การคุกเข่าลงกับพื้นถือเป็ความอัปยศ มันเป็ความอัปยศที่สุดในชีวิตของจางเทียนหยาง แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะขัดขืน
ศิษย์คนที่เหลือด้านหลังของสายเลี่ยนเหยียนอีกสี่คนเห็นจางเทียนหยางคุกเข่าลง ความอดทนเส้นสุดท้ายในใจของพวกเขาก็แตกสลายไป จางเทียนหยางมีพลังฝีมือเหนือกว่าพวกเขาทุกคน ขนาดคนที่มีความสามารถสูงที่สุดยังคุกเข่าลง แล้วพวกเขาจะอดทนต่อไปเพื่ออะไร?
“ตุบ” ชายอีกสี่ก็คุกเข่าลงบนทราย
“ฮ่าฮ่า เชื่อฟังแบบนี้ก็ถูกต้องแล้ว” หวงเฮ่าหัวเราะร่า ถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้มีรูปร่างใหญ่โตอะไร แต่ก็เงยหน้ามองไปที่ศิษย์สายเลี่ยนเหยียนทั้งห้าคนอย่างเปิดเผย เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็าา ดูองอาจอย่างมาก
“อิอิ”
ในเวลานี้เอง หญิงสาวหน้าตาสวยหวานคนหนึ่งด้านหลังหวงเฮ่าก็อดหัวเราะส่งเสียงออกมาได้ สายตาที่มองไปที่พวกจางเทียนหยางเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย “ลูกผู้ชายหลายคนคุกเข่าบนพื้นแบบนี้ หน้าไม่อายเลยนะ อิอิ ... ”
หวงเฮ่ายักไหล่ให้กับหญิงสาวคนนั้นแล้วพูดว่า “แล้วจะให้ทำอย่างไร พวกเขาตื่นกลัวเพราะข้าปล่อยลมปราณข่มแล้ว จำเป็ต้องคุกเข่า พวกเขาไม่ใช่ผู้ชายหรอก แต่ข้านี่แหละนายใหญ่!”
ชายหนุ่มอีกคนด้านข้างกลับส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ไม่ บอกว่าพวกเขา ‘ไม่ใช่ผู้ชาย’ ดูเหมือนไม่ค่อยถูกเท่าไรเลยนะ พูดให้ถูกต้องบอกว่าพวกมันเป็สุนัขของเรา แล้วสุนัขจะไม่เชื่อฟังได้อย่างไรกันล่ะ?”
“อิอิอิ ... ”
สาวน้อยด้านข้างปิดปากหัวเราะและพูดด้วยเสียงใสๆ ว่า “เชื่องจังเลยนะเ้าลูกหมา อิอิ ไหนลองเห่าสิ เรารอฟังอยู่”
“พูด”
หวงเฮ่าชี้ไปที่หน้าพวกจางเทียนหยาง น้ำเสียงเต็มไปด้วยพลังที่ออกคำสั่ง
พวกจางเทียนหยางกำหมัดแน่น รู้สึกว่าร่างกายของพวกเขากำลังสั่นและลำบากที่จะเอ่ยมันออกมา “เรา ... เราศิษย์ของสายเลี่ยนเหยียน ... ”
“เสียงดังหน่อย! พูดให้มดฟังหรือไงกัน!” หวงเฮ่าพูดสั่ง
จางเทียนหยางกัดฟันแน่น เขาก้มหน้าก่อนจะหลับตาลงแล้วพูดเสียงดังขึ้นมาว่า “เราศิษย์ของสายเลี่ยนเหยียน ... ”
ในเวลานี้เองก็มีเสียงดังขึ้นกลางอากาศ ราวกับว่ามีบางสิ่งกำลังมุ่งหน้ามาทั้งด้านนี้
พวกของหวงเฮ่าล้วนแต่มีพลังฝีมือขอบเขตอมฤตขั้นที่สอง แต่ละคนมีปฏิกิริยาไวมาก เมื่อมีเสียงดังมาจากที่ไกลๆ ก็ล้วนแต่หันไปมองบนฟ้าแล้ว
แสงสว่างราวกับแสงสังหารพุ่งตรงลงมาจากอากาศอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าและเหมือนดาวตก และมันก็ปักลงพื้นทรายที่อยู่ระหว่างหวงเฮ่ากับจางเทียนหยาง!
“ ... หือ?”
จางเทียนหยางหัวไวมาก เขาลืมตาขึ้นมาแล้วมองไปเห็นกระบี่แสงสีเขียวอ่อนเล่มหนึ่งปักอยู่ตรงหน้าของเขา!
ใครกัน?
จางเทียนหยางเงยหน้าขึ้นมาและเหลือบมองตามวิถีกระบี่ที่ตกลงมา บังเอิญไปเห็นเงาของอสูรสัตว์ปีกสองตัวกำลังบินมุ่งหน้ามาทางนี้อย่างรวดเร็ว
ทุกคนหันไปมองบนท้องฟ้าเพราะกระบี่เล่มนั้น และมองอสูรสัตว์ปีกสองตัวที่กำลังบินลงมาทางพวกเขา จากนั้นก็เห็นชายหนึ่งคนหญิงหนึ่งคนลงมาจากหลังอสูรสัตว์ปีกและกำลังค่อยๆ เดินมาทางนี้
“คำบางคำ ใช่ว่าควรพูดออกมากันง่ายๆ นะ เ้าอ่อนแอก็อย่าทำให้คนอีกนับพันนับหมื่นในสายเลี่ยนเหยียนถูกลบหลู่ไปด้วย”
ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดกับจางเทียนหยางและค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้
“เ้าเป็ใคร เื่ของเราเกี่ยวอะไรกับเ้าด้วย เป็คนจากสายไหนกัน?” หวงเฮ่ามองไปที่ชายหนุ่มคนนั้นด้วยสายตาไม่เป็มิตร ชายหนุ่มคนนั้นยังพูดไม่จบ พวกหวงเฮ่าก็เริ่มสำรวจตัวของพวกเขาทั้งสองแล้ว หลังจากที่รู้ว่าทั้งสองคนล้วนแต่มีขอบเขตอมฤตขั้นที่สอง ในใจของพวกเขาก็ไม่ได้มีความกลัว
พวกเขากลัวแค่อย่างเดียว นั่นก็คือหากทั้งสองคนมีใครหนุนหลังอยู่ เกรงว่าพวกเขาอาจจะล่วงเกินอะไรไม่ได้
ต่อให้ชายหนุ่มคนนี้อยากจะทำอะไรไม่ดีกับพวกเขา คิดว่าก็ยากที่จะทำได้ เพราะพวกเขาสามคนมีพลังความสามารถขอบเขตอมฤตขั้นที่สองระดับสูงสุด ใช้สองคนเล่นงานพวกจางเทียนหยางห้าคน ส่วนอีกคนรับมือชายหนุ่มกับหญิงสาวตรงหน้า แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
ชายหนุ่มคนนั้นไม่ได้มีลมปราณที่ทำให้พวกหวงเฮ่านั้นหวาดกลัวหรือหวั่นไหวเลย กลับกัน เขายังเดินไปทางจางเทียนหยาง และดึงกระบี่ที่ปักอยู่ที่พื้นอย่างสบายอารมณ์
ชายหนุ่มคนนั้นถือกระบี่เอาไว้ในมือ ปลายกระบี่ชี้ไปที่พื้น เขาไม่ได้ตอบคำถามของหวงเฮ่า แต่พูดว่า “เ้าคิดจะรังแกคนของสายเลี่ยนเหยียน ก็ต้องถามข้าก่อนว่าอนุญาตหรือเปล่า”
“เ้าเป็ใคร ทำไมข้าต้องได้รับอนุญาตจากเ้าก่อนด้วย!”
หวงเฮ่าหรี่ตาลงแล้วใช้มือชี้ไปที่ิอวี่ น้ำเสียงเ็ามาก เขาปล่อยลมปราณที่น่ากลัวมากออกมากดทับไปยังร่างกายของชายหนุ่มคนนั้น ชายและหญิงด้านหลังของเขาเองก็ปล่อยลมปราณออกมาเช่นกัน
ผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สองสูงสุดสามคนปล่อยลมปราณที่น่ากลัวออกมาพร้อมกัน มันทำให้จางเทียนหยางที่อยู่ด้านหลังถูกคลื่นพลังกระทบจิตใจอย่างแรง มันยิ่งทำให้เขาลุกไม่ขึ้น
ในสายเลี่ยนเหยียน เขาเป็บุคคลที่มีความสามารถสูงมาก แต่ว่าพวกหวงเฮ่ามีพร์มากกว่า ระดับก็เหนือกว่า ทั้งสองอย่างมันทำให้เขานั้นโงหัวไม่ขึ้นเลย
แต่ชายหนุ่มคนนั้นกลับไม่เหมือนกัน เมื่อเขาพลิกกระบี่ ลมปราณก็พุ่งขึ้นล้อมตัวกระบี่ราวกับมันกำลังลับกระบี่ให้คมมากขึ้นกว่าเดิม
“ข้าไร้ความสามารถ เป็แค่ศิษย์ธรรมดาคนหนึ่งของสายเลี่ยนเหยียน ข้าชื่อิอวี่”
ิอวี่ใช้นิ้วเช็ดตัวกระบี่และเงยหน้าขึ้นมา ท่าทางของเขาเรียบง่าย แต่หากมองดูดีๆ แล้วก็จะพบว่า ดวงตาของเขานั้นดุดันเป็ประกาย!
เมื่อครู่ิอวี่มองเห็นสถานการณ์ทุกอย่างผ่านััแห่งิญญา เดิมเขาก็คิดจะตามหาศิษย์ของสายหรงเหยียนกับสายจั่วเหยียนอยู่แล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าจะมาเจอหลายคนอยู่ที่นี่
พอได้ยินหวงเฮ่าพูดจาโอหังอวดดีแบบนั้น แล้วเห็นพวกจางเทียนหยางคุกเข่าลง ในใจของเขาก็โกรธมาก
เขาโกรธ เพราะคนของสายหรงเหยียนกับสายจั่วเหยียนนั้นไม่เห็นคนของสายเลี่ยนเหยียนเป็คน ก็เหมือนกับที่ซูอี้หรานทำกับเิหยูเยียน ทำทุกอย่างตามแต่ใจ ข่มเหงรังแก เห็นคนของสายเลี่ยนเหยียนเหมือนเป็เครื่องมือระบายอารมณ์เท่านั้น!
เขาโกรธ เพราะศิษย์ชั้นยอดของสายเลี่ยนเหยียนพอเจอเหตุการณ์แบบนี้แล้วกลับเลือกที่จะอดทน พวกเขาคุกเข่าเพื่อตัวเอง หลังจากอ้อนวอนแล้วก็ได้มาแค่ความสงบแค่ชั่วคราว แต่พวกเขาเหยียบย่ำสายเลี่ยนเหยียนของตัวเองจนไม่เหลือค่าเลย
กล้าที่จะโกรธแต่ไม่กล้าที่จะพูด น่าสมเพชจริง!
“เ้า ... เ้าบอกว่าเป็คนของสายเลี่ยนเหยียนหรือ?”
หวงเฮ่า “ตะลึง” มาก และยังมองไปที่ิอวี่ด้วยความใ จากนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง หลังจากนั้นสีหน้าของเขาก็นิ่งลงแล้วตะคอกใส่ิอวี่ว่า “ก็แค่สวะชั้นต่ำคนหนึ่งของสายเลี่ยนเหยียน กล้าอวดดีต่อหน้าข้าหรือ! วันนี้ข้าจะเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของสายเลี่ยนเหยียนของพวกเ้า เ้าคิดว่าเ้าจะทำอะไรข้าได้?”
หวงเฮ่ารู้สึกแปลกมาก คนที่อยู่ตรงหน้าเขาก็แค่ผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สองเท่านั้น เจอเขายังไม่หลบไปให้ไกล แต่กล้าที่จะรนหาที่ตายด้วยตัวเอง
คนของสายเลี่ยนเหยียน ถ้าไม่ใช่พวกไม่เอาถ่าน ก็เป็คนเืร้อนที่ไม่มีสมองอย่างนั้นหรือ?
ตลกเกินไปแล้ว
ชายอีกคนที่อยู่ด้านข้างหวงเฮ่าก็พูดขึ้นมาว่า “ตอนนี้เ้ามีท่าทางนิ่งเฉยขนาดนี้ ข้าล่ะอยากเห็นสภาพเ้าตอนที่คุกเข่าอ้อนวอนอย่างน่าสมเพชจังเลย”
“หวงเฮ่า เอาอย่างไรดี เ้าหมาตัวนี้มันไม่เชื่อฟังเลยนะ สั่งสอนมันเร็วเข้า อิอิ ... ” หญิงสาวข้างๆ อีกคนก็พูดด้วยเสียงหัวเราะขึ้นมา
หน้าตาของิอวี่เ็าลงทันที ในเวลานี้ความโกรธของเขาเริ่มพุ่งขึ้นมาจากด้านหลังขึ้นไปถึงหัว มันทำให้เขาเหมือนจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่และใกล้จะะเิออกมาแล้ว
“โดนผู้หญิงว่าให้หน่อยก็ทนไม่ไหวแล้วหรือ?”
หวงเฮ่าเห็นิอวี่ท่าทางเ็า เขาก็ยิ้มและพูดด้วยความตื่นเต้นว่า “ในเมื่อเ้าไม่เข้าใจว่าตัวเ้านั้นต่ำต้อยแค่ไหน ได้ อีกเดี๋ยวข้าจะให้เ้าคุกเข่าเลียเท้าของเสี่ยวหย่า ให้ทุกคนได้เห็นสุนัขอย่างเ้ายอมรับผิดต่อหน้านายหญิง ฮ่าฮ่า!”
หญิงสาวที่ชื่อเสี่ยวหย่ากะพริบตา และมองมาที่ิอวี่ด้วยความดูถูก
เมื่อครู่ ิอวี่จ้องมาจนทำให้นางหวั่นใจ เดี๋ยวนางจะทำการลงโทษเพื่อชดเชยที่ทำให้ใ
“อือ เมื่อครู่ข้ากำลังตัดสินใจ ตอนนี้ ข้าตัดสินใจได้แล้ว” ิอวี่ยิ้ม
ในเวลานี้ เิหยูเยียนก็เดินมาหาิอวี่ นางเกาะไปที่แขนของเขาและพูดอย่างกังวลว่า “ิอวี่ เ้าจะเอาจริงหรือ ข้ากลัว ... ”
“ก่อนหน้านี้ข้าเองก็ลังเลเหมือนกัน” ิอวี่มองไปที่เิหยูเยียนแล้วก็ส่ายหัว “แต่ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่า มีเมตตากับศัตรูมากไปมันก็เหมือนเป็การทำร้ายตัวเอง ไม่ใช่หรือ”
เิหยูเหยียนรู้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ นางพูดอย่างจนใจว่า “ถ้าอย่างนั้น ... ข้าเอากับเ้าด้วย”
เิหยูเยียนรู้ทันทีเลยว่าสถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว ถึงแม้ในใจของนางยังมองในแง่ดีอยู่ แต่หลังจากเผชิญกับเื่เลวร้ายจากคนจากสองสายมาก่อน ในฐานะผู้หญิงนางก็ไม่คิดจะเห็นใจหรือสงสารกับคนพวกนี้เลย
น้ำเสียงของนางยังดูมีความกังวล เพราะนางเป็ผู้หญิงเลยไม่ชอบการเข่นฆ่าเท่าไร
“ข้ารู้ว่าเ้าลงมือไม่ได้ เ้าดูอย่างเดียวก็พอแล้ว”
ิอวี่ค่อยๆ เอามือของเิหยูเยียนออก แล้วค่อยๆ เดินไปหาหวงเฮ่า กระบี่ของเขา ค่อยๆ ยกขึ้น แล้วความคมของกระบี่นั้นก็เผยออกมาด้วย!
“อะไรกัน คิดอยากจะลงมืออย่างนั้นหรือ?”
หวงเฮ่าเอามือไขว้เอาไว้ด้านหลัง เขาขึ้นชื่อเื่ความเร็ว ศิษย์ชั้นยอดในสายหรงเหยียนเรียกเขาว่าวานรลม ไม่รู้ว่ามีคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากน้อยเท่าไรแล้วที่พ่ายแพ้ให้กับเขา
ิอวี่นี่ไม่ไหวเลย พูดได้เลยว่าจะต้องแพ้หมดรูปแน่ แม้แต่เวลาออกกระบี่ก็ยังไม่รู้จักซ่อน แล้วจะปล่อยการโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัวมาได้อย่างไรกัน?
สายเลี่ยนเหยียน อย่างไรก็ต่ำต้อย ชั้นต่ำอยู่ดี!
“ข้ากำลังคิดว่า หากข้าฆ่าเ้าแล้ว เ้าจะรู้สึกใหรือเปล่า”
ิอวี่ชี้กระบี่ออกไป น้ำเสียงนั้นดูเยือกเย็นเหมือนคมกระบี่ของเขาเลย!
“หากเ้าแตะต้องข้าได้แม้แต่ปลายขน ถือว่าข้าแพ้” หวงเฮ่าถูกิอวี่ท้าทายจนหัวเสีย เขาชี้ไปที่ิอวี่แล้วพูดออกมาอย่างมั่นใจ ...
จากนั้นเขาก็พุ่งไปด้านหน้าออกโจมตีอย่างรวดเร็ว!
“ฉึบ!”
เสียงะเิลมดังขึ้น กระบี่ไร้รูปลักษณ์ มันซ่อนอยู่ในลม!
หวงเฮ่ารู้สึกแค่ว่ามีอันตรายกำลังพุ่งมาตรงหน้า ร่างกายรู้สึกชาไปหมด เขารู้ว่ากระบี่ิอวี่กำลังโจมตีเข้ามา แต่ไม่เห็นแม้แต่เงาของกระบี่เลย ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่ควบคุมร่างกายให้หลบไปทางด้านข้างอย่างรวดเร็วมากที่สุดเท่านั้น
