ทริปท่องเที่ยวอดีตของเซวียเสี่ยวหรั่น [แปลจบแล้ว]

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     "คอ... ยังไม่หายดี" เหลียนเซวียนตอบกลับมาแค่ประโยคเดียว

        เซวียเสี่ยวหรั่นพลันตระหนักได้ "อ้อๆ จริงด้วยสิ เพิ่งจะหาย ควรพูดให้น้อยหน่อย พักอีกสักสองสามวัน"

        เธอรับผ้าเช็ดตัวมาจากมือเขา ยิ้มจนดวงตาโค้ง "ก็ได้ รอให้ท่านหายดีก่อน ข้าค่อยถาม ยังมียาอีกสองวัน หลังจากนี้ยังต้องจัดยาชุดเดิมต่อหรือไม่"

        เหลียนเซวียนส่ายหน้า ห้าชุดก็เพียงพอ หลังจากนี้จะค่อยๆ ฟื้นฟูเอง

        "ไม่นึกเลยว่าท่านจะรู้วิชาแพทย์ ยังรักษาตนเองได้อีกด้วย ร้ายกาจจริงๆ"

        จอมยุทธ์ฝีมือร้ายกาจ ยังรู้วิชาแพทย์ ยอดเยี่ยมที่สุด แต่ในเมื่อเขาเก่งกล้าขนาดนี้ เหตุใดตอนแรกถึงถูกผู้อื่นทรมาทรกรรมจนกลายเป็๞แบบนั้นก็ไม่รู้

        เหลียนเซวียนส่ายหน้า เขาไม่ได้เชี่ยวชาญวิชาแพทย์ แค่ตอนอยู่บนเขาราชันโอสถอ่านตำราแพทย์ไม่น้อย เขาความจำดี จึงจำตำรับยารักษาโรคได้มากมาย

        เมื่อก่อนได้รับอิทธิพลมาจากอาจารย์และศิษย์พี่ ทั้งเห็นและได้ยินอยู่เป็๞ประจำ ความรู้สมุนไพรพื้นฐานต้องรู้อยู่แล้ว

        เซวียเสี่ยวหรั่นนึกว่าเขาถ่อมตัว ยิ้มตาหยีเข้าครัวไปเก็บของ

        เช้าวันต่อมา เซวียเสี่ยวหรั่นตื่นขึ้นพร้อมกับเสียงฝนพรำ

        "ฝนตกเหรอ?" เธออ้าปากหาวลุกขึ้นจากเตียง

        ดึงประตูเปิด พื้นดินเปียกแฉะ ทิวเขาเขียวขจีหลังเขาปกคลุมไปด้วยม่านหมอกและสายฝน

        เหลียนเซวียนนั่งบนเก้าอี้ที่ระเบียง เขาตื่นเช้า ก็ใช้ไม้เท้าประคองตนเองเดินออกมาจากห้อง อาเหลยอยู่ไม่ไกลจากข้างกายเขา วันฝนตก มันไม่อาจหนีไปเที่ยวหลังเขา

        "เหลียนเซวียน อรุณสวัสดิ์"

        เห็นเหลียนเซวียนในอาภรณ์ตัวยาวสีดำนั่งหลังตรงอยู่ที่ระเบียง ดวงตาของเซวียเสี่ยวหรั่นทอประกายวับวาว

        เธอยังไม่ลืม เ๹ื่๪๫ที่เมื่อวานนี้เหลียนเซวียนพูดได้แล้ว

        "อรุณ... สวัสดิ์" เสียงต่ำแหบพร่าราวกับกรวดทรายเสียดสีกัน

        น้ำเสียงแหบพร่า ชัดเจนว่าคอยังไม่หายดี แต่แปลกที่เซวียเสี่ยวหรั่นกลับรู้สึกว่าเสียงแหบเช่นนี้มีเสน่ห์น่าดึงดูดเป็๞พิเศษ

        เซวียเสี่ยวหรั่นเดินเข้าไปหาอย่างอดไม่ได้

        "คอของท่านดีขึ้นกว่าเมื่อวานไหม"

        เหลียนเซวียนเหลือบมองเธอด้วยหางตา ต้นกล้าจะแตกกิ่งก้าน ดอกไม้จะเบ่งบานในคืนเดียวหรือไม่เล่า?

        "แหะๆ ท่านล้างหน้าหรือยัง หากยังไม่ล้าง ข้าจะไปตักมาให้"

        เห็นเขาไม่หือไม่อือ เธอก็ไม่แยแส สนใจแต่จะประนีประนอมสถานการณ์ เธอเคยชินกับสีหน้าเ๾็๲๰าของเขาแล้ว

        "ล้าง... แล้ว" เสียงแหบพร่าทุ้มต่ำมีเสน่ห์ของบุรุษแทรกแซงอยู่ท่ามกลางสายฝน

        เซวียเสี่ยวหรั่นหูผึ่งทันที

        คอยังไม่หาย เสียงยังน่าฟังขนาดนี้ เบื้องหน้าของเซวียเสี่ยวหรั่นราวกับเห็นหมู่ดาวระยิบระยับ

        "เอ้อ... แท่งสีฟันของท่านอยู่ริมหน้าต่างด้านซ้าย คงไม่หยิบผิดใช่ไหม" เซวียเสี่ยวหรั่นอยากฟังเขาพูดอีกสักหน่อย

        รายละเอียดยิบย่อยแบบนี้บอกแค่รอบเดียว เขาก็จำได้แล้ว ไม่มีทางจะจำผิด พอเอ่ยถามออกไปแล้ว ก็นึกเสียใจภายหลัง

        เหลียนเซวียนมองเธอด้วยสายตาชอบกล ก่อนจะส่ายหน้า

        เซวียเสี่ยวหรั่นแลบลิ้น ๻ั้๫แ๻่เมื่อวานถึงบัดนี้ เขาพูดรวมกันแล้วยังไม่ถึงสิบประโยคด้วยซ้ำ

        คนอะไรพูดน้อยจนน่าอึดอัด เซวียเสี่ยวหรั่นแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เขา ก่อนวิ่งไปห้องครัว

        ฝนฤดูใบไม้ผลิโปรยปรายไปเสียครึ่งวัน อุณหภูมิ๰่๭๫กลางวันค่อยๆ ค่ำลง

        หลังจากล้างหน้าแปรงฟันแล้ว เซวียเสี่ยวหรั่นหนึ่งชามออกมาจากกระสอบ ใส่เกลือลงไปในแป้งเล็กน้อย ตอกไข่ใส่ลงไปฟองหนึ่ง หลังจากนั้นก็เติมน้ำลงไป แล้วค่อยๆ นวดให้เป็๲ก้อนกลม

        หลังนวดเข้ากันดีแล้วก็พักแป้งบนเขียง

        เธอวิ่งกลับไปห้องของตนเอง หยิบหวีและยางรัดผมออกมา หลังจากหวีผมที่ยาวประบ่า ก็เกล้าขึ้นเป็๲ทรงกลมหลวมๆ นี่คือทรงผมของสตรีออกเรือนที่ง่ายที่สุดแล้ว ซึ่งเธอเรียนรู้มาจากซีมู่เซียง

        ผมม้าของเซวียเสี่ยวหรั่นยาวมากแล้ว สามารถหวีหน้าม้าทั้งหมดเกล้าขึ้นเป็๞มวยกลมเผยให้เห็นหน้าผากเกลี้ยงเกลา

        ถ้าไม่ใช่ว่ารูปหน้าของเธอตอนนี้เรียวจนแตะเส้นคำว่างดงามแล้ว เธอคงไม่กล้าหวีเปิดหน้าผากขึ้นเช่นนี้

        เซวียเสี่ยวหรั่นส่องกระจกบานจิ๋ว มองมวยผมที่คล้ายดอกไม้ตูมบนศีรษะของตนเองอย่างพึงใจ

        ในความเห็นของเธอ การเกล้าผมเป็๲ทรงกลมกับการมุ่นมวยผมวิธีคล้ายกันมาก ต่างกันแค่การเกล้าต้องรัดให้ตึง แต่การมุ่นมวยต้องหลวมหน่อย

        เซวียเสี่ยวหรั่นเกี่ยวลูกผมลงมาเล็กน้อย เพื่อไม่ให้หน้าผากดูโล่งเกินไป ถึงเก็บหวีกับกระจกลงอย่างพึงพอใจ

        ด้านนอก สายฝนบดบังท้องฟ้าจนมืดมัว ม่านไอน้ำปกคลุมไปทั่วบริเวณ

        เหลียนเซวียนนั่งตรงระเบียง เงยหน้ามองไปไกลแสนไกล ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ใบหน้ามีแต่ความเคร่งขรึมเ๶็๞๰า

        "เหลียนเซวียน ที่ข้าขอให้ท่านช่วยเหลาเข็มถักไหมพรมให้ เสร็จหรือยัง" น้ำเสียงที่คุ้นเคยรั้งสติของเหลียนเซวียนกลับมา

        เขาหันมาผงกศีรษะน้อยๆ มองหญิงสาวที่๷๹ะโ๨๨โลดเต้นอยู่ตรงระเบียง

        นางอายุสิบแปดจริงหรือ? เหตุใดจึงไม่มีความเป็๲ผู้ใหญ่เลยสักนิด

        เดินราวกับเด็กหญิงอายุสิบขวบ

        มิน่าจึงบ่นกับแม่นางสกุลซีว่าชายกระโปรงยาวเกินไป เดินไม่สะดวก

        มีสตรีบ้านไหนเหมือนกับนางบ้าง เดินราวกับติดพายุใต้ฝ่าเท้าตลอดเวลา

        "อยู่... บนโต๊ะ" เขาตอบกลับมาเรียบๆ

        "ตั้งแปดเล่มเหลาเสร็จหมดเลยหรือ" หญิงสาวที่๷๹ะโ๨๨ราวกับกระต่ายแล่นฉิวไปอยู่ข้างกายเขา

        เหลียนเซวียนผงกศีรษะอย่างเคร่งขรึม

        พอไม่ได้ยินเขาเอ่ยคำใดมากกว่านั้น เซวียเสี่ยวหรั่นก็เบะปาก ยกชายกระโปรงเข้าไปในห้องของเขา

        เข็มถักไหมพรมแปดเล่มวางอยู่บนโต๊ะ มีเศษไม้กองอยู่ใต้โต๊ะ

        เธอหยิบเข็มถักไหมพรมไปวางบนโต๊ะสี่เหลี่ยมในห้องโถง หลังจากนั้นก็หยิบไม้กวาดมากวาดเศษไม้ในห้องให้สะอาด

        พอเสร็จเรียบร้อย ก้อนแป้งที่พักไว้ก็ได้ที่

        เซวียเสี่ยวหรั่นกลับมาที่ห้องครัว เริ่มใส่น้ำลงในหม้อ รอจนกระทั่งน้ำเดือด บะหมี่ก็นวดเสร็จแล้วเช่นกัน

        ไม่มีน้ำสต๊อก ใช้แค่น้ำเปล่าต้มบะหมี่รสชาติก็คงแย่หน่อย แต่ซีมู่เซียงให้ซอสพริกที่บ้านของพวกเขาทำเอง ซึ่งใส่ขิงสด กระเทียมและพริกเขียวกับพริกแดงสับผสมเข้าด้วยกัน ทั้งหอมและเผ็ดมาก

        เธอเอาบะหมี่มาทำเป็๞บะหมี่แห้ง ใส่ซอสพริกกับต้นหอมสับ จากนั้นก็โรยด้วยขิงและกระเทียมเจียว กลิ่นหอมมาก

        เพียงแต่รสชาติจะเผ็ดอยู่สักหน่อย

        ชามของอาเหลยไม่ใส่ซอสพริก ใส่แค่ขิงเส้นกระเทียมและต้นหอมสับ

        อาเหลยกินอย่างเอร็ดอร่อย ใช้มือหยิบบะหมี่ทีละเส้นเข้าปาก หลังจากนั้นก็ดูดซู้ดๆ เข้าไปอย่างมีความสุข

        บะหมี่แห้งของเหลียนเซวียนชามใหญ่เป็๞พิเศษ แม้จะใส่ซอสพริกเพียงเล็กน้อย แต่หลังจากเขากินเข้าไปก็ยังเผ็ดร้อนจนหน้าแดง

        "ท่านกินพริกไม่ได้เลยหรือ" บะหมี่แห้งของเซวียเสี่ยวหรั่นใส่พริกมากกว่าเขาเป็๲เท่าตัว ยังไม่เห็นรู้สึกเผ็ดมากมาย

        เธอกลั้นหัวเราะยกน้ำมาให้เขาถ้วยหนึ่ง

        รสเผ็ดเผาริมฝีปากจนแสบร้อนไปหมด เหลียนเซวียนรับน้ำอุ่นมาดื่มอึกๆ จนหมดถ้วย

        "เมื่อวาน ตอนชวนน้องมู่เซียงกินเกี๊ยวด้วยกัน ผู้อื่นคงรังเกียจว่าเครื่องปรุงของพวกเราไม่มีพริกสักนิด พอกลับไปก็เลยส่งซอสพริกมาให้ทันทีขวดหนึ่ง กลิ่นหอมยั่วยวนมาก ฮิฮิ"

        เซวียเสี่ยวหรั่นรู้มาจากซีมู่เซียงว่า ชาวแคว้นหลีส่วนใหญ่ชอบกินรสเผ็ด อาหารส่วนมากจึงมีทั้งรสเปรี้ยวเผ็ด เผ็ดแบบชาลิ้น เผ็ดร้อน มีเพียงพื้นที่ชายฝั่งทะเลบางส่วนจะชอบกินหวานหน่อย

        ซีมู่เซียงกินเผ็ดมา๻ั้๫แ๻่เล็กจนโต ขาดพริกไม่ได้แม้แต่มื้อเดียว

        เซวียเสี่ยวหรั่นเดาะลิ้น แม้เธอจะชอบกินเผ็ด แต่ไม่ได้ยึดติดขนาดนั้น มีก็ดี ไม่มีก็ไม่เป็๲ไร