เนื่องจากจำนวนผู้เล่นมหาศาลในเขตภูมิภาคประเทศจีนห้องโถงเปลี่ยนอาชีพของนครัครามจึงใหญ่โตเป็พิเศษ ในเวลานี้ห้องโถงเปลี่ยนอาชีพขนาดใหญ่แห่งนี้ไม่มีใครอยู่เลยมันร้างผู้คนจนถึงจุดที่น่าเวทนาเกินกว่าที่จะทนดูได้พื้นที่กว้างใหญ่เท่ากับสนามฟุตบอลหลายสนามกลับมีคนเพียงแค่หยิบมือเดียวหลิงเฉินตรวจสอบสถานที่แห่งนี้ด้วยสายตาของเขาในขณะนี้มีคนอยู่ทั้งสิ้น 7 คนครูฝึกเปลี่ยนอาชีพ 7 คน ซึ่งตรงกับอาชีพทั้ง 7พอดิบพอดี— นักรบ, ทหารโล่, นักธนู, นักเวทย์ธาตุ, นักบวช, นักฆ่า และผู้อัญเชิญ
ใกล้กับทางเข้าห้องโถงมากที่สุดคือครูฝึกอาชีพนักรบเขาดูมีอายุราว 40-50 ปี และมีลักษณะท่าทางของครูฝึกเพียงเล็กน้อยตอนที่หลิงเฉินเดินเข้าไปหาเขากำลังนอนหลังโก่งอยู่บนเก้าอี้ในสภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่นและกระสับกระส่ายตรงมุมปากของเขาหากว่าสายตาของหลิงเฉินไม่มีปัญหา ดูเหมือนจะมีน้ำลายยืดออกมา! ปากของเขาถึงกับพึมพำออกมาเบาๆ“เห้อ ตามการคำนวณครึ่งๆ กลางๆ ของข้า มนุษย์โลกคู่ขนานพวกนั้นต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อยสองวันเพื่อมาที่นี่กล่าวกันว่าเด็กสาวจากโลกแห่งนั้นแต่ละคนน่ารักยิ่งกว่าใครอื่นโดยเฉพาะเรือนร่างของพวกนางนั้นหึหึเมื่อถึงเวลานั้นข้าจะใช้สถานะของข้าหยอกล้อพวกนางอย่างไรก็ตามเวลาสองวันที่น่าเบื่อหน่ายพวกนี้ข้าจะใช้ทำอะไรดี...”
หลิงเฉิน: “...”
“แค่ก แค่กครูฝึกสวัสดีครับ”หลิงเฉินจำต้องพูดออกมาขัดจังหวะคำพูดอันหยาบโลนของครูฝึกวัยกลางคนผู้นี้
ในตอนที่หลิงเฉินกล่าวครูฝึกอาชีพนักรบซึ่งอยู่ในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่นก็พบว่ามีใครบางคนยืนอยู่เบื้องหน้าของเขาแล้วเขาเบิกตากว้าง จากนั้นจึงะโขึ้นมาจากที่นั่งราวกับก้นของเขาถูกทิ่มแทงด้วยเข็มสีหน้าวิปริตของเขาพลันเปลี่ยนเป็เคร่งขรึมและเอาจริงเอาจังเขาใช้ความเร็วดั่งฟ้าแลบปาดน้ำลายที่ริมฝีปากพร้อมกับปรับสีหน้าท่าทางและกล่าวด้วยใบหน้าที่เป็มิตร “สวัสดี เ้าหนุ่มที่นี่คือห้องโถงเปลี่ยนอาชีพสำหรับมนุษย์โลกคู่ขนานมนุษย์โลกจากโลกอื่นไม่สมควรมาอยู่ที่นี่หือ? เดี๋ยวก่อนไม่ใช่ว่าสถานที่แห่งนี้ถูกจำกัดให้เพียงมนุษย์จากโลกคู่ขนานเท่านั้นที่สามารถเข้ามาได้หรือจะเป็เห้ยเ้าเป็มนุษย์จากโลกคู่ขนานที่เรียกว่า ‘ผู้เล่น’ ใช่ไหม!?”
“ใช่ครับ”ตอนที่หลิงเฉินกล่าวตอบ กล้ามเนื้อบนใบหน้าครูฝึกก็สั่นกระตุกนี่คือครูฝึกเปลี่ยนอาชีพหรือนักแสดงออสการ์กันแน่ความเร็วและลักษณะการเปลี่ยนแปลงสีหน้าของเขาแทบจะเหนือกว่าระดับพระเ้าถึงแม้เขาจะเป็ครูฝึก แต่สีหน้าดูถูกเหยียดหยามจะแสดงออกไม่ได้อย่างเด็ดขาด เพราะNPC ที่ดีนั้นจะขุ่นเคืองไม่ได้
ระลอกคลื่นปรากฏขึ้นในหัวใจของครูฝึกอาชีพนักรบอย่างต่อเนื่องบ้าเอ้ย!มีผู้เล่นเดินทางมาถึงที่นี่เร็วมาก!มาถึงที่นี่ก่อนที่พวกเราคาดการณ์ไว้ถึงสองวัน!เ้าแก่พวกนั้นพูดถูก ในโลกคู่ขนานซึ่งมีคนหลายพันล้านคนมันจะไม่มีใครบางคนที่ผิดแปลกจากคนอื่นซึ่งเรียกว่าอัจฉริยะได้อย่างไร! คนผู้นี้น่าจะเป็บุคคลแรกที่มาถึงที่นี่!คนแรกท่ามกลางผู้เล่นหลายพันล้านคนหากเขาไม่ใช่อัจฉริยะแล้วเขาเป็อะไรล่ะ! บุคคลแรกที่มาถึงที่นี่มาหาข้า ชัดเจนว่าเขา้าเป็นักรบ! โอ้ พ่อหนุ่ม ข้าจะได้หน้าได้ตาขนาดไหนเมื่อบอกคนอื่นเ้าแก่พวกนั้นคงจะอิจฉาข้าสุดๆ
“อะแฮ่มๆ!” ครูฝึกอาชีพนักรบพยักหน้าให้หลิงเฉินช้าๆใบหน้าของเขาดูจริงจังอย่างมาก “สวัสดี วีรบุรุษจากโลกคู่ขนานยินดีต้อนรับสู่นครัคราม ขอให้เทพจันทราคุ้มครองเ้าเ้าเป็ผู้เล่นคนแรกที่มาถึงที่นี่ การที่เ้าสามารถมาถึงที่นี่ได้อย่างรวดเร็วนั้นทำให้ข้าประหลาดใจจริงๆดูเหมือนว่าเ้าจะเป็วีรบุรุษที่มีความสามารถสูงมากๆมองดูจากเครื่องแต่งกายของเ้าแล้ว ตอนนี้เ้าน่าจะเป็นักรบฝึกหัดใช่ไหม?”
“ใช่แล้วครับ”หลิงเฉินพูดตอบสั้นๆ โดยมันไม่งี่เง่าไปหน่อยหรือ หากเขาไม่ใช่นักรบฝึกหัดแล้วทำไมเขาจะต้องมาตามหาครูฝึกอาชีพนักรบ!
“ดีมาก”ครูฝึกอาชีพนักรบยังคงพยักหน้าอย่างเอาจริงเอาจัง:“นักรบเป็อาชีพที่ทรงพลังมากที่สุดบนทวีปหลงลืมพวกเราเหล่านักรบมีความสามารถในการต่อสู้ระยะใกล้ที่แข็งแกร่งที่สุดรวมถึงความสามารถด้านพลังป้องกันที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง บนสนามรบพวกเรามักจะเป็คนที่กล้าหาญซึ่งโจมตีอยู่ด้านหน้ามากๆ หากปราศจากพวกเราเหล่านักรบแม้แต่ปาร์ตี้ขนาดใหญ่ที่สุดก็จะไม่มีชีวิตชีวาเ้าเป็ผู้เล่นคนแรกซึ่งสามารถมาถึงที่นี่ได้มันแสดงให้เห็นว่าเ้ามีความสามารถและความแข็งแกร่ง การเลือกอาชีพนักรบก็พิสูจน์ได้ว่าเ้านั้นตาดีตาถึง...
หลิงเฉิน: “...”
“ข้าสามารถช่วยให้เ้ากลายเป็นักรบที่แท้จริงได้อาชีพนักรบฝึกหัดไม่มีสายอาชีพแยกย่อยใดๆ พวกเขาจึงสามารถใช้ดาบ กระบี่ หอก ขวานง้าว และอาวุธประเภทต่างๆ ได้อย่างอิสระ อาวุธเหล่านี้สามารถใช้ออกสกิลทั้งหมดของนักรบฝึกหัดได้อย่างไม่มีเงื่อนไขแต่ข้าแนะนำให้เ้าเลือกหนึ่งในอาวุธเหล่านี้และพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพราะหลังจากการเปลี่ยนอาชีพครั้งที่สองของนักรบ สายอาชีพย่อยต่างๆจะปรากฏขึ้นโดยอยู่บนพื้นฐานของอาวุธที่ใช้ดังนั้นการชำนาญอาวุธเพียงแค่หนึ่งประเภทจึงเป็ตัวเลือกที่ดีที่สุดทั้งยังสามารถประหยัดแต้มสกิลได้เป็จำนวนมาก สำหรับอาวุธของนักรบนั้นอาวุธประเภทดาบ/กระบี่มีค่าสถานะที่สมดุลที่สุด ส่วนอาวุธประเภทหอก/ง้าวมีพื้นที่โจมตีกว้างที่สุด พลังโจมตีของพวกมันสูงแต่ความเร็วกลับต่ำอาวุธประเภทขวาน/กระบอง มีพลังโจมตีที่รุนแรงที่สุดและยังสามารถติดสถานะมึนงงเมื่อโจมตี ทว่าหลังจากการใช้สกิลช่องว่างจะถูกเปิดเผยนานขึ้นฉะนั้นเ้าต้องคิดให้ทะลุปุโปร่งเกี่ยวกับอาวุธที่จะเลือก เอาล่ะเ้า้ากลายเป็นักรบที่แท้จริงตอนนี้เลยไหม?”
หลังจากกล่าวจบครูฝึกอาชีพนักรบก็จ้องไปที่หลิงเฉินด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึมราวกับกลัวว่าหลิงเฉินจะไม่ตกลง พร้อมกับกล่าวเพิ่มอีกประโยคหนึ่งในทันใด“เนื่องจากเ้าเป็นักรบฝึกหัดคนแรกซึ่งมาถึงที่นี่หลังจากกลายเป็นักรบอย่างเป็ทางการแล้ว ทุกสกิลที่เ้าเรียนจากข้าจะฟรีทั้งหมดข้ายังสามารถช่วยอัพเกรดสกิลชำนาญของอาวุธที่เ้าเลือกเป็เลเวล 2”
มีแม้กระทั่งสิ่งดึงดูดใจ!สำหรับหลิงเฉิน มันไม่มีอะไรดีกว่านี้อีกแล้ว เขาพยักหน้าพลางกล่าว“ขอบคุณครับครูฝึก ท่านช่วยทำให้ผมกลายเป็นักรบที่แท้จริงด้วยครับ”
“เยี่ยมยอด”ครูฝึกอาชีพนักรบพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ขอให้เทพจันทราคุ้มครองเ้าเ้ากำลังจะกลายเป็นักรบที่เกรียงไกรถ้างั้นให้ข้าดูสกิลผู้เริ่มต้นของเ้าเสียก่อน หากเ้ามีสกิลใดๆที่อัพเกรดจนถึงเลเวลสูงสุดสกิลนักรบอย่างเป็ทางการที่เหมือนกันจะได้รับการอัพเกรดเป็เลเวล 2 โดยทันทีมานี่สิ แสดงสกิลของเ้าให้ข้าดูหน่อย”
เมื่อสกิลผู้เริ่มต้นสกิลใดสามารถอัพเกรดจนถึงเลเวลสูงสุดสกิลนักรบอย่างเป็ทางการที่เหมือนกันจะได้รับการอัพเกรดเป็เลเวล 2โดยทันทีอย่างงั้นหรือ? ตอนแรกหลิงเฉินชะงักไปชั่วขณะต่อมาไม่นานเขาก็เข้าใจได้ตอนนี้เขามีสกิลผู้เริ่มต้น 3 สกิล สกิลเป้าหมายเดี่ยว ‘จู่โจมเต็มกำลัง’ สกิลแบบเป็วงกว้าง ‘ฟาดฟันเสี้ยวจันทรา’ และสกิลเสริมพลังซึ่งเพิ่มพลังโจมตีอีกหนึ่งสกิล ‘เปลวเพลิงแห่งความพิโรธ’ กล่าวคือไม่ว่าจะเป็สกิลใดใน 3 สกิลนี้ต่างก็อัพเกรดจนถึงเลเวลสูงสุดสกิลเสริมพลัง สกิลแบบเป็วงกว้าง และสกิลเป้าหมายเดี่ยวที่ตรงกับอาชีพอย่างเป็ทางการจะอัพเกรดเป็เลเวล2 ในทันที!
โดยไม่มีความลังเลหลิงเฉินเรียกหน้าต่างสกิลของเขาออกมาในฉับพลันและแสดงสกิลทั้งหมดตรงหน้าครูฝึกอาชีพนับรบ
สายตาของครูฝึกอาชีพนักรบจับจ้องไปที่หน้าต่างสกิลของหลิงเฉินเพียงแค่ชำเลืองมองครั้งหนึ่ง ใบหน้าของเขาก็เผยสีหน้าตกตะลึงแล้ว“เ้าถึงกับปลดล็อคสกิล ‘เปลวเพลิงแห่งความพิโรธ’สกิลนี้จะปลดล็อคได้ก็ต่อเมื่อสกิลพื้นฐานทั้งสองสกิลของอาชีพนักรบฝึกหัดอัพเกรดถึงเลเวลสูงสุดเท่านั้นไม่เลว ไม่เลวเลยจริงๆ เ้าเป็อัจริยะอย่างแท้จริงเดี๋ยวก่อน!! เ้า เ้า เ้า เ้า เ้าสกิล ‘เปลวเพลิงแห่งความพิโรธ’ของเ้ายังอัพเกรดจนถึงเลเวลสูงสุดแล้วด้วย!!”
“สกิลผู้เริ่มต้นทั้งหมดของเ้าอัพเกรดจนถึงเลเวลสูงสุด!!” ดวงตาของครูฝึกอาชีพนักรบเบิกกว้างสายตาของเขาวกกลับมาที่ใบหน้าของหลิงเฉินพร้อมกับเสียง ‘ฟุบ’สีหน้าท่าทางของเขาดูตื่นเต้นเร้าใจราวกับเห็นหญิงเปลือยกาย“อัจฉริยะอัจฉริยะ!!มนุษย์โลกคู่ขนานเช่นเ้ามาถึงโลกแห่งนี้ยังไม่ถึง 5 วันไม่ถึง 5 วันด้วยซ้ำไปไม่เพียงแต่เ้าปลดล็อคสกิล ‘เปลวเพลิงแห่งความพิโรธ’ แต่สกิลผู้เริ่มต้นทั้งหมดของเ้ายังอัพเกรดจนถึงเลเวลสูงสุด! เ้าวีรบุรุษหนุ่มข้าสามารถพูดได้ว่าเ้าเป็อัจฉริยะที่น่าอัศจรรย์ที่สุดที่ข้าเคยพบเจอข้าเชื่อว่าในอนาคต เ้าจะกลายเป็นักรบที่ยิ่งใหญ่! ข้าข้าตัดสินใจแล้วหลังจากที่เ้าเปลี่ยนอาชีพข้าจะใช้พลังทั้งหมดของข้าอัพเกรดสกิลนับรบอย่างเป็ทางการทั้งหมดของเ้าเป็เลเวล3 ในทันที เ้าเป็อัจฉริยะที่แท้จริงบางทีในอนาคตเ้าอาจจะเป็ความภาคภูมิใจของนักรบแห่งทวีปหลงลืม! เ้าเหมาะสมที่จะได้รับเกียรติเช่นนี้”
หลิงเฉิน: “...”
หลังจากความรู้สึกตื่นเต้นครูฝึกอาชีพนักรบก็เบนสายตาของเขากลับไปที่หน้าต่างสกิลของหลิงเฉิน พร้อมกับยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่าสกิลผู้เริ่มต้นที่เขาเห็นล้วนอัพเกรดจนถึงเลเวลสูงสุดทั้งหมดในตอนที่เขาบังเอิญมองเลยไปยังด้านล่าง ทั่วทั้งร่างของเขาพลันสั่นกระตุกร่างของเขาเอนไปด้านหน้า ดวงตาแทบจะถลนออกมา
“เคล็ดเคล็ดวายุ์เคล็ดศาสตราจักรพรรดินะนะ นะ นี่...” ท่าทางอันภูมิฐานซึ่งครูฝึกอาชีพนักรบคงไว้ั้แ่ต้นหายไปจนหมดสิ้นเขากลืนน้ำลายลงไปอึกหนึ่ง และถึงกับเริ่มพูดตะกุกตะกักขณะกล่าว“ไม่ใช่ว่าเคล็ดต่อสู้โบราณพวกนี้ถูกกล่าวกันว่าหายไปเมื่อ 10,000 ปีก่อนแล้ว!!!”
ครูฝึกอาชีพนักรบจ้องมองไปที่เคล็ดต่อสู้โบราณทั้งสองที่มีอยู่แค่ในตำนานและมีคนที่ทราบเพียงแค่หยิบมือเดียวด้วยสายตาที่ว่างเปล่าทั้งยังไม่อาจเชื่อสายตาของตัวเอง หลังจากชื่อสกิลเป็คำอธิบายคุณสมบัติไม่ใช่แค่มีชื่อที่เหมือนกัน แต่คุณสมบัติของพวกมันยังเหมือนกับในตำนาน!หลังจากผ่านไปเนิ่นนานเขาก็กลับได้สติ ขยับสายตาด้วยความตกตะลึงและ้าถามหลิงเฉินว่าเขาได้รับเคล็ดต่อสู้โบราณทั้งสองจากที่ไหนทว่าตอนที่เขาหันหัวกลับมาสายตาของเขาก็เผอิญไปเห็นใส่สกิลสุดท้ายของหลิงเฉินอีกครา ‘สังเวยิญญา’
ทันใดนั้นทั่วทั้งร่างของตาลุงวัยกลางคนผู้นี้ก็สั่นเทาราวกับถูกฟ้าผ่าแข็งทื่อไม่กระดุกกระดิกอยู่ตรงนั้นการแสดงออกบนใบหน้าของเขาดูเกินจริงจนถึงจุดที่ไม่อาจอธิบายได้ปากที่อ้ากว้างนั่นทำให้หลิงเฉินเชื่อว่าการดันกระต่ายฟันเหยินหนึ่งตัวเข้าไปไม่เป็ปัญหาด้วยซ้ำ
“ครูฝึกครับมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?” ครูฝึกอาชีพนักรบอยู่ในสภาพตะลึงงัน 5 วินาทีแล้วและยังคงไม่ได้สิติ เหมือนว่าเขากลายเป็หินในฉับพลันหลิงเฉินจำต้องกล่าวถามอย่างลังเล
ภายใต้น้ำเสียงของหลิงเฉินทั่วทั้งร่างของครูฝึกอาชีพนักรบสั่นสะท้าน หลังจากนั้นเขาจึงกลับมาได้สติดวงตาของเขายังคงมองไปที่สกิล ‘สังเวยิญญา’ และยืนยันซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าสายตาของเขาไม่มีปัญหาอะไรแล้วจึงรีบหันกลับไปะโเสียงดัง “ตาแก่ทั้งหลายรีบมานี่เร็วเข้ามาที่นี่เดี๋ยวนี้เลย!!”
ครูฝึกอาชีพอื่นๆทั้ง 6 คน ซึ่งแต่เดิมอยู่เฉยๆและอยู่ในสภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่นต่างหวาดผวาเสียงคำรามดังสนั่นนี้สองคนในหมู่พวกเขาถึงกับตกจากเก้าอี้
“ตาแก่บ้าเอ้ยเองโดนข่มขืนหรืออะไรงั้นเหรอ!”
“แม่ง! หุบปาก!ข้ากำลังอยู่ใน่ออกเดทกับเด็กสาวน่ารักในฝัน เธอกลัวเสียงของเองจนต้องจากไป!”
“เองกำลังะโอะไรอยู่ว่ะ! หากมันไม่ใช่สิ่งที่ข้าสนใจข้าจะบดขยี้เองเป็ชิ้นๆ แน่!!”
คนแก่รุ่นราวคราวเดียวกันหกคนเดินมาพร้อมกับสาปแช่งการเรียงแถวและภาพที่ปรากฏนั่นทำให้หลิงเฉินไม่รู้ว่าจะคิดอะไร—นี่เป็กลุ่มของครูฝึกเปลี่ยนอาชีพหรืออันธพาลตามท้องถนนกันแน่
ครูฝึกอาชีพนักรบไม่กล่าวอะไรเขายื่นมือออกไปชี้ที่สกิล ‘สังเวยิญญา’ บนหน้าต่างสกิลของหลิงเฉินสายตาของครูฝึกเปลี่ยนอาชีพทั้งหกจับจ้องไปที่สกิลดังกล่าวอย่างพร้อมเพรียงกัน
ทันใดนั้นโลกทั้งใบก็ตกอยู่ในความเงียบงัน
หลิงเฉินมองไปที่ดวงตาทั้งหกคู่และปากที่อ้ากวางในฉับพลัน ถ้าความสูงของพวกเขาน้อยกว่านี้ขากรรไกรของพวกเขาคงชนกับพื้นในทันที
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้