อนได้อีกครั้ง”
“…”
“พี่ฟ้าเลยบอกกับตัวเองว่า…ถ้าหากพี่ฟ้าตกหลุมรักใครอีกครั้ง ถ้าพี่ฟ้าได้รักใครสักคนอีกครั้งจริง ๆ พี่ฟ้าจะรักเขาให้เท่าที่รักตัวเอง จะใส่ใจเขาให้มากขึ้น จะแสดงออกให้เขารับรู้ จะพยายามเป็คนที่ดีขึ้นในทุก ๆ วัน และจะทำให้เขารู้สึกว่าคิดไม่ผิดที่เลือกเรา”
“…” ที่รักไม่ได้มีประสบการณ์ในเื่ของความรักสักเท่าไหร่ เขาไม่รู้ว่าเวลาคนเรามีความรักนั้นจะเกิดความซับซ้อนและละเอียดอ่อนในความรู้สึกมากแค่ไหน แต่จากที่ฟังเื่ราวของหมื่นฟ้าแล้ว ที่รักคิดว่าหมื่นฟ้าไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร มันเป็ความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน ในอดีตหมื่นฟ้าอาจจะรักตัวเองมากจนเกินไปจริง ๆ แต่ตอนนี้เขาก็ได้รับบทเรียนแล้ว และเ้าตัวยังกลับตัวอยากเป็คนที่ดีขึ้นของคนรักในอนาคต
คนที่นำข้อผิดพลาดในอดีตมาแก้ไขตัวเองให้กลายเป็คนที่ดีขึ้น…และไม่คิดจะทำซ้ำ
คนแบบนี้ เขาอยากจะเป็กำลังใจให้ต่อไป…
แต่คงเป็เพราะหมื่นฟ้ากลัวว่าตัวเองจะถูกเกลียด ถึงได้กุมมือเขาแน่นขึ้นคล้ายกลัวว่าเขาจะเปลี่ยนไป และเ้าตัวคงกังวลว่าเขาอาจจะไม่อยากสนิทด้วยแล้ว ที่รักอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะบีบฝ่ามือหนาเบา ๆ ให้อีกฝ่ายรับรู้ถึงการมีอยู่ เขายังอยู่ตรงนี้เหมือนเดิม ยังคงพร้อมจะสนิทกับหมื่นฟ้าคนใหม่
“ก็พี่ฟ้าเปลี่ยนตัวเองแล้วนี่เนอะ…ไม่ใช่คนที่รักตัวเองจนไม่แคร์คนอื่นแล้ว ทำไมรักจะต้องเกลียดพี่ฟ้าด้วย แล้วพี่ฟ้ารู้ไหมว่าการที่ฟ้าพยายามเปลี่ยนตัวเองให้เป็คนที่ดีขึ้น…มันทำให้รักอยากจะเป็คนที่สนิทกับพี่ฟ้าเร็ว ๆ เหมือนกัน”
“…” หมื่นฟ้าไม่ตอบอะไร ทำเพียงแค่กุมมือเขาไว้เหมือนเดิม
“ขอบคุณนะครับ…ขอบคุณที่เป็กำลังใจให้คนที่พยายามทำให้ตัวเองเป็คนที่ดีขึ้น”
“ครับ รักจะเป็กำลังใจให้พี่ฟ้าอยู่ตรงนี้แหละ จะคอยบอกพี่ฟ้าว่า ซู่ ๆ เหมือนเสียงน้ำทะเล ถ้าพี่ฟ้าหมดกำลังใจเมื่อไหร่มาหารักได้เลยนะ รักจะคอยเติมให้”
“กำลังใจเยอะเหรอเราน่ะ?”
“เยอะสุด ๆ เยอะกว่าแก้มตัวเองอีก…”
หมื่นฟ้าอมยิ้มก่อนจะพูดด้วยเสียงแ่เบาเหมือนพูดกับตัวเอง “รักทำให้พี่ฟ้ากลายเป็คนพูดมากไปแล้ว…”
แต่ที่รักได้ยินประโยคนั้นชัดเจน
“…”
แสงไฟจากท้องถนนที่สาดส่องเข้ามาภายในรถทำให้ที่รักเห็นรอยยิ้มนั้นของหมื่นฟ้า รอยยิ้มในแบบที่เขาจะเผลอยิ้มตามทุกครั้งที่เห็น และในจังหวะที่หมื่นฟ้าใช้มือเพียงข้างเดียวหมุนพวงมาลัยเพื่อเลี้ยวตรงทางแยก เ้าตัวละสายตาจากท้องถนนชั่วครู่แล้วหันมาสบตากับเขา ก่อนจะกลับไปให้ความสนใจกับทางข้างหน้าเหมือนเดิม และในเสี้ยววินาทีถัดมาที่รักเห็นรอยยิ้มที่กว้างขึ้นกว่าเดิมของหมื่นฟ้า รอยยิ้มที่ทำให้เขายิ้มกว้างตามไปด้วย…
รอยยิ้มที่ทำให้เสียงเพลงสากลที่ถูกเปิดคลออยู่เบา ๆ กลับดังชัดขึ้นกว่าเดิม
‘And I’ m thinking’ bout how people fall in love in mysterious ways’
เนื้อเพลงท่อนนี้มันบอกว่า… ‘และผมได้ครุ่นคิดว่า เหล่าผู้คนต่างตกหลุมรักกันในวิธีที่น่าพิศวงนี้ได้อย่างไร’
“เหงื่อออกที่มือเยอะเลย พี่ฟ้าจับแน่นไปใช่ไหมครับ?”
‘Maybe just the touch of a hand’
และเนื้อเพลงอีกท่อนที่ตามมาก็ช่วยตอบคำถามให้เขา คำตอบก็คือ… ‘บางทีอาจเพียงแค่การแตะมือกัน’
“รักก็ว่าอย่างนั้นแหละครับ”
TBC
#กี่หมื่นฟ้า
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้