ณ วัดป่าเเห่งหนึ่งในจังหวัด ในจังหวัดนครราชสีมา ทามกลางโบสถ์ที่เงียบสงบเเสงเเดดสาดส่องลอดจากต้นโพธิ์สูงใหญ่ เงาต้นไม้พาดผ่านศาลาปฏิบัติธรรมเก่าๆ มีหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอุ้มเด็กทารกตัวน้อยเอาไว้ในอ้อมกอด สายตาที่ทอดมองเด็กน้อยนั้นชั่งดูอ่อนโยนเเละอบอุ่น เสียงหัวเราะขอเด็กน้อยดังระโงมทามกลางความเงียบสงบ ไม่นานนักก็มีพระรูปหนึ่งเดินเข้ามาในศาลาไม้หลังเก่า ทันทีที่หญิงสาวได้เห็นก็ค่อยๆวางทารกลงที่ตักเเล้วยกมือขึ้นไหว้อย่างอ่อนน้อม
" สวัสดีจ้ะหลวงตา " หญิงสาวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเเต่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนของเเม่คนหนึ่ง
" ฏีกาเอ่ยหลวงพ่อจะดูเเลเด็กคนนี้เองฏีกาเองก็รีบไปเถอะไม่ต้องห่วงทางนี้ อัตมาจะเลี้ยงให้เติบใหญ่เอง...นี้คงเป็ชะตาของเ้าหนูน้อยคนนี้เอง....ชะตาของฏีกานั้นยังต้องเดินทางต่อไป " ทันทีที่เห็นหญิงสาวหลวงพ่อจึงเอ่ยปากขึ้นพูดด้วยน้ำเสียงเเหบเเห้งพร้อมกับก้มมองที่เด็กน้อยที่อยู่บนตักหญิงสาว
ทันทีที่ได้เอ่ยมาเช่นนั้นหญิงสาวก็ร้องไห้ออกมาด้วยน้ำตาเเห่งความเศร้าโศก สองมือยังพนมเอาไว้ก่อนที่จะอุ้มลูกน้อยขึ้นมาเเล้วกอดเป็ครั้งสุดท้าย สองมือของเเม่ค่อยวางเด็กทารกไว้ด้านหน้าก่อนจะก้มลงกราบหลวงตาเเล้วรีบลุกขึ้นเดินออกมาพร้อมกัลน้ำตา หลวงตามองตามจนสุดท้ายด้วยสีหน้าที่เวทนาพร้อมกับส่ายหัวเบาๆเเละถอนหายใจ ก่อนที่จะค่อยๆนั่งลงเเล้วอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาให้อ้อมกอด
" เ้าเด็กน้อยเอ่ย....ชะตาเองชั่งอาภัพเมื่อเ้าโตขึ้นก็จงใช้ชีวิตในเเบบของเอง หลวงตาจะตั้งชื่อให้เองว่า นิล ถ้าเ้าเติบใหญ่เ้าจะรับรู้ทุกอย่างเอง " มือแห้งกร้านของหลวงตาค่อยๆลูบหัวเด็กน้อยอย่าอ่อนโยน
เวลาล่วงเลยผ่านไป19ปี
“ หนูไปก่อนนะจ้ะหลวงตาเลิกเรียนแล้วจะรีบกลับมาจ้ะ " เสียงสดใสของเด็กหนุ่มดังขึ้นอย่างสดใสทามกลางความเงียบสงบภายในวัด ผมสีบอร์นอ่อนๆค่อยๆพัดตามแรงมาที่พัดมาัั นัยส์ตาสีฟ้าอ่อนๆมองไปที่หลวงตาวัยชราที่ชุบเลี้ยงตนมาด้วยความเคารพรัก ร่างเล็กบางราวกับเด็กผู้หญิงรีบยกมือไหว้ลาหลวงตาก่อนที่จะรีบโดดขึ้นบนรถสายไป
“ เอ่อๆระวังๆจับรถดีๆล่ะตั้งใจเรียนนะเองน่ะ " หลวงตายืนมองตาจนสุดปลายทางด้วยความห่วงใยเหมือนทุกๆวัน
“ วันนี้ข้าเองก็ต้องเตรียมตัวแล้วสินะ....โชคชะตาจะไม่ยอมปล่อยเด็กน้อยคนนี้ไปจริงๆงั้นเหรอ " หลวงตาเงยหน้ามองดูท้องฟ้าที่กำลังมืดครื้มไหลเข้ากลืนดวงอาทิตย์จนดับแสงก่อนที่จะเดินเข้าวัดไปนั่งสมาธิ
เวลาผ่านไปจนถึงเวลาเลิกเรียน นิล รีบเก็บข้าวของแล้วตรงขึ้นรถสายกลับวัดทันที เค้ารู้สึกร้อนใจกว่าทุกๆวันแม้แต่กินข้าวก่อนกลับยังไม่รู้สึกอยากกิน รถสายแลนไปสักพักก่อนที่ห่าฝนจะตกลงมาอย่างหนัก ลมพายุและฟ้าร้องฟ้าผ่าถาโถมเข้ามา นิล นั่งกอดกระเป๋าเอาไว้แน่นพลางมองไปที่นอกรถมองหาเม็ดฝนที่ถล่มตกลงมาจนถึงวัด นิลรีบวิ่งไปจ่ายเงินแล้วรีบวิ่งเข้าไปศาลาเพื่อหาหลวงตา
“ หลวงตาจ้ะหนูกลับมาแล้ววว " รีบถอดรองเท้าและวางกางเป๋านั่งเรียนพร้อมกับะโหาหลวงตา ก่อนที่เค้าจะเจอหลวงตาที่สมาธิอยู่ตรหน้าพระพุทธรูป นิลรีบเดินมาแล้วนั่งลงกราบสามครั้ง
“ นิลเอ่ย....วันนี้เองก็อายุ19เตรียมแล้วสินะ คงถึงเวลาที่เองต้องไปจากที่นี่แล้วล่ะหลวงพ่อได้บอกคนรู้จักเอาไว้แล้วล่ะว่าให้ดูแลเองต่อจากหลวงตา " หลวงตาค่อยๆลืมตาขึ้นแล้วมองตรงไปที่พระพุทธรูป นิลที่ได้ยินหลวงตาพูดออกมาแบบนั้นเขาซะงักไปสักพักเหมือนกับมีสายฟ้าฟาดลงมากลางอกตัวชาไปทั้งตัว ก่อนที่น้ำตาจะไหลลงมาอาบสองแก้ม
“ ไม่เอา...ฮือ...นิลจะ..จะอยู่กับหลวงตาทำไมถึงต้องให้นิลไปอยู่ที่อื่นด้วย " เด็กหนุ่กล่าวออกมาพร้อมกับเสียงสอื้นหนัก
“ เดี๋ยวอีกสักพักพวกเค้าคงมาถึง ไปเตรียมตัวซะทำตัวดีๆด้วยล่ะรีบไปซะก่อนที่มันจะสายไป....... " ทันทีที่สิ้นคำพูดสายฟ้าก็ผ่าลงมาใส่ศาลา นิลหน้าซิ้ลเหลือสองมือปิดแน่น เค้ายังไม่ทันไปถามอะไรหลวงตาไปมากว่านี้ ดูเหมือนว่าสิ่งที่หลวงตากลัวก็มาถึง ปรากฏร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ที่หน้าทางเข้าศาลาวัดก่อนที่จะค่อยๆก้าวเดินออกมาจากเงา ร่างสูงใหญ่สวนใส่หน้ากากรูปปกปิดครึ่งหน้ามีลักษณะสีดำขริบขาว คล้ายกับใบหน้าของเสือ สวมใส่ชุดสีดำปกปิดร่างกลาย นัยตาสีเหลืองสว่างราวกับนักล่ายามค่ำคืน
“ ในที่สุดก็หายเจอสักทีนะ เด็กในคำทำนาย และก็ไม่นึกว่าที่อาศัยอยู่ด้วยจะเป็ อาร์ก(ARQ) ถึงจะแก่ลงไปเยอะแต่ก็มีเคราลางเดิมอยู่ อดีตท็อป10ของของไทย ลำดับตอนนั้นคงเป็ 8 ก่อนที่จะหายไปจากรายงาน....หึๆ เป็เกียรติ์จริงๆที่จะได้ล่าคนมีชื่อเสียง " ในขณะที่ร่างสูงเดินยืนหยุดจ้องมองไปยังหลวงตาและเด็กหนุ่มนั้นก็มีเงาที่ซ้อนอยู่ด้านหลังร่างสูงก้าวเดินออกมา รูปร่างสมส่วนเพศชาย สวมชุดกังฟูแขนกุดเปิดให้เห็นกล้ามเนื้อแขนชัดเจน มีกำไลหยอกสีขาวที่แขนทั้งสองข้าง ใบหน้าสวนใส่หน้ากากสีดำสลักใบหน้าของั ลวดลายสีทอง ยืนกอดอกมองมาทางทั้งคู่เช่นกันเหมือนวิเคราะห์อะไรสักอย่างก่อนที่อยู่ดีก็หายไปจากสายตาของทั้งคู่แล้วปรากฏตรงหน้านิล มือที่กำลังเอื้อมมาจะจับที่คอของนิลถูกสกัดเอาไว้ด้วยมือของหลวงตาที่จะแขนของชายคนนั้นไว้
“ อาตมาอยากให้โยมทั้งสองจงกลับไปโดยดีซะ " น้ำเสียงแหบแห้งของหลวงตาที่เคยอ่อนโยนกลับดูแข็งก้าวกว่าที่เคย สายตาจ้องมองชายที่อยู่ในมือตนหมายจะเอาชีวิต
“ ลืมผมแบบนี้ก็แย่น่ะสิครับ " ชายร่างใหญ่รีบพุ่งเข้ามาพรอมปลดปล่อยความสามารถมือของเค้าถูกห่อหุ่มไปด้วยเปลวเพลิงพุ่งเข้าใส่หลวงตาทันที แต่หมัดนั้นกลับถูกหยุดเอาไว้ด้วยแสงสีทองที่ออกมาจากด้านหลังหลวงตา
“ พวกเองบีบให้อาตมาต้องทำเช่นนี้ " หน้ากากัเห็นท่าทีที่ไม่ดีจึงปลดปล่อยความสามารถ ร่างกายของเค้าค่อยถูกปกคลุมไปด้วยเกร็ดสีดำนิ้วมือมีกรงเล็บแหลมคมงอกขึ้นมาแทนที่เล็บเดิม พร้อมด้วยมีหางคร้ายังอกออกมาจากด้านหลัง พละกำลังที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้หลวงตาไม่ทันตั้งตัวจนถูก หมัดหนึ่งนิ้วกระแทกเข้าที่ชายโครงจนกระเด้นปลิวไปกระแทกกับพระพุทธรูป
“ หลวงตา!! " นิลทันทีที่เห็นร่างหลวงตาปลิวไปต่อหน้าก็ะโขึ้นพร้อมกับจะก้าวเท้าวิ่งไปหา แต่ยังไม่ทันได้ไปไหนมือมือหยาบของครึ่งร่างเดรัจฉาน ก็จิบผมของนิลเอาไว้นิลทำได้แค่ดีดดิ้นและร้องไห้ออกมาด้วยความใ
“ สงสัยตำนาน หัตส์เทวา คงสิ้นชื่อตรงนี้แล้วจริงๆ " ชายร่างสูงที่สวมหน้ากากของเสือกล่าวออกมาพลางหัวเราะ ในขณะเดียวกันภายใต้ฝุ่นควันก็มีร่างขึ้นขยับลุกขึ้น
“ ขอลาสิกขากันตรงนี้ล่ะ.....พวกเด็กน้อยข้าจะทำให้พวกเองได้เห็นเองว่า หัตส์ของเทวา เป็อย่างไร " แสงสว่างเจิสจ้าออกมาเป็รัศมีวงกลมคล้ายกรงล้อเวียนก่อนที่จะมีฝ่ามือสีทองพุ่งเข้าโจมตีใส่ทั้งสองชายหน้ากาก หน้ากากัเดินดึงผมของนิลลากมาขวาง หน้ากากเสือเอาไว้ก่อนที่จะยกร่างนิลขึ้นเป็โล่ ทันใดนั้นฝ่ามือก็สลายไปก่อนที่จะถึงร่างของนิล
“ ละ...หลวงตา.....” หน้ากากัแสยะยิ้มภายใตหน้ากากก่อนที่จะพุ่งเข้าโจมตีผสานกับหน้ากากเสือ หลวงตาที่ได้ทำได้แค่ป้องกันการโจมตีต่อเนื้องของทั้งคู่ที่ลื่นไหล พอจะส่วนกลับก็จะพบกับร่างนิลที่ถูกหางของหน้ากากัรัดของเอาไว้หลวมๆ จนกระทั้งในจังหวะหนึ่งหลวงตาพลาดท่าเพราะพลังที่อ่อนลงเนื่องจากอายุและความต่อเนื่องในการใช้ ทำให้กรงเล็บเพลิงของหน้ากากเสือตะปบเข้าที่กลางอกทำให้หลวงตาทรุดลงกับพื้เปลวไฟที่กำลังเผาไหม้าแทำให้เกิดความเ็ปทรมานเป็อย่างมาก หลวงตาเงยหน้าขึ้นจ้องมองนิลที่สลบอยู่ก่อนที่จะกัดฟันเฮือกสุดท้ายสร้างออร่าแขนสีทองออกมานับพันเข้าโจมตีทั้งสองทุกทิศทาจนไม่สร้างป้องกันได้จึ้งทำให้กระเด็นทะลุกำแพงไม้ออกไปด้านนอกศาลามีเพียงร่างนิลที่นอนสลบอยู่ หลวงตารีบดึงตัวนิลเข้ามาใกล้ๆตนเอง ก่อนที่ทั้งสองจะฟื้นตัวกลับมา
“ เจ็บกว่าที่คิดแหะ...ถ้าเป็สมัยที่ท่านยังรุ่งเรือนเราสองคนคงตายไปแล้ว...เอาล่ะมาจบกันดีกว่า " หน้ากากเสือลุกขึ้นพร้อมกับบิดคอไปมาจนเจอเสียงกระดูกลั่น ส่วนหน้ากากัก็ยังคงลุกขึ้นมาได้เช่นกัน ก่อนที่ทั้งคู่จะได้โจมตีก็มีสายลมแรงพัดมากระทบร่างก่อนที่จะปรากฏร่างของชายหนุ่มร่างสูง ง้างหมัดซัดเข้าที่ใบหน้าของหน้ากากเสือจนกระเด้นออกไป หน้ากากัเห็นเช่นนั้นจึงรีบหันมาโจมตีทันทีแต่ก่อนที่กรงเล็บจะถึงร่างของชายหนุ่ม ก็มีอะไรบางอย่างกระแทกร่างเขากระเด้นไปก่อนที่จะมีเสียงแหลมของหญิงสาวดังขึ้น
“ ได้พวกมารศาสนาทำร้ายพระกับเด็กเลวจริงๆ " ทามกลางพายุฝนมีหญิงสาวกับชายหนุ่มปรากฏตัวขึ้น ชายหนุ่มมีท่าทางสุขุม ผิวสีแทน ผมสีดำสนิท ั์ตาสีทองสว่าง สวนใส่ชุดเครื่องแบบที่แปลกตา กับหญิงสวยที่ลอยอยู่กลางพายุ ท่าทางทะเล้น ผมสีฟ้าไฮไลน์ชมพู ใส่ชุดรัดรูป้เห็นสัดส่วนชัดเจน
“ ขออภัยครับที่มาช้าหลวงตา " ชายหนุ่มเดินเข้ามาหาหลวงตากับนิลพร้อมยกมือไหว้
“ รีบ...พานิลไป....ข้าคงไม่รอดแล้ว...รีบไปเสียเถอะ " หลวงตาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงไร้เรียวแรงพลางเสียงหอบแ่เบาๆลงเรื้อยๆ ก่อนที่ชายหนุ่มจะก้มลงกราบแล้วอุ้มนิลขึ้น เดินออกไปจากศาลา
“ หนอย....พวกแก่ใครกัน " หน้ากากเสือค่อยๆประรองร่างตนลุกขึ้นพร้อมกับหน้ากากที่มีรอยแตกร้าว ส่วนหน้ากากัก็ยืนมองเหตุการณ์นิ่งๆร้าวกับกำลังวิเคราะห์สาถานะการณ์อยู่ ก่อนที่จะเดินเข้าไปศาลาทุกคนต่างมองตามด้วยความสงสัยก่อนที่หน้ากากัจะคว้าเอาหัวใจของหลวงตาออกมา มันยังคงเต้นอย่างแ่เบา
“ ก...แก....” ชายหนุ่มมองอย่างใพร้อมกับปลดปล่อยพลังวิ่งเข้าใส่ด้วยความเร็วสูงแต่ทุกอย่างก็สายเกินไป ก่อนที่มือของเคาจะถึงร่างของัก็มีมิติสีดำเปิดด้านหนังของชายหน้ากากของสองก่อนวาร์ปหายไปต่อหน้า
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้