องครักษ์ลับรอบกายกูเฟยเยี่ยนได้ถอยตัวลง ผู้คุ้มกันของถังจิ้งก็ถอยไปด้านหลังเช่นกัน ดอกตงหยิ่นขนาดใหญ่ถูกส่งมาวางไว้ที่แท่นประมูล สนามประมูลที่เดิมทีมีเสียงอึกทึกครึกโครมได้ค่อยๆ เงียบลง
หานอวี๋เอ๋อร์เหลือบมองผู้คนด้านล่าง แม้ว่าจะไม่เห็นคนในดวงใจ แต่ภายในใจของนางก็ยังเกิดความตื่นเต้น หญิงสาวก้าวเดินพลางส่งยิ้มให้ถังจิ้งจากนั้นเริ่มวินิจฉัยสมุนไพร
ขั้นตอนแรก “การมองด้วยตาเปล่า”
นางหยิบดอกตงหยิ่นขนาดใหญ่ขึ้นมาด้วยความระมัดระวัง หลังจากที่สังเกตดูแล้วก็เอ่ยออกมาเสียงดัง “ดอกตงหยิ่นมีอยู่สองประเภทคือแบบสดกับแบบสุก ดอกนี้เป็ดอกไม้สุกที่ผ่านการตากแห้งแล้ว ดังนั้นมันจึงใหญ่กว่าดอกตงหยิ่นทั่วไปถึงหนึ่งเท่า สิ่งนี้คือดอกตงหยิ่นขนาดใหญ่ที่ล้ำค่ากว่าดอกตงหยิ่นทั่วไป
หานอวี๋เอ๋อร์พูดแล้วจงใจยกดอกตงหยิ่นขนาดใหญ่ขึ้นมา “ทุกท่าน เริ่มจากสีก่อน สมุนไพรต้นนี้มีสีเหลืองอ่อน มีเพียงก้านเท่านั้นที่เป็สีแดง เมื่อมองไปที่รูปร่างของดอกมันจะคล้ายลักษณะของริมฝีปาก ในหนึ่งก้านมีสองดอก เกสรตัวผู้และตัวเมียล้วนเคียงข้างประกบกันอยู่ด้านนอก จากนั้นจึงให้สังเกตดูที่ลักษณะของใบ เมื่อมองจากภายนอก สมุนไพรตัวนี้คือดอกตงหยิ่นอย่างแน่นอน”
หลังจากที่หานอวี๋เอ๋อร์เอ่ยมาถึงจุดนี้ กูเฟยเยี่ยนที่อยู่ด้านข้างก็ง่วงเหงาหาวนอนแล้ว ถังจิ้งเคยเห็นอาจารย์แพทย์วินิจฉัยสมุนไพรมาหลายครั้งจึงทราบว่าวิธีการวินิจฉัยสมุนไพรของหานอวี๋เอ๋อร์เป็วิธีการทั่วไป นางไม่ค่อยให้ความสนใจมากนักแต่ก็ยังคงความอดทนไว้อยู่
ผู้คนด้านล่างเป็ผู้ชายถึงเก้าส่วน สายตาของพวกเขาล้วนจ้องมองไปที่หานอวี๋เอ๋อร์ เป็เื่ยากที่จะได้เห็นขั้นตอนการวินิจฉัยยาสมุนไพรโดยละเอียดถึงเพียงนี้ อีกทั้งยังมีหญิงงามจากตระกูลโด่งดังมาวินิจฉัยด้วยตนเอง ทุกคนจึงเต็มใจให้การสรรเสริญเยินยอมาก
หลังจากที่วินิจฉัยรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว หานอวี๋เอ๋อร์ไม่ได้ดำเนินการต่อในทันที แต่ได้หันไปถามกูเฟยเยี่ยนอย่างสุภาพว่า “หญิงรับใช้น้อย สิ่งที่ข้าพูดไปเมื่อสักครู่นี้มีตรงไหนผิดไปหรือไม่? โปรดชี้แนะ”
กูเฟยเยี่ยนพยักหน้าพลางแสร้งทำเป็ไม่เต็มใจ “ไม่”
หานอวี๋เอ๋อร์พอใจมากจึงวินิจฉัยต่อไป
ขั้นตอนแรกคือ “การมองด้วยตาเปล่า” ขั้นตอนที่สองคือ “การดมกลิ่น”
หานอวี๋เอ๋อร์ดมกลิ่นก่อนแล้วเอ่ยว่า “ด้านล่างมีใครเต็มใจขึ้นมาทดลองหรือไม่? ”
ทันทีที่หานอวี๋เอ๋อร์เอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกมา เหล่าบุรุษที่อยู่ด้านล่างล้วนพากันแย่งยกมือขึ้นอย่างกระตือรือร้น หานอวี๋เอ๋อร์กวาดตามองด้านล่างแต่ก็ยังไม่เห็นคนในดวงใจ นางจึงสุ่มเลือกผู้ชายสองคนขึ้นมาบนแท่นประมูล
นางวางดอกตงหยิ่นขนาดใหญ่ไว้ที่ด้านหน้าของชายหนุ่มสองคนนั้นแล้วให้พวกเขาสูดดมแรงๆ “ได้กลิ่นอะไร? ”
ชายคนหนึ่งบอกว่า “มีกลิ่นหอม ทว่า…เหมือนกับจะแฝงไปด้วยความเผ็ดร้อนนิดหน่อย”
ชายอีกคนก็เห็นด้วย “ใช่ มันมีความฉุนนิดหน่อยราวกับเป็กลิ่นเผ็ดของขิงสด”
หานอวี๋เอ๋อร์พอใจมาก นางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จนแทบจะทำให้ชายหนุ่มสองคนนั้นหลงใหลในความงาม จากนั้นนางจึงนำดอกตงหยิ่นขนาดใหญ่ไปไว้ใต้จมูกของพวกเขาแล้วให้พวกเขาสูดดมเบาๆ
ในคราวนี้ชายทั้งสองคนล้วนได้กลิ่นหอมจางๆ แต่ไม่ได้กลิ่นฉุนแล้ว
“ระยะไกลได้กลิ่นฉุน ระยะใกล้ได้กลิ่นหอมจางๆ นี่คือกลิ่นของดอกตงหยิ่นขนาดใหญ่ ตงหยิ่นทั่วไปจะไม่มีกลิ่นฉุนเหล่านี้”
หลังจากที่หานอวี๋เอ๋อร์พูดสรุปออกมาก็หันไปมองกูเฟยเยี่ยนอีกครั้ง “หญิงรับใช้น้อย เป็อย่างไร? ”
สีหน้าของกูเฟยเยี่ยนราบเรียบจากนั้นจึงพยักหน้าอีกครั้ง “ถูกต้อง”
หานอวี๋เอ๋อร์ดีอกดีใจมากจึงเริ่มขั้นตอนที่สาม “การััด้วยฝ่ามือ”
นางตั้งใจเชิญชายชราที่เป็ผู้ประมูลดอกตงหยิ่นขนาดใหญ่ขึ้นมาบนแท่นประมูลแล้วค่อยๆ สอนทีละขั้นตอนเพื่อให้ชายชราััด้วยตนเอง
“ผู้าุโ ท่านลองบีบไปที่กลีบดอกไม้ แม้ว่ากลีบดอกไม้นี้จะตากจนแห้งแล้วแต่เนื้อััยังคงให้ความอ่อนนุ่มและความยืดหยุ่นประหนึ่งเส้นใยปุยฝ้าย นี่คือดอกตงหยิ่นขนาดใหญ่จริงๆ และเป็จุดเด่นที่สุดที่แตกต่างจากดอกตงหยิ่นทั่วไปด้วย ดอกตงหยิ่นทั่วไปนั้นเมื่อบีบเบาๆ มันก็จะแตกสลายออกไป”
ชายชราััได้ถึงแบบนั้นจริงๆ เขาพยักหน้าขึ้นลงโดยไม่กล้าพูดอะไรออกมา เขารีบร้อนจะก้าวลงไป ทว่าหานอวี๋เอ๋อร์ไม่ยินยอม “ใกล้จะวินิจฉัยเสร็จแล้ว ท่านรออีกสักหน่อยเถอะ”
หานอวี๋เอ๋อร์ยังคงหันไปมองกูเฟยเยี่ยนพลางเอ่ยว่า “หญิงรับใช้น้อย จากระดับความเหนียวของดอกไม้นี้แล้ว เ้ามีข้อคิดเห็นหรือไม่? ไม่เช่นนั้นเ้าลองมาบีบดู? ”
กูเฟยเยี่ยนพยักหน้าเป็ครั้งที่สาม “ถูกต้อง ท่านพูดถูกทั้งหมด! ”
ในขณะนี้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ด้านล่างก็ได้ดังเซ็งเเซ่ขึ้นมา กูเฟยเยี่ยนพยักหน้าถึงสามครั้งแล้ว ในคราวนี้หมดคำพูดแล้วใช่หรือไม่?
หานอวี๋เอ๋อร์แอบดีใจอยู่เงียบๆ แล้วซักถามทันที “อย่างนั้นเ้าว่านี่ใช่ดอกตงหยิ่นขนาดใหญ่หรือไม่? ”
กูเฟยเยี่ยนยังคงทำหน้าบูดบึ้งแล้วพยักหน้าอีกเป็ครั้งที่สี่ “ใช่”
ในคราวนี้สถานการณ์ล้วนตกอยู่ในความโกลาหล
ต่อให้ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญก็สามารถมองออกว่าวิธีการวินิจฉัยเมื่อสักครู่นี้ หานอวี๋เอ๋อร์ไม่เพียงแต่จะวินิจฉัยดอกตงหยิ่นว่าเป็ของจริงหรือของปลอมแล้ว แต่ยังวินิจฉัยถึงคุณสมบัติของดอกตงหยิ่นอีกด้วย
กูเฟยเยี่ยนพยักหน้าถึงสี่ครั้ง นางยอมรับว่าดอกตงหยิ่นขนาดใหญ่นี้เป็ของจริงและยอมรับองค์ประกอบของมันอีกด้วย นี่คือการยอมแพ้แล้วใช่หรือไม่?
ปัญหาใหญ่มักจะพบที่ใบสั่งยา จากสมุนไพรหนึ่งต้นแล้วนอกจากการปลอมแปลงองค์ประกอบและคุณภาพขั้นต่ำแล้วจะมีปัญหาอะไรได้อีก?
“แพทย์หญิงน้อย เ้าแพ้แล้ว! ”
“อย่าเอาแต่พูดคำว่า “ใช่” สิ ความหยิ่งผยองเมื่อสักครู่นี้เล่า? ”
“แพทย์หญิงน้อย เ้ามาล้อเล่นหรือ? ฮ่าๆ มาเล่นถึงสนามประมูล นายเหนือหัวเ้าจะศักดิ์สิทธิ์แค่ไหนเชียว! ”
……
ด้านล่างมีเสียงโห่ร้องมาเป็ระยะๆ ถังจิ้งกำลังจะปริปากพูด แต่หลังจากที่ลังเลสักพักหนึ่งแล้วนางก็ทนเอาไว้
จวบจนกระทั่งตอนนี้ความสนใจของนางล้วนตกอยู่ที่กูเฟยเยี่ยน เมื่อเห็นถึงสีหน้าที่ไม่ค่อยดีนักของกูเฟยเยี่ยน เดิมทีนางคิดว่านังหนูคนนี้จะยอมแพ้ แต่เมื่อสังเกตดีๆ นางก็รู้สึกถึงความผิดปกติ แม้ว่าสีหน้าของนังหนูคนนี้จะไม่ค่อยดีและยอมรับคำวินิจฉัยของหานอวี๋เอ๋อร์อยู่เรื่อยๆ แต่สายตานั้นกลับสงบนิ่งมาก ดูไม่เหมือนคนที่จะพ่ายแพ้เลยสักนิด!
นังหนูคนนี้จะยอมแพ้? หรือว่าหลังจากที่แพ้แล้วจะยังมีแผนร้ายอะไรอีก?
ถังจิ้งยืนอยู่บนแท่นประมูลมาหลายปีแล้ว นางพบเจอผู้คนมานับไม่ถ้วนและเชื่อว่าตนเองไม่ได้มองพลาด เื่นี้นางยังมองไม่ออกชั่วคราว แต่รับรู้ได้ว่ามันไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น
นางตัดสินใจสังเกตการณ์อย่างเงียบๆ ต่อไป
อย่างไรก็ตามความสุขของหานอวี๋เอ๋อร์ปกปิดเอาไว้ไม่มิดแล้ว นางอดไม่ไหวที่จะหัวเราะออกมา
ต้องทราบไว้ว่าดอกตงหยิ่นขนาดใหญ่นี้มีราคาประมูลสุดท้ายอยู่ที่หนึ่งหมื่นสองพันเหรียญทองเชียวนะ หากต้องชดเชยสิบเท่ามันก็จะเท่ากับหนึ่งแสนสองหมื่นเหรียญทอง! นี่คือจำนวนเงินมหาศาลแน่นอน!
นางจะรอดูว่ากูเฟยเยี่ยนจะชดเชยอย่างไร? ต่อให้นางนำเงินของจิ้งหวางที่หลงเหลือจากสนามรางวัลชดใช้มันก็ยังไม่เพียงพอ!
เมื่อถึงเวลานั้นคงต้องให้จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยมาออกหน้าชดใช้แทน นี่จะเป็การสร้างความบาดหมางต่อสนามประมูล ทำเื่ขายหน้า และชดเชยเงินจำนวนมหาศาล อารมณ์ของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยจะเป็อย่างไรสามารถจินตนาการดูได้เลย
หานอวี๋เอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะมองไปด้านล่างแท่นประมูลเพื่อมองหาร่างของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยท่ามกลางผู้คน นางรู้ว่าจิ้งหวางอยู่ที่นี่แน่นอน นางอยากจะดูสีหน้าของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยในตอนนี้จริงๆ
น่าเสียดายที่มองหาไม่เจอ
หานอวี๋เอ๋อร์เลิกคิดเื่นี้แล้วยกมือแสดงเจตนาให้ทุกคนเงียบลง จากนั้นนางก็ได้หันไปมองกูเฟยเยี่ยนอย่างยิ้มแย้ม “นี่คือดอกตงหยิ่นขนาดใหญ่และไร้ซึ่งความเสียหายใดๆ กลิ่น องค์ประกอบ ล้วนอยู่ครบ ขอถามหน่อยว่าปัญหาใหญ่ที่เ้าเอ่ยมามันคือปัญหาอะไร? ”
การที่สีหน้าของกูเฟยเยี่ยนไม่ดีนักไม่ใช่เป็เพราะยอมแพ้ แต่เป็เพราะรังเกียจการเคลื่อนไหวอันเชื่องช้าของคุณหนูสามตระกูลหาน
นางไม่รีบตอบคำถามหานอวี๋เอ๋อร์แต่ยืดตัวบิดี้เีพร้อมกับบีบใบหน้าเพื่อให้สติตนเองที่ง่วงเหงาหาวนอน “คุณหนูสามตระกูลหาน วิธีการที่ท่านได้ใช้เมื่อสักครู่นี้เป็วิธีขั้นพื้นฐานของการวินิจฉัยสมุนไพร หากข้าจำไม่ผิดยังมีขั้นตอนสุดท้ายที่เรียกว่าการลิ้มรสอยู่ ท่านจะดำเนินการต่อหรือไม่? ”
หานอวี๋เอ๋อร์คิดว่ากูเฟยเยี่ยนกำลังฝืนตัว นางยังคงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “หญิงรับใช้น้อย เ้าได้ยอมรับแล้วว่าดอกไม้นี้เป็ของจริงและมีองค์ประกอบครบถ้วนสมบูรณ์ เหตุใดจึงต้องกระทำต่อ? เ้าไม่สามารถพูดออกมาได้ว่าปัญหาใหญ่อยู่ที่ใดใช่หรือไม่? ”
ในที่สุดกูเฟยเยี่ยนก็ยิ้มเยาะออกมา “คุณหนูสามตระกูลหาน สามขั้นตอนแรกของท่านล้วนมีจุดบกพร่อง ในความคิดของข้าแล้วท่านควรดำเนินการขั้นตอนที่สี่ เพื่อให้ข้าช่วยท่านแก้ไขให้ถูกต้องในทีเดียว! ”
สีหน้าหานอวี๋เอ๋อร์เปลี่ยนไปในทันที “เ้า! ”
กูเฟยเยี่ยนยังคงสงบสติอารมณ์ “เมื่อสักครู่นี้ข้าแค่ยอมรับว่าวิธีการวินิจฉัยของท่านถูกต้อง แต่ไม่ได้ยอมรับว่าวิธีการวินิจฉัยของท่านนั้นสมบูรณ์แบบ หากท่านไม่ดำเนินการขั้นตอนที่สี่ก็ไม่เป็ไร ข้าจะเริ่มย้อนจากขั้นตอนที่สี่ลงไปก็ได้…”